ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

คำพิพากษาศาลรธน.ประจาน ยิ่งลักษณ์ ล่อนจ้อน !!

เริ่มโดย ฟ้าเปลี่ยนสี, 08:17 น. 08 พ.ค 57

ฟ้าเปลี่ยนสี

คำพิพากษาศาลรธน.ประจาน ยิ่งลักษณ์ ล่อนจ้อน !!

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   
8 พฤษภาคม 2557 06:46 น.

[attach=1][attach=2]

ผ่าประเด็นร้อน
       
        "ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าการโอนย้ายแต่งตั้ง นายถวิล เปลี่ยนศรี ของผู้ถูกร้อง(ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี)เป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบ ก้าวก่ายแทรกแซง เพื่อประโยชน์ทางการเมือง และเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประโยชน์ของสาธารณะ"
       
       "การโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี เพื่อให้ตำแหน่งว่างลง แล้วให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ ที่เป็นเครือญาติ มานั่งเก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการในปี 55 และวิธีการโอนย้าย แต่งตั้งก็เป็นไปด้วยความเร่งรีบรวบรัด ใช้อำนาจโดยมิชอบ และมีผลประโยชน์ทับซ้อน"
       
       นั่นคือคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อบ่ายวันที่ 7 พฤษภาคม ที่สรุปใจความสำคัญให้เห็น แม้ว่าจะไม่ใช่เป็นแบบคำต่อคำ แต่ความหมายก็ออกมาในลักษณะนี้แหละ
       
       ผลจากคำวินิจฉัยดังกล่าว ทำให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแบบเฉพาะตัวในทันที และรวมถึงคณะรัฐมนตรีที่ร่วมลงมติอัปยศในครั้งนั้นด้วย แล้วให้คณะรัฐมนตรีที่เหลือปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามา
       
       ส่วนจะเป็นใครบ้างต้องมาว่ากันในตอนหลัง
       
       เอาเป็นว่าเวลานี้ชัดเจนแล้วว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้"ตายไปกับประชาธิปไตย"ไปเรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกันผลจากคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ดังกล่าวทำให้ทราบคำตอบทันทีว่าทำไมก่อนหน้านี้ถึงมีรัฐมนตรีบางคนที่จะเป็นจะตายกับการตัดสินของศาลฯ ไม่ว่าจะเป็น รตอ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และเวลานี้เป็นผู้อำนวยศูนย์รักษาความสงบ(ศอ.รส.) สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ประธานที่ปรึกษา ศอ.รส. เพราะคนพวกนี้ต้องพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี ติดร่างแหไปด้วย และที่สำคัญการที่ออกมาโวยวายข่มขู่ศาลรัฐธรรมนูญระวังจะเจอนรกนั้น คนที่ตกนรกน่าจะเป็นรัฐมนตรีพวกนี้มากกว่า
       
       ที่ทุเรศไปกว่านั้นก็คือความพยายามในการยื้ออำนาจด้วยการ กราบบังคมทูล เพื่อให้พระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชวินิจฉัยให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพวกเขาได้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป โดยอ้างว่าเพื่อควมมสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ถือว่าเป็นการกระทำที่ "บังอาจ"ชนิดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
       
       เพราะความหน้ามืด หน้าด้านเสพติดอำนาจ ไม่มีจริยธรรม คิดเอาแต่ได้ ทำราวกับว่าบ้านเมืองขาดคนพวกไม่ได้ จะทำให้เกิดกลียุคอย่างงั้นแหละ ทั้งที่ในทางตรงกันข้ามถ้ากำจัดคนพวกนี้ไปได้บ้านเมืองคงจะเจริญรุดหน้าก้าวกระโดด อย่างไรก็ดีสิ่งที่คนพวกนี้กำลังกระทำถือว่าเป็นการจาบจ้วง ดึงพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นคู่ขัดแย้งทางการเมือง เป็นการมิบังควรอย่างยิ่ง สมควรถูกประณามไม่ให้ผุดได้เกิด
       
       อย่างไรก็ดีเมื่อพิจารณาคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญคราวนี้ ได้เห็นปรากฏการณ์ออกมาชัดเจนหลายอย่าง อย่างแรกก็คือ เป็นมติของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่เป็น "เอกฉันท์" ส่วนหนึ่งอาจเป๋นเพราะศาลฯได้ใช้คำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดเป็นแนวทาง เป็นการวินิจฉัยตามข้อกฎหมาย
       
       ประการที่สองในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นการสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนอีกครั้งหนึ่งว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีพฤติกรรมไม่ต่างจากพี่ชาย นั่นคือ ทักษิณ ชินวัตร ที่ทำทุกอย่าง ใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อประโยชน์ส่วนตัว และประโยชน์ของเครือญาติ ไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประโยชน์ของสาธารณะ เพราะหากย้อนกลับไปพิจารณาจากคำตัดสินของศาลฎีกาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ตัดสินจำคุก ทักษิณ ชินวัตรเป็นเวลาสองปีในคดีทุจริตซื้อที่ดินรัชดาฯ และจนมาถึงคำสั่งยึดทรัพย์จำนวน 4.6 หมื่นล้านบาทจากการทุจริตของศาลรัฐธรรมนูญก็พิสูจน์ให้เห็นกันอย่างดี มาคราวนี้เกิดเรื่องกับ ยิ่งลักษณ์ ที่มีการโอนย้าย ถวิล เปลี่ยนศรี ก็เพื่อเป้าหมายปลายทางให้ ญาติของตัวเองคือ พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ ได้นั่งเก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเท่านั้น
       
       กลายเป็นว่าคนในครอบครัวนี้นอกจากใช้อำนาจในทางมิชอบแล้ว ยังเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมือง ใช้อำนาจทางการเมืองสร้างความร่ำรวยให้กับตัวเองและพวกพ้อง ใช้อำนาจเพื่อแต่งตั้งเครือญาติเข้ามาดำรงตำแหน่งสำคัญ ขณะที่ผลงานในการบริหารบ้านเมืองก็ห่วยแตก ไม่สมกับความไว้วางใจของประชาชน ซึ่งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก็ได้ประจานความชั่วของคนพวกนี้ได้อย่างล่อนจ้อนอีกครั้ง !!
ไม่ว่าเราจะมีความทุกข์เพียงไร เราก็มีความสุขกับชีวิตได้
เพราะเราเลือกที่จะ.."เข้าใจ" แทนการเลือกที่จะ.."เจ็บปวด"
"ยอมรับ" ในสิ่งที่เป็นอยู่ "ปล่อยวาง" ในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว  "มีศรัทธา" กับสิ่งที่กำลังจะมาถึง และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด