คนไทยไร้สุขเชื่อมั่นวูบสุดรอบ12ปีคาดเม.ย.ยังปรับลดลงต่อเนื่อง

[ทีมงานบ้านเรา]

คนไทยไร้สุขเชื่อมั่นวูบสุดรอบ12ปีคาดเม.ย.ยังปรับลดลงต่อเนื่องชี้จีดีพีไตรมาส2อาจติดลบ1% 

หอการค้าเผยดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคต่ำสุดรอบ 12 ปีครึ่ง คาด เม.ย.อาจวูบต่อเหตุหวั่นการเมืองรุนแรง แถมดัชนีวัดความสุขลดต่ำสุดรอบ 95 เดือน (8 ปี) เหตุการเมืองยื้อ ศก.แย่ว่างงานเพิ่ม ค่าครองชีพสูง ชี้ถ้าไม่จบใน 3 เดือนไตรมาส 2 จีดีพีอาจติดลบ 1%

          นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เดือนมีนาคม 2557 จากประชาชนทั่วประเทศ 2,256 ราย พบว่าปรับตัวลดลงทุกรายการ และเป็นการปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 149 เดือน หรือ 12 ปี 5 เดือน นับจากเดือนพฤศจิกายน 2544 เนื่องจากกังวลต่อสถานการณ์การเมืองไทย หลังการเลือกตั้งเป็นโมฆะ ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ขัดรัฐธรรมนูญ รวมทั้งความวิตกต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทย จากปัญหาความล่าช้าของการจ่ายเงินค่าจำนำข้าว ราคาข้าวและยางพาราราคาต่ำลง ทำให้กำลังซื้อของเกษตรกรต่ำลดลง ขณะที่ความไม่แน่นอนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ก็ยังเป็นผลเชิงลบต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจและรายได้ในอนาคต ขณะที่ปัจจัยบวกมีเพียงการลดอัตราดอกเบี้ยเชิงนโยบายลง 0.25% การยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อย

          นายธนวรรธน์กล่าวว่า ปัจจัยดังกล่าวทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางาน และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต ลดลงจาก 59.7, 63.6, 86.3 ในเดือนกุมภาพันธ์ มาอยู่ที่ระดับ 58.7, 62.9 และ 84.9 ตามลำดับ ในเดือนมีนาคม และทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวม ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในปัจจุบัน ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอนาคตลดจาก 69.9 ,54.5,74.7 มาอยู่ระดับ 68.8,53.9,73.4 ตามลำดับ ซึ่งกระทบต่อการซื้อรถยนต์ใหม่ บ้านใหม่ การลงทุน และท่องเที่ยวอีกทั้งกระทบต่อดัชนีวัดความสุขในการดำรงชีวิตต่ำสุดในรอบ 95 เดือนนับจากพฤษภาคม 2549 เพราะวิตกต่อการเมืองยืดเยื้อ เศรษฐกิจไทยแย่ลง กระทบรายได้ในอนาคต และการว่างงานเพิ่ม ขณะที่วิตกเพิ่มต่อราคาสินค้ายังสูงขึ้น

          "แนวโน้มความเชื่อมั่นของประชาชนยังเป็นขาลง เพราะยังวิตกต่อปัญหาความรุนแรงทางการเมือง ความไม่ชัดเจนต่อการเลือกตั้งใหม่และการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เป็นปัจจัยบั่นทอนหากการเมืองไม่อาจยุติภายใน 3 เดือน เชื่อว่าไตรมาส 2 ปีนี้เศรษฐกิจอาจขยายตัวติดลบ 1% ผลจากชะลอการบริโภค เงินลงทุนเอกชนและรัฐหายไป การท่องเที่ยวและการส่งออกขยายตัวต่ำ แต่เงินเฟ้อสูงจากภัยแล้งและค่าครองชีพที่สูงขึ้น และหากปัญหาการเมืองลากยาวไปถึงปลายปี เศรษฐกิจไทยทั้งปีน่าจะขยายตัวต่ำกว่า 2%" นายธนวรรธน์กล่าว และว่า คาดว่าครึ่งปีหลังอัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นจาก 0.7% มาอยู่ที่ 4% หรือจาก 4 แสนคน อาจมาอยู่ที่ 5-6 แสนคน เนื่องจากบัณฑิตจบใหม่อีก 3 แสนคน จะหางานได้ช้าลง แต่ก็ยังไม่น่าวิตกหากอัตราการว่างงานยังไม่ถึง 4-5% ซึ่งไทยเคยว่างงานสูงสุดในปี 2549 จากวิกฤตเศรษฐกิจโลก

          นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย ประจำไตรมาส 1 ปี 2557 อยู่ที่ 43.7 ปรับตัวลดลงจากไตรมาส 4 ปี 2556 ที่อยู่ที่ 50.5 ลดลงต่ำสุดในรอบ 9 ไตรมาส (นับจากวิกฤตน้ำท่วมปลายปี 2554) หรือรอบ 2 ปี 3 เดือน เพราะผู้ประกอบการขาดความเชื่อมั่นในด้านยอดขายผลประกอบการจากปัญหาเศรษฐกิจและการเมือง

ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน