ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ประชุมเตรียมจัดงานประชาสัมพันธ์พัทลุงเมืองเกษตรสีเขียว

เริ่มโดย ฅนสองเล, 12:00 น. 25 เม.ย 57

ฅนสองเล

ประชาสัมพันธ์จังหวัดพัทลุง

จังหวัดพัทลุงเตรียมจัดงานประชาสัมพันธ์โครงการเมืองเกษตรสีเขียว กระตุ้นให้ประชาชนร่วมมีส่วนขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จ

นายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เป็นประธานการประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนโครงการเมืองเกษตรสีเขียวจังหวัดพัทลุง เพื่อเตรียมการจัดงานประชาสัมพันธ์โครงการให้เป็นที่รับทราบของประชาชนในวันที่ ๒๓ พฤษภาคม นี้ ทั้งนี้ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้คัดเลือกจังหวัดพัทลุงให้เป็น ๑ ใน ๖ จังหวัดทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการเมืองเกษตรสีเขียว ซึ่งประกอบด้วยจังหวัด ศรีสะเกษ เชียงใหม่ หนองคาย จันทบุรี ราชบุรี และจังหวัดพัทลุง

เพื่อพัฒนากระบวนการผลิตสินค้าทางการเกษตรและอุตสาหกรรมที่ต่อเนื่องจากการเกษตรให้มีความปลอดภัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีความรับผิดชอบต่อสังคม เป็นการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพสินค้าให้มีมาตรฐานสากล สร้างการยอมรับให้กับผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งนับวันจะยิ่งให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของสิ้นค้าอุปโภคบริโภคมากขึ้นทุกขณะ

สำหรับการจัดงานประชาสัมพันธ์โครงการฯ จะมีขึ้นในวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ณ ศูนย์ประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง กิจกรรมประกอบด้วยการจัดประชุมสัมมนาให้ความรู้เรื่องเมืองเกษตรสีเขียว การจัดนิทรรศการทางวิชาการ ของหน่วยงานต่าง ๆ การออกร้านจำหน่ายสินค้าเกษตรและสินค้าโอท็อปของจังหวัดพัทลุง การประกวดและแข่งขันต่าง ๆ เช่น ประกวดวาดภาพพัทลุงเมืองเกษตรสีเขียว การแข่งขันทำต้มยำกุ้ง การแข่งขันกินกุ้ง กินปลา เป็นต้น

ในการนี้นายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง กล่าวว่า โครงการเมืองเกษตรสีเขียว ถือเป็นโครงการที่ดีและมีความสำคัญต่อการพัฒนาการเกษตรของชาวพัทลุงเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากจะทำให้กระบวนการผลิตสินค้าเกษตรของจังหวัดเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ แต่โครงการจะเกิดความสำเร็จได้ ต้องอาศัยกระบวนการหลายอย่าง ตั้งแต่การเลิกใช้สารเคมี การดูแลสภาพแวดล้อม การรักษาวัฒนธรรมประเพณี ความรับผิดชอบต่อสังคม รวมทั้งการสืบทอดอาชีพการเกษตรให้เกิดความยั่งยืน ซึ่งผู้ที่จะมีบทบาทสำคัญต่อกระบวนการดังกล่าวคือประชาชนผู้มีอาชีพการเกษตรนั่นเอง