ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

จนท.CTWเบิกความคดีเผา เผยมีชายชุดดำคล้ายทหารพรานขว้างระเบิดใ

เริ่มโดย ปชปหัวก้าวหน้า, 15:54 น. 20 ก.ค 54

ปชปหัวก้าวหน้า

19 ก.ค.54 ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ห้องพิจารณาคดี 501 มีการสืบพยานโจทก์ในคดีเผาห้างเซ็นทรัลเวิลด์ คดีหมายเลขดำที่ อ.2478/2553 ซึ่งพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นาย สายชล แพบัว อายุ 28 ปีอาชีพรับจ้าง และนายพินิจ จันทร์ณรงค์ อายุ 26 ปี อาชีพรับจ้าง ในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ร่วมกันเผาทรัพย์โรงเรือนอันเป็นที่เก็บสินค้าของผู้อื่นเป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย โดยวันนี้ (19 ก.ค.) มีการสืบพยานโจทก์ 3 ปาก ได้แก่ นายธีรพงษ์ เมธาพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายก่อสร้างของห้างเซ็น , นางนงเยาว์  ฟูพรรณ เลขานุการผู้จัดการห้างเซ็น สาขาราชประสงค์ และนายชูพันธ์ อนงค์จรรยา ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายอาคารและสถานที่ ของห้างเซ็นทรัลเวิลด์

ผอ.ฝ่ายก่อสร้างของห้างเซ็นให้การว่า หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ ไม่เกิน 1 สัปดาห์ เจ้าหน้าที่ของห้างรวมทั้งตนเองร่วมกัน สมาคมวิศวกรรมสถานฯ และกรุงเทพมหานคร ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อประเมินความเสียหายเบื้องต้นของอาคาร ทั้งห้างเซ็น ส่วนต่อเชื่อมกับเซ็นทรัลเวิลด์ที่เรียกว่า โอลด์เซ็น และอาคารเซ็นทาวเวอร์ 20 ชั้น พบว่ามีมูลค่าความเสียหายราว 1,300 ล้านบาท โดยยังไม่นับรวมบางส่วนของตึกที่ถล่มลงมา ทั้งนี้ บริษัทได้จ้างบริษัทผู้เชี่ยวชาญเข้ามาประเมินความเสียหายและส่งให้บริษัทผู้ออกแบบออกแบบซ่อมแซมแล้ว

ขณะที่เลขานุการผู้จัดการสาขาของห้างเซ็น เบิกความเพิ่มเติมว่า ในส่วนเซ็นโพเดียม หรือห้างเซ็นต่อเชื่อมกับห้างเซ็นทรัลเวิลด์รวมถึงอาคารเซ็นทาวเวอร์ชั้น 1-7 นั้น เสียหายประมาณ 500 กว่าล้าน ส่วนอาคารเซ็นทาวเวอร์ชั้น 8-20 เสียหาย 173 ล้าน  สินค้าของห้างที่จ่ายเงินแล้วเสียหายประมาณ 400 กว่าล้าน สินค้าเครดิตเสียหายประมาณ 159 ล้าน อุปกรณ์ตกแต่งเสียหายประมาณ 400 กว่าล้าน ระบบไอทีเสียหาย 21 ล้าน และระบบประกอบอาคารทั้งหมดเสียหายประมาณ 600 กว่าล้าน รวมแล้วกว่า 2,000 ล้านบาท ทั้งนี้ พยานตอบถามค้านทนายจำเลยด้วยว่า อาคารเซ็น ทาวเวอร์นั้น สร้างอยู่บนที่ดินซึ่งเดิมเป็นของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์

ส่วนผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายอาคารและสถานที่ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งเป็นพยานคนเดียวในวันนี้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เบิกความว่า ในวันที่ 19 พ.ค.53 เวลาประมาณบ่ายโมงได้ประจำการอยู่ที่ลานจอดรถใต้ดินชั้นบี1 บริเวณห้องเก็บอุปกรณ์ดับเพลิง และทราบข่าวว่า แกนนำ นปช.ได้ประกาศสลายการชุมนุม เข้ามอบตัวแล้ว จากนั้นประมาณ 10 นาทีก็ได้รับแจ้งว่าฝั่งห้างเซ็นถูกไฟไหม้ จึงนำหน่วยผจญเพลิง 5 คน ไปช่วยเสริมกำลังดับไฟที่ห้างเซ็น ระหว่างทางเห็นมีการนำยางรถยนต์มาเผาบริเวณถนนราชดำริหลายจุด ทั้งยังมีการนำกระดาษมาสุมเป็นกองเล็กๆ เผาอยู่หน้าประตูห้างเซ็นทรัลเวิลด์ มีการทุบกระจกร้าน Adidas ด้วย เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุได้ไปสมทบกับทีมของทางห้างเซ็นช่วยกันดับไฟ เสร็จแล้วจึงถอนตัวออกมา จากนั้นได้รับแจ้งอีกว่า บริเวณประตูถนนพระราม 1 ถูกทุบและเผา เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่าสปริงเกอร์ทั้งหมดทำงาน กระจายน้ำในการดับไฟแล้ว แม้ตัวอาคารจะโดนตัดไฟเนื่องจากมีคำสั่ง ศอฉ.มาก่อนหน้าหลายสัปดาห์แล้วก็ตาม

ผู้ช่วยผู้จัดการฯ เบิกความต่อว่า จากนั้นได้เห็นคนที่บุกรุกเข้ามาในห้างประมาณ 5-6 คน จึงร่วมกับ รปภ.ภายในห้างเชิญตัวออก พร้อมกำชับกับชายคนหนึ่งในนั้นว่า "ขอร้องอย่าซ้ำเติมกันเลย ทางห้างเสียหายเยอะแล้ว" ซึ่งทั้งหมดก็ยอมออกโดยดี จากนั้นเจ้าหน้าที่ของห้างได้รวมกลุ่มกันบริเวณดังกล่าวประมาณ 50 คนเพื่อเฝ้าดูสถานการณ์ ขณะเดียวกันเริ่มเห็นกลุ่มควันขนาดใหญ่ในตัวห้างเซ็น เมื่อไปดูพบเห็นคนนำถังแก๊สโยนเข้าไปในอาคาร โดยกลุ่มผู้กระทำการ 3-4 คน คนใส่หมวกไหมพรมปกปิดใบหน้า จากนั้นไม่นานมีคนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ประมาณ 40-50 คน เดินเข้ามาบริเวณหน้าประตูอีกด้านหนึ่งบางคนถือไม้ ถืออิฐ ขว้างเข้ามา บางคนยิงหนังสติ๊กเข้ามาใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของห้าง แต่ไม่ได้เข้ามาภายในอาคาร กระทั่งมีกลุ่มชายชุดดำ แต่งกายคล้ายทหารพรานจำนวนหนึ่งแหวกฝูงชนขึ้นมาแล้วขว้างระเบิดลูกเกลี้ยงเข้ามาภายในบริเวณที่เจ้าหน้าที่ห้างยืนอยู่ จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 8-9 คน และนำส่งโรงพยาบาลในเวลาต่อมา

การสืบพยานปากสุดท้ายยังไม่เสร็จสิ้น ศาลนัดสืบพยานครั้งหน้าวันที่ 26 ก.ค. หลังจากนั้นมีกำหนดการสืบพยานอีกในวันที่ 28 ก.ค. 2-3 ส.ค. 23-24 ส.ค.

ทั้งนี้ คดีเผา CTW ยังมีผู้ต้องการอีก 2 คน ซึ่งเป็นเยาวชน และศาลเยาวชนนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 20 ก.ค.นี้ ส่วนคดีของนายสายชล และนายพินิจ อัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 1 ก.ย.2553  สืบพยานไปแล้ว 5 ปาก รวมกับวันนี้ (19 ก.ค.) เป็น 8 ปาก

ในคำฟ้องคดีระบุว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ค.53 เวลากลางวัน จำเลยทั้งสองกับพวก ร่วมกันชุมนุมและมั่วสุมกันบริเวณสี่แยกราชประสงค์ ในช่วงที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง โดยพวกจำเลยได้เข้าไปในบริเวณอาคารห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ แล้วใช้กำลังทำลายบานกระจกผนังอาคาร บานกระจกประตู อาคารเซ็นทาวเวอร์ อาคารเซ็นทรัลเวิลด์ ที่ตั้งอยู่ภายในบริเวณห้างสรรพสินค้าดังกล่าวจนแตกเสียหายและยังเป็นการกีดขวางการจราจร ขัดขวางต่อการประกอบกิจการของห้าง ทำให้ประชาชนเดือดร้อนเสียหายและเกรงกลัวอันตรายที่อาจเกิดขึ้นต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน

นอกจากนี้ จำเลยทั้งสองกับพวก ยังได้ร่วมกันเข้าไปภายในบริเวณอาคารเซ็นทาวเวอร์และอาคารเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งเป็นทรัพย์โรงเรือนอันเป็นที่เก็บสินค้าของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ แล้วพวกจำเลยได้ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์จนทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ เผาอาคารเซ็นทาวเวอร์และไฟไหม้เผาทรัพย์สินต่างๆของผู้เสียหายที่ 1 ถึงผู้เสียหายที่ 270 รวมค่าเสียหายจำนวน 8,890,578,649.61 บาท และยังเป็นเหตุให้นายกิติพงษ์หรือกิตติพงษ์ สมสุขที่อยู่ภายในอาคารดังกล่าวถึงแก่ความตาย  เหตุเกิดที่แขวง- เขตปทุมวัน กทม.

เรื่องที่เกี่ยวข้อง:
สืบพยานคดี 2 เยาวชนผู้ต้องหาเผาเซ็นทรัลเวิลด์

ล ลิง

หน้าตาคล้าย ๆ แบบนี้รึเปล่า !!!!

[attach=1]

"คนอย่างแม้ว ผิดไม่ได้แพ้ไม่เป็น ผิดไม่เป็นแพ้ไม่ได้" (บัญญัติ บรรทัดฐาน : รายการลงเอยอย่างไร?)

ล ลิง

หรือว่าแบบนี้
[attach=1]

แบบนี้
[attach=2]

555+
"คนอย่างแม้ว ผิดไม่ได้แพ้ไม่เป็น ผิดไม่เป็นแพ้ไม่ได้" (บัญญัติ บรรทัดฐาน : รายการลงเอยอย่างไร?)

จับฉ่าย

คุณ ล ลิง

เสียดายอย่างมากที่ฮาร์ดดิสลูกเก่าพังไปซะแล้ว

ไม่งั้นคงจะได้เห็นชายแต่งกายคล้ายทหารพรานเป็นร้อยๆรูปแบบที่คุณล ลิงนำมาลงแน่เลยครับ

Probass

อ้างจาก: EventSub เมื่อ 23:53 น.  20 ก.ค 54
คุณ ล ลิง

เสียดายอย่างมากที่ฮาร์ดดิสลูกเก่าพังไปซะแล้ว

ไม่งั้นคงจะได้เห็นชายแต่งกายคล้ายทหารพรานเป็นร้อยๆรูปแบบที่คุณล ลิงนำมาลงแน่เลยครับ

กู้ไม่ได้หรอ  ส.อืม ส.อืม
TUF ลุ้น break new high   UVAN @80 บาท --> 106.50 บาท

ปชปหัวก้าวหน้า

ส.ว.เผยผู้บริหาร "เซ็นทรัลเวิลด์" แฉเหตุเผาห้าง กลุ่มไม่ทราบฝ่ายถืออาวุธบีบรปภ.จนทำสำเร็จ

กมธ.ติดตามสถานการณ์บ้านเมือง วุฒิสภา เผยตัวแทนกรรมการผู้จัดการเซ็นทรัลเวิลด์ให้ข้อมูล ระบุมีกลุ่มคนพยายามเผาเซ็นทรัลเวิลด์หลายครั้ง ยันเหตุเกิดหลังแกนนำเสื้อแดงมอบตัวแล้ว

นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ส.ว.ศรีสะเกษ ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามสถานการณ์บ้านเมือง วุฒิสภา เปิดเผยถึงกรณีการวางเพลิงเผาห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ราชประสงค์ว่า กมธ. เชิญตัวแทนกรรมการผู้จัดการเซ็นทรัลเวิลด์ให้ข้อมูลกับคณะกรรมการ ได้รับทราบว่า มีกลุ่มคนหนึ่งพยายามเผาเซ็นทรัลเวิลด์มาแล้วหลายครั้ง เนื่องจากมีหน่วยรักษาความปลอดภัยคอยป้องกันเหตุจำนวนหลายร้อยคน หลังจากนั้นกลุ่มคนดังกล่าว ไม่ทราบว่าเป็นกลุ่มไหน ได้เพิ่มจำนวนคนมากขึ้น พร้อมกับถืออาวุธครบมือเข้ามาภายในเซ็นทรัลเวิลด์ จนสามารถบีบให้หน่วยรักษาความปลอดภัยยอมจำนน และสามารถเผาได้สำเร็จ

