ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

รวมประกาศ-คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

เริ่มโดย ฟ้าเปลี่ยนสี, 20:09 น. 22 พ.ค 57

ฟ้าเปลี่ยนสี

รวมประกาศ-คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   
22 พฤษภาคม 2557 19:51 น.

[attach=1]

ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 1/2557
       
       เรื่อง การควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ
       
       ตามสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เขตปริมณฑล และพื้นที่ต่างๆ ของประเทศหลายๆ พื้นที่ เป็นผลให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บ และเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง และเหตุการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มขยายตัว จนอาจเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงที่จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวมนั้น
       
       เพื่อให้สถานการณ์ดังกล่าวกลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ประชาชนในชาติเกิดความรัก ความสามัคคี เช่นเดียวกับห้วงที่ผ่านมา ตลอดจนเพื่อเป็นการปฏิรูปโครงสร้างทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และอื่นๆ เพื่อให้เกิดความชอบธรรมกับทั่วทุกฝ่าย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วย กองทัพบก กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงมีความจำเป็นต้องเข้าควบคุมอำนาจในการปกครองประเทศ ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2557 เวลา 16.30 เป็นต้นไป
       
       ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนทุกคนอยู่ในความสงบ ดำเนินวิถีชีวิตและประกอบอาชีพต่อไปตามปกติ ให้ข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม ปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบแบบแผนของทางราชการดังที่เคยปฏิบัติ
       
       สำหรับข้าราชการทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่ส่วนราชการต่างๆ ที่มีอาวุธเพื่อใช้ในราชการของหน่วย ห้ามเคลื่อนย้ายกำลังและอาวุธโดยเด็ดขาด เว้นแต่จะได้รับคำสั่งจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ แต่เพียงผู้เดียว
       
       สำหรับคณะทูตานุทูต สถานกงสุล องค์กรระหว่างประเทศ รวมทั้งชาวต่างประเทศที่พำนักอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทย คณะรักษาความสงบแห่งชาติจะได้ให้ความคุ้มครอง และขอยืนยันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมทั้งความสัมพันธ์ระหว่างราชอาณาจักรไทย กับองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ ยังเป็นไปตามปกติ ตามที่รัฐบาลชุดเดิมดำเนินการไว้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะยึดมั่นในความจงรักภักดี และจะปกป้องเทิดทูนดำรงรักษาไว้ ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นศูนย์รวมจิตใจประชาชนชาวไทย และทรงอยู่เหนือความขัดแย้งทั้งปวง
       
       ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ฉบับที่ 2/2557
       
       เรื่อง การประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร
       
       ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ยึดอำนาจการปกครอง ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 16.30 น. เพื่อให้การรักษาความสงบเรียบร้อยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และนำความสงบสุขกลับคืนสู่ประชาชนทุกกลุ่มทุกฝ่ายโดยเร็ว จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 ประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 16.30 น.เป็นต้นไป
       
       ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
       
       ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 3/2557
       
       เรื่อง ห้ามออกนอกเคหสถาน
       
       ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ได้ยึดอำนาจการปกครองตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 16.30 น. อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงกำหนดมาตรการดังนี้
       
       1.ห้ามมิให้บุคคลใดทั่วราชอาณาจักร ออกนอกเคหสถานภายในเวลา 22.00 น.- 05.00 น. ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นไป เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อให้มีการปฏิบัติที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนกับประชาชนเกินสมควรแก่เหตุ
       
       2.ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 เข้าปฏิบัติหน้าที่ในเขตพื้นที่และระยะเวลาที่กำหนดได้ ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
       
       ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2557
       
       พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       ผู้บัญชาการทหารบก หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 4/2557
       
       เรื่อง การถ่ายทอดออกอากาศของสถานีวิทยุกระจายเสียง สถานีวิทยุโทรทัศน์ และสถานีวิทยุชุมชน
       
       เพื่อให้การเผยแพร่ข่าวสารไปสู่ประชาชนเป็นไปด้วยความถูกต้อง สามารถติดต่อสื่อสารระหว่างส่วนกลาง และส่วนภูมิภาคได้อย่างต่อเนื่อง ทันต่อสถานการณ์ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 10 และมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้สถานีวิทยุกระจายเสียง สถานีวิทยุโทรทัศน์กระจายเสียง สถานีโทรทัศน์ดาวเทียม และเคเบิ้ลดำเนินการดังนี้
       
       1.ให้สถานีวิทยุกระจายเสียงทุกสถานี ทั้งที่เป็นของราชการ และเอกชนงดรายการประจำสถานี และให้ถ่ายทอดกระจายเสียงจากสถานีวิทยุกระจายเสียงของกองทัพบก
       
       2.ให้สถานีวิทยุโทรทัศน์กระจายเสียงทุกสถานี ทั้งที่เป็นของราชการ และเอกชนงดรายการประจำสถานี และให้ถ่ายทอดออกรายการจากสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก
       
       3.ให้สถานีโทรทัศน์ดาวเทียม และเคเบิ้ลทุกสถานี งดรายการประจำสถานี และให้ถ่ายทอดออกรายการจากสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
       
       ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 5/2557
       
       เรื่อง การสิ้นสุดชั่วคราวของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
       
       ตามที่ คสช.ได้ประกาศยึดอำนาจการปกครองประเทศตามประกาศฉบับที่ 1/2557 ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 16.30 น.แล้วนั้น เพื่อให้การบริหารราชการภายในราชอาณาจักร เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้ดำเนินการดังนี้
       
       1.รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 สิ้นสุดลงชั่วคราว เว้นหมวด 2 พระมหากษัตริย์
       
       2.คณะรัฐมนตรีรักษาการสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่
       
       3.วุฒิสภายังคงปฏิบัติหน้าที่ตามจำนวนสมาชิกวุฒิสภาที่มีอยู่ ณ วันที่ประกาศฉบับนี้มีผลบังคับใช้
       
       4.ศาลทั้งหลายคงมีอำนาจดำเนินการพิจารณา และพิพากษาอรรถคดีตามบทกฎหมาย และประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       5.องค์กรอิสระ และองค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2550 ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       
       ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 6/2557
       
       เรื่อง แต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       เพื่อให้การบริหารประเทศ และการแก้ไขปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยภายในประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงแต่งตั้งบุคคลดำรงตำแหน่งในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ดังนี้
       
       1.พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       2.พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
          
       3.พลเรือเอกณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
          
       4.พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
          
       5.พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
          
       6.พลเอกอุดมเดช สีตะบุตร รองผู้บัญชาการทหารบก เป็นเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
          
       ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา
       ผู้บัญชาการทหารบก เป็นหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 1/2557
       
       เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัว
       
       ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ได้ประกาศเข้าควบคุมอำนาจในการปกครองประเทศ ตามประกาศฉบับที่ 1/2557 ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 16.30 น.แล้วนั้น เพื่อให้มาตรการรักษาความสงบเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้บุคคลที่มีรายชื่อดังต่อไปนี้มารายงานตัว ณ กองบัญชาการรักษาความสงบแห่งชาติ (กองบังคับการกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ภายในวันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557) ดังนี้
       
       1.นายนิวัฒน์ธํารง บุญทรงไพศาล
       2.นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา
       3.นายจาตุรนต์ ฉายแสง
       4.นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี
       5.นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล
       6.นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ
       7.นายยุคล ลิ้มแหลมทอง
       8.นางเบญจา หลุยเจริญ
       9.นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์
       10.นางปวีณา หงสกุล
       11.พลเอกพฤณท์ สุวรรณทัต
       12.นายพ้อง ชีวานันท์
       13.นายยรรยง พวงราช
       14.นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์
       15.นายสนธยา คุณปลื้ม
       16.นายประดิษฐ สินธวณรงค์
       17.นายสรวงศ์ เทียนทอง
       18.นายประเสริฐ บุญชัยสุข
       
       สั่ง ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 7/2557
       
       เรื่อง ห้ามชุมนุมทางการเมือง
       
       เพื่อให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 8 และมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงห้ามมิให้มั่วสุม หรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป หากผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
       
       สำหรับผู้ที่ชุมนุมทางเมืองในปัจจุบันให้เดินทางกลับภูมิลำเนาตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       
       ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ไม่ว่าเราจะมีความทุกข์เพียงไร เราก็มีความสุขกับชีวิตได้
เพราะเราเลือกที่จะ.."เข้าใจ" แทนการเลือกที่จะ.."เจ็บปวด"
"ยอมรับ" ในสิ่งที่เป็นอยู่ "ปล่อยวาง" ในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว  "มีศรัทธา" กับสิ่งที่กำลังจะมาถึง และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

ฟ้าเปลี่ยนสี

ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 8/2557
       
เรื่อง ข้อยกเว้นการห้ามออกนอกเคหสถาน

ตามที่ได้มีการประกาศห้ามบุคคลออกนอกเคหสถาน ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 3/2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 นั้น เพื่อบรรเทาผลกระทบการประกอบอาชีพในห้วงเวลาที่ห้ามออกนอกเคหสถาน จึงยกเว้นสำหรับบุคคลดังต่อไปนี้
       1. ผู้ที่เดินทางเข้า-ออกประเทศ
       2. เจ้าหน้าที่หรือพนักงานที่ต้องปฏิบัติงาน หรือทำงานในสถานที่ประกอบการที่ต้องปฏิบัติงานเป็นห้วงเวลา หรือเป็นผลัด อาทิ โรงงานอุตสาหกรรม โรงพยาบาล ธุรกิจการบิน เป็นต้น
       3. การเดินทางขนส่งสินค้าของกิจการห้องเย็น การนำเข้า-ส่งออกสินค้าที่มีอายุจำกัด และอาจเกิดการเสียหาย
       4. ผู้มีกิจธุระจำเป็น เช่น ผู้ป่วยที่จะต้องเดินทางไปโรงพยาบาล ผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับมนุษยธรรม
       5. ผู้มีกิจธุระจำเป็นอื่น ๆ ให้ขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ทหารในเขตพื้นที่นั้นๆ
       
       ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 9/2557

       เรื่อง ให้สถานศึกษาหยุดทำการ

เพื่อให้การรักษาความสงบเรียบร้อยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อันจะส่งผลให้สถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 6 และมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้สถานศึกษาทุกแห่งทั้งของรัฐและเอกชน หยุดทำการตั้งแต่วันที่ 23 - 25 พฤษภาคม 2557
       
       ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 10/2557

       เรื่อง ให้อำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี เป็นอำนาจหน้าที่ของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

โดยที่มีกฎหมายบางฉบับได้บัญญัติไว้ถึงอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีในอันที่จะปฏิบัติตามกฎหมายไว้และเพื่อประโยชน์แห่งการปฏิบัติตามกฎหมายดังกล่าว หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้
       
       ในระหว่างที่ยังไม่มีผู้ใดดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ให้บรรดาอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายบัญญัติไว้ว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรี ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือผู้ที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติมอบหมาย
       
       ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 11/2557

       เรื่อง การสิ้นสุดของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

เพื่อความสงบเรียบร้อยในการปกครองประเทศจึงให้ยกเลิกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 5/2557 ลงวันที่ 22 เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เรื่อง การสิ้นสุดชั่วคราวของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และให้ใช้ข้อความตามประกาศฉบับนี้
       
       1. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2550 สิ้นสุดลง ยกเว้นหมวด 2
       
       2. คณะรัฐมนตรีรักษาการสิ้นสุดลง
       
       3. วุฒิสภา ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามจำนวนสมาชิกวุฒิสภาที่มีอยู่ ณ วันที่ประกาศฉบับนี้มีผลบังคับใช้
       
       4 ศาลทั้งหลายคงมีอำนาจดำเนินการพิจารณาและพิพากษาอรรถคดีตามบทกฎหมายและประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       5. องค์กรอิสระ และองค์กรอื่น ตามรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2550 ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
       
       ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       
       ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 12/2557

       เรื่อง ขอความร่วมมือจากสื่อสังคมออนไลน์

เพื่อให้การเผยแพร่ข่าวสารไปสู่ประชาชนเป็นไปด้วยความถูกต้อง ปราศจากการบิดเบือนอันจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดและสถานการณ์ความขัดแย้งขยายตัวจนส่งผลต่อการรักษาความสงบเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่ในการนำความสงบสุขกลับคืนสู่สังคมโดยเร็ว จึงขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสื่อสังคมออนไลน์ ระงับการให้บริการในการส่งข้อความเชิงปลุกระดม ยั่วยุ สร้างความรุนแรง ความไม่น่าเชื่อถือและไม่เคารพกฎหมาย ตลอดจนการต่อต้านการปฏิบัติงานคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ทั้งนี้ หากยังคงมีการดำเนินการอยู่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติจะระงับการให้บริการโดยทันที รวมทั้งเรียกตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
       
       ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       
       ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ไม่ว่าเราจะมีความทุกข์เพียงไร เราก็มีความสุขกับชีวิตได้
เพราะเราเลือกที่จะ.."เข้าใจ" แทนการเลือกที่จะ.."เจ็บปวด"
"ยอมรับ" ในสิ่งที่เป็นอยู่ "ปล่อยวาง" ในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว  "มีศรัทธา" กับสิ่งที่กำลังจะมาถึง และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

ฟ้าเปลี่ยนสี

คำสั่ง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 2/2557

       เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม และแก้ไขวันเวลาและสถานที่ให้มารายงานตัว

เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้บุคคลมารายงานตัว ณ หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ ในวันที่ 23 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 10.00 น. ตามรายชื่อดังต่อไปนี้
       
       1.นางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
       2.นาย สมชาย วงศ์สวัสดิ์
       3.นาย วราเทพ รัตนากร
       4. นาย นพดล ปัทมะ
       5.นาย โภคิน พลกุล
       6.นาย พิชัย นริพทะพันธุ์
       7.นาย ภูมิธรรม เวชยชัย
       8.นาย สาโรช หงส์ชูเวช
       9.นาย สมพงษ์ อมรวิวัฒน์
       10.พลโท มนัส เปาริก
       11.พลเอก ชัยสิทธิ์ ชินวัตร
       12.พลตำรวจโท ชัจจ์ กุลดิลก
       13.นายแพทย์ พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช
       14.นาย พันศักดิ์ วิญญูรัตน์
       15.นาย สุรนันท์ เวชชาชีวะ
       16.นาย วรพงษ์ ตันติเวชยานนท์
       17.นาย ยงยุทธ ติยะไพรัช
       18.ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง
       19.พลตำรวจเอก ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา
       20.นาย เกรียงกมล เลาหะไพโรจน์
       21.นาง เยาวภา วงศ์สวัสดิ์
       22.นาย ธงทอง จันทราศุข
       23.พลตำรวจตรี ธวัช บุญเฟื่อง
       
       สำหรับบุคคลที่มีรายชื่อตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 1/2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 และยังไม่มารายงานตัว ให้เปลี่ยนไปรายงานตัวตามวันเวลาและสถานที่ ที่ปรากฏตามคำสั่งนี้
       
       สั่ง ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 13/2557

       เรื่อง ขอให้บุคคลสำคัญมารายงานตัว

เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้บุคคลเข้ารายงานตัวในวันที่ 23 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 13.30 น. ดังนี้
       
       1.หัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจตั้งแต่ระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่าขึ้นไป ผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าหน่วยงานอิสระ สหภาพ สภาอุตสาหกรรม สมาคมธนาคาร และหอการค้า ที่มีที่ตั้งสำนักงานในพื้นที่ภาคกลาง รายงานตัว ณ สโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
       
       2.ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงหนือ รายงานตัว ณ กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
       
       3. ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ รายงานตัว ณ กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก
       
       4. ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ รายงานตัว ณ กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 4 ค่ายวชิราวุธ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช
       
       ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 14/2557

       เรื่อง ห้ามสร้างความขัดแย้งหรือต่อต้านการปฏิบัติงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

เพื่อให้การเผยแพร่ข่าวสารไปสู่ประชาชนเป็นไปด้วยความถูกต้อง ปราศจากการบิดเบือน อันจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิด จนส่งผลกระทบต่อการรักษาความสงบเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่ จึงให้บุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติดังนี้
       
       1.ห้ามเจ้าของกิจการสื่อสิ่งพิมพ์และรายการวิทยุโทรทัศน์ทุกประเภท บรรณาธิการ พิธีกร และสื่อมวลชน เชิญบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มิได้ดำรงตำแหน่งราชการในปัจจุบัน ทั้งในส่วนของข้าราชการและนักวิชาการ รวมทั้งอดีตผู้ปฏิบัติงานในศาลและกระบวนการยุติธรรม ตลอดจนองค์กรอิสระ ให้สัมภาษณ์หรือแสดงความคิดเห็นในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดการขยายความขัดแย้ง บิดเบือน และสร้างความสับสนให้กับสังคม รวมทั้งอาจนำไปสู่การใช้ความรุนแรงโดยเด็ดขาด ทั้งนี้หากฝ่าฝืนจะถูกเรียกตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ตลอดจนระงับการจำหน่ายจ่ายแจกสื่อสิ่งพิมพ์ และการออกอากาศของรายการดังกล่าวโดยทันที
       
       2. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและข้าราชการสังกัดกระทรวงมหาดไทย ตลอดจนผู้บัญชาการตำรวจนครบาลและผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัด ระงับการชุมนุมหรือกิจกรรมที่ต่อต้านการปฏิบัติงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติในโอกาสแรก ทั้งนี้หากเกินขีดความสามารถให้รายงานให้ผู้บังคับหน่วยทหารในพื้นที่ใกล้เคียงทราบ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
       
       ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       
       ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 15/2557

       เรื่อง ขอให้ระงับการถ่ายทอดออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม เคเบิล โทรทัศน์ระบบดิติตอล และสถานีวิทยุชุมชน

เพื่อให้การเผยแพร่ข่าวสารไปสู่ประชาชนเป็นไปด้วยความถูกต้อง ปราศจากการบิดเบือน อันจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิด จนส่งผลกระทบต่อการรักษาความสงบเรียบร้อย จึงให้สถานีโทรทัศน์ดาวเทียม เคเบิล โทรทัศน์ระบบดิติตอล และสถานีวิทยุชุมชน ระงับการถ่ายทอดออกอากาศทันที ดังนี้
       
       1. สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเอ็มวี 5
       2. สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมดีเอ็นเอ็น
       3.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมยูดีดี
       4.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเอเชียอัพเดท
       5.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมพีแอนด์พี
       6.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมโฟร์แชนแนล
       7. สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมบลูสกาย
       8.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเอฟเอ็มทีวี
       9.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมทีนิวส์
       10.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเอเอสทีวี
       11.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมฮ็อตทีวี
       12.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมวอยซ์ทีวี
       13.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเร็สคิ้ว
       14.สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.)
       15.สถานีวิทยุชุมชนที่ไม่ได้รับอนุญาตจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายที่กำหนด
       
       ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       
       ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 16/2557

       เรื่อง ให้ปลัดกระทรวงปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีเป็นการชั่วคราว

ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้เข้าควบคุมอำนาจในการปกครองประเทศตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 1/2557 ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 แล้วนั้น
       
       เพื่อให้การบริหารราชการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเกิดความต่อเนื่องในการปฏิบัติ จึงกำหนดให้ปลัดกระทรวงปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีในแต่ละกระทรวงเป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
       
       ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       
       ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

ไม่ว่าเราจะมีความทุกข์เพียงไร เราก็มีความสุขกับชีวิตได้
เพราะเราเลือกที่จะ.."เข้าใจ" แทนการเลือกที่จะ.."เจ็บปวด"
"ยอมรับ" ในสิ่งที่เป็นอยู่ "ปล่อยวาง" ในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว  "มีศรัทธา" กับสิ่งที่กำลังจะมาถึง และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

ฟ้าเปลี่ยนสี

ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 17/2557

       เรื่อง การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ต

เพื่อให้การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ตทุกประเภท ไปสู่ประชาชนเป็นไปด้วยความถูกต้อง ปราศจากการบิดเบือนอันก่อให้เกิดความเข้าใจผิดหรือก่อให้เกิดความขัดแย้ง ความไม่สงบภายในราชอาณาจักร จึงให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตทุกรายดำนินการ ดังต่อไปนี้
       
       1. ติดตาม ตรวจสอบ และระงับยับยั้งการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารใดๆ ที่มีการบิดเบือน ยุยงปลุกปั่น อันจะก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยภายในราชอาณาจักร หรือมีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
       
       2.ให้มารายงานตัว ณ หอประชุมชั้น 2 สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 23 พฤษภาคม 2557 เวลา 10.30 น.
       
       ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 18/2557

       เรื่อง การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะ

เพื่อให้การเผยแพร่ข่าวสารไปสู่ประชาชนเป็นไปด้วยความถูกต้อง ปราศจากการบิดเบือน อันจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิด จนส่งผลกระทบต่อการรักษาความสงบเรียบร้อย คณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงให้ผู้ประกอบกิจการและผู้ให้บริการด้านสื่อมวลชนทุกประเภท ทั้งสถานีวิทยุกระจายเสียงทุกสถานี ทั้งที่เป็นของราชการและเอกชน สถานีโทรทัศน์ภาคพื้นดิน สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม เคเบิล โทรทัศน์ระบบดิจิตอล และโทรทัศน์อินเตอร์เน็ตทุกสถานี หนังสือพิมพ์ วารสาร หรือสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ รวมทั้งผู้ให้บริการด้านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภท อันรวมถึงการสื่อสารทางสังคมสื่อออนไลน์ งดเว้นการนำเสนอข้อมูลข่าวสารในลักษณะ ดังต่อไปนี้
       
       1.ข้อความอันเป็นเท็จ หรือส่อไปในทางหมิ่นประมาท หรือสร้างความเกลียดชังต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ องค์รัชทายาท และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์
       
       2. ข่าวสารที่จะเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ รวมทั้งหมิ่นประมาทบุคคลอื่น
       
       3. การวิพากษ์ วิจารณ์ การปฏิบัติงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และบุคคลที่เกี่ยวข้อง
       
       4. ข้อมูลเสียง ภาพ วีดีทัศน์ ความลับของการปฏิบัติงานของหน่วยราชการต่างๆ
       
       5. ข้อมูลข่าวสารที่ส่อให้เกิดความสับสน ยั่วยุ ปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้ง หรือสร้างให้เกิดความแตกแยกในราชอาณาจักร
       
       6. การชักชวน ซ่องสุม ให้มีการรวมกลุ่มก่อการอันเกิดการต่อต้านเจ้าหน้าที่และบุคคลที่เกี่ยวข้องของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       7. การขู่จะประทุษร้ายหรือทำร้ายบุคคล อันนำไปสู่ความตื่นตระหนก หวาดกลัวแก่ประชาชน
       
       สื่อดังกล่าวข้างต้นมีหน้าที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารตามที่ได้รับแจ้งจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       
       ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 19/2557

       เรื่อง ให้บุคคลสำคัญมารายงานตัวเพิ่มเติม

เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้หัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจตั้งแต่ระดับอธิบดีหรือเทียบเท่าขึ้นไป เข้ามารายงานตัววันที่ 23 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 13.30 น. ณ สโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
       
       ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

ไม่ว่าเราจะมีความทุกข์เพียงไร เราก็มีความสุขกับชีวิตได้
เพราะเราเลือกที่จะ.."เข้าใจ" แทนการเลือกที่จะ.."เจ็บปวด"
"ยอมรับ" ในสิ่งที่เป็นอยู่ "ปล่อยวาง" ในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว  "มีศรัทธา" กับสิ่งที่กำลังจะมาถึง และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

ฟ้าเปลี่ยนสี

 คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 3/2557
       
       เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม

เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม ณ หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ ในวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ.2557 เวลา 10.00 น. ตามรายชื่อดังต่อไปนี้
       
       1. พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี
       2. พล.อ.ทวนทอง อินทรทัต
       3. พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต
       4. พล.ร.อ.เกียรติศักดิ์ ดามาพงศ์
       5. พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี
       6. พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค
       7. พล.ต.อ.บุญญฤทธิ์ รัตนพร
       8. พล.ท.มะ โพธิ์งาม
       9. พล.ท.อัครชัย จันทรโตษะ
       10. พล.ต.ศรชัย มนตริวัต
       11. พล.ต.ต.สุชาติ กาญจนวิเศษ
       12. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
       13. พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา
       14. พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต
       15. พล.อ.พฤกษ์ สุวรรณทัต
       16. นายวัฒนา เมืองสุข
       17. น.ต.ศิธา ทิวารี
       18. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
       19. นายสันติ พร้อมพัฒน์
       20. นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี
       21. นายทรงศักดิ์ เปรมสุข
       22. พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย
       23. นายประชา ประสพดี
       24. นายสมหวัง อัสราษี
       25. นายพันธ์เลิศ ใบหยก
       26. นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์
       27. นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์
       28. นายชูชาติ หาญสวัสดิ์
       29. นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง
       30. นายจรัล ดิษฐาอภิชัย
       31. นายนิสิต สินธุไพร
       32. นายชินวัฒน์ หาบุญพาด
       33. นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย
       34. นายอดิศร เพียงเกษ
       35. นายวิสา คัญทัพ
       36. นายสำเริง ประจำเรือ
       37. พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์
       38. นางไพจิตร อักษรณรงค์
       39. นายพายัพ ปั้นเกตุ
       40. นางดารุณี กฤตบุญญาลัย
       41. นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์
       42. นายอำพน กิตติอำพน
       43. พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์
       44. นายวันชนะ เกิดดี
       45. นายอารีย์ ไกรนรา
       46. นายสุนัย จุลพงศธร
       47. นายวิชาญ มีนชัยนันท์
       48. นายไชยา สะสมทรัพย์
       49. นายสุชาติ ลายน้ำเงิน
       50. นายการุณ โหสกุล
       51. นางฐิติมา ฉายแสง
       52. นายประแสง มงคลศิริ
       53. นายวิชิต ปลั่งศรีสกุลฃ
       54. นายมานิตย์ จันทร์กลับ
       55. นายขวัญชัย ไพรพนา
       56. นางประทีบ อึ้งทรงธรรม
       57. นายวุฒิพงศ์ กชธรรม
       58. นายวรชัย เหมะ
       59. นายดาบแดง ชลบุรี
       60. นายสมบัติ บุญงามอนงค์
       61. น.ส.จิตรภัสร์ กฤดากร
       62. นายจุมพล จุลใส
       63. นางทยา ทีปสุวรรณ
       64. นายพุฒิพงษ์ ปุณกันฑ์
       65. นายถาวร เสนเนียม
       66. นายสุริยะใส กตะศิลา
       67. นายนิติธร ล้ำเหลือ
       68. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข
       69. พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ
       70. นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ
       71. นายเสรี วงษ์มณฑา
       72. นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์
       73. น.ส.อัญชลี ไพรีรักษ์
       74. นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ
       75. นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง
       76. นายสุรวิทย์ คนสมบูรณ์
       77. นางกฤษณา สีหลักษณ์
       78. นายบุญทรง เตริยาภิรมย์
       79. นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล
       80. นายธีระ วงศ์สมุทร
       81. นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ
       82. นายกิตติศักดิ์ หัตถสงเคราะห์
       83. นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข
       84. น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ
       85. นายภูมิ สาระผล
       86. นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์
       87. นายชูชาติ หาญสวัสดิ์
       88. นายฐานิสร์ เทียนทอง
       89. นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์
       90. นางสุกุมล คุณปลื้ม
       91. นายปลอดประสพ สุรัสวดี
       92. นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล
       93. นายบุญรื่น ศรีธเรศ
       94. นายสุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล
       95. นายวิทยา บุรณศิริ
       96. นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น
       97. นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล
       98. นางนลินี ทวีสิน
       99. นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย
       100. นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์
       101. นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช
       102. นายศักดา คงเพชร
       103. ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์
       104. นายประชา ประสพดี
       105. นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร
       106. นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช
       107. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง
       108. นายประเสริฐ บุญชัยสุข
       109. นางศันสนีย์ นาคพงศ์
       110. นายประดิษฐ์ สินธวณรงค์
       111. นายชลน่าน ศรีแก้ว
       112. นายชัยเกษม นิติสิริ
       113. นายก่อแก้ว พิกุลทอง
       114. นายแพทย์เหวง โตจิราการ
       
       สั่ง ณ วันที่ 23 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 20/2557
       
       เรื่อง เชิญคณะทูตานุทูต ผู้แทนองค์กรระหว่างประเทศ และผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร เข้าร่วมประชุม
       
