ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

“สนธิ” ชี้ ปชป.แพ้ภัยตัวเอง 2 ปีมัวหากินเมินเจาะฐาน “แม้ว” - หลงเชื่อ “ห้อ

เริ่มโดย ASTV, 01:20 น. 08 ก.ค 54

ASTV

"สนธิ" ชำแหละ ปชป.แพ้ภัยตัวเอง เป็นรัฐบาล 2 ปีกว่า ไม่จัดการระบอบทักษิณจริงจัง กลับสวมตอหาประโยชน์ หลงเชื่อ "เนวิน" คุมตำรวจ-ผู้ว่าฯ ชิงพื้นที่อีสาน-เหนือได้ เมินลงเจาะฐานรากหญ้าของทักษิณ ซ้ำทิ้งเพื่อนแท้อย่างพันธมิตรฯ เหมารวมให้เป็นตัวยุ่งเหมือนเสื้อแดง ต้องจัดการทั้ง 2 ฝ่าย หวังทำตัวเป็นพระเอก ย้ำชุมนุมไล่ "ยิ่งลักษณ์" หากนิรโทษ-ปล่อยจาบจ้วง เรื่องอื่นให้ ปชป.จัดการเอง พร้อมมุ่งสร้างปัญญาพันธมิตรฯ ฮาร์ดคอร์ 2 ล้านคน

<div align="center" style=" width:100%; "><object classid="clsid:d27cdb6e-ae6d-11cf-96b8-444553540000" codebase="http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=9,0,0,0" width="330" height="320" id="widget" align="middle">   <param name="allowScriptAccess" value="always" />   <param name="allowFullScreen" value="true" />   <param name="movie" value="http://manager.co.th/vdo/mgrplayer.swf" /><param name="quality" value="high" /><param name="bgcolor" value="#000000" />   <param name="FlashVars" VALUE="id=5540000087484&ref=0"><embed src="http://manager.co.th/vdo/mgrplayer.swf" quality="high" bgcolor="#000000" width="330" height="320" name="widget"  FlashVars="id=5540000087484&ref=0" align="middle" allowScriptAccess="always" allowFullScreen="true" type="application/x-shockwave-flash" pluginspage="http://www.macromedia.com/go/getflashplayer" /></object></div>

     
       เวลาประมาณ 20.30 น. วันที่ 4 ก.ค. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ร่วมรายการ "คนเคาะข่าว" ทางเอเอสทีวี ซึ่งออกอากาศเป็นครั้งแรก หลังจากถ่ายทอดสดการชุมนุมที่สะพานมัฆวานมาเป็นเวลา 158 วัน และมีการปรับผังรายการใหม่
       
       นายสนธิกล่าวว่า หลังจากนี้เอเอสทีวีจะทำหน้าที่ในการให้ปัญญาแก่ประชาชนมากขึ้น การชุมนุม 158 วันทำให้เรารู้ว่ามีแฟนพันธุ์แท้อยู่ประมาณ 1.5-2 ล้านคน จากนี้ไปพันธมิตรฯ จะนั่งอยู่หน้าจอทีวีเติมปัญญาความรู้ โดยเนื้อหาของรายการต่างๆ จะเน้นการวิเคราะห์ ให้ความรู้ และใช้ปัญญาถกเถียงหาข้อสรุปในปัญหาต่างๆ และวนเวียนอยู่กับการสร้างปัญญาอย่างเดียว
       
       นายสนธิได้วิเคราะห์ถึงสาเหตุที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้การเลือกตั้งต่อพรรคเพื่อไทยว่า ต้องย้อนไปถึงตั้งแต่ที่พรรคประชาธิปัตย์แพ้พรรคไทยรักไทย ในการเลือกตั้งปี 2544 เพราะประชาธิปัตย์ทำงานอืดอาดล่าช้า และมีกรณีไอเอ็มเอฟที่เข้ามาเกี่ยวข้อง มีการขายสมบัติชาติในราคาถูกให้ฝรั่งแล้วเอากลับมาขายคนไทยในราคาแพง มีการอออกกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับ และในช่วงไอเอ็มเอฟเข้ามานั้นมีคนเดือดร้อนมาก และรอว่าจะมีใครจะเข้ามาแก้ไขปัญหา ซึ่งก็มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเข้ามา ด้วยความที่เป็นคนตัดสินใจเร็ว พูดจาเร็ว มีวิสัยทัศน์ ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์มีนายชวนเชื่องช้า
       
       นอกจากนี้ โครงสร้างพรรคประชาธิปัตย์เต็มไปด้วยพวกอำมาตย์ศักดินา จะทำอะไรก็ช้า ขณะที่พรรคไทยรักไทยมีการนำคนรุ่นใหม่ คนที่เชี่ยวชาญการลงทุนเข้ามา เอาพวกฝ่ายซ้ายที่เข้าใจงานมวลชนเข้ามา เอาหมอที่ต้องการเสนอนโยบายสาธารณสุขใหม่ๆ เข้ามา ขณะที่ประชาธิปัตย์ไม่เคยสนใจปรับปรุงงานด้านสาธารณสุขการศึกษา เมื่อทักษิณเข้ามามีโครงการใหม่ๆ ผู้คนจึงรู้สึกว่าเป็นความหวัง
       
       ทักษิณชนะครั้งแรกได้มาเพียง 200 กว่าเสียง แต่พอชนะอยู่ในอำนาจมา 6 ปี ก็ถูกอำนาจครอบงำ เอาญาติพี่น้องมารุมทึ้งประเทศ พรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านพรรคเล็กๆ ยกมือทีไรก็แพ้ ทำอะไรไมได้ มวลชนของตัวเองก็ไม่มี จนเกิดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขึ้นมา และรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ถูกถอดออกจากช่อง 9 กลายเป็นเมืองไทยรายสัปดาห์สัญจร ทักษิณก็ยังใช้อำนาจรัฐเข้ามาบีบ คนที่ไม่ชอบทักษิณก็แห่เข้ามาร่วม ประชาธิปัตย์ก็เห็นว่าเป็นมวลชนที่สามารถทำอะไรได้ก็เข้ามาร่วม แต่ในวันนั้นเราทำเพื่อหลักการไม่ให้ทักษิณกลับมาเป็นนายกฯ และล้มระบอบทักษิณ จนเกิด 19 กันยา 49
       
       แต่หลังจากนั้นรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และ คมช.ก็ไม่ดำรงเป้าหมายที่จะไม่ให้ทักษิณกลับมา ล้มเหลวในการจักการกับระบอบทักษิณ แถมยังไปประนีประนอม มองว่าเป็นเรื่องสมบัติผลัดกันชม และคิดว่าทักษิณโดนไล่ออกไปแล้วจะอยู่เฉยๆ เหมือนอดีตนายกฯ คนอื่นๆ แต่ทักษิณอยู่มา 6 ปี มีฝ่ายซ้ายลงไปสร้างฐานมวลชนในกลุ่มรากหญ้า ซื้อใจประชาชนในภาคอีสาน-ภาคเหนือ ขณะที่ประชาธิปัตย์อยู่มา 60 ปีเข้าไปไม่ถึงรากญ้า รัฐบาลสุรยุทธ์มาก็ปล่อยไว้เหมือนเดิม และรีบจัดการเลือกตั้ง ทั้งที่ปัญหายังไม่ได้แก้ เพราะฉะนั้นตัวการที่ทำให้ระบอบทักษิณฟื้นตัวคือรัฐบาลสุรยุทธ์ และที่แอบสนับสนุนโดยไม่ตั้งใจคือ คมช.ทั้งที่ตัวเองยึดอำนาจทักษิณมา กลายเป็นการปฏิวัติเสียของ
       
       หลังเลือกตั้งปี 50 ได้นายสมัคร สุนทรเวช มาเป็นนายกนอมินีของทักษิณ พยายามจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ พันธมิตรฯ จึงออกมาคัดค้าน จนมีการล้มตายของพี่น้องในวันที่ 7 ตุลาฯ หลังจากนั้นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ได้มาเป็นนายกฯ โดยแรงสนับสนุนจากกองทัพ เพราะว่ากลุ่มของนายเนวิน ชิดชอบ ถูกลดอำนาจในพรรคพลังประชาชนลงหลังจากนายสมัครพ้นจากตำแหน่งนายกฯ และทักษิณสนับสนุนนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์เป็นนายกฯ แทน เมื่อมีสุญญากาศจากการยุบพรรคพลังประชาชน นายสมชายพ้นจากตำแหน่ง นายเนวินจึงย้ายกลุ่มมาผสมผสานกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ผูกตัวเองอยู่กับ พล.อ.อนุงพษ์ เผ่าจินดา และวางทายาทไว้คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       
       นายสนธิกล่าวว่า การเกิดของประชาธิปัตย์ไม่ใช่เพราะอยากแก้ไขปัญหาชาติบ้านเมือง แต่เกิดเพราะอยากเป็นรัฐบาล นายสุเทพอยากเป็นมากหลังจากไม่ได้เป็นมา 6 ปีกว่า นายอภิสิทธิ์ก็ฝันจะเป็นนายกฯมาตั้งแต่เด็ก นายเนวินก็ต้องการมาขี่คอพรรคประชาธิปัตย์เพื่อหาประโยชน์ ทหารก็รู้ว่าตัวเองมีบทบาท เข้ากับฝ่ายไหนฝ่ายนั้นชนะ จึงหลายเป็นพรรคทหารขึ้นมา สามารถขู่พรรคขนาดเล็กให้มาร่วมรัฐบาลกับประชาธิปัตย์ได้
       
       เมื่อเริ่มต้นมาเป็นรัฐบาลด้วยวิธีการแบบนี้ประชาธิปัตย์ก็ละทิ้งอุดมการณ์ที่จะล้มล้างระบอบทักษิณ กลับมองว่าเสื้อแดงและเสื้อเหลืองเป็นตัวยุ่ง เป็นเรื่องของคน 2 คนตีกัน เขาจะอยู่ตรงกลางแล้วใช้กฎหมายจัดการทั้งสองฝ่าย นี่คือข้อผิดพลาด ไม่ดูว่าเนื้อหาหลักการที่พันธมิตรฯ ทำไว้มีอะไรบ้าง ไม่ดูว่าพันธมิตรฯ ต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นผลพวงให้ประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาล แต่พอมาเป็นรัฐบาลก็อยากเป็นพระเอก ให้เสื้อเหลืองเสื้อแดงเป็นผู้ร้าย และเขาจะมาแก้ปัญหา
       
       นายสนธิกล่าวต่อว่า หลังจากที่รัฐบาลอภิสิทธิ์หยุดเสื้อแดงเผาเมืองในเดือนเมษายน 2552 ลงได้ เขาก็คิดว่าคุมเสื้อแดงได้แล้ว จู่ๆ วันที่ 17 เม.ย.52 ตนก็ถูกลอบยิง เพราะเขาคิดว่าเมื่อคุมเสื้อแดงอยู่หมัดแล้วต้องจัดการคนเสื้อเหลืองด้วย เพื่อให้ทุกอย่างจบ ซึ่งเป็นการคิดแบบตื้นๆ
       
       เราสู้กับทักษิณ สู้กับ คมช. ในที่สุดก็มาสู้กับประชาธิปัตย์ ไม่ใช่ว่าเพราะไม่ชอบ แต่สู้เพื่อความถูกต้อง นายอภิสิทธิ์นั้นเราให้โอกาสมาก พยายามสนับสนุนและช่วยเหลือ และคิดว่านายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ นายเนวินคิดคนละแบบ นายอภิสิทธิ์คิดแต่ว่าจะเป็นนายกฯ นานๆ นายสุเทพก็วางแผนสืบทอดอำนาจให้ และเมื่อมีนายเนวินมาร่วมก็จะให้นายเนวินจัดการกับระบอบทักษิณ เพราะเป็นคนอีสาน พูดจาเก่ง ก็ให้คุมมหาดไทย เพราะคิดว่าเมื่อมีอำนาจแล้วจะล้างระบอบทักษิณได้ ทั้งตำรวจ ทั้งผู้ว่าฯ ก็อยู่ในมือนายเนวิน ขณะที่นายสุเทพคุมความมั่นคง เลยคิดว่ามีทุกอย่างอยู่ในกระเป๋าแล้ว พันธมิตรฯ ก็เลยถูกไล่ออกมา
       