"ตัวแทนกรรมการผู้จัดการเซ็นทรัลเวิลด์ ให้ข้อมูลกับเราว่า การพยายามลอบวางเพลิง ไม่ได้เกิดขึ้นในระหว่างที่กลุ่มเสื้อแดงชุมนุม แต่เกิดขึ้นหลังจากที่แกนนำกลุ่มเสื้อแดงเข้ามอบตัวแล้ว และตลอดเวลาที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณดังกล่าว ผู้ชุมนุมก็มีความสัมพันธ์ที่เป็นไปได้ด้วยดีกับทางห้าง โดยทางห้างได้อำนวยความสะดวกให้ผู้ชุมนุมเข้าห้องน้ำด้วย นอกจากนี้ ตัวแทนของห้างยังระบุว่า มีวีดีโอที่บันทึกภาพของกลุ่มคนที่วางเพลิงไว้ด้วย แต่จนถึงขณะนี้ทางห้างยังไม่ได้ส่งมาให้ทางคณะกรรมการ" นายจิตติพจน์กล่าว

นายจิตติพจน์ กล่าวต่อว่า การประชุมคณะกรรมการฯ วันที่ 10 มีนาคม ทางคณะกรรมการฯ เชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) เข้าชี้แจงถึงความคืบหน้าของคดีกลุ่มคนเสื้อแดง รวมถึงจะเชิญนางธิดา ถาวรเศรษฐ แกนนำกลุ่มนปช. ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มนปช. ว่าต่อจากนี้จะมีการเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไป

ที่มา: มติชนออนไลน์

ปชปหัวก้าวหน้า

สืบพยานคดี 2 เยาวชนผู้ต้องหาเผาเซ็นทรัลเวิลด์

Sat, 2011-07-16 01:00


เมื่อวันที่ 14 ก.ค.54 เวลา 9.00 -16.30 น. ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางได้ออกนั่งพิจารณาคดีอาญา คดีหมายเลขดำที่ 1682/2553 ระหว่าง พนักงานอัยการฯ กอง 4 โจทก์ กับนายอัตพล วรรณโต จำเลยที่ 1 นายภาสกร ไชยสีเทา จำเลยที่ 2 ซึ่งถูกพนักงานอัยการฟ้องว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2553 จำเลยทั้งสอง ร่วมกันวางเพลิงเผา เซ็นทรัลเวิลด์ จนเป็นเหตุให้นาย กิติพงษ์ สมสุข ซึ่งอยู่ในอาคารเซ็นทรัลเวิลด์ถึงแก่ความตาย

ในวันช่วงเช้า พนักงานอัยการได้นำนายเด่นอาชา  รักษาคุณ ซึ่งเป็นพนักงานตำแหน่งช่างไฟฟ้า ของห้างเซ็นทรัลเวิลด์ มาเบิกความเป็นพยานว่า ก่อนเกิดเหตุเพลิงไหม้ เมื่อประมาณวันที่ 15-16 พ.ค. 2553 พยานได้พบเห็นชายอายุประมาณ 30 -40 ปี ในช่วงเวลาประมาณ 4 ทุ่มที่ ลานจอดรถชั้น บี 1 แต่งตัวใส่กางเกงยีนส์และเสื้อยืดธรรมดา ไม่ได้ปิดบังใบหน้า ได้นำขวดเครื่องดื่มชูกำลัง ซึ่งที่ปากขวดไม่มีฝาปิด แต่มีพลาสติกปิดไว้ที่ปากขวด  มายื่นให้แก่กลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งนั่งพักผ่อนภายใน บริเวณลานจอดรถ ชั้น บี 1 ในห้างเซ็นทรัลเวิลด์ จำนวน 2 ขวด  แต่พยานไม่ทราบว่าภายในขวดเครื่องดื่มชูกำลังนั้นจะบรรจุอะไรไว้ในขวด และนายเด่นอาชา ได้เบิกความว่า ตนเองไม่เคยพบเห็นจำเลยทั้งสองมาก่อน

ในช่วงบ่ายของวันเดียวกันนี้ พนักงานอัยการโจทก์ ได้นำตัวนาย อานนท์ เข็มเพ็ชร ซึ่งเป็นพนักงานควบคุมกล้องวงจรปิด (cctv )ของห้างเซ็นทรัลเวิลด์ มาเบิกความโดยมีการเปิดซีดีประกอบด้วย  ซึ่งซีดีนี้บันทึกได้จากกล้องวงจรปิดของห้างฯ ซึ่งในกล้องวงจรปิดของห้างปรากฏว่า ไม่มีภาพของจำเลยทั้งสองแต่อย่างใด และนอกจากนี้ นายอานนท์ ได้เบิกความว่า คืนวันที่ 18 พ.ค.2553 ตนได้รับทราบจากหัวหน้าของตนว่า ผู้บริหารของห้างให้เตรียมตัวในการดับเพลิง เนื่องจากได้ยินข่าวจากผู้ชุมนุมว่าจะมีการวางเพลิงเผาห้างเซ็นทรัล โดยได้รับทราบข่าวนี้จากทางวิทยุสื่อสารของห้าง และในกล้องซีซีทีวีของห้างฯมีชายบุกเข้าไปในห้างฯ ฝั่งประตูห้างเซ็น ถนนพระราม 1 โดยใช้ถังแก๊สจุดให้ลุกไหม้ในบริเวณแผนกเครื่องสำอาง  และขณะที่มีการลุกไหม้ฝั่งเซ็นทาวเวอร์ ในส่วนอื่นๆของห้างเซ็นทรัลเวิลด์ก็มีการลุกไหม้ในเวลาไล่เลี่ยกัน

ศาลนัดไปเลื่อนสืบพยานโจทก์ในวันที่ 20 กรกฎาคม 2554 เวลา 9.00 -16.30 ต่อไป

ทั้งนี้ ในคดีดังกล่าวมีผู้ต้องหาอีก 2 รายที่ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ คือ นายสายชล แพบัว อายุ 29 ปี ชาว จ.ชัยนาท และนายพินิจ จันทร์ณรงค์ อายุ 27 ปี ชาว จ.ชัยภูมิ โดยได้มีการสืบพยานโจทก์จำเลยไปก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 12 ก.ค. ที่ศาลอาญาใต้ ในความผิดฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ โรงเรือนที่เก็บสินค้า จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จากกรณีเหตุเพลิงไหม้ อาคารเซ็นทาวเวอร์และอาคารเซ็นทรัลเวิลด์ ที่ตั้งอยู่แยกราชประสงค์

โดยในการสืบพยานจำเลยทั้งสองในวันที่ 12 ก.ค. อัยการได้นำเจ้าหน้าที่ประจำห้องปฏิบัติการกล้องวงจรปิด CCTV  ซึ่งอยู่ชั้นใต้ดิน ของ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เบิกความเป็นพยาน พร้อมกับนำพยานวัตถุ ซึ่งเป็นภาพที่บันทึกได้จากกล้อง CCTV รวม 6  จุดภายในอาคาร มานำสืบประกอบด้วย

ขณะที่เจ้าหน้าที่ประจำห้อง  CCTV ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับภาพที่ปรากฏในกล้อง CCTV  ระบุว่าจะมีชายฉกรรจ์ที่มีผ้าปิดบังใบหน้า ประมาณ 10-20  คน ซึ่งบางคนมีผ้าพันคอสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ด้วย เข้ามาอยู่ภายในอาคาร และพยายามที่จะหาเชื้อเพลิง มาวางเพลิง โดยช่วงเกิดเหตุเจ้าหน้าที่พยายามที่จะเจรจาด้วยแต่ไม่เป็นผลจนเกิดเพลิงไหม้ครั้งแรกซึ่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงพยายามเข้าระงับเหตุแล้ว แต่กลุ่มชายฉกรรจ์พยายามวางเพลิงอีกรอบสอง โดยเมื่อเหตุเริ่มลุกลามขึ้นพนักงานทั้งหมดต่างลงมาที่ลานจอดรถชั้น 1 ของอาคาร อย่างไรก็ดีเมื่อเสร็จสิ้นการเบิกความของพยานปากนี้แล้ว ศาลได้นัดสืบพยานปากต่อไปอีกครั้ง

ปชปหัวก้าวหน้า


จ่าหรอย

สรุปว่าพวกเสื้อแดงทำเป็นขบวนการ จุดมุ่งหมายคือทำลายล้างแล้วโยนความผิดให้คนอื่น เสียดายที่เป็นฝีมือของคนโง่จึงทิ้งหลักฐานไว้มากมาย ดิ้นยังไงก็ไม่หลุด ยกเว้นไม่ยอมรัับและใช้มวลชนเถื่อนๆมากดดันตามสันดานคนถ่อย
เมื่อคืนก่อนนั่งดูหัวหน้าใหญ่มันให้สัมภาษณ์(บังคับให้ถามตามที่ตกลง)ยังปากเก่งเหมือนเดิม มีแต่ควายแดงที่เชื่อ

ล ลิง

พวกนี้รึปล่าว !!!

เสธ.แดงปูดอีก ทหารพราน ติดอาวุธพร้อมรบ
[attach=1]

เสธ.แดง รับลูกบิ๊กจิ๋ว ปูดแผนส่งทหารพรานแฝงเป็นการ์ดคนเสื้อแดง เตือนกองทัพอย่าออกมาในช่วงนี้ หวั่นเกิดสงครามกลางเมือง...
พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่ระบุเตรียมกองกำลังทหารพรานค่ายปักธงชัย สปก.315 ที่เคยเป็นของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย รวมตัวปกป้องกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ขณะ นี้ทหารพรานค่ายปักธงชัยที่ถูกยุบกำลัง รวมตัวออกมาเป็น 1,000 คน มีการเตรียมอาวุธหนักพร้อมรบ เพราะเห็นว่า รัฐบาลไม่มีความเป็นธรรมเกิดสองมาตรฐาน ตอนที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ออกมาชุมนุมปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล ปิดสนามบิน แต่ทหารไม่ออกมาปราบปราม แต่เมื่อกลุ่มเสื้อแดงออกมาล้อมทำเนียบรัฐบาล อย่างเหตุการณ์เดือนเมษายนที่ผ่านมา ทหารก็ออกมาปราบปรามใช้อาวุธปืนยิง ซึ่งทหารพรานเหล่านี้ จะออกมาแฝงเป็นการ์ดคนเสื้อแดง เวลามีม็อบเสื้อแดงก็จะแฝงตัวไป ดังนั้น ขอเตือนว่า ทหารอย่าออกมาช่วงนี้ เพราะจะถูกทหารพรานที่มีอาวุธพร้อมรบออกมา อาจทำให้เกิดสงครามกลางเมืองได้ ที่สำคัญ ทหารพรานเหล่านี้ใช้อาร์พีจีเก่งกว่าทหารหลัก

พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า การที่ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี เรียกตนไปพบ เพราะต้องการไปเคลียร์ว่า อย่าเพิ่งให้ทหารพรานเข้ามา ปล่อยให้เป็นการต่อสู้กันเองของรัฐบาลและฝ่ายค้าน ทั้งนี้การที่ทหารพรานออกมา เป็นเพราะ พล.อ.ชวลิต เป็นคนตั้งค่ายนี้ขึ้นมา เมื่อ พล.อ.ชวลิต ลงเล่นการเมือง จึงอยากจะออกมา และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็มีบุญคุณขึ้นเงินเดือนและเบี้ยเลี้ยงให้

พล.ต.ขัตติยะ กล่าวอีกว่า กอง ทัพเวลานี้จะทำนิ่งเฉยไม่สนใจปัญหาชายแดน ทั้งที่กองทัพทำให้เสียชายแดนเขาพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร ซึ่งทหารกองกำลังภูมิภาคที่ 4 ของกัมพูชา เขานำทหารกลับไปฉลองชัยชนะ ที่สามารถยึดดินแดนไทยได้ และทำถนนลาดปูนอย่างดี โดยมีสมเด็จ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เป็นประธานที่ อ.เสียมราฐ กัมพูชา ซึ่งบริเวณนั้นไทยไม่สามารถเดินทางข้ามเข้าไปได้แล้ว ขณะนี้ขอท้าว่า ทหารไปลาดตะเวนถนนนั้นได้หรือไม่ เวลานี้อายแทนกองทัพ ที่ผ่านมา พล.อ.ชวลิต และ พล.อ.พัลลภ ถูกหาว่า ขายชาติ แต่เวลานี้กองทัพภายใต้อำมาตยาธิปไตย กำลังทำให้คนไทยสิ้นชาติ ความจริงสมเด็จฮุน เซน ไม่ต้องการทะเลาะกับคนไทย แต่เขาไม่พอใจนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ไปดูถูกเขาว่าเป็นคนต่ำต้อย

http://news.mthai.com/politics-news/63268.html
"คนอย่างแม้ว ผิดไม่ได้แพ้ไม่เป็น ผิดไม่เป็นแพ้ไม่ได้" (บัญญัติ บรรทัดฐาน : รายการลงเอยอย่างไร?)