ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

'ใบเหลือง'ผู้ว่าฯกทม.ทำปชป.รอลุ้น!แต่ท้ายสุด'กรรมเท่านั้นจะเป็นผู้กำหนด'

เริ่มโดย itplaza, 10:09 น. 13 มี.ค 57

itplaza


เรียกได้ว่า "ถึงกับต้องหวั่นไหวกันเลยทีเดียว" สำหรับพลพรรคเก่าแก่ อย่าง "พระแม่ธรณีบีบมวยผม"(ปชป.) เมื่อ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติ 3-2 แจกใบเหลืองให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการ กทม. หรือ"พ่อเมือง"หรืออีกในสถานะหนึ่งก็ คือ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพราะต้องไม่ลืมว่า กทม. คือ ฐานเสียงสำคัญแห่งหนึ่งของ พรรคปชป. ที่ยึดหัวหาดมาอย่างยาวนาน ซึ่งพนันได้ว่า "หัวเด็ดตีนขาด"พรรคเก่าแก่ ไม่อยากเสียให้คู่แข่งอย่างพรรคเพื่อไทยแน่นอน





เพราะหากศาลอุทธรณ์ เกิดรับคำร้องที่ กกต. จะส่งให้ในวันที่ 26 มี.ค.นี้ ขึ้นมาพิจารณา จริง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที ถึงแม้สามารถแต่งตั้งรองผู้ว่าฯ ขึ้นมาทำหน้าที่แทนได้ แต่ย่อมส่งผลสะเทือนในสนามการเมืองท้องถิ่นไม่มากก็น้อย อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง เชื่อขนมกินได้ว่า ถ้าไม่ถึงที่สุด แบบไม่มีทางเลือกจริงๆ ผู้ใหญ่ในพรรคปชป. อย่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าปชป.หรือ แม้กระทั่ง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาฯกปปส. ซึ่งเคยเป็นอดีต ส.ส.ปชป. ก็คงลุ้นไม่อยากให้เกิดขึ้น (แม้ตนเองจะออกจากพรรคมาแล้วก็ตาม) เพราะจะกระทบไปถึง การบริหารงานของ พรรคปชป. และอาจส่งผลไปถึง ม็อบ กปปส. ของนายสุเทพด้วย แบบช่วยไม่ได้ แต่หากฟ้าจะให้เป็นไปก็คงหนีไม่พ้นเรื่อง บุญ-กรรม อย่างที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เพราะคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้







ทั้งนี้ นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ กรณี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. ถูก กกต.พิจารณาให้ใบเหลือง ด้วยมติ 3-2 กรณีคนในพรรคประชาธิปัตย์ อย่างนายสุเทพ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ตอนที่มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. เมื่อปี 56 เห็นเป็นการใส่ร้ายป้ายสี คู่แข่งว่า ทางพรรคปชป.พร้อมน้อมรับคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ ไม่ว่าศาลจะชี้ว่าคดีมีมูลจริง หรือไม่มีมูลก็ตาม ทั้งนี้ เป็นที่แน่นอนว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะส่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ในการแข่งขันเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.อีกครั้ง หากศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้มีการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม.ใหม่

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวยอมรับว่า ก็ยังรู้สึกงงอยู่เหมือนกัน เพราะว่าตามสำนวนสอบสวนให้ใบเหลืองของกกต. เห็นชัดว่า เรื่องนี้ไม่ได้เกิดจากตัว ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ แต่เป็นคนอื่นในพรรคปชป. แต่ก็ทำให้ได้เพียงมีใบเหลือง หากมีหลักฐานว่า ตัวผู้สมัครเป็นผู้กระทำจริง กกต.มีโอกาสให้ใบแดงได้







หากย้อนรอย กลับไปวันที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ขณะนั้นยังเป็น ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคปชป. ช่วงแข่งกันหาเสียงลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.(แต่มาถึงช่วงนี้ลาออก มาเป็นเลขาธิการ กปปส.แล้ว ) นายสุเทพ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ทางคณะอนุกรรมการสืบสวนฯ ได้ตั้งประเด็นกล่าวหาตนอย่างกว้างขวาง รวม 3 ประเด็น ได้แก่ 1.กล่าวหาว่าตนปราศรัยใส่ร้ายพรรคเพื่อไทยว่า มีความคิดเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เปลี่ยนเป็นการปกครองเป็นระบอบอื่น โดยมีรูปแบบรัฐไทยใหม่ ซึ่งมีประธานาธิบดีเป็นประมุข

2.กล่าวหาว่า ตนปราศรัยใส่ร้ายว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และพรรคเพื่อไทย เป็นขบวนการเดียวกัน ที่ได้กระทำการยึดพื้นที่กรุงเทพฯบางส่วน เพื่อใช้เป็นฐานก่อการร้าย ทำร้ายประชาชนและเจ้าหน้าที่



และ 3.กล่าวหาว่าตนปราศรัยใส่ร้าย ในลักษณะเปรียบเปรยให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เข้าใจว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้บงการพรรคเพื่อไทย แม้ในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ก็ชักชวนให้คนที่เชื่อถือ ในตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาช่วยหาเสียงให้ พล.ต.อ.พงศพัศ ให้ได้รับเลือกตั้ง และหากได้รับเลือกตั้งก็จะเป็นผู้ว่าฯกทม. ที่เป็นเหมือนหนังตะลุง ซึ่งต้องคอยมีคนเชิด

อย่างไรก็ตาม ข้อกล่าวหาทั้งหมด ได้ขออนุกรรมการสืบสวนฯ ที่จะจัดทำคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งจะยื่นพร้อมพยานหลักฐานและพยานบุคคล ในวันอังคารที่ 14 พ.ค. นี้ ซึ่งทางคณะอนุกรรมการฯ สืบสวน ก็ไม่ขัดข้องแต่อย่างใด ทั้งนี้มั่นใจว่า จะสามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงทั้งหมดต่อกกต.ได้ แม้ต้องสู้คดีในศาล แต่เชื่อว่า หลักฐานที่มีสามารถนำมาใช้พิสูจน์ความจริงได้

หากย้อนรอยการพิจารณาคดีดังกล่าว ที่ประชุมกกต.ได้มีการอภิปรายและมีการลงมติ โดยเสียงออกมาเท่ากัน 2 ต่อ 2 ทำให้ประธาน กกต.ต้องออกเสียงชี้ขาด สุดท้ายที่ประชุม กกต.มีมติด้วยคะแนนเสียงข้างมาก 3 ต่อ 2 สั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดย 3 เสียงข้างมาก ได้แก่ นายศุภชัย สมเจริญ, นายสมชัย ศรีสุทธิยากร และนายบุญส่ง น้อยโสภณ ส่วน 2 เสียงข้างน้อย ที่เห็นควรให้ยกคำร้อง คือ นายประวิช รัตนเพียร และ นายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์



จากนั้นได้มีการพิจารณาว่า จะดำเนินคดีกับผู้ปราศรัย หรือไม่ ซึ่งที่ประชุมมีมติเสียงข้างมาก 4 ต่อ 1 ไม่ต้องดำเนินคดีอาญา อย่างไรก็ตาม หลัง กกต.มีมติแล้ว ทางสำนักงาน ก็จะเร่งยกร่างคำวินิจฉัยเพื่อให้ กกต.ทั้ง 5 คนลงนามก่อนยื่นต่อศาลอุทธรณ์ภาค 1 ก่อนวันที่ 26 มี.ค. ซึ่งถือเป็นวันสุดท้ายของกรอบระยะเวลา 1 ปี ที่ กกต.จะต้องพิจารณาเรื่องร้องคัดค้านการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จ และหากศาลอุทธรณ์ มีคำสั่งรับคำร้อง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที โดยเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 239 วรรคท้าย



อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2556 ที่ผ่านมา กกต.ได้มีมติดำเนินคดีอาญากับ นายศิริโชค โสภา อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กรณีโพสต์เฟซบุ๊กด้วย

แน่นอนว่า หากในกรณีเลวร้ายที่สุด ของปชป. ศาลอุทธรณ์ตัดสินต้องให้ไปเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม.ใหม่จริงๆ ปชป.ก็ถือว่า ยังได้เปรียบคู่แข่งสำคัญ อย่างพรรคเพื่อไทยอยู่หลายช่วงตัว ที่กำลังโดนมรสุมการเมืองถล่มเข้าใส่ อย่างมากมายจนนับแทบไม่หวาดไม่ไหว แต่ถ้าให้เดาใจพรรคเก่าแก่ ถ้าเป็นไปได้ ก็คงไม่อยากมาเสี่ยง หรือเหนื่อยแบบสายตัวแทบขาดอีก ถ้าท้ายสุดจบลงได้แบบแฮปปี้เอนดิ้งก็ดีไป แต่ก็ช่วยไม่ได้ถ้าเกิดจะต้องจบแบบเศร้าๆ ศาลอุทธรณ์​มีคำสั่งเลือกตั้งใหม่ ก็คิดปลงซะว่า "มีกรรมแต่ชาติปางก่อนก็แล้วกัน" แต่เชื่อเถอะ "ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ"



ขอบคุณ : ไทยรัฐ


ที่มา http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=1&news_id=34064&page=1

ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

ชื่อ:
การยืนยัน:
กรุณาเว้นช่องนี้ว่างไว้:
พยัญชนะไทยตัวสุดท้าย:
shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง