ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ทรัพย์แห่งผืนดิน

เริ่มโดย แม่นางบัวตองไอยรา, 13:22 น. 13 ม.ค 57

แม่นางบัวตองไอยรา

ทรัพย์แห่งผืนดิน สารสกัดเซซามิน จากงาดำของไอยรา แพลนเน็ต ได้รับการจดสิทธิบัตร ครอบคลุม 78 ประเทศทั่วโลก
ขนาดของตลาด เป็นตัวกำหนดโอกาสทางธุรกิจ
คุณเห็น ขุมทรัพย์ ไหม? สนใจรับข้อมูลเพิ่มเติม โทร.
084-2664575 , 093 7400036  Line : aiyara368

แม่นางบัวตองไอยรา

งาดำ และ ข้าวสีนิล "ตัวช่วยชะลอริ้วรอยแห่งวัย"
วันนี้ขอแนะนำ"ข้าวสีนิล" ที่ใครหลายคนได้ยินแล้วอาจ นึกไม่ออกว่ามันคือข้าวอะไร แล้วจะไปหากินได้ที่ไหน? ไม่ต้องตกใจไปค่ะ "ข้าวสีนิล" ก็คือ ข้าวสีม่วงเข้มจนเกือบดำ มีประโยชน์ต่อร่างกายมากๆ มีสารต้านอนุมูลอิสระ หรือที่เราคุ้นเคยกันดีกับคำว่า อาหารชะลอวัย โดยที่ไม่ต้องไปเสียเงินซื้อผลไม้ราคาแพง เช่นพวก บลูเบอรี่ ราสเบอรี่่ ก็ได้รับคุณประโยชน์ที่มีเทียบเท่ากันเลยค่ะ

โดยข้าวสีนิล มีสาร "แอนโทไซยานิน" ที่มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นประเภทเดียวกันกับที่มีใน องุ่นและพรุน แต่ในข้าวสีนิลนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าในเบอร์รี่ถึง 3 เท่า และมากกว่าในวิตามิน E ถึง 5 เท่า และ"โปรแอนโทไซยานิน" ข้าวสีนิลจะยิ่งทำงานได้ดีขึ้นเมื่อรับประทานร่วมกับวิตามิน อี ซึ่งเป็นการเข้าไปช่วยจัดการกับศัตรูตัวร้ายที่คอยทำลายคอลลาเจนในชั้นผิวหนังโดยตรง จึงเป็นการลดริ้วรอยอันเกิดก่อนวัย ช่วยบำรุงผิว ให้สดใส อ่อนเยาว์อยู่เสมอ

และอีกตัวช่วยที่สำคัญในการช่วยชะลอวัย อย่างได้ผลก็คือ "งาดำ" สาวๆ คงจะพอรู้จักกันและเคยได้ยินประโยชน์มาบ้างแล้ว แต่สาวๆ รู้ไม๊คะ ว่า "งาดำ" เนี้ยมีประโยชน์มากๆ จนถูกให้ฉายาว่าเป็นเป็นราชาของธัญพืชเลยทีเดียว โดยเฉพาะในด้าน การต่อต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินอี สูง เพราะนอกจากจะช่วยให้เรามีผิวพรรณที่สดใสอ่อนกว่าวัยแล้ว ยังทำให้เส้นผมดกดำเป็นประกายอีกด้วย

เพื่อให้การต่อต้านอนุมูลอิสระมีประสิทธิภาพมากขึ้น การได้รับสารต้านอนุมูลอิสระจากอาหารหลายๆประเภท จะให้ผลในการป้องกันมากกว่าการได้รับจากแหล่งใดแหล่งหนึ่ง เนื่องจากมีฤทธิ์สร้างเสริมกัน ทำให้ธัญพืชที่ให้สารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อได้รับร่วมกัน ดังนั้น เมื่อรับประทานงาดำคู่กันกับข้าวสีนิลจึงเป็นการส่งผลแบบทวีคูณเป็น Super Antioxidant ซึ่งให้ประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากการเกิดริ้วรอย และ บำรุงให้ผิวดูอ่อนเยาว์ดูดีได้ง่ายๆ ทุกวัน สาวๆลองหามารับประทานเป็นประจำก็จะหมดกังวัลเรื่องผิวหมองคล้ำ และริ้วรอยก่อนวัยอย่างแน่นอน ดูแลตัวเองแบบดับเบิ้ลก็ดูดีแบบดับเบิ้ลนะคะ
******* *******
เครดิต: เรื่อง ชีวอโรคยา นำมาจาก n3k.in.th อ้างอิง modernmom
ภาพ: ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต

แบ่งปันความรู้ทั่วไป เพื่อความพอเพียง และสุขภาพที่ดี โปรดใช้วิจารณญาณ และศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม

ชีวอโรคยา อยากให้ทุกคนมีสุขภาพดีไม่พึ่งสารเคมี ไม่ต้องรอให้ป่วยไปเสียค่ารักษาพยาบาลแพงๆ

แม่นางบัวตองไอยรา

สำหรับท่านที่สนใจจะสมัครสมาชิก เรามีการสมัคร 2 ประเภท

1) สมัครสมาชิกเพื่อซื้อกินซื้อใช้
2) สมัครสมาชิกเพื่อเป็นตัวแทนจำหน่าย

เอกสารสำหรับสมัครสมาชิก
1) บัตรประชาชน
2) สมุดบัญชีธนาคารหน้าแรก (เฉพาะสมัครเป็นตัวแทนจำหน่าย)

วิธีการส่งเอกสาร
1) Line ID :aiyara368
2) E-mail : thanya.aiyara@gmail.com
3) โทร.แจ้งที่ 08 4266 4575


วิธีการชำระเงินค่าสินค้า

กรุณาโอนเข้าบัญชี
ธนาคาร ไทยพาณิชย์
สาขา บิ๊กซี หาดใหญ่
เลขที่บัญชี 850 231862 2
ชื่อบัญชี "น.ส.ธัญยา โพธิวงษ์"

ค่าจัดส่งสินค้าโดย EMS 150 บาททั่วประเทศ,
ซื้อครบ 30,000 บาท จัดส่ง ฟรี!



แม่นางบัวตองไอยรา

อย่าแค่กลัว-มัวฝืนทน 'ข้อเข่าเสื่อม' รักษาเร็วไม่เสี่ยงพิการ
เป็นส่วนหนึ่งของโครงกระดูกร่างกายมนุษย์เราส่วนที่เรียกว่าโครงกระดูกรยางค์ เป็นกระดูก "ข้อต่อ"ที่มีลักษณะ "คล้ายบานพับ" ทำให้กระดูกร่างกายเคลื่อนไหวได้ 2 ทิศทางคืองอและเหยียด...นี่เป็นลักษณะจำเพาะอย่างคร่าว ๆ ของส่วนหนึ่งของร่างกายมนุษย์ที่เรียกว่า 'ข้อเข่า"ซึ่งสำคัญต่อร่างกายไม่แพ้อวัยวะใดๆ สำคัญต่อการทรงตัว ต่อการยืน ต่อการเดิน

หากข้อเข่าเกิดมีปัญหาก็จะเป็นเรื่องใหญ่!!และปัญหาที่อาจเกิดกับข้อเข่าก็คือ กระดูกอ่อนผิวข้อต่อของเข่าสึกกร่อน ถูกทำลายจากการใช้งานมาเป็นเวลานาน หรือจากอาการเสื่อมสภาพ หรือที่เรียกว่า 'โรคข้อเข่าเสื่อม" ที่มิใช่เรื่องเล็ก ๆอาจลุกลามบานปลายจนถึงขั้น "เดินไม่ได้!!"
จากการที่ปัจจุบันสังคมไทยกำลังจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุในจำนวนประชากรทั้งหมดนั้นมีจำนวนผู้สูงอายุในสัดส่วนที่มากขึ้นเรื่อย ๆ ก็ส่งผลให้ตัวเลขคนไทยที่ป่วยด้วยโรคกระดูกและข้อ ซึ่งรวมถึง "ข้อเข่าเสื่อม" เพิ่มสูงขึ้น โดยย้อนไปเมื่อประมาณปีเศษ ๆ ทางกระทรวงสาธารณสุขเคยเปิดเผยไว้ว่า โรคกระดูก โดยเฉพาะโรคกระดูกพรุน และโรคข้อเสื่อม ที่รวมถึงข้อเข่าเสื่อม กำลังเป็น 'ภัยเงียบคุกคามคุณภาพชีวิตคนไทย" ราว 7 ล้านคน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป ซึ่งสร้างความทรมาน เมื่อจะลุก นั่ง เดิน