       นายสนธิกล่าวต่อว่า เราไม่ได้ทิ้งประชาธิปัตย์แต่ประชาธิปัตย์ไล่เราออกมา เขาดำเนินคดีก่อการร้ายกับคนเสื้อแดง ก็ดำเนินคดีคนเสื้อเหลืองให้เป็นผู้ก่อการร้ายเหมือนกัน โดยให้ตำรวจคนใกล้ชิดนายเนวินมาทำคดี พยายามสร้างภาพว่าเสื้อเหลืองก็เป็นตัวป่วนเช่นเดียวกับเสื้อแดง เหมือนที่ พล.อ.อนุพงษ์พูด แล้วนายสุเทพก็เอาไปพูด ลามไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ ขณะที่พรรคภูมิใจไทยก็พยายามสร้างภาพเพื่อทำลายทั้งสองสี
       
       "ผมเห็นว่าเขากำลังทิ้งพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เขาลืมว่าเพื่อนของเขาซึ่งสู้ให้เขา สู้เพื่อความถูกต้อง เขากลับมาเหยียบศีรษะพวกเรา เหยียบย่ำพวกเรา ซึ่งตรงนี้ผมอยากจะให้คุณอภิสิทธิ์ทบทวนตัวเอง เพราะคุณอภิสิทธิ์ไปพึ่งคุณเนวิน พอพึ่งคุณเนวินแล้ว คุณเนวินจะทำอะไร คุณอภิสิทธิ์ไม่กล้าพูด หลายต่อหลายครั้งทำท่าจะแข็ง แต่ในที่สุดพอเนวินทุบโต๊ะบอกสุเทพ สุเทพก็มากล่อมคุณอภิสิทธิ์ คุณอภิสิทธิ์ก็ยอมตามคุณเนวิน ยอมตามคุณสุเทพ ทำทุกอย่าง" นายสนธิกล่าว
       
       นายสนธิกล่าวต่อว่า ช่วง 2 ปีกว่าที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ไม่คิดแก้ไขปัญหาประเทศชาติ ไม่ลงไปหาคนรากหญ้า ไม่คิดจะเปลี่ยนความคิดคนอีสานคนเหนือ คิดแค่ว่าถ้าเพื่อไทยให้ 100 เขาจะให้ 300 เขาไม่คิดว่าเครือข่ายที่ทักษิณสร้างไว้ 6 ปียังอยู่ ทั้งระดับ อบต. อบจ. และที่สำคัญคนอีสานมองว่านายเนวินทรยศ เขาจึงไม่เลือก ว่ากันว่าเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยจ่ายน้อยกว่าแต่ก็ชนะภูมิใจไทย
       
       นายสนธิกล่าวอีกว่า ในยุครัฐบาลไทยรักไทยทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของทักษิณคนเดียว ส่วนประชาธิปัตย์มีการแบ่งโซนกันทำมาหากิน กระทรวงใครกระทรวงมัน นายอภิสิทธิ์ก็ทำทีเป็นคัดค้านเพื่อกลบเกลื่อน พอคนลืมก็ปล่อยให้ผ่าน ครม.ไปทุกเรื่อง แต่เราก็คิดว่าเป็นเพราะนายอภิสิทธิ์ถูกนายสุเทพครอบงำ หรือเพราะสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ
       
