ศูนย์ศึกษาอาเซียนโรงเรียนบ้านน้ำกระจายต้นแบบการเตรียมความพร้อมชุมชนสู่ AEC

[ทีมงานประชาสัมพันธ์]

ศูนย์ศึกษาอาเซียนโรงเรียนบ้านน้ำกระจาย จังหวัดสงขลา ต้นแบบการเตรียมความพร้อมชุมชนสู่ประชาคมอาเซียน

[attach=1]

จังหวัดสงขลามีความหลากหลายทั้งในบริบทของเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม เป็นศูนย์กลางการค้าขายที่สำคัญของภาคใต้ มีด่านชายแดนส่งสินค้าเข้าออกถึงปีละ 5 แสนล้านบาท มากเป็นอันดับ 1 ของประเทศ เป็นจังหวัดที่นับได้ว่าเป็นเมืองหลวงของภาคใต้ตอนล่าง ด้วยศักยภาพหลากหลายของความเป็นเมืองใหญ่ ที่เป็นทั้งเมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยว ศูนย์กลางการค้าการบริการ ศูนย์กลางการคมนาคม ศูนย์กลางการศึกษา ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อประเทศไทยเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในปี พ.ศ. 2558 จังหวัดสงขลา ก็จะเป็นเสมือนประตูสู่อาเซียน ที่จะได้รับทั้งโอกาสและผลกระทบต่างๆที่จะมาพร้อมๆ กับการเป็นสมาชิกของอาเซียน จึงมีความจำเป็นที่ต้องเตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะความพร้อมของประชาชนคนสงขลา ที่จะสามารถรับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น พร้อมรับโอกาสดีๆ และพร้อมรับมือกับผลกระทบที่จะตามมา การเตรียมความพร้อมของประชาชนจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องดำเนินการในทุกระดับ

ศูนย์ศึกษาอาเซียนโรงเรียนบ้านน้ำกระจาย ต.พะวง อ.เมืองสงขลา จังหวัดสงขลา เป็นตัวอย่างของการเตรียมความพร้อมของคนในระดับชุมชนในการรับการเปลี่ยนแปลงเมื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ศูนย์ศึกษาอาเซียนโรงเรียนบ้านน้ำกระจาย มีห้องที่เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องราวของการเป็นประชาคมอาเซียน มีการเปิดสอนภาษามาลายูให้กับเยาวชนและประชาชนในชุมชนบ้านน้ำกระจาย ซึ่งมีผู้สนใจเข้ามาเรียนและจบหลักสูตรภาษามาลายูไปแล้วหลายรุ่น เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องอาเซียนที่ได้รับการสนับสนุนทั้งจากภาครัฐ และภาคเอกชนที่อยู่ในพื้นที่ชุมชนบ้านน้ำกระจาย สามารถดำเนินกิจกรรมเตรียมความพร้อมให้กับคนในชุมชนเพื่อการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนได้อย่างต่อเนื่อง

โรงเรียนบ้านน้ำกระจาย เริ่มดำเนินการศูนย์ศึกษาอาเซียนเพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องประชาคมอาเซียนให้กับเด็กนักเรียนในโรงเรียนและประชาชนในพื้นที่ให้บริการของโรงเรียน ด้วยการสนับสนุนของสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) และมูลนิธิร่มฉัตร วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร กรุงเทพมหานคร เมื่อปี 2555 ดำเนินงานศูนย์ศึกษาอาเซียนภายใต้แนวคิด "บวรโมเดล" ด้วยการดึงพลังความร่วมมือจากภาครัฐ ชุมชน สังคม และศาสนา เข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนศูนย์ศึกษาอาเซียน ซึ่งพื้นที่โดยรอบของโรงเรียนบ้านน้ำกระจายเป็นที่ตั้งของโรงงาน ศูนย์การค้า และหน่วยงานราชการต่าง ๆ รวมถึงเป็นที่ตั้งของชุมชนที่มีความหลากหลายในเรื่องของศาสนา และด้วยความตั้งใจจริงของผู้บริหารและคณะครูโรงเรียนบ้านน้ำกระจาย ศูนย์ศึกษาอาเซียนแห่งนี้จึงได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากทุกภาคส่วน

