เที่ยวปราสาทหินที่บุรีรัมย์ + ปราสาทหินที่ เสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา

[คุณาพร.]

เที่ยวปราสาทหินที่บุรีรัมย์ + ปราสาทหินที่ เสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา   

ช่วงกลางเดือนมกราคม 2557 ที่ผ่านมา  ผมมีโอกาสไปเผยเเพร่งานวิจัยที่จังหวัดสุรินทร์ราว 3 - 4 คืน  พอมีเวลาว่างๆ...จึงซื้อแพคเกจทัวร์ " เที่ยวปราสาทหินที่บุรีรัมย์ + ปราสาทหินที่ เสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา 3 วัน 2 คืน " ( 1 วัน 1 คืนในฝั่งไทย / 2 วัน 1 คืนในฝั่งกัมพูชา)

กัมพูชา....ณ บัดนาวบ้านเมืองเจริญขึ้นอย่างผิดหูผิดตา  เเละไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด กลับท่องเที่ยวสนุกใช้ได้  ความปลอดภัยก็จัดว่าพอจะ OK ในระดับหนึ่ง  ราคาทัวร์ก็ไม่เเพง (ทัวร์ในฝั่งไทยเเค่ไม่กี่พัน  / ส่วน 2 วัน 1 คืนในฝั่งกัมพูชา ราคาราว 5,000 บาท + / - )

วันนี้ว่างๆจากงานวิจัย....ขอเเอบมารีวิวสั้นๆ  พอเรียกน้ำย่อย  เผื่อใครอยากไปตามรอยบ้าง   

[คุณาพร.]

ช่วงเที่ยง....น้องชายขับรถมาส่งที่จังหวัดนครศรีธรรมราช  เข้าที่พักที่โรงเเรมเคียงคีรี ใน ม.ราชภัฏนครศรีธรรมราช (ราคาคืนละ 400 บาท) 



ช่วงเย็น....เเวะทานชาบูชิที่ห้างบิ๊กซี สาขานครศรีธรรมราช (เเซลม่อนซาซิมิสดมากๆๆ / สั่งเพิ่มพิเศษ)



คืนนี้นอนพัก 1 คืนที่นครศรีธรรมราช....  เช้า....ขึ้นเครื่อง  บินไปลงที่ดอนเมือง  ถึงดอนเมืองราว 9 โมง



พวกเราตกลงกันว่าจะนั่งรถไฟ(เเอร์)เดินทางไปจังหวัดสุรินทร์กัน  ระหว่างรอรถไฟออกจากสถานี( 11 โมง 30 น.) เลยเเวะฝากท้องทานมื้อเที่ยงกันที่ห้องอาหารสนามบินดอนเมือง




ไข่ดาว-หมูเเฮม-ไส้กรอก-มันฝรั่งทอด เเละขนามปัง  ราคา 139 บาท....ราคาพอสมควร (อาหารสนามบิน เเพงอยู่เเล้ว 555)

[คุณาพร.]

เดินทางไปเรื่อยๆ  กะรถไฟไทยๆ 



ฉึกฉักๆๆ....ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่างๆ  ^^



ไม่ได้นั่งรถไฟซะนานหลายสิบปี  เเอร์เย็นดีครับ  ไปเรื่อยๆ  ชมวิวสองข้างทางพอเพลินๆ

[คุณาพร.]

มาถึงจังหวัดสุรินทร์ราวๆ 5 โมงเย็น  หาอะไรทานเสร็จก็นั่งรถทัวร์ต่อไปลงที่พักที่ สวนป่า รีสอร์ท - Suanpa Resort






ค่าพัก....คืนละ 400 บาท  ราคารับได้  สะดวกสบายดีครับ
สวนป่า รีสอร์ท - Suanpa Resort  // 134 ถ.สุรินทร์-ปราสาท ต.เฉนียง อ.เมือง จ.สุรินทร์ 32000 สำรองห้องพัก : 044-521-022 , 081-390-0144

[คุณาพร.]

จัดการงานส่วนตัวที่ ม.ราชภัฏสุรินทร์(หลายคืน) จนเสร็จ....

[คุณาพร.]

ตื่นเเต่เช้า....ทานอาหารเช้า  ไข่ดาวหมูเเฮม(อีกเเระ) ของสวนป่ารีสอร์ท  จานละ 129 บาท ราคารับได้จ้า....



เดินทางออกจากจังหวัดสุรินทร์ด้วยรถตู้ของทัวร์  ไม่นานก็ถึงจังหวัดบุรีรัมย์  ที่ๆเราจะเที่ยวกันในช่วงเช้าก็คือ  ปราสาทหินเมืองต่ำ



เเถวๆรายรอบตัวปราสาทหิน  ธรรมชาติร่มรื่นมากๆ



อ้างจาก wikipedia  :  ปราสาทเมืองต่ำ  ตั้งอยู่บริเวณหน้าวัดปราสาทบูรพาราม ตำบลจระเข้มาก อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ โดยคำว่า เมืองต่ำ นี้ไม่ใช่ชื่อดั้งเดิม แต่เป็นชื่อที่ชาวพื้นเมืองเรียกโบราณสถานแห่งนี้ เพราะปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ในที่ต่ำกว่าปราสาทพนมรุ้ง โดยมวลสารวัตถุจากโบราณสถาน และโบราณวัตถุในที่นี้ รัชกาลที่ 9 ได้ทรงนำมาเป็นส่วนประกอบในการทำพระสมเด็จจิตรลดา  ราสาทเมืองต่ำสร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 16 ในศิลปะปาปวนตอนต้น และลดความสำคัญลงไปในราวพุทธศตวรรษที่ 18 และถูกทิ้งร้างในที่สุด จนเมื่อราวปี พ.ศ. 2490 จึงเริ่มมีการอพยพเข้ามาของชาวบ้าน มาตั้งถิ่นฐานในบริเวณนี้อีกครั้งหนึ่ง  ปราสาทเมืองต่ำน่าจะเป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู ลัทธิไวษณพนิกาย เพราะถึงแม้ได้มีการขุดพบศิวลึงค์ แต่ภาพสลักส่วนมากที่ปราสาทนี้ ล้วนเป็นภาพเกี่ยวกับการอวตารของพระนารายณ์ อีกทั้งเป็นปราสาทน้ำล้อม ซึ่งเป็นลักษณะของไวษณพนิกาย ต่างจากปราสาทบนภูเขาของไศวนิกาย



อันนี้....มัคคุเทศก์น้อย ประจำปราสาทหินเมืองต่ำครับ (ราคากันเอง  เลยใช้บริการซะหน่อย)

[คุณาพร.]

ปราสาทหินเมืองต่ำ...สวยงามๆ












ต้นไม้ใหญ่ภายในอาณาบริเวณตัวปราสาท  ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี.....



พญาวาสุกรีเฝ้าสระน้ำ....



อีกนิดดดด.....วันที่คณะของผมลงเที่ยวตัวปราสาท(ศึกษาดูงาน+เที่ยว)มีคณะของพระธุดงค์-เณร หลายร้อยรูปกำลังเดินทางผ่านมาเพื่อเเวะชมตัวปราสาทด้วย  เลยได้ภาพงามๆ 2 ภาพข้างล่างนี้ล่ะครับ.....สาธุๆ

[คุณาพร.]

เดินทางต่อๆ  ไปเที่ยวกันที่ปราสาทหินเขาพนมรุ้ง.....























เสานางเรียง....เสาหินที่เเยกระหว่างโลกมนุษย์ กะสวรรค์






คุณน้อง ดร.เบิ้ล  ถ่ายกะพญานาคเพศเมียที่ได้ชื่อว่าเป็นงานศิลปะ-สายประติมากรรมที่สวยงามที่สุดในสยามประเทศ(กล่าวไว้โดย ผศ.องอาจ ศรียะพันธ์)

[คุณาพร.]

ช่วงเที่ยง....ทานข้าวบนเขาพนมรุ้ง

ช่วงบ่าย.....เดินทางต่อๆ ไปเที่ยวกันที่ปากปล่องภูเขาไฟเก่า จังหวัดบุรีรัมย์


ที่เห็นอยู่ไกลลิบๆนั่นเเหล่ะ....ปากปล่องภูเขาไฟเก่า



ปีนขึ้นภูเขาไฟกันต่อๆ (เหอะ เหอะ)  ลิ้นห้อยๆ.....




ขึ้นมาไหว้พระองค์นี้ครับ สาธุๆ



ข้างบนจะมี " หินลอยน้ำ " ไว้ให้ชมกันด้วย  ความจริงมันก็คือหินภูเขาไฟนั่นเเหล่ะครับ  มันมีรูพรุนเยอะๆ เลยเกิดมวลอากาศข้างใน  เเละลอยน้ำได้ๆ.....






อันนี้ต้น " จิ๊มิปีศาจ " หรือ " โยนีปีศาจ "  คนภาคใต้คงเรียกต้น " เคยปีศาจ "  555555555555.....

[คุณาพร.]

กลับจากบุรีรัมย์....พักค้างคืนในสุริทร์ต่ออีก 1 คืน
เช้ามืด....ออกเดินทางโดยรถทัวร์  เข้ากัมพูชา


หลังจากผ่านเเดนเข้าสู้ประเทสกัมพูชาเเล้ว  ก็เดินทางต่อไปที่เมืองเสียมเรียบ (เสียมราฐ)เป็นจังหวัดหนึ่งในประเทศกัมพูชา ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ อยู่ริมฝั่งทะเลสาบเขมร ห่างจากกรุงพนมเปญ 314 กิโลเมตร โดยใช้เวลาเดินทางด้วยรถยนต์ประมาณ 5 ชั่วโมง
เสียมราฐ เป็นที่ตั้งของนครวัด และกลุ่มปราสาทหินหลายแห่ง อาทิ หมู่ปราสาทหินจากอาณาจักรขอม ได้แก่ ปราสาทนครวัด, กลุ่มปราสาทนครธม, (ตาพรหม และบายน, บันทายศรี, บากอง, โลเลย, พนมบาเค็ง, พนมกุเลน และ บารายตะวันตก
เมืองเอกของจังหวัดนี้ (เทียบได้กับอำเภอเมืองในจังหวัดของไทย) ก็มีชื่อว่า เสียมราฐ เช่นกัน โดยเมืองเสียมราฐนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของประเทศกัมพูชา แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมนครวัดประมาณ 1,600,000 คน(อ้างจากวิกิพีเดีย)



เที่ยงล่ะๆ....เเละเเล้วเราก็มาถึงร้านอาหารเเห่งนี้ ณ เมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา  ร้านอาหารโตนเล (บุฟเฟ่)

[คุณาพร.]

มาถึงภัตตาคาร / ร้านอาหารโตนเล....ก็ลงมือกันเบยๆ  ^^ (หิวๆ)




ก่อนเข้าไปลุยยยย....ขอเเชะกันหน่อย (ตามประสาคนบ้ากล้อง) 555





อาหารที่มีไว้บริการ...หลากหลายใช้ได้  โดยเฉพาะอาหารเวียดนาม  เยอะมากกกกก (อร่อยๆ / ชอบๆ)





มาเขมร....เเต่ทานอาหารเวียดนาม(ฮา) อร่อยๆ....เลยจัดไปซะหลายชุด  ^^




เห็นฝรั่งจัดเจ้าจานเเบบนี้ไปคนละหลายจาน  เลยลองบ้าง  น่าจะเป็นหอยโช่ง(มั๊ง) เนื้อรสชาติคล้ายๆหอยขมบ้านเรา(หอยจุ๊บ) เนื้อมันสากๆปาก  พอทานได้  555

[คุณาพร.]

ทานอาหารเวียดนาม(ฮา) เสร็จเเล้วก็ไปลงเลกัน  ไปเที่ยวโตนเลสาบของเขมร.....

(อ้างจากวิกิพีเดีย)  โตนเลสาบ  :  เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งอยู่บริเวณตรงกลางของประเทศกัมพูชา มีพื้นที่ ประมาณ 7,500 ตารางกิโลเมตร หรือใหญ่กว่ากรุงเทพฯ ประมาณ 7 เท่า ความลึกโดยเฉลี่ย อยู่ที่ 10 เมตร ทะเลสาบเขมรเกิดจากแม่น้ำโขง ซึ่งแม่น้ำโขงไหลผ่านมีความยาวถึง 500 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 5 จังหวัดของกัมพูชา ได้แก่ กำปงธม กำปงชนัง โพธิสัตว์ พระตะบอง และเสียมราฐ เป็นทะเลสาบที่มีปลาน้ำจืดชุกชุมมากแห่งหนึ่งประมาณ 300 ชนิด จึงมีชาวกัมพูชาเป็นจำนวนมากที่ประกอบอาชีพประมงในบริเวณทะเลสาบแห่งนี้


เรือลำนี้เเหล่ะที่จะพาพวกเราไปเที่ยวโตนเลสาบกันๆ.....






ลูกทัวร์ก็เฮฮาๆๆ.....

[คุณาพร.]

ออกเรือๆ.....น้ำสีขุ่นมากๆๆ







สภาพบ้านเรือนริมน้ำ  โบสถ์คริสต์ (ของชาวเวียดนามอพยพ) มีให้เห็นตลอดสองข้างทาง....




ป้ายจราจรทางน้ำ(ฮา)

ปล. ใครตาดี....จะได้เห็นศพชาวกัมพูชา หรือชาวเวียดนาม  ใส่ถุงมันเเขวนไว้กะต้นไม้ด้วยนะ(สยอง) ที่ทำเเบบนี้อาจเพราะหาสถานที่ฝังศพยากก็เป็นได้(ไกด์เล่าให้ฟัง  เหอะ เหอะ)



เด็กขายของ  เด็กพายกะละมัง  เเละเด็กโชว์งู....มีเยอะมาก  ขับเรือมาขอยี่สิบๆตลอดทาง....(พวกนี้ส่วนใหญ่เป็นเด็กเวียด / เวียดนามอพยพ)



ร้านค้าสุดปลายทางของโตนเลสาบ  ร้านนี้มีโชว์ปลา  โชว์จระเข้  เเละศิลปะกัมพูชา



งู-ตะขาบ-เเมงป่อง  เเละสารพัดสัตว์มีพิษดองเหล้า  เเค่ถ่ายรูปพอนะ  ไม่กล้าซื้อกลับไทยง่า.....




ขวดตรงกลางนี่  ราคา 150 บาท

[คุณาพร.]

ช่วงบ่ายๆ เย็นๆ เที่ยวกันต่อที่ " Artissans Angkor " หรือศูนย์ศิลปวัฒนธรรมกัมพูชา  พวกสายช่างศิลป์เเขน่งต่างๆ  พอเพลินๆ.....



















อันนี้สามล้อกัมพูชา.....

[คุณาพร.]

ออกจากศูนย์ศิลปวัฒนธรรมกัมพูชา....ก็ออกรถเที่ยวต่อที่ " วัดใหม่ " (กัมพูชา - เสียมเรียบ) เพื่อศึกษาเกี่ยวกับพิภัยของสงครามล้างเผ่าพันธุ์ในกัมพูชาช่วยเขมรเเดงยังเรืองอำนาจ (คนสมัยนั้นน่าสงสารมากๆครับ)






กองโครงกระดูกเหยื่อสงครามสมัยเขมรเเดงเรืองอำนาจ(เศร้า)



" เมื่อก่อนท่านเป็นเหมือนเรา  อีกหน่อย....เราก็จะเป็นเหมือนๆท่าน "  ไม่มีใครหรอกที่จะอยู่ค้ำฟ้า.....



วัดในนิกานหินยาน(เถรวาท / ทักษิณนิกาย)ในกัมพูชา....ส่วนใหญ่มักตั้งสิงห์ไว้หน้าวัดเสมอๆ.....

[คุณาพร.]

เดินทางต่อไปทำบัตรผ่านประตู  เพื่อเข้าชม 3 มหาปราสาทมรดกโลก ปราสาทพนมบาเค็ง, ปราสาทนครธม เเละปราสาทนครวัด (เเถวยาวมากกกกกกกกกกกก) // ไกด์ชาวกัมพูชาเล่าให้ฟังว่า ใน 1 วันมีนักท่องเที่ยวเข้าชม 3 มหาปราสาทนี้กว่า 10,000 คนเลยทีเดียว  ว๊าวววว....มันต้องอลังการมากเลยล่ะๆ....