       จนกระทั่งเมื่อมาถึงเรื่องไทย-กัมพูชา เราก็จับโกหกนายอภิสิทธิ์ได้ เพราะถ้านายอภิสิทธิ์โกหกคนไทย เรื่องจริงก็ไปโผล่ที่เขมร จนในที่สุดเราต้องชุมนุมเพื่อทวงคืนแผ่นดินไทย และเปิดโปงข้อมูลตอบโต้จนนายอภิสิทธิ์พูดไม่ออก และยุบสภาหนี โดยหวังว่าจะให้เลือกตั้งวันที่ 26 มิ.ย.ก่อนที่คณะกรรมการมรดกโลกจะพิจารณาเรื่องแผนบริหารจัดการปราสาทพระวิหาร แต่การยุบสภาต้องเลื่อนออกมา และ กกต.ให้เลือกตั้งวันที่ 3 ก.ค. ซึ่งนายอภิสิทธ์ก็ยังหวังว่า จะให้นายสุวิทย์ คุณกิตติ เลื่อนแผนบริหารจัดการปราสาทพระวิหารออกไปก่อนเพื่อให้พ้นตัวเอง โดยให้นายสุวิทย์เซ็นข้อตกลง 8 ข้อ ที่จะทำให้ไทยเสียอธิปไตย เรื่องปราสาทพระวิการจึงเป็นความขัดแย้งระหว่างคนที่รักนายอภิสิทธิ์กับพวกเรา แต่เรามีหลักการเดียวกับที่เราสู้กับรัฐบาลทักษิณ รัฐบาลสุรยุทธ์ เราจึงได้ข้อสรุปกว่า ทั้งงรัฐบาลนายชวน หลีกภุย ที่เซ็นเอ็มโอยู 2543 มาถึงรัฐบาลทักษิณ รัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ รัฐบาลสมัคร-สมชาย รัฐบาลอภิสิทธิ์ นักการเมืองเลวเหมือนกันหมด เราจึงต้องโหวตโน
       
       นายสนธิกล่าวว่า ช่วง 2 ปี 7 เดือนจึงเท่ากับว่านายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ ในระบอบทักษิณ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียนายอภิสิทธิ์ที่เป็นคนมีคุณวุฒิดี ชาติตระกูลดี ตั้งแต่ปี 2549 ระบอบทักษิณยังส่งทอดมา ไม่มีใครล้มได้ ประชาธิปัตย์ก็ไปสวมตอต่อยอด เพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์ ไม่ได้เข้ามาทำเพื่อประชาชน
       
       "ประชาธิปัตย์แพ้ตัวเอง แพ้ภัยตัวเอง เพราะประชาธิปัตย์ไม่ทำตามที่ตัวเองพูดเอาไว้ การเลือกตั้งแข่งคุณทักษิณ ปี 44 ก็แพ้ ปี 48 ก็แพ้ ปี 50 ก็แพ้ ปี 54 ก็แพ้ เมื่อคุณไปดูคะแนนเสียงพรรคประชาธิปัตย์แล้ว จะอยู่ระหว่าง 150, 160, 170 อยู่เพียงแค่นี้ ไม่เคยชนะ 200 เหมือนที่คุณทักษิณชนะ เหตุผลเพราะว่า ทักษิณคุมเครือข่ายข้างล่างหมดเรียบร้อย เมื่อตัวเองมีอำนาจแทนที่จะแกะเครือข่ายเหล่านี้ออกแล้วเอาเครือข่ายตัวเองเข้าไป ให้ประชาชนมารักการทำงานของตัวเอง อย่าว่าอย่างนั้นเลย คนใต้ที่เลือกประชาธิปัตย์ ถ้าพิจารณาให้ดีๆ พูดกันด้วยความเป็นธรรมแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ไม่ทำอะไรให้คนใต้เป็นรูปธรรม นับประสาอะไรกับคนอีสาน และคนเหนือ"
       
       นายสนธิกล่าวต่อว่า ประชาธิปัตย์ไม่ทำลายโครงข่ายของทักษิณ หันไปพึ่งนายเนวินที่มีนักเลงหัวโจกอยู่ในพรรค แต่แม้แต่นักเลงก็สู้ทักษิณไม่ได้ เพราะทักษิณเป็นที่รวมของมาเฟีย เอานักเลงโตมาจะสู้ทักษิณได้อย่างไร ตำรวจ ทักษิณก็ยังคุมอยู่ ทหาร เขาก็เป็นเตรียมทหารรุ่น 10 แต่นายอภิสิทธิ์หลงเชื่อนายเนวินก็คิดว่านายเนวินคุมอีสานได้ เพราะมีผู้ว่า มีตำรวจอยู่ในมือ ทั้งยังมีเงินมหาศาล ด้วยเหตุนี้ จึงไม่สนใจพันธมิตรฯ
       
