ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

"ปานเทพ" ย้ำเกิดรัฏฐาธิปัตย์ทหารต้องร่วมด้วย ชี้มาตรา 7 มีช่องโหว่ "แม้ว" แทรกแซ

เริ่มโดย itplaza, 11:29 น. 09 เม.ย 57

itplaza

ตนมองว่าการสู้ด้วยมือเปล่าปราศจากอาวุธไม่เห็นเลยว่าจะเกิดรัฎฐาธิปัตย์ได้ ถ้าไม่เกิดจำนวนมวลมหาประชาชนที่ต้องการปฏิรูปแบบขาดลอยเพื่อให้ทหารตัดสินใจมายืนเคียงข้าง

       
       วันที่ 8 เม.ย. นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตโฆษกและแกนนำรุ่น 2 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในรายการ "เกาะติดสถานการณ์การชุมนุม" ช่วงวิเคราะห์สถานการณ์ ทางเอเอสทีวี ว่า กรณีรอ ป.ป.ช.ชี้มูลจำนำข้าว ต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะชี้มูลทั้งขบวน แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อาจโดนก่อนและต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ จากนั้นเข้าสู่กระบวนการถอดถอนโดยวุฒิสภาซึ่งอาศัยเสียง 3 ใน 5 ของ ส.ว.ทั้งหมด ปรากฎว่าทั้ง ส.ว.ชุดที่กำลังจะพ้นสภาพกับ ส.ว.ชุดใหม่ เสียงไม่มีทางครบ 3 ใน 5 ตนเชื่อว่าในที่สุดก็จะมีมติไม่ถอดถอน หรือเสียงไม่ถึง 3 ใน 5 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็กลับมาปฏิบัติหน้าที่ต่อได้ทันที หลังจากนั้นก็ต้องรอศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง ซึ่งกว่าจะจบอาจใช้เวลาเป็นปี
       
       หรือแม้แต่จะให้วุฒิสภาเปิดประชุมเพื่อถอดถอนก็ไม่ใช่เรื่องง่าย รัฐธรรมนูญมาตรา 132 ระบุว่าการเปิดสมัยวิสามัญเพื่อถอดถอนบุคคลออกจากตำแหน่ง ต้องให้ประธานรัฐสภาเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ แต่ตอนนี้ไม่มีประธานรัฐสภาและรองประธานรัฐสภา (ประธานวุฒิสภา) ที่อยู่ระหว่างการหยุดปฏิบัติหน้าที่เพราะถูกชี้มูลความผิดโดย ป.ป.ช. ก็กลับมาที่ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 จะมีอำนาจเรียกประชุมได้หรือเปล่า นี่เฉพาะการถอดถอนก็ยากเย็นแสนเข็ญ เรียกได้ว่าปิดโอกาสเกิดสุญญากาศโดย ป.ป.ช. ไปได้เลย
       
       นายปานเทพ กล่าวต่อว่า มาที่กรณีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ คดีนายถวิล เปลี่ยนศรี อันนี้จะทำให้การดำรงตำแหน่งสิ้นสุดลง บทบัญญัติรัฐธรรมนูญไม่ได้บอกให้อะทำไรต่อ คือจบเลย ต่างจากการพ้นตำแหน่งจากการยุบสภาฯที่ต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคนใหม่มาดำรงตำแหน่งแทน ฉะนั้นจะมาแถว่านายกฯ - คณะรัฐมนตรีพ้นตำแหน่งแล้วไม่ได้ มันเป็นคนละความหมายกันกับคำว่าการดำรงตำแหน่งสิ้นสุดลง เมื่อ ครม.มาจากนายกฯ เมื่อนายกฯพ้นสภาพ ครม.ก็ต้องพ้นด้วย
       
       แต่พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 มาตรา 10 วรรค 4 ระบุว่า "ในระหว่างที่คณะรัฐมนตรีต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่เพราะนายกรัฐมนตรีตาย ขาดคุณสมบัติ ต้องคำพิพากษาให้จำคุก สภาผู้แทนราษฎรมีมติไม่ไว้วางใจ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลง หรือวุฒิสภามีมติให้ถอดถอนจากตำแหน่ง ให้คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ถ้าไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้รัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน" ไม่เปิดช่องให้ใช้มาตรา 7 เลย ซึ่งอันนี้เขาอาจยกมาสู้ก็ได้
       
       นายปานเทพ กล่าวอีกว่า แม้ดูความหวังเลือนลาง แต่ไม่หมดหวัง ยังมีหวังเล็กๆเพื่อนำไปสู่มาตรา 7 เป็นช่องสุดท้าย คือรัฐธรรมนูญมาตรา 180 วรรค 2 ระบุว่า ในกรณีที่ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตามมาตรา 182 ให้ดำเนินการตามมาตรา 172 และมาตรา 173 โดยอนุโลม คือกำหนดขั้นตอนการได้มาซึ่งนายกฯคนใหม่ โดยให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบบุคคลที่เหมาะสม แต่วันนี้ยังไม่มีสภาฯ เลือกตั้งเป็นโมฆะ จึงจะนำไปสู่การกราบบังคมทูลฯตามมาตรา 7 ได้
       
       บางกลุ่มบอกว่าให้ที่ประชุมวุฒิสภาเลือกนายกฯแม้ไม่มีสภาผู้แทนฯ ถ้ามีความคิดแบบนี้ปัญหาจะเกิดมาก คือ 1.ส.ว.สรรหาที่มีอยู่ 40 - 60 คน กลุ่ม 40 ส.ว. ยืนพื้น ส่วนอีก 20 คน ไม่รู้ถูกซื้อได้หรือไม่ เพื่อไทยครองเสียงเยอะแต่ไม่ถึงครึ่ง ประชาธิปัตย์สัก 20 คน ถ้าเป็นอย่างนี้โอกาสที่จะได้นายกฯที่นำไปสู่การปฏิรูปค่อนข้างยาก อาจไม่ปฏิรูปได้จริง เพราะไม่เกรงใจเพื่อไทยก็ประชาธิปัตย์
       
       ต่อให้ได้นายกฯมาก็จะท้าทายมาก เพราะต้องกล้าทำหลายอย่าง เช่น งดเว้นการใช้รัฐธรรมนูญหลายมาตรา แต่ไม่มีรัฐสภา ถ้าปล่อยให้มีการเลือกตั้งสภาผู้แทนฯก็จะเป็นเพื่อไทยได้เสียงข้างมาก การปฏิรูปจะไม่เกิดเลย ซ้ำร้ายกว่านั้นอีกถ้าไม่กล้าก็ไม่รู้ขึ้นมาทำไม จะมีแต่ปัญหาการถูกขับไล่ โดยที่ไม่มีอนาคต ซึ่งฝ่ายทักษิณอาจพอใจอย่างนี้ก็ได้
       
       นายปานเทพ กล่าวด้วยว่า คนที่เป็นรองประธานวุฒิสภาหรือประธานคนต่อไป ต้องกราบบังคมทูล ครม.ชุดใหม่ ในขณะที่ยังมี ครม.ชุดเก่าอยู่ ต้องใช้ความกล้าหาญของรองประธานวุฒิฯ หรือ ประธานวุฒิฯเป็นจุดชี้ขาดในการใช้มาตรา 7 ถ้าไม่กล้าใช้ สถานการณ์จะยืดเยื้อมาก
       
       นายปานเทพ กล่าวต่ออีกว่า นายสุเทพบอกจะชุมนุมยาว 15 วัน หลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน ถ้าไม่ยึดอำนาจรัฐก็ไม่เกิดรัฏฐาธิปัตย์ แล้วถ้าไม่มีทหารร่วมด้วยก็ทำไม่ได้ ถ้าคิดจับอาวุธสู้โดยที่ทหารไม่ร่วมด้วยเกิดสงครามกลางเมืองแน่
       
       ตนมองว่าการสู้ด้วยมือเปล่าปราศจากอาวุธไม่เห็นเลยว่าจะเกิดรัฎฐาธิปัตย์ได้ ถ้าไม่เกิดจำนวนมวลมหาประชาชนที่ต้องการปฏิรูปแบบขาดลอยเพื่อให้ทหารตัดสินใจมายืนเคียงข้าง ส่วนการเลือกตั้งปิดหนทางไปเลย การรัฐประหารทหารไม่กล้าทำถ้าไม่มีการครองใจประชาชนแบบขาดลอยของฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ส่วนมาตรา 7 มีช่องโหว่เยอะ พ.ต.ท.ทักษิณเข้าแทรกได้หลายขั้นตอน
       
       นายปานเทพ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนให้กำลังใจทุกคนที่ออกมาเคลื่อนไหว ไม่ใช่ชัยชนะอยู่ที่การสร้างรัฏฐาธิปัตย์เท่านั้น ที่สำคัญกว่าคือการเปลี่ยนความคิดผู้ชมทางบ้านให้มีความเห็นพ้องต้องการปฏิรูป

ขอบคุณเนื้อหา  manager.co.th
ที่มา http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=1&news_id=34790&page=1


sms888

เรารับแลกเงินมานานกว่า 30 ปี ร้านเราอยู่แถวสะพานควาย บริการแลกเงินทั่วโลก ไม่ว่าลูกค้าอยากจะรู้อัตราแลกเปลี่ยน ก็เช็คกับเราได้ อัพเดท 24ชม เลยครับ