ได้มาล่ะ....บัตรเที่ยวชม 3 มหาปราสาทหินที่โด่งดังที่สุดในโลก !! (เวลาเที่ยวชมต้องเเขวนเจ้าบัตรใบนี้ไว้ที่คอตลอดเวลานะ  ไกด์ชาวกัมพูชาเล่าให้ฟังว่า  หากเข้าไปเที่ยวใน 3 มหาปราสาทเเล้วเกิดไม่มีป้ายเเขวนคอไว้  จะุถูกเจ้าหน้าที่จับ  เเละปรับขั้นต่ำคือ 8,000 บาทเลยทีเดียว / เเพงจัง !! )

[คุณาพร.]

ขึ้นรถตู้  เดินทางต่อๆ...จนมาถึงทางขึ้นของปราสาทพนมบาเค็ง  ต้องเดินขึ้นเขาหลายกิโลเลยล่ะๆ (เดินกันลิ้นห้อยๆ)




ทางขึ้นเขาลาดชันสุดๆ  เเต่พบว่าผู้คนราว 2-3 พันคนก็เดินกันเเบบนี้  มันยอดมากกกกก....(คนเดินขึ้นเขาเยอะจริงๆ)



ขึ้นเขามาได้ราว 2-3 กิโล(มั๊ง)  ก็เจอโคอุสุภราช เทพภาหนะขององค์อิศวร



นี่ไง  ปราสาทพนมบาเค็ง  ที่ชาวกัมพูชาเรียกว่า " ศูนย์รวมของจักรวาล "  เเละเป็นจุดชมดวงอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดในกัมพูชา(ถ่ายดวงอาทิตย์ตกดินไม่ทัน....ข้าพเจ้านั่งเหงื่อเเตกอยู่ใกล้ๆพญาโค  555 )




ซักรูป....เราคือผู้พิชิตขุนเขาเเละปราสาทพนมบาเค็ง....  ^^

[คุณาพร.]

ลงจากปราสาทพนมบาเค็งเกือบ 18.30 น. เดินทางต่อโดยรถทัวร์....ไปถึงกลางเมืองเสียมเรียบ  ทานอาหารเย็น(บุฟเฟ่)ที่ภัตตาคารอาหารเเม่โขง / อาหารดี ดนตรีไพเราะ+การเเสดงบนเวที







ของผม....ตักมา 1 จานก่อน // ทานเสร็จเบิ้ลอีก 1 (เอาให้คุ้ม 555)

[คุณาพร.]

มุมสำหรับเก็บภาพเป็นที่ระลึก  ในภัตตาคารอาหารกัมพูชา  :  เเม่โขง 

[คุณาพร.]

ทานมื้อค่ำเสร็จก็เดินทางไปพักที่โรงเเรม  Parent Heritage Angkor Villa กลางเมืองเสียมเรียบ กัมพูชา // ที่พักสบายมากๆ....




ตื่นเช้า(ตี 5) จัดการเรื่องส่วนตัว  ลงมารับประทานอาหารเช้าที่ทางโรงเเรม Parent Heritage Angkor Villa จัดไว้บริการ (อาหารเช้าเเบบง่ายๆ  สบายท้อง)

[คุณาพร.]

เช้านี้....หน้าโรงเเรม  (เหมือนกลุ่มกะเหรี่ยงอพยพเบยๆ  อิอิอิ)  ^^"









พร้อมล่ะๆ....ไปเที่ยวต่อที่กลุ่มปราสาทหินนครวัดนครธม  ^^

[คุณาพร.]

ถึงเเล้ววววว.....ปราสาทหินนครวัดนครธม  เย้ !!









ลายปั้นนูนต่ำของที่นี่....สวยงามมากกกกก  เข้าองค์ประกอบศิลป์  ชัดเจน  มีพลัง!!  มีชีวิต!!




ไม่เเปลกใจที่หลายคนจะอินกะความงามของศิลปะสายประติมากรรมที่นี่.....