ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

Pompeii

เริ่มโดย Oz, 16:27 น. 19 ก.พ 57

Oz


   ส.โอ้โห...ชื่อไทย :    ไฟนรกถล่มปอมเปอี   
ผู้กำกับ :    พอล แอนเดอร์สัน
ผู้แต่ง :    เจเน็ต แบทชเลอร์
วันเข้าฉาย :    20/02/2014
ประเภท :      Action, Adventure, Drama
ความยาว :     102 นาที
เรท :     เรท PG-13
สถานที่ถ่ายทำ :     Germany    ,United States
ภาษา :     อังกฤษ


   เนื้อเรื่องย่อ

              ภัยพิบัติครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ สู่ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่จะถ่ายทอดภาพแห่งมหานครที่สาปสูญจากแผนที่โลกในเวลาเพียง 48 ชั่วโมง ผลงานใหม่ล่าสุดของผู้กำกับ Resident Evil และนักแสดงหนุ่มคิท แฮริงตันจากซีรีส์สุดฮิต Game of Thrones

ย้อนกลับไปในอาณาจักรโรมันโบราณ ณ มหานครปอมเปอีที่ยิ่งใหญ่ เรื่องราวชีวิตของทาสหนุ่มนามว่าไมโล(คิท แฮริงตัน) ผู้ใฝ่ฝันอยากจะเป็นไท ชีวิตของเขาต้องเผชิญกับความโศกเศร้าเมื่อ แคสเซีย(เอมิลี่ บราวน์นิ่ง) สาวงามจากชนชั้นสูงผู้เป็นที่รัก กำลังจะถูกบังคับให้แต่งงานกับบุตรชายของเศรษฐี และตัวเขาก็กำลังจะถูกขายเป็นทาสให้กับเจ้านายคนใหม่ แต่ทว่าหายนะชีวิตที่เลวร้าย อาจยังเทียบไม่ได้กับมหันตภัยครั้งสำคัญ เมื่อภูเขาไฟวีซูเวียสเกิดปะทุขึ้น พร้อมระเบิดลาวาอุณหภูมิกว่า 1000 องศา เข้าเผาผลาญทำลายทั้งเมือง ไมโลตัดสินใจที่จะเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยหญิงสาวที่เขารัก ในภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่สุดแห่งประวัติศาสตร์มนุษยชาติครั้งนี้...

   ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : www.nangdee.com

Oz

 

  ส.โอ้โห..ตัวอย่างครับ

    http://www.youtube.com/watch?v=tZSOnw4w3ac

pa_เฟี๊ยว

เรื่องนี้ต้องไม่พลาดแน่นอนจ้า  ตามท้องเรื่องประวัติศาสตร์ของภัยพิบัติครั้งใหญ่ระดับตำนาน  ชนิดที่เรียกได้ว่า ทำให้เมืองที่เคยรุ่งเรืองทั้งเมืองพินาศไปเลย นั่นคือเมือง ปอมเปอี

ปอมเปอี เป็นเมืองๆหนึ่งในยุคโรมันเรืองอำนาจ  แต่เมื่อเกิดภูเขาไฟระเบิดทำให้เมืองเมืองนี้ถูกเถ้าจากภูเขาไฟพ่นออกมาท่วมทับจนหายไปทั้งเมือง  โดยที่ชาวเมืองนับหมื่นถูกฝังอยู่ภายใต้เถ้าถ่านนั้น บรรดาคนที่เคร่งศสนาหลายคนเชื่อว่า เหตุการณ์ในครั้งนั้น เกิดจากการลงโทษของพระเจ้า !!







ก็เลยถือโอกาศนี้มาแนะนำเมือง ปอมเปอี ที่เคยรุ่งเรืองในอดีต และเค้าโครงจากภาพยนต์มาให้รู้จักกันจ้า ... ส-ดีใจ

ปอมเปอี (pompeii) เดิมนั้นเป็นเมืองเล็กๆ มีมาตั้งแต่ 600-700ปี ก่อนคริสตกาล ที่ตั้งในขณะนั้นอยู่ที่แคว้น แคมพาเนีย ใกล้กับอำเภอปอมเปอี  จังหวัดเนเปิลส์ ของประเทศอิตาลี อยู่ห่างจากภูเขาวิซูเวียส ราว 8กิโลเมตร และในอดีต เมืองนี้อยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลเพียง 500เมตร แต่หลังจากเหตุการณ์ภูเขาไฟสงบลง ระยะทางจากตัวเมืองถึงชายทะเล เพิ่มขึ้นเป็น 2กิโลเมตรเล้ย ...

เมือง ปอมเปอี ยุคก่อนในปี ค.ส.79 เป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองมากเมืองหนึง มีประชากรราว 20,000คน มีการวางผังเมืองอย่างดี มีระบบขนส่งน้ำที่ดีเยี่ยมตามแบบของโรมัน   มีน้ำพุและสถานที่สำหรับอาบน้ำสาธารณะจำนวนมาก  มีสนามกิฬาทรงรี(Arena) สำหรับให้ชาวเมืองชมกีฬาที่ใช้ชีวิตเป็นเดิมพัน  มีเวที่แสดงกลางแจ้ง(Amphitheatre)  มีวิหารเทพจูปิเตอร์ ฯลฯ   
ปอมเปอี เป็นเมืองแห่งความหรูหราฟู่ฟ่า  จากหลักฐานทางโบราณคดีจำนวนมากบอกได้ว่า  ปอมเปอี เป็นเมืองที่ผู้คนลุ่มหลงการแสวงหาความสุขความสำราญจากความบันเทิงหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะการแสวงหาความสุขทางเนื้อหนัง สุราและนารี   เพราะเมืองนี้มีที่อาบน้ำสาธารณะมาตั้งแต่ 400ปีก่อนคริสตกาล หลายๆแห่งก็มีหลักฐานให้เชื่อว่า มีความหรูหราอลังการมากๆ เปรียบเสมือน ลาสเวกัส ในยุคสมัยนั้นเลยทีเดียว


จากที่ได้ทีการค้นพบและคาดการณ์โดยนักโบราณคดี ...

หลังจากเทศกาลวันเฉลิมฉลองเพื่อบูชาเทพเจ้าแห่งไฟ (วัน Vulcanalia's ของชาวโรมัน)   คือวันที่ 24 สิงหาคม  ค.ส.79  ก็เป็นวันสุดท้ายของเมือง ปอมเปอี และชาวเมืองจำนวนมาก
เพราะภูเขาไฟ วิซูเวียส ได้เกิดระเบิดขึ้นตอนเวลาประมาณบ่ายโมงครึ่ง  (ประเด็นนี้เกิดข้อกังขาจากนักโบราณคดีจำนวนนึงที่คิดว่า เหตุการณ์น่าจะเกิดขึ้นวันที่ 23 พฤศจิกายน หรือช่วงที่ย่างเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว)   ฝุ่นควันจากเศษดินเศษหิน และควันพิษ ได้ถูกพ่นออกมาจำนวนมหาศาล  กอรปกับทิศทางลมที่พัดจากภูเขาไฟ วิซูเวียส เข้าสู่เมือง ปอมเปอี และเมืองสตาเบีย ที่อยู่ห่างถัดไปอีก  เพียงไม่กี่นาทีท้องฟ้าเหนือเมือง ปอมเปอี ก็ถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นควันจากภูเขาไฟ จนแสงแดดจากดวงอาทิตย์ไม่อาจสาดส่องลอดลงมาได้   ทุกหนทุกแห่งมืดสนิท
หลังจากนั้นไม่นาน เศษหินเศษดินที่ลอยมากับฝุ่นควันเริ่มจับตัวกัน  แล้วก็ล่วงลงมาปกคลุมเมืองปอมเปอี  ชาวเมืองหลานๆคนพยายามหนีออกนอกเมือง  แต่ส่วนใหญ่ก็จะหลบในบ้านหรือในเคหะสถานส่วนรวมต่างๆ 
แต่สุดท้ายแล้วก็มีผู้รอดชีวิตไม่มากนัก  เพราะบรรยากศเต็มไปด้วยก๊าซพิษ  ฝุ่นควันจากเศษหินเศษดิน ที่ร่วงลงมาทับถมกันมากขึ้นๆเรื่อยๆ   หลังจากนั้นไม่นานหลังคาบ้านเรือนเคหะสถานต่างๆ ก็เริ่มถล่มลงมา เพราะรับน้ำหนักจากเถ้า และเศษดินเศษหินไม่ไหว







ถึงวันที่ 25 สิงหาคม ภูเขาไฟ วิซูเวียส ยิ่งระเบิดแรงขึ้น แรงสั่นสะเทือนทำให้ท้องทะเลปั่นป่วนจนเกิดคลื่นแรงขึ้น  และพัดเข้าสู่ชายฝั่ง  แต่บ่ายวันเดียวกันกระแสลมได้เปลี่ยนทิศทางจากเมือง ปอมเปอี พัดเข้าสู่เมือง เฮอร์คิวเลเนียม และมิเซนัม  แต่เมืองแรกอยู่ใกล้กว่ามาก จึงได้รับความเสียหายมากกว่า

วันที่ 26 สิงหาคม การประทุระเบิดของภูเขาไฟยังคงมีอยู่ แต่รุนแรงเบากว่าสองวันแรก แต่ก็ได้เกิดฝนตกลงมาบริเวณลาดเขาซึ่งเต็มไปด้วยเถ้าถ่านที่่ร้อนจัด  ต่อจนถึงวันที่ 27 สิงหาคม น้ำฝนละลายผสมเข้ากับเถ้าถ่านที่ร้อนจัดกลายเป็นโคลนเดือดไหลทะลักเข้ามากลบเมืองเฮอร์คิวเลเนียม  ทำให้ชาวเมืองหลายร้อยคนเสียชีวิต แต่ก็เป็นส่วยน้อย เพราะชาวเมืองส่วนใหญ่ได้อพยพออกไปจากเมืองก่อนหน้านั้นแล้ว  ไม่นานหลังจากนั้นธรณีพิโรธจึงได้สงบลง

มหันตภัยในครั้งนั้นประมาณการกันว่า แรงระเบิดของภูเขาไฟ วิซูเวียส เทียบเท่าได้กับนิวเคลียร์ 40ลูก  ลาวาที่ทะลักออกมามีอุณหภูมิสูงถึง 250 องศาเซลเซียส มีทั้งฝุ่นควัน หิน ก๊าซพิษ ฟุ้งกระจายออกมาราวกับห่าฝน  กินพื้นที่ในอาณาเขตรัศมีกว้างกว่า 10 กิโลเมตร   และพุ่งขึ้นสูงมากกว่ายอดเขา เอเวอร์เรส ถึง 3.5เท่า  แรงพุ่งเทียบเป็นความเร็วได้ถึง 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง  และทิ้งร่องรอยแรงระเบิดไปไกลถึงทวีปแอฟริกา

ไม่ว่าเมือง ปอมเปอีจะล่มสลายเพราะเป็นเมืองคนบาปหรือไม่ก็ตาม  ด้วยเทคนิคต่างๆคิดว่า ภาพยนต์เรื่องนี้จะถ่ายทอดเรื่องราวตามข้อมูลที่บันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ ให้พวกเราได้รับชมกันอย่างสมจริงสมจัง และตื่นเต้นที่สุดเลยจร้าา ...


: ขอขอบคุณข้อมูลที่ได้อ่านและเรียบเรียงมาจาก "ไลฟ์สไตล์ ไทยรัฐ" จ้า




เพิ่มเติม ๆ  งิงิงิ ...  ส.ดุดุขำขำ

หลังจากนั้นราวๆปี 1860  กุยเซปเป พิโอเรลลี หัวหน้านักโบราณคดีได้คิดวิธีอันน่าทึ่งในการขุดค้นเมือง ปอมเปอี จนทำให้เห็นชาวเมืองจำนวนมากที่เสียชีวิตภายใต้เศษเถ้าจากภูเขาไฟที่ท่วมทับศพเหล่านั้น  หลังจากถูกความร้อน และผ่านกาลเวลามานานจนเป็นโพลงกลวง 
โดยเขาได้เจาะรูลงไปเป็นรูเล็กๆ และเทปูนปลาสเตอร์ลงไปในพื้นที่มีซากศพอยู่ด้านใน รอให้แห้งแล้วจึงขุดขึ้นมา  จึงทำให้เห็นท่าทางสุดท้ายของชาวเมืองจำนวนมากขณะตาย !! ...








: ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

ยายเขียว

โอกาส ไม่ใช่โอกาศ   นะจ๊ะ