       "เขาทิ้งเรา เราไม่เคยทิ้งเขาเลย เราจริงใจต่อเขา เราอยากให้เขาเป็นนายกฯ ที่ดี เพราะหาคนที่มีคุณสมบัติอย่างเขาหายาก แต่เขาต้องจริงใจ เขาต้องซื่อสัตย์ และเขาต้องไม่ทิ้งมวลชน พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ไม่เคยมีมวลชน" นายสนธิกล่าว และว่า แกนนำพรรคประชาธิปัตย์หลงคิดว่า คนที่มาร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ คือคนของพรรคประชาธิปัตย์ พวกเราจึงเป็นอะไรที่เขาจะทำลาย แต่เราก็ได้กลั่นกรองพวกเรากันเอง แม้กลุ่มเราจะเล็กลง แต่นี่คือเนื้อแท้ของเราที่ไปลงคะแนนโหวตโนประมาณ 1.5-2 ล้านคน ซึ่งถือว่าเป็นพันธมิตรฯ ฮาร์ดคอร์
       
       นายสนธิกล่าวต่อว่า 1.5-2 ล้านคนนี้ คือคนที่เชื่อมั่นในอุดมการณ์เดียวกัน เป็นคนที่จะนั่งดูเอเอสทีวี ไม่สนใจช่องอื่น เป็นพลังที่แน่นหนา ซึ่งเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ตนได้บอกกับพี่น้องที่เวทีสะพานมัฆวานฯ แล้วว่า จากนี้ไป ถ้าแกนนำยังไม่มีมติอย่าไปเชื่อใคร เราจะไม่เป็นเครื่องมือให้ใครอีก ตอนนี้เราเกิดใหม่อย่างอิสระ ไม่มีเครื่องพันธนาการ ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่เราชอบประชาธิปัตย์ พอเราบอกว่าผิดหวังนายอภิสิทธิ์ ก็มีคนที่ชอบนายอภิสิทธิ์แยกตัวออกไป เหลือแต่พวกเราแท้ๆ
       
       พรรคเพื่อไทยก็ยังมีปัญหาภายใน และต้องชัดเจนว่าจะไม่เดินรอยตามทักษิณ ซึ่งจะทำได้หรือไม่ มีคนบอกว่าทักษิณอยู่เบื้องหลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่ไม่สำคัญเท่ากับว่า ขณะที่ทำนโยบายประชานิยมเพื่อคนรากหญ้า แต่ตัวเองก็เข้าไปกินงบประมาณด้วยหรือไม่ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็ทำเหมือนกัน
       
       นายสนธิกล่าวว่า ประเด็นที่เราจะออกมาสู้มีอยู่ 2 เรื่อง คือ 1.เมื่อใดก็ตามที่มีการเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมให้ทักษิณ ชินวัตร 2.หากมีกระบวนการล้มเจ้าออกมาแล้วรัฐบาลไม่จัดการให้เด็ดขาด ซึ่งถ้าพ้นจาก 2 เรื่องนี้แล้วเราจะไม่ยุ่ง เพราะถ้ายุ่งเท่ากับว่าเราไปเป็นมวชนให้พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งตอนนี้ก็มีมวลชนอยู่แล้วไม่ใช่หรือ ถ้าบอกว่ารัฐบาลเพื่อไทยเข้ามาโยกย้ายข้าราชการ รัฐบาลประชาธิปัตย์ก็ทำเหมือนกัน ถ้าพรรคประชาธิปัตย์จะประท้วงก็ประท้วงไป หรือเอาไปคุยกันในสภา เพราะนายอภิสิทธิ์ชอบบอกว่าปัญหาทุกอย่างต้องไปจบกันในสภา
       
       ส่วนเรื่องไทย-กัมพูชา พันธมิตรฯ ทำงานจบแล้ว เพราะเราต่อสู้จนมีการถอนตัวจากภาคีมรดกโลก หลังจากนี้ไป ถ้าพรรคเพื่อไทยยังใช้เอ็มโอยู 2543 อยู่ ก็ต้องไปถามพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นฝ่ายค้านว่าเห็นด้วยไหม ถ้าเห็นด้วย ก็แสดงว่าทั้งสองพรรคร่วมมือกันขายชาติ แต่ถ้ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยยกเลิกก็ดีไป ส่วนทหารซึ่งพรรคเพื่อไทยสามารถเอาคนของตัวเองมาคุมได้ ถ้าไม่ปกป้องอธิปไตย ก็ต้องถามพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นฝ่ายค้านว่าจะเอายังไง พวกเราถ้าจะเคลื่อนไหวก็มีแค่การยื่นหนังสือเท่านั้น การชุมนุมจะมีแค่ 2 เรื่องที่กล่าวมา ใครจะมาหลอกให้เราชุมนุมเพื่อตีกิน เพื่อเป็นเงื่อนไข หลอกให้พวกเราไปตายแล้วไปแอบจัดตั้งรัฐบาล ให้เราเป็นนั่งร้าน เราไม่เอา ถ้าเขาอยากจะชุมนุมก็ให้ใช้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปัตย์ซึ่งเขามีอยู่แล้ว
       
