ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เบื้องหลัง ต้นเหตุรัฐประหาร

เริ่มโดย ฟ้าเปลี่ยนสี, 19:21 น. 22 พ.ค 57

ฟ้าเปลี่ยนสี

ล็อก 5 ฝ่ายไป พัน.1 รอ. ปล่อย ส.ว.-กกต. แฉ "ชัยเกษม" ดื้อต้นเหตุรัฐประหาร

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   
22 พฤษภาคม 2557 16:56 น.

[attach=1]

ประชุม 7 ฝ่ายเริ่มวุ่น!! "ประยุทธ์" ชิ่งออกสโมสร ทบ. "สุเทพ" พร้อมแกนนำ กปปส.ถูกคุมขึ้นรถตู้ คาดไปกองพันทหารราบที่ 1 รอ. ส่วนฝ่ายอื่นยังไม่พบตัว พร้อมกักสื่อไม่ให้เข้าพื้นที่ ขณะ ทรท.เตรียมแถลงแล้ว
       
       วันนี้ (22 พ.ค.) ที่สโมสรทหารบก เมื่อเวลา 16.45 น. มีรายงานว่า การประชุมร่วมระหว่างผู้นำเหล่าทัพกับ 7 ฝ่าย ได้มีการพักชั่วคราว แต่ปรากฏว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้ออกจากสโมสรทหารบก ได้นั่งรถประจำตำแหน่ง ออกจากสโมสรทหารบก เป็นเป็นคันแรก ไปยังกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์(ร.1 รอ.) จากนั้นมีรถประจำตำแหน่งของผบ.เหล่าทัพ ได้แก่ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. และพล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร รอง ผบ.สส. ตามขบวนกันออกไป
       
       กระทั่งเวลา 16.40น. ผู้สื่อข่าวที่ยืนรอทำข่าวการหารือตัวกลุ่ม 7 ฝ่าย เพื่อหาทางออกประเทศ ต้องอยู่ในอาการตกตะลึง เมื่อทหารนำรถจีเอ็มซี จำนวน 3 คันมาปิดที่บริเวณถนนเข้าออกสโมสรทหารบก และอีก 2 คันปิดที่ทางแยกไปยังอาคารกำลังเอก ที่ใช้ทำงานของสื่อมวลชน รวมไปถึงจอดขวางบนเส้นทางที่จะออก ถ.วิภาวดีรังสิตด้วย
       
       จากนั้นก็มีทหารจำนวนมาก พร้อมอาวุธครบมือมายืนตั้งแถวกันผู้สื่อข่าวและช่างภาพให้ออกห่างจากจุดดังกล่าวและให้ไปรวมตัวอยู่ที่อาคารกำลังเอก และให้รอฟังแถลงการณ์ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. แต่ปรากฎผู้สื่อข่าวยังต้องการปฏิบัติหน้าที่บริเวณดังกล่าว ทำให้ทหารต้องเรียกกำลังมาเพิ่มเติมและให้อยู่ห่างจากถนน
       
       ต่อมมีรถตู้สีขาวจำนวน 5 คันปิดแผ่นป้ายทะเบียนได้ทยอยออกมาจากลานจอดรถด้านใต้สโมสรทหารบก ผ่านด้านหน้าอาคารและผ่านหน้าผู้สื่อข่าวไป แต่ระหว่างที่ผ่านผู้สื่อข่าวทำให้ขบวนรถตู้ต้องหยุดชะงัก เนื่องจากรถติด ขณะที่ผู้สื่อข่าวและช่างภาพได้เข้าไปล้อมรถตู้บางคันเอาไว้ เพื่อดูว่าใครอยู่ภายใน ทำให้เห็นว่ารถตู้ทุกคันมีทหารนั่งอยู่ด้วย และพบว่ารถตู้คันแรก มีแกนนำ นปช. นั่งอยู่ภายในและสังเหตุเห็นได้ว่ามีการนำผ้าสีดำมาปิดตา พร้อมมีทหารนั่งควบคุมตัวภายในรถด้วย คันถัดไปเป็นรถที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำ กปปส. แต่ไม่มีนำผ้าสีดำมาปิดตาแกนนำ กปปส. มีเพียงทหารพร้อมอาวุธครบมือนั่งควบคุมตัว​อยู่
       
          ทั้งนี้ระหว่างที่ขบวนรถตู้นายสุเทพ หยุดชะงักนั้น ผู้สื่อข่าวสังเหตุเห็นว่านายสุเทพนั่งอยู่ภายในรถอย่างชัดเจน จึงกรูกันเข้าไปตะโกนสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น ทำให้ทหารรีบใช้ตัวบังนายสุเทพ เอาไว้ เพื่อไม่ให้ผู้สื่อข่าวถ่ายภาพได้ โดยนายสุเทพ โบกมือกับผู้สื่อข่าวเท่านั้น ขณะเดียวกันบริเวณดังกล่าวมีทหารจากกองพลทหารม้าที่2 รักษาพพระองค์(พล.ม.2 รอ.) เข้ามาควบคุมพื้นที่และกักบริเวณผู้สื่อข่าวพร้อมอาวุธครบมือ และใช้มาตรการควบคุมสูงสุด
       
          สำหรับผู้เข้าร่วมการหารือจากพรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย รัฐบาล วุฒิสภา และคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)นั้น ยังไม่ได้รับบการยืนยันว่าถูกควบคุมตัวออกไปหรือไม่ ซึ่งจากการที่ผู้สื่อข่าวพยายามติดตามไปยังโทรศัพท์ของแต่ละคนที่เข้าร่วมหารือนั้น พบว่าไม่สามารถติดต่อไป
       
       ทั้งนี้ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยได้ตัดภาพมาที่กองอำนวยการรักษาความสงบ พร้อมเตรียมออกแถลงการณ์
       
       แหล่งข่าวจากที่ประชุม 7 ฝ่ายที่กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) ได้กล่าวถึงบรรยากาศก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะประกาศยึดอำนาจว่า ผู้เข้าร่วมประชุมชุดเดิมที่เดินทางไปต่างรู้สึกได้ถึงความแตกต่างของบรรยากาศการรักษาความปลอดภัยในวันนี้ ที่ทางกองทัพได้จัดกำลังทหารเข้ามาดูแลภายในตัวอาคารสโมสรกองทัพบกที่ใช้เป็นสถานที่หารือจำนวนมาก และแต่ละคนจะพกอาวุธประจำกาย ขณะเดียวกันบรรดาเสนาธิการทหาร ก็ได้เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ขณะที่วันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา แม้จะมีเจ้าหน้าที่ทหารประจำการในอาคารแต่ก็ไม่มีการพกพาอาวุธ และแต่ละเหล่าทัพก็มีเพียงผู้นำ หรือตัวแทนเหล่าทัพบางคนเท่านั้น นอกจากนี้ก่อนการหารือยังได้มีการขอเก็บเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดของผู้เข้าร่วมประชุม เนื่องจากการหารือเมื่อวันที่ 21 พ.ค. ได้มีภาพภายในห้องประชุมออกไปเผยแพร่ ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่อยากให้มีภาพในลักษณะดังกล่าวหยุดออกไปอีก และได้กันผู้ติดตามให้ไปรอผู้ร่วมประชุมอีกชั้นหนึ่ง
       
       อย่างไรก็ตามเมื่อการประชุมเริ่มขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้เปิดโอกาสให้แต่ละฝ่ายได้เสนอแนวทางตามที่ได้ให้การบ้านไปก่อนหน้านี้ โดยแต่ละฝ่ายก็ยังคงนำเสนอแนวทางในมุมของตัวเองซึ่งเห็นว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดของประเทศแล้ว เมื่อแต่ละฝ่ายไม่มีจุดร่วมที่ตรงกัน พล.อ.ประยุทธ์ ได้ขอพักการประชุม และเชิญ แกนนำฝ่าย นปช. และ กปปส. ไปหารือร่วมกันอีกห้องหนึ่ง ประมาณ 45 นาที เมื่อกลับมาที่วงหารือแล้วก็ยังได้เชิญเฉพาะ นายจตุพร พรหมพันธ์ ประธาน นปช. และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ไปพูดคุยกันส่วนตัวประมาณ 1 นาที ก่อนที่จะกลับมาที่วงหารือและได้สอบถาม นายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าคณะฝ่ายรัฐบาล ว่าตกลงรัฐบาลยืนยันไม่ลาออกทั้งรายบุคคลและทั้งคณะใช้หรือไม่ ซึ่งนายชัยเกษม ระบุว่านาทีนี้ไม่ลาออก พล.อ.ประยุทธ์ จึงบอกว่า "ถ้างั้นตั้งแต่นาทีนี้ ผมตัดสินใจยึดอำนาจการปกครอง"
       
       จากนั้นก็ได้เชิญ ตัวแทน ส.ว. และ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกจากที่ประชุม โดยไม่มีการควบคุมตัวไว้แต่ขอให้ยังอยู่ในพื้นที่สโมสรทหารบกเพื่อรอเคลียร์บุคคลไม่เกี่ยวข้องให้ออกจากพื้นที่ก่อน ส่วนตัวแทนจากฝ่ายอื่นๆ ก็ได้ถูกควบคุมตัวไปยังสถานที่สถานที่หนึ่ง
       
       ทั้งนี้ ผู้ที่ถูกควบคุมตัวไปประกอบด้วย 1.ฝ่ายรัฐบาล นายชัยเกษม นิติสิริ, นายวราเทพ รัตนากร, นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช, นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์, นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย,
       
       2.พรรคเพื่อไทย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์, นายภูมิธรรม เวชยชัย, นายชูศักดิ์ ศิรินิล, นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา และนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์
       
       3.พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, นายจุติ ไกรฤกษ์, นายศิริโชค โสภา, นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ, นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์
       
       4.กปปส. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ, นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย, นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์, นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ และนายสมศักดิ์ โกศัยสุข
       
       5.นปช. นายจตุพร พรหมพันธุ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นางธิดา ถาวรเศรษฐ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ และนายก่อแก้ว พิกุลทอง
       
       ต่อมาเวลา 17.26 น. ทหารได้เปิดให้สื่อมวลชนออกจากพื้นที่สโมสรทหารบกแล้ว โดยใช้ประตู 2 ของสนามกีฬากองทัพบกแล้ว
       
       เวลา 17.30 น. นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกกต. กล่าวกับผู้สื่อข่าวผ่านทางโทรศัพท์ว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถออกจากพื้นที่สโมสรได้ เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ทหารกำลังเคลียร์คนออกจากพื้นที่แต่ไม่ได้มีการควบคุมตัว กกต. หรือ ส.ว. แต่อย่างใด และเท่าที่เห็นบรรยากาศก็ยังไม่มีเหตุรุนแรง ส่วนกกต.จะดำเนินการอย่างไรต่อไปนั้นคงต้องรอดูประกาศคำสั่งของ คสช.ก่อนหากมีการฉีกรัฐธรรมนูญองค์กรอิสระก็ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ก่อน
       
       เวลา 17.40 น.เจ้าหน้าที่ทหารเข้าตรวจค้นรถ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. พบอาวุธปืน 4 กระบอก มีด 1 เล่ม วิทยุสื่อสาร 1 เครื่อง ขณะที่ทหารได้ประกาศให้ผู้สื่อข่าวออกจจากพื้นที่สโมสรทหารบกทั้งหมด
ไม่ว่าเราจะมีความทุกข์เพียงไร เราก็มีความสุขกับชีวิตได้
เพราะเราเลือกที่จะ.."เข้าใจ" แทนการเลือกที่จะ.."เจ็บปวด"
"ยอมรับ" ในสิ่งที่เป็นอยู่ "ปล่อยวาง" ในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว  "มีศรัทธา" กับสิ่งที่กำลังจะมาถึง และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

ฅ ฅน

.