          เพื่อดำรงไว้ซึ่งความสัมพันธ์อันดีระหว่างราชอาณาจักรไทยกับมิตรประเทศ ตลอดจนเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกันต่อการดำเนินงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในการรักษาความสงบและการแก้ไขปัญหาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร จึงขอเรียนเชิญคณะทูตานุทูต ผู้แทนองค์กรระหว่างประเทศ และผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารทุกเหล่าทัพ ที่ประจำประเทศไทย เข้าร่วมประชุม รับฟังการชี้แจงจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในวันที่ 23 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 16.00 น. ณ สโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
       
       ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 21/2557
       
       เรื่อง ห้ามบุคคลเดินทางออกนอกราชอาณาจักร
       
       ตามที่ได้มีคำสั่งให้บุคคลเข้ารายงานตัว ณ หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ ในวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ.2557 เวลา 10.00 น. ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 1/2557 ฉบับที่ 2/2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2557 และฉบับที่ 3/2557 ลงวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ.2557 รวมจำนวน 155 รายนั้น เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขสถานการณ์ปัญหาความขัดแย้งของบ้านเมืองเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงห้ามบุคคลตามคำสั่งดังกล่าวเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุมัติจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ สำหรับบุคคลใดที่ไม่เข้ารายงานตัวตามคำสั่ง จะถูกติดตามจับกุมและดำเนินคดี ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       
       ประกาศ ณ วันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ.2557
       
       พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ไม่ว่าเราจะมีความทุกข์เพียงไร เราก็มีความสุขกับชีวิตได้
เพราะเราเลือกที่จะ.."เข้าใจ" แทนการเลือกที่จะ.."เจ็บปวด"
"ยอมรับ" ในสิ่งที่เป็นอยู่ "ปล่อยวาง" ในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว  "มีศรัทธา" กับสิ่งที่กำลังจะมาถึง และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

ยายเขียว


ฟ้าเปลี่ยนสี

ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 22/2557
       
       เรื่อง การจัดส่วนงาน การกำหนดอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       เพื่อให้การบริหารราชการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด จึงกำหนดส่วนงาน อำนาจหน้าที่ และความรับผิดชอบ ดังนี้
       
       1. การจัดส่วนงาน แบ่งเป็น 3 ระดับ คือ
       1.1 ระดับนโยบาย :​ ได้แก่
       1.1.1 คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ประกอบด้วย หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ,รองหัวหน้าคณะฯ 4 ท่าน และเลขาธิการฯ 1 ท่าน
       1.1.2 คณะที่ปรึกษาและประสานงานด้านความมั่นคง
       1.2 ระดับแปลงนโยบายไปสู่การปฏิบัติ : ได้แก่
       1.2.1 ฝ่ายความมั่นคง
       1.2.2 ฝ่ายเศรษฐกิจ
       1.2.3 ฝ่ายสังคมจิตวิทยา
       1.2.4 ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม
       1.2.5 ฝ่ายกิจการพิเศษ
       1.2.6 ส่วนงานขึ้นตรง หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       1.3 ระดับปฏิบัติ : ได้แก่ ส่วนราชการที่ขึ้นตรงต่อ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ประกอบด้วย
       1.3.1 กระทรวง ทบวง กรม และส่วนราชการที่ขึ้นตรงต่อ หัวหน้าคณะฯ
       1.3.2 กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย
       
       2. อำนาจหน้าที่ ให้แต่ละส่วน มีหน้าที่ดังนี้
       2.1 ระดับนโยบาย
       2.1.1 คณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีหน้าที่ กำหนดนโยบายการบริหารราชการแผ่นดิน ทั้งนโยบายเฉพาะหน้า และนโยบายระยะยาว เพื่อให้ส่วนงานระดับแปลงนโยบายไปสู่การปฏิบัติ และระดับปฏิบัตินำไปดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายที่กำหนดไว้
       2.1.2 คณะที่ปรึกษาและประสานงานด้านความมั่นคง มีหน้าที่ให้คำแนะนำต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติร้องขอ หรือที่ริเริ่มขึ้นเอง
       2.2 ระดับแปลงนโยบายไปสู่การปฏิบัติ มีหน้าที่ อำนวยการ ควบคุม กำกับดูแลการปฏิบัติราชการของกระทรวง ทบวง กรม ส่วนราชการ ที่เกี่ยวข้องตามความรับผิดชอบ ให้เป็นไปตามนโยบายที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติกำหนด
       2.3 ระดับปฏิบัติ มีหน้าที่ ปฏิบัติราชการ ตามนโยบายที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติกำหนด
       
       3. การแบ่งมอบความรับผิดชอบ
       3.1 สำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ : มี พลเอก อุดมเดช สีตบุตร เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด รับผิดชอบหน่วยงาน/ส่วนราชการ ที่ขึ้นตรงต่อหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และหน่วยงาน/ส่วนราชการที่มิได้กำหนดไว้ในประกาศฉบับนี้ รวมทั้งกำกับดูแลการปฏิบัติงานทั้งปวงของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยมี พลโท ชาตอุดม ติตถะสิริ รองเสนาธิการทหารบกเป็นรองเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       3.2 กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย : มี แม่ทัพภาคที่ 1 เป็นผู้บัญชาการกองกำลังรักษาตวามสงบเรียบร้อย มีหน่วยงานในบังคับบัญชาประกอบด้วย กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกองทัพภาคที่ 1-4 (กำลังของกองทัพไทย เหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขึ้นควบคุมทางยุทธการ)
       
       3.3 ฝ่ายความมั่นคง : มี พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง และมี พลเอกอักษรา เกิดผล เสนาธิการทหารบก เป็น รองหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง มีหน่วยงาน/ส่วนราชการในความรับผิดชอบ รวม 4 หน่วยงาน ได้แก่
       - กระทรวงกลาโหม
       - กระทรวงมหาดไทย
       - กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
       - กระทรวงการต่างประเทศ
       
       3.4 ฝ่ายสังคมจิตวิทยา : มี พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นหัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา และมี พลโท สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รองเสนาธิการทหารบก เป็นรองหัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา มีหน่วยงาน/ส่วนราชการในความรับผิดชอบ รวม 7 หน่วยงาน คือ
       - กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
       - กระทรวงศึกษาธิการ
       - กระทรวงสาธารณสุข
       - กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
       - กระทรวงวัฒนธรรม
       - กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
       - กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
       
       3.5 ฝ่ายเศรษฐกิจ : มี พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ และมี พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เป็นรองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ มีหน่วยงาน/ส่วนราชการในความรับผิดชอบ รวม 7 หน่วยงาน ได้แก่
       - กระทรวงการคลัง
       - กระทรวงพาณิชย์
       - กระทรวงอุตสาหกรรม
       - กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
       - กระทรวงพลังงาน
       - กระทรวงแรงงาน
       - กระทรวงคมนาคม
       
       3.6 ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม : มี พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และมี พลโท ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข รองเสนาธิการทหารบกเ เป็น รองหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม มีหน่วยงาน/ส่วนราชการในความรับผิดชอบ จำนวน 3 หน่วยงาน ได้แก่
       - กระทรวงยุติธรรม
       - สำนักงานอัยการสูงสุด
       - สำนักงานป้องกันแล้วปราบปรามการฟอกเงิน
       
       3.7 ฝ่ายกิจการพิเศษ : มี พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นหัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ และมี พลโท สุชาติ หนองบัว ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายกำลังพล เป็นรองหัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ มีหน่วยงานและส่วนราชการ ในความรับผิดชอบ จำนวน 20 หน่วยงาน ได้แก่
       - สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.)
       - สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.)
       - สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
       - สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.)
       - สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)
       - สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบข้าราชการ (ก.พ.ร.)
       - สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.)
       - กรมประชาสัมพันธ์ (กปส.)
       - สำนัักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)
       - สำนักนายกรัฐมนตรี
       - สำนักราชเลขาธิการ
       - สำนักพระราชวัง
       - สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
       - สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
       - สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย
       - ราชบัณฑิตยสถาน
       - สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ
       - สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา
       - สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมิน
       
       3.8 ส่วนงานขึ้นตรงกับหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จำนวน 5 หน่วยงาน ได้แก่
       - กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
       - สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
       - สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
       - สำนักข่าวกรองแห่งชาติ
       - สำนักงบประมาณ
       
       ประกาศ ณ วันที่ 23 พฤษภาคม 2557
       
       พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ไม่ว่าเราจะมีความทุกข์เพียงไร เราก็มีความสุขกับชีวิตได้
เพราะเราเลือกที่จะ.."เข้าใจ" แทนการเลือกที่จะ.."เจ็บปวด"
"ยอมรับ" ในสิ่งที่เป็นอยู่ "ปล่อยวาง" ในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว  "มีศรัทธา" กับสิ่งที่กำลังจะมาถึง และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

ฟ้าเปลี่ยนสี

เออ.....คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 4 หายไปไหนครับ.... ส.อืม

คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 5/2557
       
       เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม
       
       เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม ณ หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ ในวันที่ 24 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 13.00 ตามรายชื่อดังต่อไปนี้
       
       1. นายเกรียง กัลป์ตินันท์
       2. พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ
       3. พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก
       4. นายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์
       5.นายสนธิ ลิ้มทองกุล
       6. นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์
       7. นายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล
       8. จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ
       9. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน
       10. นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ
       11. นายอนุทิน ชาญวีรกูล
       12. นายสุทิน คลังแสง
       13. นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์
       14. นายสุนัย จุลพงศธร
       15. นายสงวน พงษ์มณี
       16. นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์
       17. นายธนพล อิ๋วสกุล
       18. นายณัฐ สัตยาภรพิสุทธิ์
       19. นายจักรพันธ์ บริรักษ์
       20. นายธันย์ฐวุฒิ ทวีวโดมกุล
       21. นายวราวุธ ฐานังกรณ์
       22. นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล
       23. นายสุรภักดิ์ ภูไชยแสง
       24. นายสุรพศ ทวีศักดิ์
       25. นายพันทิวา ภูมิประเทศ
       26. น.ต.ชนินทร์ คล้ายคลึง
       27. นายนิธิวัต วรรณศิริ
       28. นายศรัณย์ ฉุยฉาย
       29. น.ส.สุดา รังกุพันธ์
       30. นายไตรรงค์ สินสืบผล
       31. นายชัยอนันท์ ไผ่สีทอง
       32. นายชฤต โยนกนาคพันธุ์
       33. นายวัฒน์ วรรลยางกูร
       34. น.ส.สาวตรี สุขศรี
       35. นางสุดสงวน สุธีสร
       
       สั่ง ณ วันที่ 24 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ไม่ว่าเราจะมีความทุกข์เพียงไร เราก็มีความสุขกับชีวิตได้
เพราะเราเลือกที่จะ.."เข้าใจ" แทนการเลือกที่จะ.."เจ็บปวด"
"ยอมรับ" ในสิ่งที่เป็นอยู่ "ปล่อยวาง" ในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว  "มีศรัทธา" กับสิ่งที่กำลังจะมาถึง และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

ฟ้าเปลี่ยนสี

ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 23/2557

       เรื่อง การถ่ายทอดออกอากาศของสถานีวิทยุโทรทัศน์ภาคพื้นดิน ระบบแอนาล็อก และสถานีวิทยุกระจายเสียง
       
       เพื่อให้การเผยแพร่ข่าวสารไปสู่ประชาชนกลับสู่สภาวะปกติ และเป็นไปด้วยความถูกต้อง ปราศจากการบิดเบือน อันจะก่อเกิดความเข้าใจผิดจนส่งผลกระทบต่อการรักษาความสงบเรียบร้อย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงให้
       
       1.สถานีโทรทัศน์ภาคพื้นดิน ระบบแอนาล็อก ซึ่งได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ออกอากาศรายการประจำของสถานีได้ตามปกติ ดังต่อไปนี้
       (1) สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 (ช่อง 5)
       (2) สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (ช่อง NBT)
       (3) สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ (ช่อง 9)
       (4) สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส (ช่อง TPBS)
       (5) สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 (ช่อง 3)
       (6) สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 (ช่อง 7)
       
       2.สถานีวิทยุกระจายเสียงของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ และรวมถึงสถานีวิทยุกระจายเสียงที่ได้รับอนุญาต สัญญา หรือสัมปทานจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ยกเว้นสถานีวิทยุกระจายเสียงที่ได้รับอนุญาตทดลองประกอบกิจการ ออกอากาศรายการประจำของสถานีได้ตามปกติ
       
       3.การออกอากาศรายการประจำสถานีจะต้องงดเว้นการนำเสนอข้อมูล ข่าวสารอันมีลักษณะต้องห้ามตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 14/2557 เรื่อง ห้ามสร้างความขัดแย้งต่อต้านการปฏิบัติงานของ คสช. และประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 18/2557 เรื่อง การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารสู่สาธารณะ
       
       4.เมื่อมีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับประกาศ คำสั่ง ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ให้สถานีโทรทัศน์และสถานีวิทยุกระจายเสียงข้างต้นถ่ายทอดสัญญาณภาพ เสียง จากสถานีโทรทัศน์ สถานีวิทยุกระจายเสียงของกองทัพบกโดยทันที
       
       ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       
       ประกาศ ณ วันที่ 23 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 24/2557

       เรื่อง ให้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ต่อไป
       
       เพื่อให้องค์กรอิสระ และองค์กรอื่นๆ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้อย่างต่อเนื่องและเป็นธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงประกาศให้ พระราชบัญญัตประกอบรัฐธรรมนูญดังต่อไปนี้ มีผลบังคับใช้ต่อไป
       
       1.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. 2542
       2.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542
       3.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2550
       4.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2552
       5.พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2552
       
       ทั้งนี้ จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
       
       ประกาศ ณ วันที่ 23 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 25/2557

       เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัว หรือแจ้งเหตุขัดข้อง
       
          ตามที่ได้มีคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 1/2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เรื่องให้บุคคลมารายงานตัว และคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 2/2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เรื่องให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม แก้ไขวันเวลา และสถานที่รายงานตัว และคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 3/2557 เรื่องให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติมลงวันที่ 23 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 ด้วยปรากฏว่ายังมีบุคคลที่มีรายชื่อตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติยังไม่มารายงานตัวต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ดังนั้น เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้บุคลลซึ่งมีรายชื่อตามคำสั่งดังกล่าวมารายงานตัวภายในวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ.2557 ภายในเวลา 16.00 น. หากผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
       
