ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

มะกันบินลัดฟ้าตามหาลูกมีเมียที่พลัดพรากกันในสมัยสงครามเวียดนาม

เริ่มโดย JaY_SoniC, 16:26 น. 13 ก.พ 57

JaY_SoniC

วันที่ 13 ก.พ. 57 นายตี๋ แซ่ลิ่ม อายุ 66 ปี ชาวอเมริกันเชื้อสายเวียดนาม ซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เดินทางข้ามโลกมากับ นายธีรวุฒิ วัฒนาเกียรติ อายุ 62 ปี เพื่อนชาวไทย เพื่อตามหาภรรยาและลูกสาวที่ จ.สงขลา หลังจากที่ต้องพลัดพรากจากกันมา 34 ปี ในสมัยสงครามเวียดนามเมื่อปี 2523 ระหว่างที่ล่องเรือลี้ภัย แต่ภรรยากับลูกสาวถูกโจรจับตัวไปกลางทะเล  เหลือเพียงรูปถ่ายของทั้ง 2 คน เพียงใบเดียวที่ยังเก็บไว้ในความทรงจำ และยังรอคอยวันที่จะได้พบหน้ากัน

นายตี๋ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ.2523 ตนและครอบครัวได้ลี้ภัยสงครามเวียดนามล่องเรือมายังประเทศไทย โดยตนล่องเรือมาก่อนพร้อมลูกชายอีกคน และมาขึ้นฝั่งที่ จ.ปัตตานี ก่อนที่จะถูกส่งมาอยู่ที่ค่ายผู้ลี้ภัยที่ชุมชนเก้าเส้งเขตเทศบาลนครสงขลา จากนั้นอีก 2 อาทิตย์ ภรรยา คือ นางจาโบ้ว หรือ นึง แซ่โค้ว ซึ่งขณะนั้นอายุ 26 ปี พร้อมลูกชายและลูกสาวคนสุดท้องชื่อ ด.ญ.ยูอี่ อายุ 18 เดือน ล่องเรือตามมาทีหลังพร้อมกับญาติๆ

แต่มาทราบจากญาติที่พบกันในภายหลัง หลังจากที่เรือมาขึ้นฝั่งที่ จ.สงขลา ว่า ภรรยาและลูกสาวของตนถูกโจรจับตัวไประหว่างการเดินทางกลางทะเล เหลือเฉพาะลูกชายอีกคนที่รอดมาได้ และไม่มีใครรู้ว่าถูกจับตัวไปไว้ที่ใด ซึ่งญาติเล่าให้ฟังว่าเรือลี้ภัยที่ภรรยาล่องมาเครื่องยนต์เกิดเสียหลังจากออกจากเมืองกามาว ประเทศเวียดนาม ได้เพียง 1 ชั่วโมง และต้องลอยลำอยู่กลางทะเลถึง 14 วัน และถูกโจรปล้นเรือถึง 24 ครั้ง กวาดเอาไปทรัพย์สินไปจนหมด แต่ครั้งสุดท้ายกลุ่มโจรได้ลักพาตัวภรรยากับลูกสาวคนเล็กไปด้วย ก่อนที่ลมจะพัดพาเรือมาขึ้นฝั่งในพื้นที่ จ.สงขลา จากนั้นจึงไม่ทราบชะตากรรมของทั้ง 2 คน อีกเลย ซึ่งหากทั้ง 2 คน ยังมีชีวิตอยู่ ขณะนี้ภรรยาตนจะมีอายุ 59 ปี ส่วนลูกสาวอายุ 34 ปี

นายตี๋ กล่าวว่า หลังจากถูกนำมาพักอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยที่เก้าเส้งเป็นเวลา 2 เดือน ตนและลูกชายอีก 2 คน ได้ถูกส่งตัวไปพักที่ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี อีก 3 เดือน และถูกส่งต่อไปยังกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ อีก 6 เดือน สุดท้ายได้ลี้ภัยไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกาจนถึงปัจจุบัน โดยได้ยึดอาชีพขับรถแท็กซี่ในการทำมาหากิน

แต่ระยะหลังมีชาวเวียดนามที่ลี้ภัยไปอยู่ในอเมริกา ซึ่งประสบชะตากรรมเดียวกับตน สามารถตามหาลูกหรือญาติที่พลัดพรากกันมาสมัยสงครามเวียดนามจนเจอในประเทศไทย โดยเฉพาะในหลายจังหวัดของภาคใต้ที่เรือมาขึ้นฝั่ง จึงอยากจะออกตามหาภรรยาและลูกสาว เนื่องจากยังมีความหวังว่าทั้ง 2 คน ยังมีชีวิตอยู่ และมีโอกาสที่จะได้พบหน้ากันอีกครั้ง และรับทั้ง 2 คน ไปอยู่ที่อเมริกาด้วยกัน หากยังไม่มีพันธะหรือครอบครัวใหม่ และยินดีที่จะไป

ขณะที่ นายธีรวุฒิ วัฒนาเกียรติ  คนไทยในลอสแองเจลิส เพื่อนสนิทของนายตี๋ บอกว่า นายตี๋ได้ขอความช่วยเหลือตนให้ช่วยพามาที่ประเทศไทย เพื่อตามหาภรรยาและลูก เพราะ เชื่อว่า น่าจะอยู่ใน จ.สงขลา โดยได้พาไปพบกับตำรวจที่ สภ.สทิงพระ และ สภ.เมืองสงขลา พร้อมกับมอบรูปถ่ายให้ตำรวจช่วยหาเบาะแส และตรวจสอบคดีย้อนหลังเกี่ยวกับชาวเวียดนามที่อพยพขึ้นฝั่งที่ จ.สงขลา ในช่วงปี 2523 แม้จะเป็นเรื่องยากก็ตาม เพราะ เหตุการณ์เกิดขึ้นมานาน และหลังจากนี้ก็จะเข้าขอความช่วยเหลือจากผู้ประสานงานในไทยของมูลนิธิ CNCF ซึ่งเป็นมูลนิธิช่วยตามหาคนหายทั่วโลก ตั้งอยู่ในเมืองลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา โดยหากใครที่พบเบาะแสสามารถแจ้งได้ทางอีเมล terywoo@yahoo.com หรือสื่อมวลชนในประเทศไทย
/////