ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

มือใหม่หัดเลี้ยงนก กับ Mr.No

เริ่มโดย Mr.No, 20:47 น. 29 ก.ค 54

Mr.No


[attach=1]
ผมเป็นคนชอบเลี้ยงสัตว์ ..เลี้ยงมันสารพัด ทั้งสุนัขที่ใหญ่ยักษ์ใจดีอย่างพวกเกรทเดน หรือ เซนเบอร์นาร์ด ไล่มาจนถึงสายพันธุ์ที่ทุกคนมองว่าเป็นพวกน่ากลัวอย่าง ร็อตไวเลอร์ ผมก็เลี้ยงกันมาจนล้มหายตายจากกันไปตามสภาวะ..มากมายหลายรุ่น

และนอกจากพวกสุนัข แมว แล้ว ..สัตว์เลี้ยงที่ผมโปรดปรานอีกอย่างก็คือ "นก"

การเลี้ยงนก เป็นกิจกรรม ที่คนไทยเรารู้จักกันมานับแต่ยุคต้น ๆ กรุงศรีอยุธยา..นับแต่เมื่อครั้งเราเริ่มค้าขายกับฝากฝั่งตะวันตก และประเทศจีน และเมื่อวันดีคืนดีที่พ่อค้าชาวจีนพร้อมด้วยนกร้องเสียงดี ๆ อย่างพวกโรบิ้น หรือพวกฮวยบี้ เริ่ม นั่นเริ่มทำให้คนไทยเรารู้จักการนำนกชนิดต่าง ๆมาเลี้ยงกันในกรงเลี้ยง..

นกป่าหลายชนิดถูกนำมาเลี้ยงดูกันนับแต่ยุคนั้นและกลายเป็นค่านิยมสำหรับ ชนชั้นผู้ปกครอง จนถึงระดับไพร่สามัญชน...
นกที่มีเสียงร้องไพเราะหลายชนิด พบได้ในป่าเมืองไทย และกลายมาเป็นนกยอดนิยมตลอดกาล อย่างพวกนกกางเขน ทั้งกางเขนบ้าน และที่หายากอย่างกางเขนดง ไปจนถึงกลุ่มนกปรอดหลากหลาย

ทางใต้เรารับเอาวัฒนธรรมการเลี้ยงนกที่ชอบคูเสียง อย่างพวกนกในกลุ่มนกเขา ไม่ว่าจะเป็น เขาชวา เขาใหญ่ เขาแขก หรือสารพันนกในวงศ์นี้ โดยเฉพาะในกลุ่มชาวมุสลิมที่มีการนำนกเขาชวามาเลี้ยง จนกระทั่งกลายเป็นนกยอดนิยมที่มีสนนราคาหลักแสนหลักล้านกันไปแล้วในวันนี้

ผมสนใจการเลี้ยงนกมาเกือบยี่สิบปี และเริ่มเลี้ยงแบบเพาะพันธุ์อย่างจริงจังจนกระทั่งมีความรู้สึกว่า ผูกพันและสนุกสนาน รวมทั้งเผลอตัวเสพติดการเลี้ยงนกอย่างอภิรมย์มาตลอดเวลา มากบ้าง น้อยบ้าง ตามสภาวะเศรษฐกิจ

ก่อนหน้าผมเคยเขียนเกี่ยวกับเรื่อง "นก" ไว้หลายตอน และก็ได้รับเกียรติจากหลายนิตยสารเกี่ยวกับนก นำเรื่องราวไปเผยแพร่ ก็รู้สึกว่าได้รับการตอบรับไม่น้อยสำหรับ กลุ่มคนที่นิยมเลี้ยงนก ซึ่งเดิมทีผมคิดว่ามีเพียงกลุ่มเล็ก ๆ แต่เอาเข้าใจมนกลับกลายเป็น กลุ่มใหญ่ ที่แตกกระจายกันเลี้ยง

ผมชอบเลี้ยงนกหลากหลายชนิด แต่ไม่ค่อยสันทัดในการเลี้ยงนกป่า หรือนกยอดนิยมอย่างนกกรงหัวจุก ไม่ใช่เพราะไม่ชอบแต่ผมคิดว่า ความสนใจ และการเลี้ยงนกในเชิงที่สร้างความสุขนั้น ที่สุดของมันคือ สุขที่ได้เลี้ยง และได้สร้างมันด้วย

คำว่า "สร้าง" ของผมนั้น หมายถึงการเลี้ยงนกในเชิงการเพาะพันธุ์ ดังนั้น จึงไม่แปลกที่การเริ่มต้นเลี้ยงนกแบบเพาะพันธุ์นั้น จึงมุ่งไปทีกลุ่มนกต่างประเทศ โดยเฉพาะนกที่เลี้ยงกันว่า กลุ่มนกสวยงาม

ข้อดีของการเลี้ยงนกสวยงาม ที่เป็นนกจากต่างประเทศก็คือ นกเหล่านี้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นนกที่ได้มาจากการเพาะพันธุ์ด้วนมือมนุษย์  และยังไม่ขัดต่อกฎหมายของไทยโดยเฉพาะกฎหมายคุ้มครองสัตว์ป่าอีกด้วย...

สมัยที่ผมยังเด็ก ..นกต่างประเทศยอดนิยมอย่างพวก นกหงส์หยก เป็นนกที่ดูสวยงาม สดใส และการที่นกชนิดนี้เป็นนกที่มีพฤติกรรมการอยู่แบบฝูง และชอบสังคม ทำให้การเลี้ยงกรงใหญ่ นกหลายตัว จึงดูมีชีวิตชีวายิ่งนัก

ผมเกริ่นเรื่องนกมา.. เพื่อจะชวนสมาชิกชาวกิมหยงดอทคอม ได้รู้จักกับนกสวยงามและเทคนิคการเพาะพันธุ์ที่แสนสนุกและท้าทาย  และเริ่มต้นจะเป็นนกชนิดใดนั้น.... ขอเวลาแป๊บ ผมจะกลับมาเล่าให้ฟังต่อครับ....


[attach=2]

..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

Mr.No

[attach=1]
(ภาพประกอบจากอินเตอร์เนท)
นกชนิดแรกที่อยากแนะนำให้รู้จักกัน ไม่ใช่นกหงส์หยก อย่างในภาพที่เกริ่นไปก่อนหน้าหรอกครับ แต่เป็นนกตัวเล็ก ๆ ที่เราอาจเคยพบเห็นเป็นรูปตุ๊กตานกตัวสีขาวปากแดงตัวเล็ก ๆ ที่คนชอบตั้งโชว์กันบ่อยตา  เจ้านกน่ารักที่พูดถึงนี้ เป็นนกข้ามฟ้าข้ามฝั่งมาจากดินแดนแห่งสายพันธุ์นก ในประเทศออสเตรเลีย  ที่เรียกกันในนาม นกซีบร้า  หรือ นกม้าลาย นั่นเอง

ชื่อ ซีบร้า ได้มาเพราะบริเวณท่อนหางที่มีลายขวางพาดเป็นแนวดูคล้ายกับพวกม้าลายในแอฟริกา นั่นเป็นที่มาที่คนตะวันตกใช้เรียกนกชนิดนี้กัน 
นกซีบร้า เป็นหนึ่งในนกฟินซ์ อยู่ในสกุล Taeniopygia คำว่านกฟินซ์เป็นชื่อเรียกแทนเหล่านกตัวเล็ก ๆ ที่อาศัยเมล็ดพืชหรือแมลง เป็นอาหาร เนื่องจากเป็นนกที่มีจงอยปากที่แข็งแรง และสามารถบีบหรือเจาะพวกเมล็ดพืชเล็ก ๆ ที่มีความแข็งได้อย่างง่ายดาย

ในบ้านเรามีนกที่อยู่ในวงศ์เดียวกับนกฟินซ์มากมาย ตัวอย่างพวกที่มีคนชอบนำไปใส่กรง จำหน่ายให้คนนำไปปล่อยเอาบุญ ตามวัด หรือศาลเจ้าต่างๆ  ส่วนใหญ่นกที่ถูกจับมาขายนั้น จะเป็นนกกะติ๊ดสีอิฐ (Black Head Munia)
[attach=2]
(ภาพประกอบอินเตอร์เนท)

[attach=3]
(ภาพประกอบอินเตอร์เนท)
หรือไม่ก็พวก นกกระจาบทอง (Asian Golden Weaver) นกเหล่านี้มักจะอยู่กันเป็นฝูงใหญ่ พบได้ตามนาข้าวทั่ว ๆ ไป  และนกฟินซ์ที่เห็นกันแทบทุกวันอีกชนิดก็คือ พวกนกระจอก นี่ละครับ

การเลี้ยงนกฟินซ์ โดยเฉพาะนกซีบร้าฟินซ์  ได้รับความนิยมมานานหลายสิบปี โดยเฉพาะในยุโรป อเมริกา ในอเมริกาใต้อย่างบราซิล ตลอดจนประเทศในเอเชีย เช่นญี่ปุ่น
นกชนิดนี้เป็นนกพื้นเพจากประเทศออสเตรเลีย โดยเฉพาะในแถบตอนกลางของประเทศ รวมไปถึงสามารถพบได้ในประเทศที่ใกล้กันอย่าง บางเกาะของอินโดนีเซีย หรือในหมู่เกาะติมอร์
จัดเป็นนกเล็ก ๆ ที่มีความน่ารัก เพราะขนาดของลำตัวที่มีความยาวเพียงประมาณ 10 เซนติเมตร และเป็นนกที่เลี้ยงง่ายมาก รวมทั้งไม่ก่อความรำคาญให้แก่ผู้เลี้ยงจากเสียงรบกวนแบบจำพวกนกปากขอ
สีสันของนกชนิดนี้ ถ้าเป็นนกดั้งเดิม เพศผู้จะมีจงอยปากสีอมส้ม และกลายเป็นแดงสดเมื่อเวลาโตเต็มที่ ส่วนเพศเมียจะเป็นสีส้ม ในเพศผู้จะมีสัญลักษณ์แถบสีส้มเป็นวงกลมอยู่บริเวณสองข้างแก้ม และบริเวณหน้าและบริเวณตะโพกและหางจะมีเส้นสีดำพาดเป็นแนวขวางคล้ายลายของม้าลาย บริเวณข้างลำตัวของผู้จะมีสีน้ำตาลอมแดงและมีจุดสีขาวกระจาย สวยงามน่ารัก  และดวงตาเมื่อโตเต็มไว้จะมีสีแดงกล่ำ  ส่วนในเพศเมียจะไม่มีที่กล่าวมา

[attach=4]
(นกซีบร้าสีขาว ภ่าพประกอบจากอินเตอร์เนท)

ปัจจุบันมีการนำนกชนิดนี้มาเพาะพันธุ์ในกรงเลี้ยงและพัฒนาสีสันจนสีสันที่มากมายหลากหลายขึ้น เช่นสีเทา,สีกวาง,แก้มดำ,อิซซาเบล, อกส้ม,เพนกวิน,ขาวปลอด ฯลฯ  และด้วยพัฒนาการเหล่านี้ทำให้ นกซีบร้าฟินซ์เป็นที่นอกจากจะมีความน่ารักแล้วยังมีสีสันที่น่าดูชมด้วย

เที่ยวนี้ จะมาเขียนต่อถึง วิธีการเลือกหา การเลี้ยงดู อาหารการกิน รวมไปถึงเทคนิคการเพาะพันธุ์นกชนิด กันต่อนะครับ
..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

Mr.No

[attach=2]
(ภาพประกอบจากอินเตอร์เนท)
ภาพแสดงเพศผู้และเมีย
..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

Mr.No

เที่ยวนี้ จะมาเขียนต่อถึง วิธีการเลือกหา การเลี้ยงดู อาหารการกิน รวมไปถึงเทคนิคการเพาะพันธุ์นกชนิด กันต่อนะครับ

[attach=1]

การเลี้ยงดูนกซีบร้าฟินซ์
หนังสือเล่มเล็ก ๆ เขียนโดย Hans J. Martin ออกโดยสำนักพิมพ์ Barron ราคาประมาณ 8 เหรียญ เป็นหนังสือที่ผมซื้อไว้จาก amazon.com เมื่อสิบกว่าปีก่อน หนังสือเล่มนี้แม้จะเป็นหนังสือเล่มเล็ก ๆ แต่ก็บรรจุเนื้อหาสาระที่เกี่ยวกับนกซีบร้าฟินซ์ได้อย่างครอบคลุมน่าสนใจทีเดียว โดยเฉพาะในแง่ของการจัดการเลี้ยงดู
หนังสือเล่มนี้ทำให้ผมกลายเป็นผู้สนใจเลี้ยงนกฟินซ์ชนิดอื่น ๆ อีกหลายชนิดด้วยกัน เช่นพวก กูลเดี้ยนฟินซ์หรือฟินซ์เจ็ดสี, แพรอทฟินซ์ ฯลฯ (ซึ่งถ้ามีเวลาจะเขียนถึงฟินซ์ที่น่าสนใจชนิดอื่น ๆ ต่อไป)

คำถามก็คือ นกซีบร้าฟินซ์ เหมาะสำหรับผู้เลี้ยงประเภทใด คำตอบก็คือ ง่ายและเหมาะสำหรับทุกเพศวัย โดยเฉพาะในแถบประเทศยุโรป นกฟินซ์ กลายเป็นนกยอดนิยมสำหรับช่วยเหลือผู้สูงวัยที่มีอาการเหงาจากกรณีเกษียณจากงานประจำ และกลายเป็นนกยอดฮิตสำหรับเด็ก เพื่อการสร้างนิสัยในการรักสัตว์ และที่สำคัญคือพัฒนาการสร้างความสามารถในการเตรียมพร้อมเพื่อเรียนรู้ด้านชีววิทยาที่ดียิ่ง