       ทั้ง 2 เรื่องดังกล่าว ถ้าทักษิณโง่ก็คงจะทำ แต่ถ้าไม่โง่ก็ควรเลี่ยง ส่วนเรื่องทุจริตก็ไปตัดกันเองกับพรรคประชาธิปัตย์ เขามีสิทธิ์อภิปรายในสภาอยู่แล้ว มีแต่คนฝีปากกล้าไม่ใช่หรือ ก็เอาเข้าสภาล่อกันเอง ตรงนี้พันธมิตรฯ อย่าหวั่นไหว เพราะเราเกิดใหม่แล้ว เราเหมือนกองกำลังพระเจ้าตาก แต่เรามีเกือบ 2 ล้านคน เราจะคอยลับปัญญาแล้วเอาไปกระจายต่อ พันธมิตรฯ ฮาร์ดคอร์จะมีแต่คนคุณภาพ มีสัมมาทิฐิ มีสัมมาปัญญา การเมืองวันนี้สลับซับซ้อน เราจะไม่ตกเป็นเหยื่ออีก และจะเอาชาติเป็นตัวตั้ง ถ้าใครอยากจะล้มรัฐบาลก็ไปล้มในสภาเอง หรือถ้าอยากล้มนอกสภาก็ให้มวลชนของคุณล้มเอง
       
       นายสนธิกล่าวอีกว่า ตลอด 5-6 ปี พรรคประชาธิปัตย์เดินซ้ำรอยตัวเองในการเมืองน้ำเน่า หลังจากนี้จะดูว่าประชาธิปัตย์จะทำอย่างไรเมื่อเป็นฝ่ายค้านในสภา ถ้ายกมือด่าพรรคเพื่อไทย ก็อาจจะโดนสวนกลับว่าตอนคุณเป็นรัฐบาลก็ทำอย่างนี้ นายอภิสิทธิ์จะกล้าพูดเรื่องกัมพูชาหรือไม่ เพราะพรรคเพื่อไทยอาจจะเอาเทปตอนนายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ มาเปิด ประชาธิปัตย์กำลังติดกับดักตัวเอง ถ้าบอกว่าเพื่อไทยโกง ก็อาจจะโดนย้อนเรื่องน้ำมันปาล์ม ถือว่ากรรมสนอง เพราะตอนที่เข้ามาแล้วไม่แก้ปัญหา แต่มาแค่สืบทอดอำนาจตัวเองและหาประโยชน์
       
       นายสนธิกล่าวย้ำว่า ความพ่ายแพ้ของประชาธิปัตย์ก็คือการแพ้ภัยตัวเอง เพราะว่า 2 ปีครึ่งที่ผ่านมา และการทิ้งเพื่อนที่มีความจริงใจ ถ้านายอภิสิทธิ์ พรรคประชาธิปัตย์จับมือกับพันธมิตรฯ เดินหน้าปฏิรูปประเทศ ใช้พันธมิตรฯ เป็นเครื่องขับเคลื่อนในการลงสู่พื้นที่ ขยับขยาย ให้ความรู้คน ให้รายการทีวีนับสนุนพันธมิตรฯ วันนี้ เชื่อประชาธิปัตย์ยังมีโอกาสอยู่ต่อไป และแก้ปัญหาเรื่องระบอบทักษิณได้ดีพอสมควร แต่เขาไม่เคย เพราะเขาไม่ชอบพวกเรา เขากลัวพวกเรา เพราะว่าเขากำลังทำในสิ่งซึ่งระบอบทักษิณทำอยู่ เขาไม่อยากให้เรามายุ่ง

http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9540000082103