ทางกระทรวงสาธารณสุขยังเคยระบุไว้ด้วยว่า...การเจ็บป่วยของคนไทยด้วยโรคในกลุ่มกระดูกและข้อนี้ แม้ว่าจะไม่ถึงกับทำให้เสียชีวิต แต่ก็สร้างความทุกข์ทรมานจากการเจ็บปวด โดยเฉพาะ "ข้อเข่าเสื่อม" ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้ก็จะยิ่งเพิ่มระดับความอันตราย อาจลุกลามจนไม่สามารถลุกยืน ไม่สามารถเดินได้ด้วยตนเอง

ทั้งนี้ อาการที่เกิดขึ้นจากการที่ข้อเข่าเสื่อมนั้น ในผู้ป่วยส่วนใหญ่มักคล้ายกัน เช่น มีอาการเข่ายึด ฝืด งอลำบาก มีเสียงดังก๊อบแก๊บที่เข่าขณะเคลื่อนไหว ปวดที่ข้อเข่าหรือขาเวลาเดินหรือขึ้นลงบันได

ในบางรายจะปวดเจ็บแปลบที่ข้อเข่าเวลาเดิน แต่บางรายอาจมีอาการปวดข้อเข่าเวลานอน ส่วนบางรายจะมีปัญหาปวดข้อเข่าเวลาใส่ถุงเท้า รองเท้า หรือขณะลุกนั่ง ซึ่งผู้ป่วยบางรายที่ไปพบแพทย์หลังเกิดอาการปวดบวมอักเสบที่ข้อเข่า จะแทบไม่สามารถเดินได้ปกติแล้ว อาจต้องเดินโยกตัวเพื่อให้สามารถเคลื่อนไหวได้

"โรคข้อเข่าเสื่อม" แม้ส่วนใหญ่จะพบในกลุ่มผู้สูงอายุ แต่ก็มิใช่ว่าจะเกิดได้เฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุเท่านั้น ในกลุ่มคนวัยทำงานก็สามารถเกิดได้ และหากจะเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มชายและหญิง ในปัจจุบันส่วนใหญ่ของผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อมมักเป็นกลุ่มผู้หญิงที่อายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ซึ่งอาจเกิดได้จากรูปแบบการใช้ชีวิตที่หลากหลายที่เป็นปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น การเล่นกีฬาผิดท่า เดินขึ้นลงบันไดบ่อย ๆ มีน้ำหนักตัวมากเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคข้อเข่าเสื่อมได้

และที่น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิง ก็คือการมีความอดทนสูงกับอาการปวด ยอมทนต่อความปวดและปล่อยไปเรื่อย ๆ จนอาการถึงขั้นรุนแรงจึงยอมรักษา ซึ่งหากรักษาไม่ทันการณ์ อาจจะถึงขั้นเดินไม่ได้

กับเรื่องของ 'โรคข้อเข่าเสื่อม" นี้ นพ.ประภัทร จารุมนพร ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมกระดูกและข้อประจำศูนย์ผ่าตัดเปลี่ยนข้อ โรงพยาบาลสุขุมวิท ซึ่งมีประสบการณ์ผ่าตัดข้อเข่าผู้ป่วยมาแล้วกว่า 500 เข่า ให้ความรู้ความเข้าใจว่า...การที่ผู้ป่วยยอมทนอาการที่เกิดขึ้น ไม่ไปปรึกษาแพทย์หรือรับการรักษาจากแพทย์อย่างถูกวิธี ซึ่งอาจเพราะกลัวถูกผ่าตัด กังวลว่าจะเดินไม่ได้เป็นปกติหลังผ่าตัด นี่คือการเพิ่มปัญหา

