ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

แข่งขัน VS. แบ่งปัน

เริ่มโดย nualLIFE, 14:02 น. 11 ก.พ 57

nualLIFE

เรียนเพื่อนๆ สมาชิกทุกๆ ท่าน
  ดิฉันเป็นครูธรรมดาคนหนึ่งที่มองการศึกษาไทย และการศึกษาของหาดใหญ่มาเป็นเวลาไม่นานนัก ก็พอจะมองเห็นบางมุมที่ดี และบางมุมที่อยากให้ร่วมกันพัฒนา เพื่อสังคมเราในอนาคตที่น่าอยู่ สิ่งหนึ่งที่น่าทึ่งมากคือลูกหลานชาวหาดใหญ่มีความสามารถมากมาย เห็นได้จากผลการแข่งขันต่างๆ สสวท. เพชรยอดมงกุฎ สพฐ. และอื่นๆ ที่ลูกหลานเราต่างก็คว้ารางวัลเหล่านี้มานับครั้งไม่ถ้วน วันนี้เลยอยากตั้งกระทู้ขอความเห็นจากผู้รู้หลายๆ ท่านว่า จะดีไหมหากสังคมการศึกษาในบ้านเราจะยังคงมีการพัฒนาต่อไป ลูกหลานเรายังคงพัฒนาตัวเอง แต่ไม่กดขี่ข่มเหงคนที่ด้อยกว่า แข่งกันเรียนก็ดีแต่อ่อนน้อมมากขึ้นกว่าเดิม แล้วนำความเก่งของลูกหลานเราแต่ละคนไปเกื้อกูลเพื่อนๆ ด้วยการแบ่งปันความรู้ แบ่งปันโอกาส ยื่นมือไปหาเพื่อนเพื่อช่วยกันดึงขึ้นมาชื่นชมความสำเร็จไปด้วยกัน เชื่อเหลือเกินว่า สังคมบ้านเราจะกลายเป็นเมืองต้นแบบที่ดี และจะเป็นบ้านที่น่าอยู่มากมายมหาศาลเลยทีเดียว เชิญชวนค่ะ สร้างสังคมที่น่าอยู่ แบ่งปัน ไม่ใช่ แข่งขัน

่คนหาดใหญ่

หาดใหญ่เราก็จะมีแต่คนเก่งคนดีประเทศชาติพัฒนาช่วยกันทำให้โครงการนี้มีในหาดใหญ่ของแรงสนับสนุนทุกฝ่าย


Mr.No

อ้างจาก: nualLIFE เมื่อ 14:02 น.  11 ก.พ 57
เรียนเพื่อนๆ สมาชิกทุกๆ ท่าน
  ดิฉันเป็นครูธรรมดาคนหนึ่งที่มองการศึกษาไทย และการศึกษาของหาดใหญ่มาเป็นเวลาไม่นานนัก ก็พอจะมองเห็นบางมุมที่ดี และบางมุมที่อยากให้ร่วมกันพัฒนา เพื่อสังคมเราในอนาคตที่น่าอยู่ สิ่งหนึ่งที่น่าทึ่งมากคือลูกหลานชาวหาดใหญ่มีความสามารถมากมาย เห็นได้จากผลการแข่งขันต่างๆ สสวท. เพชรยอดมงกุฎ สพฐ. และอื่นๆ ที่ลูกหลานเราต่างก็คว้ารางวัลเหล่านี้มานับครั้งไม่ถ้วน วันนี้เลยอยากตั้งกระทู้ขอความเห็นจากผู้รู้หลายๆ ท่านว่า จะดีไหมหากสังคมการศึกษาในบ้านเราจะยังคงมีการพัฒนาต่อไป ลูกหลานเรายังคงพัฒนาตัวเอง แต่ไม่กดขี่ข่มเหงคนที่ด้อยกว่า แข่งกันเรียนก็ดีแต่อ่อนน้อมมากขึ้นกว่าเดิม แล้วนำความเก่งของลูกหลานเราแต่ละคนไปเกื้อกูลเพื่อนๆ ด้วยการแบ่งปันความรู้ แบ่งปันโอกาส ยื่นมือไปหาเพื่อนเพื่อช่วยกันดึงขึ้นมาชื่นชมความสำเร็จไปด้วยกัน เชื่อเหลือเกินว่า สังคมบ้านเราจะกลายเป็นเมืองต้นแบบที่ดี และจะเป็นบ้านที่น่าอยู่มากมายมหาศาลเลยทีเดียว เชิญชวนค่ะ สร้างสังคมที่น่าอยู่ แบ่งปัน ไม่ใช่ แข่งขัน

กระทู้นี้ดีนะครับ....   ขออนุญาตว่าง ๆ มาร่วมแชร์ความคิดด้วยคน ส.ยกน้ิวให้
..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

nualLIFE

วันนี้รู้สึกดีใจจังเลยค่ะที่มีเพื่อนๆ ชาวเว็บกิมหยงให้การสนับสนุน ด้วยแนวคิดหรือสิ่งที่อยากให้เป็นไปในแนวทางที่ดีที่สุด
ขอเชิญชวนทุกๆ ท่านให้คำแนะนำร่วมกันว่า "ควรทำอย่างไร จึงจะสามารถทำให้เด็กหาดใหญ่ เก่ง แต่ไม่แข่ง ไม่เบ่ง และสามารถขึ้นมาเป็นแนวหน้าของสังคมที่ดีที่สุดได้ค่ะ?  ขอขอบพระคุณทุกๆ ความคิดเห็นอันเป็นกุศลเพื่อเยาวชนของเรามากๆ ค่ะ