...นานๆ ได้ฟังเพลง ต้นตระกูลไทย ก้อดีเหมือนกันนะ ส.ก๊ากๆ

shinjang

ฝากจัดหนักพวก นปก.ด้วย เอาให้หนักเลย ...เอาให้มันกลับมาเป็นตุดส์ไปเลย

ฟ้าเปลี่ยนสี

เผยวงถก 7 ฝ่ายก่อนรัฐประหาร! "บิ๊กตู่" งัดไม้ตาย "ขอโทษด้วยนะ ผมต้องยึดอำนาจ"

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   
23 พฤษภาคม 2557 11:18 น.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (แฟ้มภาพ)
[attach=1]

แหล่งข่าวเผยวงประชุม กอ.รส.สุดเครียด "ประยุทธ์" ไล่ถามการบ้านรัฐบาล-ปชป.เถียงลาออก "วีระกานต์" อ้างศาสนา เจอ ผอ.รส.สวน ลั่นปี 53 ไม่มีอำนาจเบ็ดเสร็จ โต้พวกใส่ร้ายได้ 6 พันล้าน ยันสักบาทก็ไม่ได้ "จตุพร" งัดมุกประชามติถามผุดปมใหม่ "สุเทพ" ขอแยกคุยกับแดงก่อนดอดถกร่วม 3 คน "บิ๊กตู่" ซักย้ำจะออกหรือไม่ "ชัยเกษม" ไม่ยอม เจ้าตัวงัดไม้ตาย "ขอโทษด้วยนะ ผมต้องยึดอำนาจ" ขณะที่ "มาร์ค" เซ็งบ่นรัฐ "ผมบอกคุณแล้ว" ส่วน "ชัชชาติ" โวยพูดตอนนี้ทำไม ก่อนถูกคุมตัวและปล่อยบิ๊ก 2 พรรค เว้น "ภูมิธรรม" ส่วน "เด็จพี่" โดนแยกอยู่กับแดงตั้งแต่แรก
       
       วันนี้ (23 พ.ค.) มีรายงานว่า แหล่งข่าวระดับสูงเล่าถึงบรรยากาศในการหารือ 7 ฝ่ายเมื่อวานนี้ (22 พ.ค.) ที่ผ่านมา ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะประกาศยึดอำนาจการปกครองว่า วงประชุมของ 7 ฝ่ายเริ่มขึ้นในเวลา 14.00 น. โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้เปิดให้ทุกฝ่ายตอบโจทย์การบ้าน 5 ข้อว่าแต่ละกลุ่มจะทำได้ระดับไหน โดยในซีกของพรรคเพื่อไทยเริ่มจากนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ระบุว่าพรรคเพื่อไทยทำได้แค่ให้รัฐมนตรีลาพัก หรือลาหยุดราชการ ขณะที่ซีกรัฐบาลคือนายชัยเกษม นิติสิริ ยังคงยืนยันว่าถ้า ครม.ลาออกจะถือว่ากระทำผิดกฎหมายอาจถูกฟ้องร้องภายหลังได้ ทำให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ยกเหตุการณ์นายวิษณุ เครืองาม ลาออกจากรองนายกฯ ในรัฐบาลรักษาการขึ้นมายืนยันว่าสามารถลาออกได้ อย่างไรก็ตาม นายชัยเกษมยังคงยืนยันว่าจะไม่ลาออก
       
       ขณะที่นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ แกนนำ นปช. ระบุว่าการถกเถียงแบบนี้ไม่มีประโยชน์ ถ้าจะถกกันต่อไปคงต้องเตรียมเสื่อเตรียมหมอนมาด้วย เพราะเรื่องนี้เหมือนความเชื่อในศาสนาที่เชื่ออย่างไรก็เชื่ออย่างนั้น ตอนนี้ ผบ.ทบ.รับภาระหนัก เดินเข้ามาตอนน้ำท่วมถึงเอวแล้ว ถ้าอยู่ต่อไปน้ำจะท่วมมิดหัว ผบ.ทบ.ควรเดินออกไปแล้วประกาศว่าจะต้องมีเลือกตั้ง จะไม่มีใครว่า ผบ.ทบ.ได้ เมื่อนายวีระกานต์พูดถึงตรงนี้ ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ถึงกับมีอารมณ์กล่าวโต้ไปว่า "ไม่ต้องมาพูดเรื่องศาสนา ผมไม่รู้ แต่ผมจะเล่นพวกนอกศาสนาแน่ ไม่ต้องห่วงว่าผมจะจมน้ำหรือไม่ ผมว่ายน้ำเก่ง ผมศึกษามา 3 ปีแล้ว เหตุการณ์ในปี 53 ผมไม่มีอำนาจเบ็ดเสร็จ เพราะฉะนั้นอย่างมาสู้กับผมเลย มากล่าวหาผมรับเงิน 6 พันล้านบาท แล้วให้อยู่เฉยๆ ขอยืนยันว่าสักบาทผมก็ไม่ได้"
       
       ขณะที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช.มีท่าทีอ่อนลง โดยระบุว่าตอนนี้ถึงอย่างไรก็ไม่สามารถเลือกตั้งได้ ยืนยันว่าการทำประชามติว่าจะเอาปฏิรูปก่อนหรือหลังการเลือกตั้ง เป็นทางออกที่ดีที่สุด ทั้งนี้การหารือมีการถกเถียงกันนานพอสมควร ทำให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.กล่าวตัดบทว่าปัญหาทั้งหมด พรรคการเมืองไม่เกี่ยวข้อง เป็นเรื่องของกลุ่ม นปช. และ กปปส. จึงขอเสนอว่าควรให้ กปปส.และ นปช.ไปแยกคุยต่างหาก ขณะที่นายอภิสิทธิ์เสนอว่าน่าจะให้ฝ่ายรัฐบาลไปคุยด้วยเป็น 3 ฝ่าย แต่นายสุเทพยืนยันที่จะคุยเฉพาะภาคประชาชน ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเห็นด้วย และให้ทั้งสองกลุ่มแยกห้องไปคุยต่างหาก โดยในระหว่างนั้นนายอภิสิทธิ์ได้เสนอว่า เมื่อสองฝ่ายไปคุยกันแล้ว คนที่ไม่เกี่ยวข้องก็น่าจะกลับบ้านได้ แต่ พล.อ.ประยุทธ์บอกว่า ต้องคุยกันให้ได้ข้อสรุปก่อน
       
       แหล่งข่าวระบุว่า ทั้งสองฝ่ายใช้เวลาหารือนานประมาณ 30 นาที จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์พร้อมด้วยกลุ่ม กปปส.และนปช.ได้เดินเข้ามาในห้องประชุมใหญ่ โดย พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่าจะแจ้งผลหารือ แต่นายสุเทพบอกว่าขอเวลา 1 นาที พร้อมกับลุกขึ้นไปคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ โดยมีนายจตุพรร่วมคุยด้วย เสร็จแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่า "ไม่มีอะไร คุยกันเรื่องห้องน้ำไม่เรียบร้อยเท่านั้น"
       
       จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้ถามรัฐบาลว่ายืนยันจะไม่ออกใช่หรือไม่ นายชัยเกษมยืนยันย้ำว่า "ไม่ลาออก" พล.อ.ประยุทธ์จึงตอบกลับไปว่า ถ้าอย่างนั้น กกต.ก็ไม่ต้องพูดเรื่องเลือกตั้ง ส.ว.ไม่ต้องพูดเรื่องมาตรา 7 เมื่อพูดจบ พล.อ.ประยุทธ์ได้ลุกขึ้นยืนพร้อมกับพูดด้วยเสียงอันดังว่า "ขอโทษด้วยนะ ผมต้องยึดอำนาจ" ขณะนั้นเป็นเวลา 16.32 น. อย่างไรก็ตาม เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์พูดจบ ผู้ที่อยู่ในห้องประชุมบางคนคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์พูดเล่น แต่พอ พล.อ.ประยุทธ์เดินหันกลับไปที่ประตูทางออก ก็ได้หันกลับมาแล้วพูดเสียงเข้มว่า "พวกคุณอยู่ตรงนี้ อย่าไปไหน" และเดินออกจากห้องประชุมไป

       
       จากนั้นได้มีเหล่าทหารพร้อมอาวุธครบมือได้เดินเข้ามาในห้องประชุม และควบคุมตัวทุกคนไว้ พร้อมกับจัดแยกกลุ่มบุคคลออกเป็นกลุ่มๆ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่านายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ที่มาในนามพรรคเพื่อไทยถูกแยกไปรวมกับกลุ่ม นปช. และแยกไปควบคุมตัวในห้องอื่น โดยในตอนนั้นนายวีรกานต์มีสีหน้ายิ้มๆ แต่ก็ยังเผลอลืมไม้เท้าที่ถือมาด้วย ขณะที่นายอภิสิทธิ์ได้หันไปพูดกับนายวราเทพ รัตนากร และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่า "ผมบอกพวกคุณแล้ว" ทำให้นายชัชชาติซึ่งหน้าถอดสีโวยกลับว่า "มาบอกตอนนี้แล้วยังไงล่ะ มาพูดตอนนี้ทำไม"
       
       ทั้งนี้ ทหารได้แบ่งกลุ่มให้ตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งมีนายอภิสิทธิ์รวมอยู่ด้วย และพรรคเพื่อไทยอยู่รวมกัน 9 คนในห้องประชุม ส่วนกลุ่มอื่นถูกแยกกันไปควบคุมตัวในห้องอื่นๆ โดยปล่อยกลุ่ม ส.ว.และกกต.ออกไปก่อน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่ตัวแทนพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์อยู่ในห้องเดียวกัน ได้ไปคุยกับนายภูมิธรรม เวชชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และนายวันมูหะมัดนอร์ โดยบอกว่าช่วงพักการประชุมได้คุยกับนายวราเทพ รัตนากร และนายชัยเกษมว่าน่าจะช่วยกันรักษาประชาธิปไตย การพักการทำงานกับการลาออกใกล้เคียงกัน จึงน่าจะลาออกเพื่อเปิดให้บ้านเมืองเดินไปได้ เมื่อบ้านเมืองสงบก็จะจัดให้มีการเลือกตั้งภายใน 6 เดือน ขณะที่ในซีกของรัฐบาลยังคงยืนยันที่จะไม่ลาออก
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การควบคุมตัวดังกล่าวดำเนินไปจนกระทั่งเวลา 21.15 น. ได้มีการเปลี่ยนที่ควบคุมตัวมาเป็นที่ ร.1 รอ. จากนั้นบรรดา ครม.ได้ทยอยเข้ามารายงานตัว เช่น นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์, นายยุคล ลิ้มแหลมทอง, นายสนธยา คุณปลื้ม, นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี, นายประเสริฐ บุญชัยสุข โดยจัดให้ผู้ที่มารายงานตัวมารวมอยู่ในห้องเดียวกับตัวแทนพรรคการเมือง เมื่อคนเยอะขึ้นจึงแยกนายอภิสิทธ์และตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ไปอยู่อีกห้องหนึ่ง จากนั้นถูกปล่อยตัวในเวลา 24.20 น. โดยมีตัวแทนของพรรคเพื่อไทยถูกปล่อยตัวในเวลาไล่เลี่ยกัน คือ นายชูศักดิ์ ศิรินิล นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา และพล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ส่วนนายภูมิธรรมยังไม่เห็นว่าถูกปล่อยตัว
ไม่ว่าเราจะมีความทุกข์เพียงไร เราก็มีความสุขกับชีวิตได้
เพราะเราเลือกที่จะ.."เข้าใจ" แทนการเลือกที่จะ.."เจ็บปวด"
"ยอมรับ" ในสิ่งที่เป็นอยู่ "ปล่อยวาง" ในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว  "มีศรัทธา" กับสิ่งที่กำลังจะมาถึง และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

ยายเขียว

ได้รำลึกเพลงรักชาติเก่าๆ ทีเคยร้องสมัยเรียน ฮา  ส.ยกน้ิวให้