ไฟไหม้คาราโอเกะด่านนอกย่างสดเเม่ลูก 3 ศพ บาดเจ็บอีก 5 คน

[JaY_SoniC]

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 5 เม.ย. 57 ร.ต.อ.เบญจพล ภูพานทอง  ร้อยเวร สภ.สะเดา จ.สงขลา รับแจ้งว่าเกิดเหตุไฟไหม้ภายใน ซ.ไทย-จังโหลน 6 ถ.กาญจวนิช เขตเทศบาลตำบลสำนักขาม อ.สะเดา ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวติดแนวพรมแดนไทย-มาเลเซีย จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.วีระสัณห์ ธารเปี่ยม ผกก. พ.ต.ท.ปนาถพล ปุณศรี รอง ผกก.ป. และประสานรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลสำนักขาม และ เทศบาลตำบลพังลา ออกไปควบคุมเพลิง

โดยในที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 2 คูหา 3 ชั้น ซึ่งชั้นบนสุดต่อเติมหลังคา เลขที่ 30/1 และ 31/1 ซึ่งเปิดเป็นร้านคาราโอเกะ ชื่อร้านลินดาคาราโอเกะ และ ร้านเอสเคคาราโอเกะ มีกลุ่มควันไฟพวยพุ่งออกมาจากตัวอาคาร และทราบว่ามีคนติดอยู่ภายในอาคารทั้ง 2 หลัง จำนวนหลายคน เจ้าหน้าที่จึงได้ระดมฉีดน้ำ เพื่อดับไฟ และนำรถกระเช้าไปรับผู้ที่ยังติดค้างอยู่ในตึก เนื่องจากไฟได้ลุกไหม้จากบริเวณชั้น 2 ของร้านลินดาคาราโอเกะ และลุกลามไปยังร้านเอสเคคาราโอเกะ กระทั่งสามารถช่วยหญิงสาวออกมาได้ 2 คน ในสภาพที่สำลักควันไฟ หลังจากใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้

จากการเข้าไปตรวจสอบภายในร้านลินดาคาราโอเกะเจ้าหน้าที่ต้องพบกับภาพที่สลดใจ เนื่องจากที่บริเวณชั้น 2 ของบ้าน มีผู้เสียชีวิตถูกไฟคลอก 3 ราย ประกอบด้วย นางบัวงาม ใจมา อายุ 45 ปี เจ้าของร้าน นางอังศิมา ใจมา อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นน้องสาว และ ด.ญ.อธิชา เปรมศิลป์ อายุ 1 ปี 2 เดือน ลูกสาวของ นางอังศิมา โดยเฉพาะสภาพของ 2 แม่ลูกนั้นนอนในลักษณะแม่พยายามใช้แขนโอบกอดลูกเอาไว้ ซึ่งทั้ง 3 คน น่าจะพยายามหนีตายขึ้นไปชั้นบน แต่ได้สำลักควันไฟจนหมดสติ และถูกไฟคลอกเสียชีวิตอย่างอนาถในที่สุด

นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 5 คน ประกอบด้วย ด.ญ.อัจฉราพร หรือ น้องนีน่า อายุ 4 ปี น.ส.พิมพ์วิไล ยศกิ อายุ 22 ปี น.ส.กรรณิการ์ ศูนย์กลาง อายุ 22 ปี น.ส.สาลี หอมสิงหา อายุ 22 ปี และ นายธนา ตันติมาศ อายุ 41 ปี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร ซึ่งทั้งหมดมีอาการสำลักควันไฟ และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสะเดา

ต่อมา นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นายจำลอง ไกรดิษฐ์ นายอำเภอสะเดา และ พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผบก.ภ.จว.สงขลา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพความเสียหายของร้านคาราโอเกะทั้ง 2 แห่ง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลายืนยันว่าเหตุไฟไหม้ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงอุบัติเหตุไฟฟ้าลัดวงจร และไม่เกี่ยวข้องกับเหตุความไม่สงบตามที่ได้มีกระแสข่าวลือออกมาหลังจากเกิดเหตุ

ทั้งนี้ทางจังหวัดสงขลาได้ให้การช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ โดยผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินช่วยเหลือรายละ 5 หมื่นบาท ส่วนผู้บาดเจ็บรายละ 25,000 บาท นอกจากนี้ทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะมอบเงินให้อีกส่วนหนึ่งรายละ 1 หมื่นบาท รวมทั้งได้ประสานไปยังเทศบาลตำบลสำนักขาม เพื่อให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบโครงสร้างของตึกแถวทั้ง 2 หลัง ว่าปลอดภัยหรือไม่ ซึ่งในขณะนี้ยังคงมีการกันพื้นที่เป็นเขตอันตรายห้ามเข้า
/////