Mr.No

อ้างจาก: nualLIFE เมื่อ 11:31 น.  10 มี.ค 57
วันนี้รู้สึกดีใจจังเลยค่ะที่มีเพื่อนๆ ชาวเว็บกิมหยงให้การสนับสนุน ด้วยแนวคิดหรือสิ่งที่อยากให้เป็นไปในแนวทางที่ดีที่สุด
ขอเชิญชวนทุกๆ ท่านให้คำแนะนำร่วมกันว่า "ควรทำอย่างไร จึงจะสามารถทำให้เด็กหาดใหญ่ เก่ง แต่ไม่แข่ง ไม่เบ่ง และสามารถขึ้นมาเป็นแนวหน้าของสังคมที่ดีที่สุดได้ค่ะ?  ขอขอบพระคุณทุกๆ ความคิดเห็นอันเป็นกุศลเพื่อเยาวชนของเรามากๆ ค่ะ

สวัสดีครับคุณครู.

เอาเป็นว่าประเด็นสนทนาคือเรื่อง "ควรทำอย่างไร จึงจะสามารถทำให้เด็กหาดใหญ่ เก่ง แต่ไม่แข่ง ไม่เบ่ง และสามารถขึ้นมาเป็นแนวหน้าของสังคมที่ดีที่สุดได้ค่ะ? ถือเป็นหัวข้อที่ดีครับ

เรื่อง "สังคมการแข่งขัน" เป็นเรื่องที่ไม่ได้เกิดที่เด็กครับ แต่มันเกิดกับผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ นี่ละตัวดี ส.บ่น

ผมเคยวิเคราะห์ว่า เหตุใด คนไทยหรือคนในโลกปัจจุบันนี้จึงเริ่มมีค่านิยมในการชอบแข่งขันกันจัง ..ก็ย้อนกลับไปคิดถึงนิสัยของมนุษย์โดยสันดาน (ขออภัย)  ซึ่งมีมาแต่โบราณกาลนั่นคือ นิสัยพื้นฐานที่ชอบ "นินทา" มาแต่แรก

"การนินทา..ใส่ร้าย" เป็นปฐมบทของการสร้างลักษณะนิสัยที่ทำให้ต้องทะเยอทะยานเพื่อสร้างสถานภาพของตนเพื่อให้ เด่นกว่า...ดังกว่า  เพราะเกรงว่า ถ้าด้อยหรือตกต่ำ อาจนำไปสู่การเป็นเป้าการถูก "นินทา" อย่างที่ว่า

มนุษย์ทุกคนชอบคำเยินยอ...ชอบให้มีใครมาสอพลอ และสิ่งที่จะทำให้มีใครมาเยินยอและสอพลอได้ในสังคมวันนี้ก็คือสิ่งเดียวคือการสร้างภาพให้เห็นสองประการคือ  การมีเงินตราและอำนาจบารมี

คนรวย..มีเงินก็แจกคนอื่นเพื่อให้ทุกคนรู้ว่า ฉันรวย  สิ่งที่ตามมาคือ คำเยินยอ ว่าท่านครับ..ท่านขา ท่านนี่ดีจริง ๆ ..รวยแล้วยังใจดี ฯลฯ

คนมีอำนาจบารมี..มียศฐาบรรดาศักดิ์  ..เวลาไปไหนก็จะมีคนมาสอพลอ..มาเยินยอขอเป็นข้าฯ  ไปไหนล้อมหน้าหลังว่าท่านคะ..ท่านขา ท่านคิดได้ไงเนี่ยะ...ท่านเก่งมาก ฯลฯ

เหล่านี้คือ พื้นฐานของการปูไปสู่ลูก ๆ เพื่อกลัวลูกจะตกรถไฟสายแข่งขัน.......

จึงต้องขมีขมัน..แข่งขันมันตั้งแต่ชั้นเตรียมอนุบาลไปจนกระทั่ง แก่เฒ่าใกล้เข้าโลง กิเลสมันยังวนเวียนไม่ยอมว่าต้องแข่งขัน..ต้องสร้างให้ดูดี.ขนาดงานศพยังต้องมีมหกรรมสร้างภาพมโหฬาร เพราะกลัวจะมีคนนินทาว่า...โห..ตายแล้วทำไมงานศพถึงได้โซขนาดนี้...

เกริ่นให้เห็นภาพในเบื้องต้นว่า ที่มาที่ไปของคนไทยและวัฒนธรรมที่นำไปสู่วิถีแห่งการแข่งขันนั้นเป็นเช่นไร เพื่อนำไปสู่เรื่องที่จะคุยต่อไปโดยเฉพาะในตัวเด็ก

[attach=1]

ว่าง ๆ จะแวะมาคุยต่อนะครับ.

..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

nualLIFE

ขอบคุณ Mr.No สำหรับความคิดเห็นค่ะ