'ปัญหาใหญ่ที่จะตามมาจากการทนคือ เดินไม่ได้เหมือนปกติ จึงไม่ควรปล่อยให้ตนเองต้องเผชิญโรคนี้เป็นเวลานาน"...นพ.ประภัทร ระบุ พร้อมทั้งบอกว่า...วิธีรักษาโรคนี้มีทั้งการให้ยาแก้อักเสบ ฉีดยาเข้าข้อ ทำกายภาพบำบัด ผ่าตัด ซึ่งในส่วนของการใช้ยา บางรายอาจแพ้ยา เกิดผลข้างเคียงของยา เช่นเกิดแผลในกระเพาะอาหาร เกิดผื่นคัน อาจเสี่ยงต่อโรคไต ทางแพทย์ก็จะประเมินเพื่อเลือกใช้วิธีรักษาที่เหมาะสม

สำหรับวิธีผ่าตัด ปัจจุบันพัฒนาการทางการแพทย์และเทคโนโลยีก็ก้าวหน้ามาก กับโรคข้อเข่าเสื่อมนั้น จากเดิมที่การผ่าตัดข้อเข่าต้องเปิดแผลขนาด 15-20 ซม.ที่หัวเข่า ทำให้เสียเลือดมากและเจ็บมาก ฟื้นตัวได้ช้า ปัจจุบันมีการผ่าตัดโดยวิธี ผ่าตัดแผลเล็ก (Minimally Invasive Surgery : MIS) ขนาดของแผลจะเพียง 8-10 ซม. แต่ก็ได้ผลดี ความเสียหายต่อเนื้อเยื่อภายในมีน้อย เสียเลือดน้อย ไม่มีโรคแทรกซ้อน และฟื้นตัวได้เร็ว

'การที่ผู้ป่วย ฝืนทนต่ออาการนาน ๆ จะทำให้กล้ามเนื้อรอบข้อเข่าลีบและกระดูกบาง ซึ่งการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมในระยะที่ช้าเกินไปจะได้ผลไม่ดีเท่าที่ควร หรืออาจไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า"...แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมกระดูกและข้อ โรงพยาบาลสุขุมวิท ให้ความรู้ทิ้งท้าย

'ข้อเข่าเสื่อม"จะยิ่งอันตรายถ้าเอาแต่กลัว-มัวฝืนทนโรคนี้ก็จำเป็นต้องรู้เท่าทัน-ต้องรีบรักษาให้ทันท่วงทีเพื่อให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติดังเดิม!!!

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

*********************
มหัศจรรย์ สารเซซามิน...สารสกัดจากงาดำ...เพิ่มมวลกระดูก ดูแลข้อเสื่อมและกระดูกพรุน
ยับยั้งเซลมะเร็ง ปกป้องไตและเซลล์ประสาท (ป้องกันอัลไซเมอร์)

ต้านการอักเสบทุกชนิด ปิดกั้นการลุกลามของโรคร้าย :
ข้อเสื่อม  ข้ออักเสบ กระดูกพรุน ตับอักเสบ ปอดอักเสบ  มะเร็ง  โรคติดเชื้อ H1N1
IMMURA Sesameal Cap เซซามีล-แคป สุดยอดผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ปี 2012
ผลงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ไทย "รศ.ดร.ปรัชญา คงทวีเลิศ"
คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้รับการจดสิทธิบัตรแล้วทั่วโลก!!!

"เสียเงินบาทเพื่อป้องกัน ดีกว่าเสียเงินพันเพื่อรักษา"

โทร. 08 4266 4575 , 09 3740 0036
Id line : aiyara368