ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เปลี่ยนศาสนา

เริ่มโดย cooltarn, 14:20 น. 01 ก.ค 54

cooltarn

มีคนเคยบอกว่าถ้าเราเปลี่ยนศาสนา เราจะหมดเวรหมดกรรม ความชั่วที่เคยทำก็จะหายไป เหมือนกับเด็กเกิดใหม่ที่ยังบริสุทธิ์ ทั้งหมดนี้เป็นความจริงหรอ

อุ่นจัง

ผมไม่ทราบครับว่าคนที่พุดว่าเปลี่ยนศาสนาแล้ว หมดเวรหมดกรรมไป ด้วยเหตุผลอะไร เรื่องศาสนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน พูดไม่ชัดอาจเข้าใจผิด โดยส่วนตัวของผม (ย้ำนะครับว่าความเห็นส่วนตัว) ไม่หมดหรอกครับ คนเราเกิดเป็นคน ไม่ว่าสิ่งที่คุณทำมาตั้งแต่เกิด จนถึงปัจจุบัน หรือในอดึตชาติ (แม้แต่พระพุทธเจ้าท่านยังเคยบอกว่าพระองค์เคยเสวยพระชาติเป็นอะไรมาก่อน เช่น พระเจ้าสิบชาติ ครับ) ดังนั้นผมเป็นคนพุทธ ผมก็ต้องเชืออย่างพุทธ และมีเหตุมีผล เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ไสยศาสตร์  คนทุกคน ทำผิด ทำถูก ทำกรรมอะไรไว้ แล้วมาบอกว่า เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล เปลี่ยนสัญชาติ เปลี่ยนเชื่อชาติ เปลี่ยนศาสนา แล้วทุกอย่างจะเริ่มต้นใหม่ เป็นคนใหม่ มีชีวิตใหม่ บริสุทธิผุดผ่อง เป็นไปไม่ได้หรอกครับ กรรมมันจะตามไปทุกภพทุกชาติ (กรรมดี กรรมชั่ว) เอาง่าย ๆ นะครับ ที่เห็น ๆ กันอยู่ สมมุติเราไปฆ่าคนตาย แล้วเราหนีไป เปลี่ยนสัญชาติ หรือเปลี่ยนอะไรก็แล้วแต่ คุณว่า กฎหมายจะตามไปเอาผิดคุณได้มั้ยครับ อย่างน้อยๆ กรรมไม่ดีก็เกิดขึ้นในใจ ไม่ว่าคุณจะเปลี่ยนไปเป็นอะไรก็ตาม ดังนั้นไม่ว่าคุณจะนับถือศาสนาอะไรก็แล้วแต่ ควรเป็นคนดี ของครอบครัว ของสังคม ของประเทศชาติ และสุดท้ายของโลก

ิิเ

อ้างจาก: อุ่นจัง เมื่อ 15:00 น.  01 ก.ค 54
ผมไม่ทราบครับว่าคนที่พุดว่าเปลี่ยนศาสนาแล้ว หมดเวรหมดกรรมไป ด้วยเหตุผลอะไร เรื่องศาสนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน พูดไม่ชัดอาจเข้าใจผิด โดยส่วนตัวของผม (ย้ำนะครับว่าความเห็นส่วนตัว) ไม่หมดหรอกครับ คนเราเกิดเป็นคน ไม่ว่าสิ่งที่คุณทำมาตั้งแต่เกิด จนถึงปัจจุบัน หรือในอดึตชาติ (แม้แต่พระพุทธเจ้าท่านยังเคยบอกว่าพระองค์เคยเสวยพระชาติเป็นอะไรมาก่อน เช่น พระเจ้าสิบชาติ ครับ) ดังนั้นผมเป็นคนพุทธ ผมก็ต้องเชืออย่างพุทธ และมีเหตุมีผล เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ไสยศาสตร์  คนทุกคน ทำผิด ทำถูก ทำกรรมอะไรไว้ แล้วมาบอกว่า เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล เปลี่ยนสัญชาติ เปลี่ยนเชื่อชาติ เปลี่ยนศาสนา แล้วทุกอย่างจะเริ่มต้นใหม่ เป็นคนใหม่ มีชีวิตใหม่ บริสุทธิผุดผ่อง เป็นไปไม่ได้หรอกครับ กรรมมันจะตามไปทุกภพทุกชาติ (กรรมดี กรรมชั่ว) เอาง่าย ๆ นะครับ ที่เห็น ๆ กันอยู่ สมมุติเราไปฆ่าคนตาย แล้วเราหนีไป เปลี่ยนสัญชาติ หรือเปลี่ยนอะไรก็แล้วแต่ คุณว่า กฎหมายจะตามไปเอาผิดคุณได้มั้ยครับ อย่างน้อยๆ กรรมไม่ดีก็เกิดขึ้นในใจ ไม่ว่าคุณจะเปลี่ยนไปเป็นอะไรก็ตาม ดังนั้นไม่ว่าคุณจะนับถือศาสนาอะไรก็แล้วแต่ ควรเป็นคนดี ของครอบครัว ของสังคม ของประเทศชาติ และสุดท้ายของโลก

+ 100  ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้

wallop

ชีวิตคน ไม่ใช่เสื้อผ้าสิ่งของ ที่จะถอดเปลี่ยนได้ง่าย ๆ  โดยเฉพาะเรื่องกรรม  ไม่ว่าจะหนีไปศาสนาไหน ก็มีความเชื่อเรื่องทำดีแล้วดี ทำชั่วย่อมไม่ดี  มีสวรรค์มีนรก  วิธีที่จะให้มีเวรมีกรรมน้อยที่สุดก็คือ  ตั้งหน้าตั้งตาทำความดี ละ ลด และเลิกทำในสิ่งที่ไม่ดี ที่จะก่อเวรกรรม ให้กับตนเองและผู้อื่น  แต่ถ้าเปลี่ยนศาสนาแล้วสบายใจ  ก็แล้วแต่ความสมัครใจครับ
ความเห็นส่วนตัวผมนะครับ  ศาสนาเปรียบเสมือนยานพาหนะ ที่จะนำเราไปสู่จุดหมาย เราศรัทธา เราเชื่อมั่น ว่ายานลำใดสามารถนำเราไปสู่จุดหมายได้เร็วกว่ากัน เราก็ตัดสินใจขึ้นยานลำที่เราตัดสินใจครับ  เหมือนไปเชียงใหม่ ไปได้หลายวิธี
ขึ้นอยู่กับตัวเรา ฐานะ ความสามารถ  เพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง และสิ่งแวดล้อม  ถ้ามีฐานะ เพื่อน ๆ ไปกันเป็นคณะ เราไม่กลัวความสูง และตัองการความรวดเร็ว ไปเครื่องบินก็ได้  หรือ จะไปรถทัวร์ รถส่วนตัว รถเมล์ รถไฟ ล่องเรือ เดินไป วิ่งไป หรืออาศัยรถบรรทุกสินค้า  ย่อมไปถึงเชียงใหม่ทั้งนั้นครับ
ยืนด้วยขาตนเอง

sap

หมั่นสร้างแต่ความดี เพราะเป็นสิ่งเดียวที่ติดตัวเราไป แม้กายสังขารจะดับมอด

ส่วนเจ้ากรรมนายเวร มีมาอยู่แล้วของใครก็ของมัน ไม่ได้มั่วกันที ไม่มีอะไรมาลบล้างหรือโยกย้ายถ่ายเทไปทางอื่นได้ดอกครับเจ้านายย

ณ......

เปลี่ยนสมองน่าจะหายหมด เพราะคุณทำบาปอะไรไว้สมองก็จดจำเรื่องราวทุกอย่างคุณจะเปลี่ยนศาสนาจะเปลี่ยนชื่อแต่ถ้าสมองของคุณยังจำเรื่องบาปของคุณอยู่คุณก็ไม่หมดบาป

trairat

บาป หาย ไม่หาย ไม่ทราบครับ แต่ ถ้าคุณ ตี หัว ผม ผม ยังจำได้แน่นอน

นัท สีเทพ

ไม่หายหรอกครับ อย่าไปเชื่อคนที่มาชวน
คนมาชวนอาจมี ความคิดแอบแฝงอะไรสักอย่าง

เราหว่านพืชเช่นใด ย่อมได้รับผลเช่นนั้น

rut__liver

ผมแนะนำให้คุณไปศึกษาเกี่ยวกับ ศาสนา ให้ลึก ก่อนนะครับ แล้วคุณจะรู้คำตอบ  นะครับ 
เพราะศาสนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน

5heneg1

บุญกรรมอยู่ที่ตัวบุคคล ไม่ใช่อยู่ที่ศาสนา ..  ส.หัว

นายฮิม

วันหนึ่งบักหำมาบอกเถ้าแก่ว่า"พรุ่งนี้ผมขอลางานไปทำพิธีทางศาสนา1วัน"
เถ้าแก่ทำหน้างงๆ"มึงคิดดีแล้วหรือ?"
บักหำตอบว่า"คิดดีแล้วครับ"
เถ้าแก่ถามต่อ"แล้วดีกว่าศานาพุทธยังไงวะ"
บักหำยืดอกแล้วพูดว่า"ของเขาดีกว่าที่ห้ามกินเหล้า"
เถ้าแก่หัวเราะก๊ากใหญ่แล้วชี้หน้าบักหำ"แล้วศาสนาพุทธเขาบังคับให้มึงกินเหล้าเหรอไอ้กร๊วก"55555

ทุกศาสนาสอนให้คนทำความดี

ทุกศาสนาสอนให้คนเป็นดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อสัตว์โลกทั้งหลาย  ไม่เบียดเบียนผู้อื่นให้ได้รับความเดือดร้อน  นี่คือหลักหัวใจของศาสนาทุกศาสนา  ถ้าเกินจากนี้แล้วเขาไม่เรียกว่าศาสนา  เขาเรียกว่าลัทธิ  เพียงแต่บางคนตีความหมายในคำสั่งสอนของศาสนาผิดเพี้ยนไป  เพียงเพื่อผลประโยชน์ตัวเองหรือตีความหมายเพื่อเข้าข้างตัวเองจนลืมหัวใจหลักของศาสนาไป   การทำดีได้ดี  ทำชั่วได้ชั่ว  เป็นสิ่งที่มนุษย์ต้องยึดถือและหนีไม่พ้นไม่ว่าจะเป็นศาสนาใดก็ตาม

Aluglass 2004

ดีหรือชั่วอยู่ที่ตัวบุคคล ไม่ใช่ศาสนา  ส.มองลอดแว่น

รักทำชั่วไปอยู่ศาสนาไหน ก็ชั่วเหมือน ส.มองลอดแว่น

กระจกที่ว่าคม ยังแพ้คารม คนเลีย

ซุปเปอร์ฮีโร่

แปลกดี เพิ่งเคยได้ยินมาเลยนะเนี้ย ถือว่าเป็นความรู้ใหม่ครับ แต่สำหรับผมๆคิดว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วครับ ไม่ว่าเราจะอยู่ศาสนาใดก็แล้วแต่ กรรมดีและกรรมชั่วก็จะอยู่ข้างเราเสมอ

ยมบาล

โลกมนุษย์มีหลายศาสนา แต่ว่าโลกวิญญาณมีนรกขุมเดียวกันทุกศาสนานะจะบอกให้

nod

ที่บอกว่า ไม่หายหรอกครับ คุณลองคิดดูใหม่นะครับ คนต่างศาสนา ฆ่ากันตายเพราะเรื่องศาสนา

wareerant

ftp://[email][url][img][hr][list%20type=decimal][li][list][li][quote][/list][/list][code][table][tr][td][tt][sub][ftp][url][img][b][i][u][s][pre][left][center][right][font=impact][/font][/right][/center][/left][/pre][/s][/u][/i][/b][/img][/url][/sub][/tt][/td]
[/tr]
[/table][/code]
      [/quote][/li]
    [/li]
[/img][/url][/email][/ftp][/glow][/shadow]
[/sup]ความจริงผมก็ไม่อยากจะพูดเรื่องธรรมมะแล้ว แต่ขอแจมสักนิดหน่อย เผื่อเป็นประโยชน์แก่เพื่อนร่วมโลก

ก่อนอื่น อยากให้ทุกคนเปิดใจให้กว้างก่อน ฟังให้จบ แล้วคิดตาม

ศาสนา เป็นความเชื่อครับ เราต้องเข้าใจตรงนี้ก่อน ความเชื่อหมายถึงอะไร หมายถึง อาจจริง หรือไม่จริงก็ได้ เช่น เราเชื่อว่า ตายแล้วไปนรก ไปสวรรค์ ซึ่งถามว่า จริงมั๊ย อาจจริงหรือไม่จริงก็ได้

ความเชื่อ ต่างกับความจริง ความจริง เป็นสิ่งพิสูจน์ได้ เช่น ด้านของสามเหลี่ยมใด ๆ รวมกันได้ 180 องศาเสมอ นี่คือพิสูจน์ได้

ความเชื่อ พิสูจน์ไม่ได้ เช่น เราไม่สามารถเอาผี หรือมนุษย์ต่างดาว มาออกโทรทัศน์ได้ แบบว่า เห็นชัด ๆ กันไปเลย ไม่ใช่ผีเข้า หรือแบบ ชัตเตอร์กดติดวิญญาณ หรือบอกว่าเห็นผี แต่คนอื่นไม่เห็น

ผมอยากอธิบายคำว่า "พิสูจน์" สักหน่อย เพราะหลายคนยังเข้าใจผิดอยู่ การพิสูจน์มีอยูสองอย่างคือ

1.พิสูจน์ให้ตัวเองเห็น เช่น เข้าไปในบ้านร้าง เข้าไปแล้วเห็นผี นี่คือเราเห็น แต่คนอื่นอาจยังไม่เห็น
2. พิสูจน์ให้เห็นโดยทั่วกัน คือ อย่างเช่นที่ยกตัวอย่างสามเหลี่ยมใด ๆ รวมกัน หรือ พิสูจน์ว่า

เจซี

ศาสนาพุทธ สอนให้  ละชั่ว รักษาศีล   ทำดี การให้ทาน และกุศลกรรมบทสิบ   และทำจิตใจให้ผ่องใส การทำสมาธิ

จะนับถือศาสนาอะไร  จะเชื่อ หรือไม่เชื่อ  จะรู้หรือไม่รู้ กรรมดีและชั่ว ก็ไม่เคยละเว้นใครสนองกลับทุกคน

อือฮึ

อ้างถึงความเชื่อ ต่างกับความจริง ความจริง เป็นสิ่งพิสูจน์ได้ เช่น ด้านของสามเหลี่ยมใด ๆ รวมกันได้ 180 องศาเสมอ นี่คือพิสูจน์ได้

นึ่มันคนสมมติมาไม่ใช่เหรอ ทำไม 180 องศา ก็สมมติว่า 180 เท่านั้นเอง ถ้าสมมติเป็นจำนวนอื่นล่ะ ก็จำนวนอื่นสิ

wareerant

ผมยังเขียนไม่jบ ลูกชายมากดโพสt เสียก่อน

wareerant

ความจริงผมก็ไม่อยากจะพูดเรื่องธรรมมะแล้ว แต่ขอแจมสักนิดหน่อย เผื่อเป็นประโยชน์แก่เพื่อนร่วมโลก

ก่อนอื่น อยากให้ทุกคนเปิดใจให้กว้างก่อน ฟังให้จบ แล้วคิดตาม

ศาสนา เป็นความเชื่อครับ เราต้องเข้าใจตรงนี้ก่อน ความเชื่อหมายถึงอะไร หมายถึง อาจจริง หรือไม่จริงก็ได้ เช่น เราเชื่อว่า ตายแล้วไปนรก ไปสวรรค์ ซึ่งถามว่า จริงมั๊ย อาจจริงหรือไม่จริงก็ได้

ความเชื่อ ต่างกับความจริง ความจริง เป็นสิ่งพิสูจน์ได้ เช่น ด้านของสามเหลี่ยมใด ๆ รวมกันได้ 180 องศาเสมอ นี่คือพิสูจน์ได้

ความเชื่อ พิสูจน์ไม่ได้ เช่น เราไม่สามารถเอาผี หรือมนุษย์ต่างดาว มาออกโทรทัศน์ได้ แบบว่า เห็นชัด ๆ กันไปเลย ไม่ใช่ผีเข้า หรือแบบ ชัตเตอร์กดติดวิญญาณ หรือบอกว่าเห็นผี แต่คนอื่นไม่เห็น

ผมอยากอธิบายคำว่า "พิสูจน์" สักหน่อย เพราะหลายคนยังเข้าใจผิดอยู่ การพิสูจน์มีอยู่สองอย่างคือ

1.พิสูจน์ให้ตัวเองเห็น เช่น เข้าไปในบ้านร้าง เข้าไปแล้วเห็นผี นี่คือเราเห็น แต่คนอื่นอาจยังไม่เห็น
2. พิสูจน์ให้เห็นโดยทั่วกัน คือ อย่างเช่นที่ยกตัวอย่างสามเหลี่ยมใด ๆ รวมกัน หรือ พิสูจน์ว่า เราขับรถมอเตอร์ไซด์ ข้ามรถกระบะได้

แต่ไม่มีใครสามารถพิสูจน์ให้ทราบได้โดยทั่วกันว่า สวรรค์ นรก มีจริงมั๊ย พระเจ้า มีจริงมั้ย  แม้แต่กรรม ก็พิสูจน์ไม่ได้ เช่น นาย ก ทำอาชีพค้ายาบ้า นาย ก ร่ำรวย จนบั้นปลายชีวิต ตายเมื่ออายุ 85 ถือว่าแก่ตาย กรรมไม่สนองในชาตินี้ ชาติหน้ากรรมตามไปสนองมั้ย ก็ไม่ทราบ ไม่เคยมีใครตามไปพิสูจน์ให้เห็นได้ (แต่ขอบอกว่า การที่คนเราเชื่อเรื่องกรรมนั้น ดีแน่ จะได้ไม่ตกไปยังที่ชั่ว)
นอกจากพิสูจน์ด้วยตัวเอง ด้วยการ ตาย เมื่อตายแล้วก็กลับมาบอกใครไม่ได้ อาจมาเข้าฝันญาติพี่น้อง แต่ก็บอกไม่ได้อยู่ดี ว่าที่ฝันนั้น จริงหรือไม่
ความเชื่อนั้น มาจากไหน ในชีวิตเรา เรามีความเชื่อหลายอย่าง เชื่อเรื่องกรรม นรก สวรรค์ บุญ บาป เรื่องสีถูกโฉลก ตัวเลขนำโชค สีนำโชคร้าย เลขนำโชคร้าย ตัวหนังสือที่เอามาตั้งเป็นชื่อ ที่ตั้งบ้านเรือน บริษัท เชื่อเรื่องทิศทาง เชื่อเรื่องกินขนมอันสุดท้ายแฟนสวยแฟนหล่อ
แต่เราเคยถามตัวเองมั๊ยว่า ความเชื่อเหล่านี้ มาจากไหน

ผมอยากเปรียบความเชื่อเหมือนต้นไม้ เมื่อเรายังเด็ก ความเชื่อเหล่านี้เหมือนเมล็ดพันธุ์พืช ที่ฝังลงไปในสมองของเรา ความเชื่อที่เชื่อกันมาตั้งแต่ครั้งบรรพกาล บรรพบุรุษ ปู่ย่า ตายาย เราเชื่อแบบนั้น และถ่ายทอดมาให้เรา ฝังเมล็ดพันธุ์แห่งความเชื่อลงไป ฝังกลบ รดน้ำพรวนดิน ด้วยการพาเราไปยังศาสนสถาน ทำพิธีกรรม บอกกล่าว ตอกย้ำให้เราเชื่อตามท่าน
เมื่อเราโตขึ้น ความเชื่อเหล่านี้ก็โตขึ้นด้วย เป็นต้นไม้ใหญ่พอประมาณ ยิ่งเราอายุมาก ต้นไม้แห่งความเชื่อก็โตขึ้น สูงใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาหยั่งรากลึกลงในความคิดเรา จนยากจะถอนออกมาก
และเมื่อถึงจุดที่เราเชื่อเต็มที่ในสิ่งที่เราเชื่อ ก็ยากที่ใครจะมาลบล้างได้
หากใครมาบอกว่า ความเชื่อเรานั้น มันไม่จริง เราจะโกรธ เราจะต่อว่า เราจะมองเขา ราวกับว่า มาจากดาวคนละดวง
บางครั้งคนเราฆ่ากันเพราะความเชื่อต่างกัน ดูอย่างสงครามครูเสดนั่นงัย
ความเชื่อก็คือความเชื่อ (อาจจะจริงหรือไม่จริง) แม้ผู้นำทางศาสนา จะบอกเราว่า สิ่งนั้นเป็นอย่างนั้น สิ่งนี้เป็นอย่างนี้  ตายแล้วไปที่นั่น ที่นี่ แต่เราจะเชื่อได้ยังงัย ก็ท่านเหล่านั้นก็ยังไม่เคยไป ท่านก็ยังไม่ตาย ยังมีชีวิตเหมือนเรา ๆ  แม้ว่าท่านจะมีความน่าเชื่อถือแค่ไหน แต่ท่านก็พิสูจน์ให้เราเห็นไม่ได้ จะมีก็แต่เราที่ถ้ามีศรัทธาในตัวท่าน เราก็เชื่อ เราก็สบายใจไป


ความเชื่อ เปรียบได้กับ กำแพงหนา สูงชัน ที่สร้างขึ้นในจิตใจ ยากที่จะทำลาย
แต่ความเชื่อนั้น มีสองด้าน มีความเชื่อที่เป็นประโยชน์ และความเชื่อที่เป็นโทษ
ที่เขียนมาไม่ใช่จะให้ท่านเอาความเชื่อออกจากความคิด แต่ให้แง่คิดบางอย่างเท่านั้นเอง
อ่านแล้วได้อะไรบ้าง ขึ้นอยู่กับความกว้างในใจของท่าน




wareerant

อ้างถึงนึ่มันคนสมมติมาไม่ใช่เหรอ ทำไม 180 องศา ก็สมมติว่า 180 เท่านั้นเอง ถ้าสมมติเป็นจำนวนอื่นล่ะ ก็จำนวนอื่นสิ

คนละประเด็นกัน เรื่องสมมติ หรือไม่สมมติเนี่ย อย่าไปคิดเลย ปวดหัวเปล่า ๆ