นายประทีป เพ็ชรจำรัส ผอ.รร.บ้านน้ำกระจาย เล่าว่า เรื่องของภาษาเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนสงขลา อนาคตข้างหน้าเมื่อเข้าสู่อาเซียน คนสงขลาจะต้องรู้อย่างน้อย 2-3 ภาษา เมื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยว และแรงงานจากมาเลเซียเข้ามามากขึ้น ดังนั้นภาษามลายูจึงมีความจำเป็นเพราะจะเป็นประตูด่านแรกที่ทำให้การสื่อสาร เกิดความเข้าใจกัน ที่ผ่านมาทางโรงเรียนจึงได้ทำความร่วมมือกับบริษัท สงขลาแคนนิ่ง ซึ่งตั้งโรงงานอยู่ใกล้โรงเรียน เปิดสอนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารให้แก่นักเรียน และเปิดสอนภาษามลายูให้แก่เยาวชนและผู้ประกอบการในพื้นที่ ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับการประกอบธุรกิจ โดยเฉพาะการสื่อสารกับนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย

[attach=7]

นางจรูญศรี มนัสวานิช เจ้าของกิจการไม้งาม รีสอร์ท หนึ่งในผู้เข้ามาเรียนภาษามลายู ศูนย์ศึกษาอาเซียนโรงเรียนบ้านน้ำกระจาย เล่าว่า ก่อนหน้านี้เมื่อมีชาวมาเลเซียเข้ามาพักจะไม่ค่อยกล้าเข้าไปคุย ต้องคอยหลบ เพราะไม่มั่นใจในตัวเอง แต่ตอนนี้สามารถเข้าไปคุยได้มากขึ้น และต่อไปก็จะพยายามพัฒนาตนเองให้พูดได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษามลายูให้คล่อง กว่านี้ เพราะเด็ก ๆ ชาวมาเลเซียที่เข้ามาพักส่วนใหญ่จะพูดภาษาอังกฤษมากกว่าภาษามลายู

ในขณะที่ นายสมชาย ดวงสวัสดิ์ พ่อค้าในตลาดกิมหยง หาดใหญ่ มีความเห็นว่าอยากให้โรงเรียนบ้านน้ำกระจายเปิดสอนภาษาจีนด้วย เพราะพ่อค้า แม่ค้าส่วนใหญ่จะใช้ภาษาจีนในการสื่อสารกับชาวมาเลเซีย ซึ่งอาจเป็นเพราะมีชาวมาเลเซียไม่น้อยที่มีเชื้อสายจีน ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะมาจับจ่ายใช้สอย และสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในจังหวัดสงขลา ถ้าพ่อค้า แม่ค้า ในพื้นที่พูดภาษาจีนได้ ก็จะยิ่งสร้างโอกาสในการค้าขายเพิ่มขึ้น

จะเห็นได้ว่า ศูนย์ศึกษาอาเซียนโรงเรียนบ้านน้ำกระจาย ต.พะวง อ.เมืองสงขลา จังหวัดสงขลา สามารถดำเนินกิจกรรมในการเตรียมความพร้อมของคนในระดับชุมชนอย่างน่าสนใจ ทั้งแนวคิด "บวรโมเดล" ที่สามารถสร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้เข้ามามีส่วนร่วม จนทำให้ศูนย์ศึกษาอาเซียนมีความเข้มแข็ง  อีกทั้งการดำเนินกิจกรรม เช่น การสอนภาษามาลายูที่มีความจำเป็น และเป็นความต้องการของเยาวชนและประชาชนในพื้นที่ ศูนย์ศึกษาอาเซียนแห่งนี้ จึงเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องอาเซียนที่สามารถเป็นตัวอย่างให้กับหน่วยงาน ชุมชน หรือผู้สนใจในการเตรียมความพร้อมเพื่อการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนได้เป็นอย่างดี...

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา / รายงาน