เพราะนกชนิดนี้ เด็ก ๆ สามารถเฝ้าดูพัฒนาการตั้งแต่ยังเป็นเล็ก ๆ และเติบโต รวมทั้งการมีคู่ ผสมพันธุ์ วางไข่ ฟักไข่ และการเลี้ยงดูลูกนก ในเวลาที่ไม่นานนัก ประกอบกับบางท่านที่มีเวลาว่างการนำลูกนกมาเลี้ยงเป็นนกลูกป้อน (Hand feed) ก็จะได้นกรุ่นใหม่ที่มีความเชื่องต่อผู้เลี้ยงอย่างน่ารักทีเดียว

ในกรุงเทพ อย่างตลาดนัดจตุจักร ,ตลาดซันเดย์,หรือตลาดสนามหลวง2 ธนบุรี จะเป็นแหล่งที่มีจำหน่ายนกชนิดนี้อยู่ และในหาดใหญ่บางร้านผมก็พบว่ามีจำหน่ายนกซีบร้าฟินซ์นี่เช่นกัน และสนนราคาก็ขึ้นอยู่กับสีสันของนก ถ้าเป็นสีดั้งเดิมพื้น ๆ สนนราคาก็ตกคู่ละไม่กี่ร้อยบาทเท่านั้นเอง ดังนั้นเรื่องของราคาคงไม่เป็นอุปสรรคสำหรับนักเลี้ยงนกทุกวัย

การเลี้ยงนกทุกชนิด ต้องศึกษาหาข้อมูลและมีการวางแผนกันก่อน จึงจะเป็นนักเลี้ยงนกมืออาชีพ และการวางแผนที่ดีช่วยให้การเลี้ยงนกประสบผลสำเร็จไปครึ่งหนึ่ง

ตัวอย่างเช่น เมื่อพิจารณาเลี้ยงนกชนิดใด ต้องคำนึงตั้งแต่ สถานที่จัดวาง ขนาดของกรง ความสะดวกและง่ายดายของอหารที่จะให้นกชนิดนั้นในอนาคต หรือแม้แต่ข้อจำกัดเกี่ยวกับเพื่อนบ้าน อันสืบเนื่องมาจากเสียงรบกวน (ในกรณีนกบางชนิด เช่นจำพวกนกปากขออย่าง มาคอว์,กระตั้ว หรือพวกนกแก้วคอนัวร์ ฯลฯ)
เมื่อวางแผนอย่างที่บอกข้างต้นแล้วค่อยพิจารณาเดินหาเลือกซื้อนกต่อไป

การเลือกนกซีบร้า จำเป็นต้องพิจารณาถึงเรื่องของสุขภาพในเบื้องต้นให้เป็น ก่อนอื่นให้พิจารณาสภาพกรงเลี้ยงหรือกรงขายเดิมว่ามีสภาพเป็นอย่างไร สะอาดหรือสกปรกแบบที่เรียกว่า คอนไม้ แทบจะมองไม่เห็นเนื้อไม้เพราะทับถมไปด้วยมูลของนกซะหนาเตอะ.. แบบนี้ก็ไม่ไหวครับ   หรือถ้ากรงที่ใส่นกไว้จำหน่ายสะอาดสอ้านดี ก็ผ่านไปดูที่สภาพของนกว่า ขนไม่ฟู ขนหาง,นิ้วตีน (นกเค้าไม่เรียกเท้าครับ )ต้องอยู่ครบ ไม่ด้วน ไม่แหว่ง

นกต้องมีอาการสดใสร่าเริงอยู่ตลอด ไม่ซึม ซุกตัวอยู่มุมใดมุมหนึ่งของกรง ใต้หางตรงก้นไม่เปียกแฉะหรือมีร่องรอยคราบสกปรกติดหนา แบบนี้ถือว่าใช้ได้
กรงเลี้ยงของนกชนิดนี้ สามารถใช้ได้ตั้งแต่ กรงลวดเล็ก ๆ ราคาไม่กี่ร้อยบาท ไปจนถึงแบบกรงรวมใหญ่ (aviary) ก็ไม่ว่ากันขึ้นอยู่กับงบประมาณ
[attach=2]
ตัวอย่างกรงลวดหมอน
[attach=3]
ตัวอย่างกรงเลี้ยงรวม (aviary)
กรงเลี้ยงขนาดที่เรียกว่า กรงลวดหมอนเบอร์ 3 ซึ่งมีความยาวประมาณ 3 ฟุต สูงประมาณ 2 ฟุตเศษ ดูเหมาะสมและจัดเป็นกรงขนาดสำหรับเพาะพันธุ์สำหรับนก 1 คู่ได้อย่างลงตัว เพราะกรงขนาดนี้สามารถจัดวางอุปกรณ์และคอนไม้หลากหลายได้อย่างไม่คับแคบเกินไป

ว่าง ๆ....จะแว่บมาต่อให้จบนะครับ
..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

Mr.No

ต่อครับ...

[attach=3]

อุปกรณ์การเลี้ยงนอกจากกรงที่กล่าวมาแล้วก่อนหน้า อุปกรณ์ที่สำคัญในกรงก็คือ คอนไม้ ซึ่งปกติร้านค้ามักจะให้มาพร้อมกรงเลี้ยง ซึ่งจะเป็นคอนไม้กลม ๆ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.5 เซนติเมตร ซึ่งสามารถใช้คอนนี้เป็นคอนหลักได้ แต่สำหรับคอนไม้ที่ดีสำหรับนกฟินซ์ที่ผมเคยใช้ก็คือ กิ่งไม้ที่ลักษณะประมาณนิ้วก้อยและมีผิวของเปลือกไม้หยาบอย่างพวกกิ่งไม้มะขามดูจะดีมากสำหรับนกฟินซ์ เพราะกระชับตีนนก และร่องของผิวเปลือกไม้ที่ขรุขระช่วยเกลาเล็บของนกไม่ให้ยาวเกินไปอันเป็นอุปสรรคต่อสุขภาพนก

นอกจากคอนไม้แล้ว อุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่น เช่น ถ้วยอาหาร (แนะนำให้ใช้พวกถ้วยดินเผา) หลอดน้ำสำหรับให้นกได้กิน ,อ่างสำหรับให้นกได้อาบน้ำ (สำหรับกรงใหญ่) และเพิ่มอีกหน่อยสำหรับนกซีบร้าฟินซ์ก็คือ ชิงช้าไม้ ที่ประดิษฐ์จากกิ่งมะขามผูกกับลวด (อันนี้นกจะชอบมากและทำง่ายด้วยครับ)

ตำแหน่งการจัดวางกรง
ไม่ควรวางไว้ในตำแหน่งที่โล่ง มีลมโกรกพัดเกินไป ควรอยู่ในร่มกันฝนได้ และอยู่ในมุมที่จะสามารถรับแสงแดดยามเช้าได้(จะดีมาก เพราะนกชนิดนี้ชอบอาบน้ำตอนเช้าและได้รับแสงแดดเพื่อทำความสะอาดขนและช่วยกำจัดพวกไรไปในตัว)

[attach=1]
(มิลเลต)

[attach=2]
(ภาพแสดงข้าวไรน์ (rye seed) ผสมกับมิลเลตขาวและแดง)

อาหารสำหรับนกซีบร้าฟินซ์

ซีบร้าฟินซ์ก็เหมือนนกฟินซ์ทั่วไป ที่อาหารหลักคือเมล็ดพืชต่างๆ  เช่น มิลเลต,ข้าวไรน์ (มีจำหน่ายตามร้านของอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีจำหน่ายพวกนกหรือไก่) และอาจเสริมด้วยพวกเศาขนมปังปอนด์, อาหารไข่  (egg food) ,ไข่แดงต้ม,ผักกาดหอม,เมล็ดพืชงอก,ผลไม้บางชนิดเช่นพวกแอปเปิ้ล มะละกอ ฯลฯ  หั่นเป็นลูกเต๋าเล็ก ๆ ฯลฯ อาหารเสริมเหล่านี้อาจให้สลับกันตามความเหมาะสม
อาหารและสุขภาพที่ดี ช่วยให้นกซีบร้าในกรงเลี้ยงอาจมอายุมากกว่าในธรรมชาติ (ในธรรมชาติราว 5 ปี) และจากสถิติพบว่ามีผู้เลี้ยงนกชนิดนี้ในกรงเลี้ยงได้ถึง 11 ปีเลยทีเดียว


สำหรับผู้ที่เลี้ยงในเชิงเพาะพันธุ์ (Breeder) แนะนำให้ใช้ 1 กรงต่อ 1 คู่  เพราะง่ายที่นกจะเข้าคู่กัน และตัดปัญหาด้านการบกวนจากนกตัวอื่นและการจิกตีแย่งชิงกันออกไปได้ 

ตอนต่อไปจะแนะนำเทคนิคในเชิงเพาะพันธุ์กันครับ สนุกและน่าสนใจสำหรับหนู ๆ ในการหารายได้พิเศษด้วยครับ..
..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

Mr.No

ต่อครับ...

วันนี้..ขอนำเสนอการเลี้ยงนกฟินซ์ซีบร้าในเชิงเพาะพันธุ์ เพื่อเป็นแนวทางและประโยชน์สำหรับผู้ที่คิดเริ่มต้นเลี้ยงนกสวยงามโดยเฉพาะนกฟินซ์กันครับ

เมื่อตกลงใจที่จะเลี้ยงนกชนิดนี้เป็นคู่เพื่อให้มีการขยายสายพันธุ์ ทั้งเพื่อรายได้พิเศษและแถมพกความรู้และความชำนาญในการก้าวไปสู่นักเพาะพันธุ์นกที่ยากกว่า ก็คงต้องมาทำความรู้จักว่า จะต้องตระเตรียมสิ่งใดกันบ้าง

เริ่มแรก กรงเพาะแบบที่เรียกว่า กรงลวดหมอน ดูจะเป็นกรงขนาดที่เหมาะสมสำหรับเพาะพันธุ์นกหนึ่งคู่ ซึ่งการเพาะพันธุ์แบบนี้ เมื่อมีหลายกรง เรามักเรียกกันว่า กรงคอนโด 

กรงเพาะ จะต้องประกอบด้วย รัง ที่ใช้สำหรับนกวางไข่ และฟักไข่ ซึ่งสำหรับนกในกลุ่มนกฟินซ์ มักนิยมใช้พวกตะกร้าวหวายสาน ซึ่งตามร้านค้านกหรือเพ็ทช็อบบางแห่งอาจมีจำหน่าย โดยราคาตระกร้าหวายฝีมือดี ๆ แต่ราคาเพียงไม่กี่สิบบาทอาจใช้สำหรับนกได้ถึง สองหรือสามครอกเลยทีเดียว
[attach=1]
ตะกร้าสำหรับนกวางไข่ (แบบเมืองนอก)

เมื่อได้ตะกร้าหวายสานมาแล้วให้ติดไว้ที่มุมบนสุดด้านใดด้านหนึ่งของกรง จากนั้นเตรียมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้นก อาทิ หลอดน้ำ,ถ้วยอาหาร, คอนหลัก และเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็หาที่ทางจัดวางตำแหน่งให้ดี  โดยตำแหน่งจัดวางกรงนกสำหรับเพาะพันธุ์นั้น ควรเป็นสถานที่มีคุณสมบัติพื้นฐานคือ
   1. ไม่มี่ลมโกรกแรงเกินไป และสถานที่ควรมีหลังคาเพื่อกันฝนได้
   2. ถ้ามีแสงแดงส่องถึงยามเช้าและร่มเมื่อเที่ยงไปจนถึงเย็นจะดีมาก
   3. สงบพอสมควร และปราศจากการรบกวนจากสัตว์ต่าง ๆอาทิ เสียงสุนัข หรือแมว
เมื่อทุกอย่างครบถ้วน ก็ให้ปล่อยนกเข้ากรงเพาะ  ในกรณีที่นกทั้งคู่เคยอยู่กันมาก่อนหน้า ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเป็นนกที่แยกกันอยู่ (ผู้ และเมีย) ข้อแนะนำก็คือ ให้ปล่อยตัวเมียเข้าไปคุ้นเคยก่อนซักวันสองวัน จากนั้นค่อยปล่อยตัวผู้ตามเข้าไป

[attach=2]

ว่าง ๆจะแวะมาต่อให้จบนะครับ....
..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

Mr.No

มาต่อให้จบนะครับ....

เมื่อทุกอย่างลงตัวดี ทั้งสถานที่,กรงเลี้ยง,ตำแหน่งของรังสำหรับเพาะพันธุ์ ก็เริ่มสังเกตพฤติกรรมของนก ซึ่งจะพบว่า นกจะให้ความสำคัญกับตะกร้าที่เราแขวนไว้สำหรับเพาะพันธุ์มากขึ้น เช่นเข้า ๆ ออก ๆ บ่อย และใช้สำหรับนกในเวลากลางคืน

การทดสอบโดยการหาหญ้าเส้นเล็ก ๆ หรือ ใบสนเส้นเล็กๆ (ได้จากกิ่งสน) วางไว้ทืพื้นกรงสักสองสามเส้น หากพบว่านกเริ่มคาบแล้วบินเข้าไปในรัง นั่นเป็นสัญญานพร้อมแล้วสำหรับการเข้าคู่ของนก
ให้เราจัดหาหญ้าให้กับนกทุกวัน จนกระทั่งสังเกตว่าในรังนั้น นกได้สานพื้นสำหรับรองรังไว้อย่างแน่นหนาเพียงพอ (อันนี้ต้องให้ความสำคัญด้วยเพราะเกี่ยวกับความอบอุ่นเมื่อเวลาฟักไข่)

http://www.youtube.com/watch?v=ubQgew9SYhE
(ภาพแสดงการคาบหญ้าเพื่อสานรังของนกซีบร้าฟินซ์)


หลังจากนั้นไม่นานนก็จะเริ่มผสมพันธุ์และวางไข่ใบแรก ไปจนกระทั่งใบสุดท้ายราว 4-5 ฟอง จากนั้นก็ตัวเมียก็จะเริ่มฟักไข่ในรังตลอดเวลา ประมาณสองอาทิตย์ต่อมา ไข่ใบแรกก็จะเริ่มฟักเป็นตัวและไล่กันไปจนกระทั่งตัวสุดท้าย ในระหว่างที่ลูกนกฟักตัวหมด ควรเสิรมอาหารให้แก่พ่อแม่นกสำหรับนำไปป้อนลูก โดยนอกจากจะเป็นพวกเมล็ดพืชที่เคยให้ตามปกติแล้วระหว่างนี้อาจเสริมด้วย อาหารสูตรพิเศษ คือ ขนมปังแผ่นนำไปชุบไข่ไก่ แล้วนำไปผึ่งแดดให้แห่งจากนั้นนำไปเข้าไมโครเวฟเพื่อให้กรอบ แล้วบดเป็นชิ้นเล็กๆ (เก็บไว้ในตู้เย็นได้) ค่อย ๆ เสริมให้นกทุกวันพร้อมๆ กับเมล็ดพืชปกติ

[attach=1]
ภาพลูกนกเมื่อแรกฟัก (อินเตอร์เนท)

ผลไม้เช่นแอปเปิ้ลหั่นชิ้นเล็ก ๆ พร้อมกับผักใบสดอย่างพวกผักกาดหอมที่ล้างสะอาด ก็ช่วยให้นกมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง

ประมาณยี่สิบก็จะเริ่มเห็นลูกนกเริ่มทยอยลงรัง และเริ่มกินเองได้ และลูกนกตัวใดที่ยังอยู่ในรังก็จะเริ่มถูกพ่อนกหรือแม่นกไล่จิกลงรัง  จากนั้นชีวิตใหม่จากลูกนกน่ารัก ๆ ก็จะเริ่มขึ้น

ในกรณีที่เราไม่ต้องการให้นกวางไข่ชุดต่อไป ก็จะต้องเอาตระกร้าที่แขวนออก แต่ถ้าเรายังวางไว้ นกก็จะทำการวางไข่รุ่นต่อไป และเราก็มีหน้าที่ในการนำลูกนกที่เริ่มหัดกินเองได้แล้วย้ายออก ไปยังกรงใหม่ต่อไป 


การเลี้ยงนกซีบร้าฟินซ์ จัดเป็นการเลี้ยงนกที่ง่ายและเหมาะสำหรับพ่อแม่ ที่จะหัดให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ทั้งในเรื่องชีววิทยา,เกี่ยวกับพฤติกรรมของสัตว์,ความรับผิดชอบและความมีวินัยในหน้าที่ ฯลฯ และทีสำคัญคือการสร้างความโอนโยนขึ้นในจิตใจของเด็ก ๆ อันเป็นพื้นฐานที่มนุษย์ละเลยกันมาก
เที่ยวหน้ามีเวลา............. ผมจะชวนผู้สนใจการเลี้ยงนก ไปลองหัดเลี้ยง หัดเพาะนกในตระกูลปากขอ อย่างพวกนกแก้วกันบ้าง รับรอง น่าสนใจและท้าทายไม่น้อยเลยครับ
..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

จันทร์กระจ่างฟ้า

เข้ามาให้ความรู้อีกเรื่อย ๆ นะคะ ตามอ่านอยู่ค่ะ  ส.ตากุลิบกุลิบ
ในโลกนี้ มีคนเพียงแค่ 2 คนที่ไม่มีความทรงจำ คนหนึ่งยังไม่เกิด ส่วนอีกคนตายไปแล้ว

Mr.No

อ้างจาก: จันทร์กระจ่างฟ้า เมื่อ 17:57 น.  15 ส.ค 54
เข้ามาให้ความรู้อีกเรื่อย ๆ นะคะ ตามอ่านอยู่ค่ะ  ส.ตากุลิบกุลิบ

ขอบคุณคุณจันทร์กระจ่างฯ ที่สนใจ.... ผมนึกว่า ในนี้มีแต่คนชอบเลี้ยงแต่นกกรงหัวจุก แล้วก็พวก น้องนก ส.หัว ส.หัว ซะแล้ว ส-เหอเหอ ส-เหอเหอ

..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

อั๋น ศาลายา

ขอเข้าร่วมวงด้วยคนนะครับ

อั๋น ศาลายา

ผมก็เป็นคนนึงที่เพาะเลี้ยงหงส์หยกฮอลแลนด์ครับ

Mr.No

อ้างจาก: อั๋น ศาลายา เมื่อ 00:48 น.  17 ส.ค 54
ขอเข้าร่วมวงด้วยคนนะครับ

welcome to gimyong.com ครับ.... ชอบคุยเรื่องนก จะฮอลแลนด์ อังกฤษ์ เยอรมัน หรือนกสารพัน ว่าง ๆ เชิญได้เลยครับ ส.หยิบตาข้างเดียว
..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

จันทร์กระจ่างฟ้า

อ้างจาก: Mr.No เมื่อ 22:06 น.  15 ส.ค 54
ขอบคุณคุณจันทร์กระจ่างฯ ที่สนใจ.... ผมนึกว่า ในนี้มีแต่คนชอบเลี้ยงแต่นกกรงหัวจุก แล้วก็พวก น้องนก ส.หัว ส.หัว ซะแล้ว ส-เหอเหอ ส-เหอเหอ

อรเคยเลี้ยงเลิฟเบิร์ดกับหงส์หยกค่ะ  ส-ดีใจ
ในโลกนี้ มีคนเพียงแค่ 2 คนที่ไม่มีความทรงจำ คนหนึ่งยังไม่เกิด ส่วนอีกคนตายไปแล้ว

zecma

คุณ Mr.No ครับ คือผมอยากทราบว่าพอจะหานกแก้วมาคอว์มาผสมได้ที่ใหนบ้างครับ พอดีญาติผมมีอยู่ตัวนึงเป็นมาคอว์สีน้ำเงินครับ แล้วทีนี้แกอยากหาคู่ผสมแต่ไม่ทราบจะหาที่ไหนดี ผมเลยมาขอคำปรึกษาคุณMr.Noหน่อยครับ ขอบคุณมากครับ

Mr.No

อ้างจาก: zecma เมื่อ 01:05 น.  01 ก.ย 54
คุณ Mr.No ครับ คือผมอยากทราบว่าพอจะหานกแก้วมาคอว์มาผสมได้ที่ใหนบ้างครับ พอดีญาติผมมีอยู่ตัวนึงเป็นมาคอว์สีน้ำเงินครับ แล้วทีนี้แกอยากหาคู่ผสมแต่ไม่ทราบจะหาที่ไหนดี ผมเลยมาขอคำปรึกษาคุณMr.Noหน่อยครับ ขอบคุณมากครับ

สวัสดีครับคุณ zecma

ไมแน่ใจ่ว่าตอบทันใจมั้ย...ขออภัยที่เพิ่งเห็นต่อกระทู้นี้

คุณบอกว่าญาติมีมาคอว์สีน้ำเงิน ก็คงหมายถึงพวกไฮยาซินท์มาคอว์...โอ พ่อเจ้าประคุณ นี่ตัวละหลายหลักเชียะ ส.หัว
คำถามก็คือจะหาคู่ผสมได้ที่ไหน ผมก็คงจนใจ เพราะเจ้ามาคอว์สายพันธุ์นี้ มันหายากเต็มที เท่าที่รู้ก็คงต้องเสาะหา ตามฟาร์มใหญ่อย่างของท่านอดีต ประธานสภา โภคิน พลกลุ ที่เวบไซด์ http://suanpalmfarmnok.com/index.php ดุนะครับ  เพราะเคยที่ฟาร์มประกาศขายนกเป็นคู่ ๆ ...แต่ราคา ผมคงไม่บังอาจ ส.หัว
..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

อนิจจา บ้านนี้ เมืองนี้

.


....อย่าลืม ไปอ่านพระเลี้ยงนก ขังจนตายสิบกว่าปี

มาเสียใจ ทำบุญ ทำศพให้...

...ระวัง จะสายไป....

Mr.No

อ้างจาก: อนิจจา บ้านนี้ เมืองนี้ เมื่อ 18:00 น.  07 ก.ย 54
.


....อย่าลืม ไปอ่านพระเลี้ยงนก ขังจนตายสิบกว่าปี

มาเสียใจ ทำบุญ ทำศพให้...

...ระวัง จะสายไป....

นั่นมันพระ.... ผมนี่โยม คนโลกียวิสัย อย่ามาเทียบครับ
..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

dancing bird

ตอนนี้มีซีบร้าอยุ่ 60-70 คู่ ที่หาดใหญ่ครับ

ผมคนเดิม

ผมก็ชอบเลี้ยงนกครับ มีหงหยก กับนกกรงหัวจุกครับ แล้วพี่ๆเพื่อนๆอยู่แถวไหนกันบ้างครับ

senee

ผมอยู่ในตัวเมืองหาดใหญ่ครับ
เลี้ยงนกหัวจุกอยู่หลายตัว ถ้าจับนกป่าได้ก็เอาไปปล่อยป่าโตนงาช้างครับ
ตอนนี้เล็งๆ เลี้ยงนกหงส์หยกไว้  กะว่าทำกรงใหญ่เสร็จ จะหามาให้ลูกชายเลี้ยง
เพื่อฝึกวินัย
ขายตัวต่อเลโก้   http://gimyong.com/talung/index.php/topic,75993.0.html

ผมคนเดิม

อ๋อครับๆ มีเฟสบุ๊คหรืออะไรที่ติดต่อได้ไหมครับ หงหยกยังเลี้ยงอยู่ครับ  ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้

ผมคนเดิม

นกหัวจุกแบ่งให้ผมได้ไหมครับ  ส-เขิน ส-เขิน ส-เขิน