          สำหรับผู้ที่มีเหตุขัดข้องจำเป็นเร่งด่วนไม่สามาระมารายงานตัวได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดให้แจ้งข้อขัดข้องมายังคณะรักษาความสงบแห่งชาติภายในเวลากำหนดข้างต้น
       
          ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
       
          ประกาศ ณ วันที่ 24 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
          หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ไม่ว่าเราจะมีความทุกข์เพียงไร เราก็มีความสุขกับชีวิตได้
เพราะเราเลือกที่จะ.."เข้าใจ" แทนการเลือกที่จะ.."เจ็บปวด"
"ยอมรับ" ในสิ่งที่เป็นอยู่ "ปล่อยวาง" ในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว  "มีศรัทธา" กับสิ่งที่กำลังจะมาถึง และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

ฟ้าเปลี่ยนสี

ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 27/2557
       
          เรื่อง การถ่ายทอดออกอากาศของสถานีวิทยุโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิตอลและสถานีโทรทัศน์ที่ได้รับอนุญาตสัญญา หรือสัมปทานจากส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ
       
       เพื่อให้การเผยแพร่ข่าวสารไปสู่ประชาชนเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ และเป็นไปด้วยความถูกต้องปราศจากการบิดเบือน อันจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิด จนส่งผลกระทบต่อการรักษาความสงบเรียบร้อย คณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงให้
       
          1.ผู้ให้บริการโทรทัศน์ดังต่อไปนี้ออกอากาศได้ตามปกติ ผ่านทางระบบการใช้คลื่นความถี่ภาคพื้นดิน ระบบผ่านดาวเทียม และเคเบิ้ล
          (1.)ผู้ให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบอนาล็อกตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 23/2557 ลงวันที่ 23 พฤษภาคม 2557
       
          (2.)ผู้ให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิตอล ซึ่งได้รับอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ ยกเว้นสถานีโทรทัศน์ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 15/2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2557
       
          2.ผู้ให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกที่ได้รับอนุญาตออกอากาศรายการได้ตามปกติ ผ่านทางโครงข่ายระบบผ่านดาวเทียมและเคเบิ้ลแบบบอกรับสมาชิกเท่านั้น
       
          3.การออกอากาศรายการประจำสถานีจะต้องงดเว้นการนำเสนอข้อมูลข่าวสารอันมีลักษณะต้องห้ามตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 14/2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 และฉบับที่ 18/2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2557)
       
          4.เมื่อมีการเผยแพร้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับประกาศคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติให้ผู้ให้บริการโทรทัศน์ข้างต้นถ่ายทอดสัญญาณภาพ เสียงจากสถานีโทรทัศน์กองทัพบกโดยทันที
       
          5.ให้ผู้ให้บริการภาคพื้นดินทั้งระบบอนาล็อกและดิจิตอล รวมถึงผู้ให้บริการโครงข่ายที่ใช้คลื่นความถี่ภาคพื้นดิน โครงข่ายดาวเทียม และโครงข่ายเคเบิ้ล ที่ให้บริการระดับชาติมารายงานตัว ณ หอประชุมชั้น 2 สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 24 พฤษภาคม 2557 เวลา 16.00 น.
       
          ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       
          ประกาศ ณ วันที่ 24 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
          พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
          หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ไม่ว่าเราจะมีความทุกข์เพียงไร เราก็มีความสุขกับชีวิตได้
เพราะเราเลือกที่จะ.."เข้าใจ" แทนการเลือกที่จะ.."เจ็บปวด"
"ยอมรับ" ในสิ่งที่เป็นอยู่ "ปล่อยวาง" ในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว  "มีศรัทธา" กับสิ่งที่กำลังจะมาถึง และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

ฟ้าเปลี่ยนสี

ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 28/2557

       เรื่อง การถวายรายงานสถานการณ์บ้านเมือง
       
       ตามที่กองทัพบก และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก ทั่วราชอาณาจักร และเข้าควบคุมอำนาจการปกครองเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและแก้ไขปัญหาความขัดแย้งของบ้านเมืองมาโดยลำดับนั้น กองทัพบก และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มีหนังสือถึงสำนักราชเลขาธิการแล้ว 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 และวันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เพื่อนำความกราบบังคมทูลฯ ตามโอกาสอันเหมาะสม
       
       บัดนี้ ได้มีหนังสือตอบกลับจากสำนักราชเลขาธิการว่า ความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท เรียบร้อยแล้ว จึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน
       
       ประกาศ ณ วันที่ 24 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 6/2557

เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่ม

โดยให้นายประวิตร โรจนพฤกษ์ ไปรายงานตัวที่สโมสรกองทัพบก เทเวศร์ ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2557 เวลา 10.00 น.

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       
       สั่ง ณ วันที่ 24 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 7/2557

       เรื่อง การแต่งตั้งให้ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่และให้รักษาราชการแทน
       
       เพื่อให้การปฏิบัติงานของส่วนราชการต่างๆ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเหมาะสมยิ่งขึ้น หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้
       
       1. ให้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้ได้รับเงินเดือนทางสังกัดเดิมไปพลางก่อน โดยยังคงเป็นรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 6/2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2557
       2. ให้ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
       
       ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       
       สั่ง ณ วันที่ 24 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 8/2557

       เรื่อง การแต่งตั้งให้ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่
       
       เพื่อให้การปฏิบัติงานของส่วนราชการต่างๆ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเหมาะสมยิ่งขึ้น หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้
       
       1. ให้นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้ได้รับเงินเดือนทางสังกัดเดิมไปพลางก่อน
       2. ให้ พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาปฏิบัติหน้าที่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษอีกหน้าที่หนึ่ง โดยให้ได้รับเงินเดือนทางสังกัดเดิมไปพลางก่อน
       
       ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       
       สั่ง ณ วันที่ 24 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 9/2557

       เรื่อง การแต่งตั้งให้ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่และให้รักษาราชการแทน
       
       เพื่อให้การปฏิบัติงานของส่วนราชการต่างๆ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเหมาะสมยิ่งขึ้น หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้
       
       1. ให้ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม มาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้ได้รับเงินเดือนทางสังกัดเดิมไปพลางก่อน
       2. ให้ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงกลาโหม
       
       ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       
       สั่ง ณ วันที่ 24 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 30/2557

       เรื่อง ให้วุฒิสภาสิ้นสุดลง
       
       ตามที่ได้มีประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 11/2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ให้วุฒิสภาที่มีอยู่ ณ วันที่ประกาศดังกล่าวมีผลใช้บังคับ ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปนั้น เพื่อประโยชน์ในการบริหารราชการแผ่นดิน หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีประกาศดังต่อไปนี้
       
       ข้อ 1. ให้วุฒิสภาที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่ ณ วันที่ประกาศฉบับนี้มีผลใช้บังคับ สิ้นสุดลง
       
       ข้อ 2. ในกรณีที่มีกฎหมายบัญญัติให้การดำเนินการเรื่องใดต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา สภาผู้แทนราษฎร หรือวุฒิสภา ให้เป็นอำนาจของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในการให้ความเห็นชอบแทนรัฐสภา สภาผู้แทนราษฎร หรือวุฒิสภา ในเรื่องนั้น
       
       ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       
       ประกาศ ณ วันที่ 24 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ไม่ว่าเราจะมีความทุกข์เพียงไร เราก็มีความสุขกับชีวิตได้
เพราะเราเลือกที่จะ.."เข้าใจ" แทนการเลือกที่จะ.."เจ็บปวด"
"ยอมรับ" ในสิ่งที่เป็นอยู่ "ปล่อยวาง" ในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว  "มีศรัทธา" กับสิ่งที่กำลังจะมาถึง และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

ฟ้าเปลี่ยนสี

คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 10/2557
       
       เรื่อง ห้ามมิให้กระทำการใดๆ หรือสั่งให้กระทำการใดๆ เกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงิน หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของบุคคล เท่าที่จำเป็นแก่การรักษาความมั่นคงของชาติ และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวม
       
       ตามที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มีคำสั่งที่ 1/2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัว นั้น เนื่องจากปรากฎว่าบุคคลที่มีรายชื่อต้องมารายงานตัวบางราย ฝ่าฝืนไม่มารายงานตัวตามคำสั่งดังกล่าว ดังนั้น เพื่อป้องกัน ระงับ มิให้บุคคลทั้งสองกระทำการช่วยเหลือหรือสนับสนุนด้านการเงินแก่บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่กระทำการหรือมีการกระทำที่ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยของบ้านเมือง จึงออกคำสั่งดังนี้
       
       ข้อ 1 ห้ามมิให้สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน ธนาคารตามที่ได้มีกฎหมายจัดตั้งขึ้นเฉพาะ บริษัทหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ บริษัทประกันชีวิตตามกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต และบริษัทประกันวินาศภัยตามกฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัย และสหกรณ์ตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์ นิติบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับปัจจัยชำระเงินต่างประเทศตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน นิติบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้บริการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด นิติบุคคลที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน่าตามกฎหมายว่าด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ทำนิติกรรมสัญญา หรือการดำเนินการใดๆ ทางการเงิน ทางธุรกิจ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สิน และห้ามมิให้บุคคลหรือนิติบุคคลใดรับซื้อหรือรับแลกเปลี่ยนเช็ค ตั๋วสัญญาใช้เงิน ตั๋วแลกเงิน หรือตราสารทางการเงินอื่นๆ ที่สั่งจ่ายให้กับบุคคลดังต่อไปนี้
       
       1.นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ
       2.นายจาตุรนต์ ฉายแสง
       
       ข้อ 2 ให้สถาบันการเงิน และนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจตามข้อ 1 แจ้งและส่งข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมของบุคคลดังกล่าวที่ได้กระทำขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2557 จนถึงวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ส่งให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ภายในสามวันนับตั้งแต่วันที่มีคำสั่ง
       
       ข้อ 3 การขอเพิกถอนคำสั่งห้ามทำนิติกรรมสัญญาหรือการดำเนินการใดๆ ทางการเงิน ทางธุรกิจ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินกับบุคคลทั้งสอง เฉพาะรายครั้งแล้วแต่กรณี ให้บุคคลทั้งสองพร้อมด้วยสถาบันการเงิน หรือนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจ ตามข้อ 1 ยื่นคำขอ และแสดงตนต่อหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ พร้อมด้วยหลักฐานที่แสดงว่าการทำนิติกรรม สัญญาหรือการดำเนินการใดๆ ทางการเงิน ทางธุรกิจ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินตามข้อ 1 ไม่ได้เป็นการกระทำ หรือสนับสนุนการกระทำเพื่อให้เกิดเหตุแห่งความไม่สงบเรียบร้อยของบ้านเมือง
       
       ข้อ 4 ผู้ใดฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
       
       สั่ง ณ วันที่ 24 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
       
       คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 11/2557

       เรื่อง การแต่งตั้งให้ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่
       
       เพื่อให้การปฏิบัติงานของส่วนราชการต่างๆ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเหมาะสมยิ่งขึ้น หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้
       
       1.ให้ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ มาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้ได้รับเงินเดือนทางสังกัดเดิมไปพลางก่อน
       
       2.ให้ นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย มาปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้อีกหน้าที่หนึ่ง โดยให้ได้รับเงินเดือนทางสังกัดเดิมไปพลางก่อน
       ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       
       สั่ง ณ วันที่ 24 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 12/2557

       เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม
       
       เพื่อให้การรักษาความสงบและแก้ไขปัญหาบ้านเมือง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้นายไพวงษ์ เตชะณรงค์ มารายงานตัว ณ หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ ในวันที่ 25 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 ห้วงเวลา 11.00 - 11.30
       
       สั่ง ณ วันที่ 24 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 13/2557

       เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม
       
       เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม ณ หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ ในวันที่ 25 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 11.00 - 12.00 ตามรายชื่อดังต่อไปนี้
       
       1.นางจรรยา สว่างจิตร
       2.นายชเยนทร์ คำนวณ
       3.นายพิชิต ชื่นบาน
       4.นางกาญจนา หงษ์เหิน
       5.นางสาวณัชชานันท์ เครือชัย
       6.นางวิมลรัตน์ กุลดิลก
       
       สั่ง ณ วันที่ 24 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 31/2557

       เรื่อง การประชุมกำหนดแนวทางดำเนินงานด้านเศรษฐกิจ
       
       เพื่อให้การดำเนินงานด้านเศรษฐกิจ การเงิน การธนาคาร และการคลัง เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงขอเรียนเชิญปลัดกระทรวงพาณิชย์ ปลัดกระทรวงการคลัง เลขาธิการคณะกรรมการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประธานสมาคมธนาคารไทย ประธานสมาคมหอการค้าไทย ประธานสมาคมการค้า และประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รวมทั้งคณะผู้ติดตาม หน่วยงานละ 1 คน เข้าร่วมประชุมกำหนดแนวทางการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจ ในวันที่ 25 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 10.00 น. ณ สโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
       
       ประกาศ ณ วันที่ 24 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 32/2557
       
       เรื่อง ระงับการออกอากาศของสถานีวิทยุชุมชนที่ไม่ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย และสถานีวิทยุกระจายเสียงที่ได้รับอนุญาตทดลองประกอบกิจการ
       
       เพื่อให้การเผยแพร่ข่าวสารเป็นไปด้วยความถูกต้อง ปราศจากการบิดเบือน อันจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิด จนส่งผลกระทยต่อการรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มีประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 15/2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 และฉบับที่ 23 ลงวันที่ 23 พฤษภาคม 2557 โดยระงับการออกอากาศของสถานีวิทยุชุมชนที่ไม่ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายที่กำหนด และสถานีวิทยุกระจายเสียงที่ได้รับอนุญาตทดลองประกอบกิจการแล้วนั้น และเพื่อให้เกิดความชัดเจนและมีความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน จึงประกาศให้สถานีวิทยุชุมชนที่ไม่ได้รับอนุญาตให้จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย และสถานีวิทยุกระจายเสียงที่ได้รับอนุญาตทดลองประกอบกิจการ ถือปฏิบัติตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติทั้ง 2 ฉบับโดยเคร่งครัด
       
       ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       
       ประกาศ ณ วันที่ 24 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 33/2557

       เรื่อง ขอความร่วมมือในการปฏิบัติของศาล องค์กรอิสระ และองค์กรอื่น
       
       ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 11/2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เรื่อง การสิ้นสุดของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่กำหนดให้ศาลทั้งหลาย คงมีอำนาจดำเนินการพิจารณาและพิพากษาอรรถคดีตามบทกฎหมาย และประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ตลอดจนให้องค์กรอิสระ และองค์กรอื่น ตามรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2550 ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปนั้น เพื่อให้ประชาชนมีความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน และมีความสมานฉันท์ในการร่วมกันแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองโดยสันติวิธี ดังนั้น คณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงขอความร่วมมือให้สถาบันศาล องค์กรอิสระ และองค์กรอื่นๆ งดแสดงความคิดเห็น ที่อาจทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด มีตวามสับสนหรือเกิดการแตกความสามัคคี จนส่งผลกระทบต่อการรักษาความสงบเรียบร้อยของพนักงานเจ้าหน้าที่ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       
       ประกาศ ณ วันที่ 24 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 35/2557

       เรื่อง อำนาจในการอนุมัติงบประมาณของปลัดกระทรวง
       
       ตามที่ได้มีกำหนดให้ปลัดกระทรวงปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีเป็นการชั่วคราวตามประกาศ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 16/2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 แล้วนั้น เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงกำหนดให้ดำเนินการดังนี้
       
       1.การอนุมัติแผนงาน/โครงการใดๆ ที่อยู่ในอำนาจอนุมัติของรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงจะต้องเสนอเรื่องให้หัวหน้าฝ่ายซึ่งเป็นผู้ที่มีหน้าที่อำนวยการ ควบคุม กำกับดูแลการปฏิบัติราชการของ กระทรวง ทบวง กรม ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 22/2557 ลงวันที่ 23 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 พิจารณาให้เห็นชอบก่อน จึงจะสามารถดำเนินการตามแผนงาน/โครงการได้
       
       2.การดำเนินงานตามแผนงาน/โครงการ ที่เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน แม้จะเคยได้รับการอนุมัติหลักการเอาไว้แล้ว โดยรัฐบาลในอดีต ในขั้นการอนุมัติงบประมาณจะต้องเสนอให้หัวหน้าฝ่าย ตามข้อ 1 พิจารณาให้ความเห็นชอบแผนงาน/โครงการก่อน
       
       ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       
       ประกาศ ณ วันที่ 24 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 36/2557

       เรื่อง เชิญผู้ประกอบการค้าและการขนส่งน้ำมันเข้าร่วมประชุม
       
       ตามที่ ได้มีประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 3/2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เรื่อง ห้ามออกนอกเคหะสถาน ซึ่งห้ามมิให้บุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหะสถาน ภายในเวลา 22.00 - 05.00 ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นไป เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ นั้น เพื่อให้ผู้ประกอบการค้าและการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติ มีความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน คณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงขอเรียนเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องกับการค้าดำเนินการดังกล่าว เข้าร่วมประชุม ในวันที่ 25 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 14.00 ณ สโมสารทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ดังนี้
       
       1.อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน
       2.อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม
       3.ผู้ค้าน้ำมัน ตามมาตรา 7 แห่ง พระราชบัญญัติการค้าน้ำมันเชื้อเพลิง พุทธศักราช 2543
       4.ผู้ขนส่งน้ำมัน ตามมาตรา 12 แห่ง พระราชบัญญัติการค้าน้ำมันเชื้อเพลิง พุทธศักราช 2543 ที่มีรถขนส่งน้ำมันในครองครอง ตั้งแต่ 50 คัน ขึ้นไป
       
       ประกาศ ณ วันที่ 24 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ไม่ว่าเราจะมีความทุกข์เพียงไร เราก็มีความสุขกับชีวิตได้
เพราะเราเลือกที่จะ.."เข้าใจ" แทนการเลือกที่จะ.."เจ็บปวด"
"ยอมรับ" ในสิ่งที่เป็นอยู่ "ปล่อยวาง" ในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว  "มีศรัทธา" กับสิ่งที่กำลังจะมาถึง และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

ฟ้าเปลี่ยนสี

 คำสั่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 256/2557

       เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการ
       
       เพื่อให้การปฏิบัติราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการสนับสนุนภารกิจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติเป็นได้ด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 และ 72 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 และข้อ 8(1) แห่งระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2552 ประกอบคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 7/2557 ลงวันที่ 24 พฤษภาคม 2557 เรื่อง การแต่งตั้งให้ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่และให้รักษาราชการแทน จึงให้ข้าราชการตำรวจที่มีรายชื่อดังต่อไปนี้
       
       1. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง    ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
       2. พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ    ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1
       3. พล.ต.ท.กวี สุภานันท์    ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2
       4. พล.ต.ท.อนุชัย เล็กบำรุง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4
       5. พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5
       6. พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์    ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7
       7. พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
       8. พล.ต.ท.สฤษฎ์ชัย เอนกเวียง    ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล
       
       ไปปฏิบัติราชการที่ ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมอบหมาย จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
       
       ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยให้ไปรายงานตัวที่ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายในวันที่ 25 พฤษภาคม 2557 เวลา 09.00 น.
       
       สั่ง ณ วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ.2557
       
       พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ
       รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ไม่ว่าเราจะมีความทุกข์เพียงไร เราก็มีความสุขกับชีวิตได้
เพราะเราเลือกที่จะ.."เข้าใจ" แทนการเลือกที่จะ.."เจ็บปวด"
"ยอมรับ" ในสิ่งที่เป็นอยู่ "ปล่อยวาง" ในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว  "มีศรัทธา" กับสิ่งที่กำลังจะมาถึง และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

ฟ้าเปลี่ยนสี

ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 37/2557
       
       เรื่อง ความผิดที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีของศาลทหาร
       
       ตามที่ได้มีประกาศกฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 และประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 11/2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 ให้ศาลทั้งหลายคงมีอำนาจดำเนินการพิจารณาและพิพากษาอรรถคดีตามบทกฎหมายและประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ นั้น เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองเป็นไปด้วยความเรียบร้อย คณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงประกาศให้บรรดาคดีความผิดตามที่กำหนดไว้ดังต่อไปนี้ ซึ่งการกระทำผิดเกิดขึ้นในเขตราชอาณาจักรและในระหว่างที่ประกาศนี้ใช้บังคับ อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีของศาลทหาร
       
       1.ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
       1.ความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทและผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตั้งแต่มาตรา 107 ถึงมาตรา 112
       2.ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร ตั้งแต่มาตรา 113 ถึงมาตรา 118 ยกเว้นความผิดซึ่งการกระทำผิดเกิดขึ้นในเขตพื้นที่ที่มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 หรือพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
       
       2.ความผิดตามประกาศหรือคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
       
       ประกาศ ณ วันที่ 25 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ไม่ว่าเราจะมีความทุกข์เพียงไร เราก็มีความสุขกับชีวิตได้
เพราะเราเลือกที่จะ.."เข้าใจ" แทนการเลือกที่จะ.."เจ็บปวด"
"ยอมรับ" ในสิ่งที่เป็นอยู่ "ปล่อยวาง" ในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว  "มีศรัทธา" กับสิ่งที่กำลังจะมาถึง และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

ฟ้าเปลี่ยนสี

ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 38/2557

       เรื่อง คดีที่ประกอบด้วยการกระทำหลายอย่างเกี่ยวโยงกันให้อยู่ในอำนาจของศาลทหาร
       
       โดยที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ พิจารณาเห็นว่า คำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 37/2557 ลงวันที่ 25 พฤษภาคม 2557 และคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับอื่น ให้คดีที่มีข้อหาว่าการกระทำผิดบางอย่างอยู่ในอำนาจศาลทหารนั้น คดีดังกล่าวอาจมีข้อหาอื่นที่มีความผิดในตัวเองและมิได้อยู่ในอำนาจศาลทหารรวมอยู่ สมควรให้ศาลทหารมีอำนาจพิจารณาพิพากษาในข้อหานั้นด้วย เพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปโดยรวดเร็ว จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้
       
       บรรดาคดีความผิดที่อยู่ในอำนาจศาลทหารพิจารณาพิพากษา ตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 37/2557 ลงวันที่ 25 พฤษภาคม 2557 และคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับอื่น ถ้าคดีใดประกอบด้วยการกระทำหลายอย่างเกี่ยวโยงกัน แม้แต่ละอย่างจะเป็นความผิดได้ในตัวเองและไม่ได้อยู่ในอำนาจศาลทหาร ก็ให้อยู่ในอำนาจศาลทหารที่จะพิจารณาพิพากษาด้วย
       
       ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       
       ประกาศ ณ วันที่ 25 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 14/2557

       เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม
       
       เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม ณ หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ ในวันที่ 26 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 10.00 - 12.00 ตามรายชื่อดังต่อไปนี้
       
       1.นายสารัชต์ รัตนาวดี
       2.นายบัณฑิต พิทักษ์สิทธิ์
       3.พ.ต.อ.รวมนคร ทับทิมธงชัย
       4.นายวัชระพันธุ์ จันทรขจร
       5.พล.อ.สิงห์ทอง พลอยแดง
       6.พล.อ.วรวิทย์ ชินะนาวิน
       7.นายสำราญ สายชนะ
       8.นายธนเดช เอกอภิวัชร์
       9.นายคมกฤษ อาวุธเพชร
       10.ร้อยเอกกฤษณ์ อิสารพายุ
       11.นายดำรง พิเดช
       12.นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด
       13.นายรังสี เสรีชัยใจมุ่ง
       14.นายพิเชษฐ์ สุขจินดาทอง
       15.นายสมชาย ไพบูลย์
       16.นายอรรถชัย อนันตเมฆ
       17.นายจิรายุ ห่วงทรัพย์
       18.นางจารุพรรณ กุลดิลก
       19.น.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ
       20.นายเยี่ยมยอด ศรีมันตะ
       21.น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล
       22.นายนพพร นามเชียงใต้
       23.นายมนตรี ตั้งเจริญถาวร
       24.นายชาญยุทธ เฮงตระกูล
       25.นายโสภณ เมฆตระกูล
       26.นายอนันต์ อัศวโภคิน
       27.นายเศรษฐา ทวีสิน
       28.นายธวัชชัย วิไลลักษณ์
       29.นายเปรมชัย กรรณสูตร
       30.นายอภิชาต จันทร์สกุลพร
       
       สั่ง ณ วันที่ 25 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 15/2557

       เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม
       
       เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม ณ หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ ในวันที่ 26 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 10.00 - 12.00 ตามรายชื่อดังต่อไปนี้
       
       1.นายสมหมาย แว่นแก้ว
       2.นายสมหมาย สกุลเมตตา
       3.นายวิทยา บูรณสิริ
       
       สั่ง ณ วันที่ 25 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 16/2557

       เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม
       
       เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม ณ หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ ในวันที่ 26 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 10.00 - 12.00 ตามรายชื่อดังต่อไปนี้
       
       1.นายบรรเจิด สิงคะเนติ
       2.นายสุรพล นิติไกรพจน์
       3.นายหริรักษ์ สูตะบุตร
       4.นายชัยอนันต์ สุทวณิช
       5.นายธีรยุทธ บุญมี
       
       สั่ง ณ วันที่ 25 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 17/2557

       เรื่อง การอนุญาตให้ขนส่งสินค้าในห้วงเวลาที่ห้ามออกนอกเคหะสถาน
       
       ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มีประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 3/2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เรื่องห้ามออกนอกเคหะสถาน โดยห้ามมิให้บุคคลใดทั่วราชอาณาจักร ออกนอกเคหะสถาน ภายในเวลา 22.00 - 05.00 ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นไป เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบธุรกิจการขนส่งสินค้าทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ตลอดจนเพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนในการซื้อหาสินค้าอุปโภคบริโภค จึงอนุญาตให้ผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าว สามารถขนส่งสินค้าในห้วงเวลาที่ห้ามออกนอกเคหะสถานได้ ทั้งนี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ยังคงสามารถตรวจค้นยานพาหนะขนส่งสินค้าต่างๆ ได้ หากพบสิ่งบอกเหตุที่อาจเป็นการกระทำผิดกฎหมายหรืออาจส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อย ตลอดจนความมั่นคงของชาติ
       
       สั่ง ณ วันที่ 25 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 18/2557

       เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม
       
       เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม ณ หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ ในวันที่ 26 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 13.00-14.00 น. ตามรายชื่อดังต่อไปนี้
       
       1. พล.อ.ไตรศักดิ์ อินทรรัสมี
       2. นายวิม รุ่งวัฒนจินดา
       3. นายแทนคุณ จิตต์อิสระ
       4. พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร
       
       สั่ง ณ วันที่ 25 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 19/2557

       เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม
       
       เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม ณ หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2557 เวลา 13.00-14.00 น.ตามรายชื่อดังต่อไปนี้
       
       1.นางปราณี เอ็งอายุรกูล
       2.นายวีระชัย วงศ์นภาจันทร์
       
       สั่ง ณ วันที่ 25 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ไม่ว่าเราจะมีความทุกข์เพียงไร เราก็มีความสุขกับชีวิตได้
เพราะเราเลือกที่จะ.."เข้าใจ" แทนการเลือกที่จะ.."เจ็บปวด"
"ยอมรับ" ในสิ่งที่เป็นอยู่ "ปล่อยวาง" ในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว  "มีศรัทธา" กับสิ่งที่กำลังจะมาถึง และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

ฟ้าเปลี่ยนสี

คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 23/2557

       เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม
       
       เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม ณ หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ ในวันที่ 27 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 10.00 - 12.00 ตามรายชื่อดังต่อไปนี้
       
       1.นายแดง แซ่เฮง
       2.นายมาลัยรักษ์ ทองชัย
       3.พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ
       4.นายบรรหาร ศิลปอาชา
       5.นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์
       6.นายอดิศร ผลลูกอินทร์
       7.นางจุรีพร สินธุไพร
       8.พล.ต.อ.วิรุฬห์ พื้นแสน
       9.นายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์
       10.นายอุกฤษ มงคลนาวิน
       11.นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง
       12.นายสมศักดิ์ เกียรติพัฒนชัย
       13.นายจิรายุทธ ทรงยศ
       14.นายทยากร ยศอุบล
       15.นายวิทยา แก้วภราดัย
       16.น.ส.รังสิมา รอดรัศมี
       
       สั่ง ณ วันที่ 26 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 39/2557

       เรื่อง การกำหนดเงื่อนไขการปล่อยตัวของบุคคลที่มารายงานตัวต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       เพื่อให้มาตรการรักษาความสงบของบ้านเมืองเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ จึงกำหนดเงื่อนไขและมาตรการเกี่ยวกับการรายงานตัวของบุคคลตามคำสั่งหรือประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ดังนี้
       
       1.ให้บุคคลที่มารายงานตัวต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติและได้รับการปล่อยตัว ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดตามแบบแนบท้ายคำสั่งนี้อย่างเคร่งครัด
       
       2.บุคคลใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดในข้อ 1 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
       
       ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       
       ประกาศ ณ วันที่ 25 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 40/2557
       เรื่อง การกำหนดเงื่อนไขการปล่อยตัวของบุคคลที่ถูกกักตัวตามพระราชบัญญัติกฏอัยการศึก พระพุทธศักราช 2457 มาตรา 15 ทวิ
       
       เพื่อให้มาตรการรักษาความสงบของบ้านเมืองเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ จึงกำหนดเงื่อนไขและมาตรการเกี่ยวกับการปล่อยตัวบุคคลที่ถูกกักตัวตามพระราชบัญญัติกฏอัยการศึก พระพุทธศักราช 2457 มาตรา 15 ทวิ ดังนี้
       
       1.ให้บุคคลที่ถูกกักตัวตามพระราชบัญญัติกฏอัยการศึก พระพุทธศักราช 2457 มาตรา 15 ทวิ ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดตามแนบท้ายประกาศนี้อย่างเคร่งครัด
       
       2.บุคคลใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดในข้อ 1 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
       
       ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       
       ประกาศ ณ วันที่ 25 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 41/2557

       เรื่อง กำหนดให้การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเรียกบุคคลให้มารายงานตัว เป็นความผิด
       
       ตามที่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีคำสั่งเรียกบุคคลให้มารายงานตัว ต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ปรากฏว่ามีบุคคลบางราย ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาตินั้น เพื่อให้การปฏิบัติตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เกี่ยวกับการเรียกบุคคลให้มารายงานตัวต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นไปอย่างเคร่งครัดและเด็ดขาด จึงออกประกาศ ดังนี้
       
       1.บุคคลใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเรียกบุคคลให้มารายงานตัว ต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกสั่งห้ามกระทำการใดๆ หรือสั่งให้กระทำการใดๆ เกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงิน หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินด้วย ทั้งนี้เป็นไปตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       2.บุคคลที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ เรียกให้มารายงานตัว ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 12/2557 และคำสั่งรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 13/2557 ลงวันที่ 24 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 รวมทั้ง คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 14/2557 คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 15/2557 คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 16/2557 คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 18/2557 คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 19/2557 ลงวันที่ 25 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 ที่ยังไม่ได้มารายงานตัว หากยังไม่มารายงานตัวในวันที่ 27 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 10.00-12.00 น. ถือว่าฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกสั่งห้ามกระทำการใดๆ หรือสั่งให้กระทำการใดๆ เกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงิน หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินด้วย ทั้งนี้เป็นไปตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       
       ประกาศ ณ วันที่ 26 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ไม่ว่าเราจะมีความทุกข์เพียงไร เราก็มีความสุขกับชีวิตได้
เพราะเราเลือกที่จะ.."เข้าใจ" แทนการเลือกที่จะ.."เจ็บปวด"
"ยอมรับ" ในสิ่งที่เป็นอยู่ "ปล่อยวาง" ในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว  "มีศรัทธา" กับสิ่งที่กำลังจะมาถึง และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

ฟ้าเปลี่ยนสี

ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๔๒/๒๕๕๗

       เรื่อง แก้ไขห้วงเวลา ห้ามออกนอกเคหะสถาน
       
       ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๓/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๒ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ เรื่อง ห้ามออกนอกเคหะสถาน โดยห้ามมิให้บุคคลใดทั่วราชอาณาจักร ออกนอกเคหะสถานภายในเวลา ๒๒.๐๐ ถึง ๕.๐๐ ตั้งแต่วันที่ ๒๒ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ เป็นต้นไป เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๘/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๒ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ เรื่อง ข้อยกเว้นการห้ามออกนอกเคหะสถานนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของประชาชน คณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงกำหนดแก้ไขห้วงเวลา ห้ามออกนอกเคหะสถานและแนวทางปฏิบัติ ดังนี้
       
       ๑. ห้ามมิให้บุคคลใดทั่วราชอาณาจักร ออกนอกเคหะสถาน ภายในเวลา ๐๐.๐๑ ถึง ๐๔.๐๐ ตั้งแต่วันที่ ๒๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ เป็นต้นไป เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
       
       ๒. การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ในการรับส่งเงินและทรัพย์สินมีค่าของธนาคาร ให้ยังคงปฏิบัติตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๔/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๓ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ เรื่อง อนุญาตให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยการรับส่งเงินของธนาคาร เดินทางในห้วงเวลากลางคืน และพกพาอาวุธเพื่อประกอบธุรกิจ
       
       ๓. การปฏิบัติของผู้ประกอบธุรกิจการขนส่งในห้วงเวลาที่ห้ามออกนอกเคหะสถาน ให้ยังคงปฏิบัติตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๗/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ เรื่อง การอนุญาตให้ขนส่งสินค้าในห้วงเวลาที่ห้ามออกนอกเคหะสถาน
       
       ประกาศ ณ วันที่ ๒๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗
       
       พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       (ประยุทธ์ จันทร์โอชา)
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๔๓/๒๕๕๗

       เรื่อง ความผิดที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีของศาลทหาร
       
       ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้ออกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๓๗/๒๕๕๗ เรื่อง ความผิดที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีของศาลทหาร ลงวันที่ ๒๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ นั้น เพื่อให้การดำเนินคดีเกี่ยวกับการกระทำความผิดของเด็กและเยาวชนเป็นไปอย่างเหมาะสม หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงประกาศให้การกระทำความผิดของเด็กหรือเยาวชนตามประกาศฉบับดังกล่าว เป็นคดีที่ต้องดำเนินในศาลเยาวชนและครอบครัว และไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลทหาร
       
       ประกาศ ณ วันที่ ๒๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗
       
       พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       (ประยุทธ์ จันทร์โอชา)
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๔๔/๒๕๕๗

       เรื่อง ให้เรือนจำในสังกัดกรมราชทัณฑ์กระทรวงยุติธรรมปฏิบัติตามหมายของศาลทหาร
       
       ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ออกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๓๗/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ และฉบับที่ ๓๘ เรื่อง คดีที่ประกอบด้วยการกระทำหลายอย่างเกี่ยวโยงกันให้อยู่ในอำนาจของศาลทหาร ลงวันที่ ๒๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ นั้น เพื่อให้มีหน่วยงานที่ทำหน้าที่สนับสนุนการดำเนินการให้เป็นไปตามคำสั่งหรือคำพิพากษาของศาลทหาร หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงประกาศให้เรือนจำทั้งหลายที่อยู่ในสังกัดกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ปฏิบัติตามหมายของศาลทหารด้วย
       
       ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       ประกาศ ณ วันที่ ๒๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗
       
       พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       (ประยุทธ์ จันทร์โอชา)
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๒๔/๒๕๕๗

       เรื่อง ห้ามให้มีการเล่นการพนันที่ผิดกฎหมาย
       
       เพื่อให้การบริหารราชการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในการดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชนทุกกลุ่มทุกฝ่าย รวมทั้งเพื่อให้เกิดความสงบสุขแก่สังคมและผลประโยชน์ของประเทศชาติโดยรวม จึงให้ดำเนินการดังนี้
       
       ๑. ให้ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กระทรวงมหาดไทย และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพิ่มมาตรการและความเข้มข้นในการกำกับดูแลมิให้มีการเล่นการพนันที่ผิดกฏหมายทุกประเภทในพื้นที่รับผิดชอบ โดยเฉพาะบ่อนการพนัน ตู้ม้า สลากกินรวบ ฯลฯ โดยดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการพนัน พุทธศักราช ๒๔๗๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
       
       ๒. กรณีที่มีการปล่อยปะละเลย และ/หรือ มีข้าราชการผู้ใดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบให้มีการเล่นการพนันผิดกฏหมายในพื้นที่รับผิดชอบ จะต้องถูกลงโทษทั้งทางวินัยและคดีอาญาจนถึงที่สุด
       
       ๓. ให้ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กระทรวงมหาดไทย และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงานผลการปฏิบัติงานประจำวัน ตามข้อ ๑ ให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติทราบอย่างต่อเนื่อง
       
       ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       
       สั่ง ณ วันที่ ๒๖ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗
       
       พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       (ประยุทธ์ จันทร์โอชา)
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๒๖/๒๕๕๗

       เรื่อง ห้ามมิให้กระทำการใดๆ หรือสั่งให้กระทำการใดๆ เกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงิน หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของบุคคล เท่าที่จำเป็นแก่การรักษาความมั่นคงของชาติ และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวม
       
       ตามที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มีคำสั่งที่ ๓/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๓ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ และคำสั่งที่ ๕/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม นั้น เนื่องจากปรากฎว่าบุคคลที่มีรายชื่อต้องมารายงานตัวบางราย ฝ่าฝืนไม่มารายงานตัวตามคำสั่งดังกล่าว ดังนั้น เพื่อป้องกัน ระงับ มิให้บุคคลทั้งสองกระทำการช่วยเหลือหรือสนับสนุนด้านการเงินแก่บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่กระทำการหรือมีการกระทำที่ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยของบ้านเมือง จึงออกคำสั่งดังนี้
       
       ข้อ ๑ ห้ามมิให้สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน ธนาคารตามที่ได้มีกฎหมายจัดตั้งขึ้นเฉพาะ บริษัทหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ บริษัทประกันชีวิตตามกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต และบริษัทประกันวินาศภัยตามกฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัย และสหกรณ์ตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์ นิติบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับปัจจัยชำระเงินต่างประเทศตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน นิติบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้บริการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด นิติบุคคลที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน่าตามกฎหมายว่าด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ทำนิติกรรมสัญญา หรือการดำเนินการใดๆ ทางการเงิน ทางธุรกิจ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สิน และห้ามมิให้บุคคลหรือนิติบุคคลใดรับซื้อหรือรับแลกเปลี่ยนเช็ค ตั๋วสัญญาใช้เงิน ตั๋วแลกเงิน หรือตราสารทางการเงินอื่นๆ ที่สั่งจ่ายให้กับบุคคลดังต่อไปนี้
       
       ๑. นายสมบัติ บุญงามอนงค์
       
       ๒. จ่าสิบตำรวจ ประสิทธิ์ ไชยศีรษะ
       
       ข้อ ๒ ให้สถาบันการเงิน และนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจตามข้อ ๑ แจ้งและส่งข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมของบุคคลดังกล่าวที่ได้กระทำขึ้นตั้งแต่วันที่ ๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ จนถึงวันที่ 27 พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ ส่งให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ภายในสามวันนับตั้งแต่วันที่มีคำสั่ง
       
       ข้อ ๓ การขอเพิกถอนคำสั่งห้ามทำนิติกรรมสัญญาหรือการดำเนินการใดๆ ทางการเงิน ทางธุรกิจ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินกับบุคคลทั้งสอง เฉพาะรายครั้งแล้วแต่กรณี ให้บุคคลทั้งสองพร้อมด้วยสถาบันการเงิน หรือนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจ ตามข้อ ๑ ยื่นคำขอ และแสดงตนต่อหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ พร้อมด้วยหลักฐานที่แสดงว่าการทำนิติกรรม สัญญาหรือการดำเนินการใดๆ ทางการเงิน ทางธุรกิจ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินตามข้อ ๑ ไม่ได้เป็นการกระทำ หรือสนับสนุนการกระทำเพื่อให้เกิดเหตุแห่งความไม่สงบเรียบร้อยของบ้านเมือง
       
       ข้อ ๔ ผู้ใดฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
       
       สั่ง ณ วันที่ ๒๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗
       
       พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       (ประยุทธ์ จันทร์โอชา)
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (เฉพาะ)ฉบับที่ ๔๒/๒๕๕๗

       เรื่อง แต่งตั้งคณะที่ปรึกษาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       ตามที่มีประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติฉบับที่ ๒๒/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๓ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ เรื่อง การจัดส่วนงาน การกำหนดอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ แล้วนั้น เพื่อให้การบริหารราชการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ตามประกาศฉบับดังกล่าว เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ จึงแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ดังนี้
       
       ๑. พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธาน
       
       ๒. พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รองประธาน
       
       ๓. หม่อมราชวงศ์ ปรีดียาธร เทวกุล รองประธาน
       
       ๔. นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา
       
       ๕. นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ที่ปรึกษา
       
       ๖. นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษา
       
       ๗. นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ ที่ปรึกษา
       
       ๘. พลอากาศเอก อิทธพร ศุภวงศ์ ที่ปรึกษา
       
       ๙. พลเอก นภดล อินทปัญญา ที่ปรึกษา
       
       ๑๐. พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ ที่ปรึกษาและเลขานุการ
       
       ให้คณะที่ปรึกษาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีอำนาจหน้าที่ ดังนี้
       
       (๑) ให้ข้อเสนอแนะต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ตามเรื่องที่อยู่ในขอบเขตอำนาจความรับผิดชอบ และตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       (๒) ให้ความเห็นตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติขอคำปรึกษา
       
       (๓) แต่งตั้งคณะบุคคลทำหน้าที่คณะอนุกรรมการ คณะทำงาน และเจ้าหน้าที่ตามความเหมาะสม
       
       (๔) การเสนอเรื่องใด ๆ ต่อหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติให้เสนอผ่านที่ปรึกษาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       
       สั่ง ณ วันที่ ๒๖ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗
       
       พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       (ประยุทธ์ จันทร์โอชา)
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ไม่ว่าเราจะมีความทุกข์เพียงไร เราก็มีความสุขกับชีวิตได้
เพราะเราเลือกที่จะ.."เข้าใจ" แทนการเลือกที่จะ.."เจ็บปวด"
"ยอมรับ" ในสิ่งที่เป็นอยู่ "ปล่อยวาง" ในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว  "มีศรัทธา" กับสิ่งที่กำลังจะมาถึง และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

ฟ้าเปลี่ยนสี

คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๒๗/๒๕๕๗

       เรื่อง การแต่งตั้งให้ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่
       
       เพื่อให้การปฏิบัติงานของส่วนราชการต่างๆ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเหมาะสมยิ่งขึ้น หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้
       
       ๑. ให้นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี แต่ยังคงปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้ได้รับเงินเดือนทางสังกัดเดิมไปพลางก่อน
       
       ๒. ให้หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย มาปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีอีกหน้าที่หนึ่ง โดยให้ได้รับเงินเดือนทางสังกัดเดิมไปพลางก่อน
       
       ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       
       สั่ง ณ วันที่ ๒๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗
       
       พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       (ประยุทธ์ จันทร์โอชา)
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๒๘/๒๕๕๗

      เรื่อง การแต่งตั้งให้ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่
       
       เพื่อให้การปฏิบัติงานของส่วนราชการต่าง ๆ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเหมาะสมยิ่งขึ้น หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้
       
       ๑. ให้ นายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา มาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้ได้รับเงินเดือนทางสังกัดเดิมไปพลางก่อน
       
       ๒. ให้ นายดิสทัต โหตระกิตย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา
       
       ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       
       สั่ง ณ วันที่ ๒๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗
       
       พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       (ประยุทธ์ จันทร์โอชา)
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๒๙/๒๕๕๗

       เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม
       
       เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้ นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ มารายงานตัว ณ ห้องจามจุรี สโมสรทหารบก เทเวศร์ ในวันที่ ๒๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ เวลา ๑๐.๐๐ – ๑๐.๓๐ น.
       
       สั่ง ณ วันที่ ๒๘ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗
       
       พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       (ประยุทธ์ จันทร์โอชา)
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
        คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 30/2557

       เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม
       
       เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้บุคคลเข้ามารายงานตัว ณ ห้องจามจุรี สโมสรทหารบก เทเวศร์ ณ วันที่ 30 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 10.00 น.ถึง 12.00 น. ดังนี้
       
       1. น.ส.อภิรดี สุพรรณ
       2. นายประเสริฐ ทองนุ่น
       3. นายสุนทร ลิ้มภิกุล
       4. นายประวิทย์ ใจห้าว
       5. นายอานำ วิภูสมิทธ์
       6. นายณรงค์ แก้วพรพงศ์
       7. พ.ต.อ.พินิจ ไชยเสนีย์
       8. นายชัยมงคล เสน่หา
       9. นายอนุศักดิ์ อนุการ
       
       สั่ง ณ วันที่ 28 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
      คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 31/2557

       เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม
       
       เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้บุคคลเข้ามารายงานตัว ณ ห้องจามจุรี สโมสรทหารบก เทเวศร์ ในวันที่ 30 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 10.00-11.00 น. ดังนี้
       
       1. นายสุวิชา พานิชผล
       2. น.ส.สายลม กาบบัวแดง
       3. นายโยธิน ศรีจันทร์เทพ
       4. นายแพทย์สง่า คุณยศยิ่ง
       5. ร.อ.ทองทศ มากสาคร
       6. นางมณีรัตน์ โกทันต์
       7. นายแพทย์เชิดชัย ตันติศิรินทร์
       8. นายปิยบุตร พรหมลักขโณ
       
       สั่ง ณ วันที่ 28 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 32/2557

      เรื่อง แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารตามกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457
       
       ตามที่ได้ประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 16.30 น.เป็นต้นไปแล้วนั้น เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติเกี่ยวกับการยุบ การระงับ การปราบปราม หรือการรักษาความสงบเรียบร้อย ตลอดจนการใช้อำนาจตามกฎอัยการศึก จึงให้ดำเนินการดังนี้
       
       1.กำหนดเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ผู้ใช้อำนาจตามกฎอัยการศึกดังนี้
       1.1 กองบัญชาการกองทัพไทย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารตามกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 ทั่วราชอาณาจักร
       
       1.2 กองทัพบก
       1.2.1 ผู้บัญชาการทหารบกเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารตามกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 ทั่วราชอาณาจักร
       1.2.2 แม่ทัพภาค หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากแม่ทัพภาค เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารตามกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 ตามเขตกองทัพภาค
       
       1.3 กองทัพเรือ
       1.3.1 ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารตามกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 ในเขตรับผิดชอบของกองทัพเรือ
       1.3.2 ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารตามกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 ในทะเลอาณาเขตที่รับผิดชอบ
       1.3.3 ผู้บัญชาการกองเรือภาค หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้บัญชาการกองเรือภาค เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารตามกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 ในเขตทะเล อาณาเขตที่รับผิดชอบ
       
       1.4 กองทัพอากาศ ผู้บัญชาการทหารอากาศ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารตามกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 ในเขตรับผิดชอบของกองทัพอากาศ
       
       2.การใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารตามคำสั่งนี้ หากเป็นการใช้อำนาจในการปฏิบัติการซ้อนกัน ให้ประสานกับปฏิบัติกับผู้รับผิดชอบพื้นที่ตามความจำเป็น
       
       3.การใช้อำนาจตามกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เฉพาะการเกณฑ์ หากมีความจำเป็นต้องกระทำให้รายงานขออนุมัติต่อหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติก่อน เมื่อได้รับอนุมัติแล้วจึงจะดำเนินการได้ ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นไป
       
       สั่ง ณ วันที่ 28 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 33/2557

       เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานเกี่ยวกับการตรวจสอบการทำธุรกรรมทางการเงิน หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของบุคคล หรือนิติบุคคลเท่าที่จำเป็นแก่การรักษาความมั่นคงของชาติ และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวม
       
       เพื่อเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อย ความมั่นคงของชาติ และให้การดำเนินงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงออกคำสั่งดังนี้
       
       ข้อ 1 แต่งตั้งคณะทำงานในการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการตรวจสอบการทำธุรกรรมทางการเงิน หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของบุคคล หรือนิติบุคคลเท่าที่จำเป็นแก่การรักษาความมั่นคงของชาติ และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวม ดังนี้
       
       1.1 อธิบดีกรมสรรพากร
       1.2 เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
       1.3 เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
       1.4 อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ
       
       ข้อ 2 ให้คณะทำงานตามข้อ 1 มีอำนาจแต่งตั้ง และมอบหมายเเจ้าหน้าที่ผู้ใต้บังคับบัญชาเข้าร่วมปฏิบัติหน้าที่ได้ตามความเหมาะสม
       
       ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป
       
       สั่ง ณ วันที่ 28 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 46/2557

       เรื่อง ความผิดเกี่ยวกับการติดตามทวงถามหนี้
       
       ด้วยปรากฏว่า มีบุคคล หรือกลุ่มบุคคลมีพฤติกรรมในการติดตามทวงถามหนี้จากชาวนาอย่างไม่เป็นธรรม และเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งกฎหมาย โดยผู้กระทำความผิดไม่เกรงกลัวต่อการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ของรัฐ และโทษที่จะได้รับสำหรับความผิดนั้น เพื่อเป็นการรักษาความมั่นคง และความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงออกประกาศดังต่อไปนี้
       
       ผู้ใดข่มขืนใจชาวบ้านให้ยอมให้ หรือยอมจ่ายให้ตน หรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยขู่เข็ญว่า จะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของชาวนา หรือของบุคคลที่ 3 จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น ผู้นั้นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       
       ประกาศ ณ วันที่ 28 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ไม่ว่าเราจะมีความทุกข์เพียงไร เราก็มีความสุขกับชีวิตได้
เพราะเราเลือกที่จะ.."เข้าใจ" แทนการเลือกที่จะ.."เจ็บปวด"
"ยอมรับ" ในสิ่งที่เป็นอยู่ "ปล่อยวาง" ในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว  "มีศรัทธา" กับสิ่งที่กำลังจะมาถึง และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

ฟ้าเปลี่ยนสี

คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๓๔/๒๕๕๗

       เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม
       
       เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้บุคคลเข้ามารายงานตัว ณ ห้องจามจุรี สโมสรทหารบก เทเวศร์ ในวันที่ ๓๐ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ เวลา ๑๐.๐๐ - ๑๒.๐๐ ดังนี้
       
       ๑. นางสาวจิรนันท์ จันทวงษ์
       ๒. นายณัฐชัย อินทราย
       ๓. นายเมธี หรือนายนิติธาดา เมธาสุข
       ๔. นายเจริญ ปัญญาวงศ์
       ๕. นายมหวรรณ กะวัง
       ๖. นางสาวอุบลกาญจน์ อมรสิน
       ๗. นายไพรัช สร้างถิ่น
       ๘. นายชัชวาล กาญจนะหุต
       ๙. นายเฉลิมพล เจษฎางกูล ณ อยุธยาหรือ ผาสุก
       ๑๐. นายสมชาติ นาคบรรจง
       ๑๑. นายชาญ ไชยะ
       ๑๒. นายวุฒินันท์ ปราบนอก
       ๑๓. นางสาวสกุล บางระมาด
       ๑๔. นายไพวรรณ์ สีน้ำอ้อม
       ๑๕. นายประเทือง ภิญโญ
       ๑๖. นายพงษ์พิสิษฐ์ คงเสนา
       ๑๗. นายอำนวย คลังผา
       
       สั่ง ณ วันที่ ๒๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗
       
       พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       (ประยุทธ์ จันทร์โอชา)
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๓๕/๒๕๕๗

      เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม
       
       เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้บุคคลเข้ามารายงานตัว ณ ห้องจามจุรี สโมสรทหารบก เทเวศร์ ในวันที่ ๓๐ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ เวลา ๑๓.๐๐ - ๑๕.๐๐ ดังนี้
       
       ๑. นายวิรัช รัตนเศรษฐ
       ๒. นางทัศนียา รัตนเศรษฐ
       ๓. พันตำรวจโทสมชาย เพศประเสริฐ
       ๔. นายโกศล ปัทมะ
       ๕. นายสัมภาษณ์ อัตถาวงศ์
       
       สั่ง ณ วันที่ ๒๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗
       
       พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       (ประยุทธ์ จันทร์โอชา)
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๓๖/๒๕๕๗

       เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม
       
       เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้บุคคลเข้ามารายงานตัว ณ ห้องจามจุรี สโมสรทหารบก เทเวศร์ ในวันที่ ๓๐ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ เวลา ๑๐.๐๐ - ๑๒.๐๐ ดังนี้
       
       ๑. นายสมนึก ธนเดชากุล
       ๒. นายสมบูรณ์ สิมะแสงยาภรณ์
       ๓. นายโคทม อารียา
       ๔. นายนิติภูมิ นวรัตน์
       ๕. นายสมบัติ เฉลิมวุฒินันท์
       ๖. นายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม
       
       สั่ง ณ วันที่ ๒๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗
       
       พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       (ประยุทธ์ จันทร์โอชา)
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๓๗/๒๕๕๗

       เรื่อง ให้ผู้มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิด ที่สำหรับใช้เฉพาะแต่การสงครามนำส่งมอบ
       
       เนื่องด้วยปรากฎว่าได้มีบุคคลจำนวนหนึ่งมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนหรือวัตถุระเบิดสำหรับใช้เฉพาะแต่การสงครามไว้ในครอบครองอันเป็นความผิดตามกฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคำสั่งให้ผู้ที่มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนหรือวัตถุระเบิด ดังกล่าว นำมามอบให้นายทะเบียนท้องที่ ตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.๒๔๙๐ ภายในวันที่ ๑๐ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๗ ให้ผู้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ไม่ต้องรับโทษตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.๒๔๙๐ สำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนให้มีความผิดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ ๒ ปี ถึง ๒๐ ปี
       
       ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       
       สั่ง ณ วันที่ ๒๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗
       
       พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       (ประยุทธ์ จันทร์โอชา)
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ


       
     
ไม่ว่าเราจะมีความทุกข์เพียงไร เราก็มีความสุขกับชีวิตได้
เพราะเราเลือกที่จะ.."เข้าใจ" แทนการเลือกที่จะ.."เจ็บปวด"
"ยอมรับ" ในสิ่งที่เป็นอยู่ "ปล่อยวาง" ในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว  "มีศรัทธา" กับสิ่งที่กำลังจะมาถึง และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

ฟ้าเปลี่ยนสี

ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 47/2557

       เรื่อง ให้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินเป็นผู้ใช้อำนาจหน้าที่แทนประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดินและคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน
       
       ตามที่ได้มีประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 11/2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เรื่อง การสิ้นสุดของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 24/2557 ลงวันที่ 23 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เรื่อง ให้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ต่อไป แล้วนั้น
       
       เพื่อให้คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปตามประกาศดังกล่าวข้างต้น คณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงประกาศให้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินเป็นผู้ใช้อำนาจหน้าที่แทนประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดินและคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน
       
       ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
       
       ประกาศ ณ วันที่ 29 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 48/2557

       เรื่อง การสรรหาบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งแทนตำแหน่งที่ว่าง
       
       ตามที่ได้มีประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 11/2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เรื่อง การสิ้นสุดของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ให้ศาลทั้งหลาย องค์กรอิสระ และองค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2550 ยังคงมีอำนาจดำเนินการพิจารณาและพิพากษาอรรถคดี หรือปฏิบัติหน้าที่ต่อไป แล้วแต่กรณีนั้น เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของศาลหรือองค์กรดังกล่าวเป็นไปได้โดยต่อเนื่อง หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงมีประกาศดังต่อไปนี้
       
       ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดิน กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แทนตำแหน่งที่ว่าง ให้ดำเนินการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่เคยดำเนินการสรรหามาแล้วตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 และหากในการสรรหาดังกล่าวไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งใดซึ่งเป็นตำแหน่งที่ต้องมีในคณะกรรมการสรรหาด้วย ให้คณะกรรมการสรรหาประกอบด้วยกรรมการเท่าที่มีอยู่
       
       ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       
       ประกาศ ณ วันที่ 29 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 49/2557

      เรื่อง ความผิดสำหรับการสนับสนุนการชุมนุมทางการเมือง
       
       ตามที่ได้มีการประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 7 เรื่อง ห้ามชุมนุมทางการเมือง โดยกำหนดห้ามมิให้มั่วสุม หรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป นั้น เพื่อให้การรักษาความสงบเรียบร้อยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ คณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงมีประกาศดังต่อไปนี้
       
       โดยปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลชุมนุมทางการเมืองฝ่าฝืนประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติข้างต้น โดยมีบุคคลกระทำการอันเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่ผู้กระทำความผิด โดยการอนุญาตให้ใช้สถานที่ หรือสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการชุมนุมทางการเมือง เช่น เครื่องขยายเสียง เต็นท์ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า หรือกระทำโดยประการอื่น ให้ผู้กระทำการในลักษณะดังกล่าวระงับ หรือยุติกระทำการทันที มิเช่นนั้น ผู้กระทำดังกล่าวอาจถูดำเนินคดีตามกฎหมายในฐานะผู้สนับสนุนผู้กระทำความผิด ซึ่งต้องระวางโทษสองในสามส่วนของโทษที่ประกาศไว้ตามประกาศข้างต้น และอาจถูกริบทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิดดังกล่าวด้วย
       
       ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       
       ประกาศ ณ วันที่ 30 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ไม่ว่าเราจะมีความทุกข์เพียงไร เราก็มีความสุขกับชีวิตได้
เพราะเราเลือกที่จะ.."เข้าใจ" แทนการเลือกที่จะ.."เจ็บปวด"
"ยอมรับ" ในสิ่งที่เป็นอยู่ "ปล่อยวาง" ในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว  "มีศรัทธา" กับสิ่งที่กำลังจะมาถึง และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

ฟ้าเปลี่ยนสี

คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๔๑/๒๕๕๗

       เรื่อง การปราบปรามและหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด
       
       เพื่อให้การบริหารราชการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในการปราบปรามและหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติดให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถลดผลกระทบที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนและสังคมโดยรวม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้
       
       ๑.ให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดของทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการปราบปรามและจับกุมผู้ผลิต ผู้ค้า ผู้นำเข้า และส่งออก รวมทั้งผู้สมคบและสนับสนุนช่วยเหลือให้ได้ผลอย่างจริงจังในทุกพื้นที่ สกัดกั้นการลักลอบนำเข้ายาเสพติดตลอดแนวชายแดน ปราบปรามเครือข่ายค้ายาเสพติดในทุกหมู่บ้านและชุมนุมทั่วประเทศ และใช้มาตรการตรวจสอบเพื่อยึดหรืออายัดทรัพย์สินของผู้เกี่ยวข้องทั้งระบบ
       
       ๒.ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบควบคุมตรวจสอบสถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ ที่พัก อาคารในเชิงพานิชย์ ประเภท หอพัก อาคารชุด หรือ เกสเฮ้าส์ ที่ให้ผู้อื่นเช่า สถานที่ที่จัดให้มีการเล่น บิลเลียด สนุกเกอร์ รวมทั้งโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานและสถานประกอบการอื่นๆ หากพบว่า มีการปล่อยปละละเลยให้มีการซุกซ่อน จำหน่าย และเสพยาเสพติด ให้มีการดำเนินการลงโทษตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดกับเจ้าของหรือผู้ประกอบการในทันที
       
       ๓.ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบนำผู้เสพยาเสพติดเข้ารับการบำบัดรักษาโดยทันที และติดตามดูแลให้ความช่วยเหลือผู้ผ่านการบำบัดให้สามารถกลับมาดำรงชีวิตได้ตามปกติ ทั้งในด้านการศึกษาและการประกอบอาชีพ โดยประสานงานกับทุกองค์กรที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งภาคประชาชนและองค์กรชุมชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานดังกล่าวอย่างจริงจัง
       
       ๔.เจ้าหน้าที่ของรัฐคนใดปล่อยปละละเลยหรือเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจะต้องถูกดำเนินการทางวินัย และทางอาญาทันที
       
       ๕.ให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ติดตามผลการดำเนินงานตามข้อ ๑-๔ และรายงานผลการปฏิบัติให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติทราบอย่างต่อเนื่อง
       
       ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       
       สั่ง ณ วันที่ ๓๑ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗
       
       พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       (ประยุทธ์ จันทร์โอชา)
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๔๒/๒๕๕๗

      เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม
       
       เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้บุคคลเข้ามารายงานตัว ณ ห้องจามจุรี สโมสรทหารบก เทเวศร์ ในวันที่ ๒ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๗ เวลา ๑๐.๐๐ - ๑๒.๐๐ ดังนี้
       
       ๑. นายคารม พลพรกลาง
       ๒. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ
       
       สั่ง ณ วันที่ ๑ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๗
       
       พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       (ประยุทธ์ จันทร์โอชา)
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
      คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๔๓/๒๕๕๗

      เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม
       
       เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้บุคคลเข้ามารายงานตัว ณ ห้องจามจุรี สโมสรทหารบก เทเวศร์ ในวันที่ ๒ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๗ เวลา ๑๐.๐๐ - ๑๒.๐๐ ดังนี้
       
       ๑. พันตำรวจเอก นริศ แสวงจิตร
       ๒. นางหน่อย แดงเป้า
       ๓. นางสาว การิน ประจันทร์
       ๔. นายสิทธิชัย กิตติธเนศวร
       ๕. นายประภัสร์ จงสงวน
       ๖. นายจักรพันธ์ุ ยมจินดา
       ๗. นายบัญญัติ เย็นใจเฉื่อย
       ๘. นายณรงค์ศักดิ์ พลายอร่าม
       
       สั่ง ณ วันที่ ๑ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๗
       
       พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       (ประยุทธ์ จันทร์โอชา)
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๔๔/๒๕๕๗

       เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม
       
       เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้บุคคลเข้ามารายงานตัว ณ ห้องจามจุรี สโมสรทหารบก เทเวศร์ ในวันที่ ๓ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๗ เวลา ๑๐.๐๐ - ๑๒.๐๐ ดังนี้
       
       ๑. นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ
       ๒. นายเก่งกิจ กิติเรียงลาภ
       ๓. นายรัชพงศ์ โอชาพงศ์
       ๔. นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย
       ๕. น.ส.อุลัยรัตน์ ชูด้วง
       ๖. นายอัมรินทร์ ใสรัมย์
       ๗. นายนิพนธ์ ผดุงศิลป์ไพโรจน์
       ๘. นางปราณี ด่านวัฒนานุสรณ์
       ๙.นายกิตติศักดิ์ สุจิตตารมย์
       ๑๐. น.ส.จิตรา คชเดช
       ๑๑. นางสลิลทิพย์ ณ พัทลุง
       ๑๒. นายสุวัฒน์ หล่ำบุตร
       ๑๓. นายเสรีภาพ สุนทรชัยภัค
       ๑๔. นายพฤทธิ์นรินทร์ ธนบริบูรณ์สุข
       ๑๕. นายสราวุฒิ ภูธรโยธิน
       ๑๖. นายวันชัย จงจรูญหิรัณย์
       ๑๗. นายธนพร ศรียากูล
       ๑๘. นายพฤกษ์ พฤกษ์สุนันท์
       ๑๙. นายพิพัฒน์ พรรณสุวรรณ์
       ๒๐. นางยุพิณ กองจันดี
       ๒๑. นายเฉลียว จันเขียด
       ๒๒. นายสิรภพ กรณ์อรุษ
       ๒๓. นายเอกราช เนตรดี
       ๒๔. นายปัญญา สุรกำจรโรจน์
       ๒๕. นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์
       ๒๖. นายธนัท ศรีนิธิโฆษิต
       ๒๗. น.อ.สุรพล นะวะมวัฒน์
       ๒๘. นายคฑาวุธ บูรณ์พิทักษ์
       
       สั่ง ณ วันที่ ๑ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๗
       
       พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       (ประยุทธ์ จันทร์โอชา)
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       ประกาศ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 51/2557

       เรื่อง การพิจารณาและวินิจฉัยคดีเกี่ยวกับการเลือกตั้งและเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น
       
       ตามที่ได้มีการประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 11/2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เรื่องการสิ้นสุดของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาราจักรไทย แล้วนั้น เพื่อให้ศาลอุทธรณ์สามารถดำเนินการพิจารณาและพิพากษาคดีเกี่ยวกับการเลือกตั้งและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นต่อไป คณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงมีประกาศดังต่อไปนี้
       
       ให้ศาลอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์ภาคมีอำนาจพิจารณาและวินิจฉัยคดีที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งและเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น ในกรณีที่ประกาศผลการเลือกตั้งแล้วต่อไป ทั้งนี้ วิธีพิจารณาและวินิจฉัยคดีดังกล่าวให้เป็นไปตามระเบียบที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาว่าด้วยวิธีพิจารณาและวินิจฉัยคดีเกี่ยวกับการเลือกตั้งและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2550
       
       ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       
       ประกาศ ณ วันที่ 31 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
       
       พลเอก ประยุทธ จันทร์โอชา
       (ประยุทธ์ จันทร์โอชา)
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
       
       ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 52/2557

      เรื่อง ยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถานในบางพื้นที่
       
       เพื่อเป็นการเสริมสร้างบรรยากศการท่องเที่ยว และลดผลกระทบจากการห้ามออกนอกเคหสถานในพื้นที่ที่อยู่ในสภาวะสงบและปราศจากการชุมนุมทางการเมืองอันส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ จึงให้ยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถานในพื้นที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี พื้นที่อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดภูเก็ต สำหรับพื้นที่อื่นให้ยังคงปฏิบัติตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 42/2557 ลงวันที่ 26 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เรื่อง แก้ไขห้วงเวลาห้ามออกนอกเคหสถาน
       
       ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
       
       ประกาศ ณ วันที่ 3 มิถุนายน พุทธศักราช 2557
       พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ไม่ว่าเราจะมีความทุกข์เพียงไร เราก็มีความสุขกับชีวิตได้
เพราะเราเลือกที่จะ.."เข้าใจ" แทนการเลือกที่จะ.."เจ็บปวด"
"ยอมรับ" ในสิ่งที่เป็นอยู่ "ปล่อยวาง" ในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว  "มีศรัทธา" กับสิ่งที่กำลังจะมาถึง และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด

ฟ้าเปลี่ยนสี

คำสั่งคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ที่ 45/2557

       เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ
       
       เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดิน และการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐเป็นไปด้วยความรอบคอบมีความโปร่งใส และอยู่ในระเบียบวินัยการเงินและการคลัง คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติจึงออกคำสั่งดังนี้
       
       ข้อ 1.แต่งตั้งคณะกรรมการติดตาม และตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ หรือ คตร. ซึ่งประกอบด้วย
       
        1.ปลัดบัญชีทหารบก เป็นประธานกรรมการ
        2.ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นรองประธานกรรมการคนที่หนึ่ง
        3.ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เป็นรองประธานกรรมการคนที่สอง
        4.ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เป็นรองประธานกรรมการคนที่สาม
        5.เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ เป็นกรรมการ
        6.อธิบดีกรมบัญชีกลาง เป็นกรรมการ
        7.ผู้อำนวยการสำนักประเมินผล สำนักงบประมาณ เป็นกรรมการ
        8.เจ้ากรมจเรทหารบก เป็นกรรมการ
        9.ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจสอบภายในทหารบก เป็นกรรมการ
        10.ผู้อำนวยการสำนักงานพระธรรมนูญทหารบก เป็นกรรมการ
        11.ผู้แทนฝ่ายความมั่นคงตามประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ฉบับที่ 22 /2557 เป็นกรรมการ
        12.ผู้แทนฝ่ายสังคมจิตวิทยาตามประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ฉบับที่ 22 /2557 เป็นกรรมการ
        13.ผู้แทนฝ่ายเศรษฐกิจตามประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ฉบับที่ 22 /2557 เป็นกรรมการ
        14.ผู้แทนฝ่ายกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมตามประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ฉบับที่ 22 /2557 เป็นกรรมการ
        15.ผู้แทนฝ่ายกิจการพิเศษตามประกาศคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ ฉบับที่ 22 /2557 เป็นกรรมการ
        16.ผู้แทนคณะรักษาความสงบแห่งชาติเป็นเลขานุการ
        17.ผู้แทนคณะรักษาความสงบแห่งชาติเป็นผู้ช่วยเลขานุการคนที่หนึ่ง
        18.ผู้แทนสำนักงบประมาณเป็นผู้ช่วยเลขานุการคนที่ สอง
       
       ข้อ 2.ให้คณะกรรมการตามข้อ 1 มีอำนาจหน้าที่ดังนี้
       
        1.ติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐให้เป็นไปด้วยความโปร่งใส และถูกต้องภายใต้กรอบงบประมาณของรัฐ ควบคู่กับการติดตาม และตรวจสอบตามปกติของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ โดยมุ่งเน้นแผนงานหรือโครงการที่สำคัญ ซึ่งอยู่ในอำนาจของรัฐมนตรีและหัวหน้าส่วนราชการที่มีผลต่อความเป็นอยู่ของประชาชน และการพัฒนาประเทศ
        2.รายงานผลการดำเนินการ และเสนอแนะความเห็นให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติทราบโดยเร็ว เพื่อพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
        3.เสนอแนะเพื่อให้มีการดำเนินการในลักษณะที่เป็นคุณ หรือเป็นโทษต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องได้ ทั้งนี้ ตามระเบียบแบบแผนของราชการและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
        4.เข้าไปในสถานที่ของส่วนราชการรัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอื่นของรัฐ หรือสถานที่อื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อประโยชน์ในการติดติดและตรวจสอบข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง
        5.เชิญข้าราชการ บุคคล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง หรือส่งเอกสารให้ตามความเหมาะสม
        6.แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อปฏิบัติการใดๆ ตามที่คณะกรรมการ หรือหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติมอบหมาย
       
       ข้อ 3.เพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานของคณะกรรมการตามข้อ 1 ให้สำนักปลัดบัญชีกองทัพบกเป็นหน่วยงานรับผิดชอบ และมีกำลังพลตามจำนวนที่เหมาะสม ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนงานทั่วไปและงานที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการ
       
       ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
       
       สั่ง ณ วันที่ 3 มิถุนายน พุทธศักราช 2557
       
       พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
       หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ไม่ว่าเราจะมีความทุกข์เพียงไร เราก็มีความสุขกับชีวิตได้
เพราะเราเลือกที่จะ.."เข้าใจ" แทนการเลือกที่จะ.."เจ็บปวด"
"ยอมรับ" ในสิ่งที่เป็นอยู่ "ปล่อยวาง" ในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว  "มีศรัทธา" กับสิ่งที่กำลังจะมาถึง และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด