Apple เปิดตัว iOS 8 ระบบปฏิบัติการใหม่ iPhone, iPad พร้อมฟีเจอร์น่าสนใจมากมาย!

[itplaza]

iOS อัพเดทข่าวล่าสุดกับ ป๋าเอก TechXcite เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมาสำหรับ iOS 8ระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นต่อไปจาก Apple ที่มาพร้อมความสามารถน่าสนใจใหม่ๆหลายประการทั้งในฝั่งของผู้ใช้งานทั่วไปรวมไปจนถึงเหล่านักพัฒนาเองด้วย ดังนั้นแล้วในบทความนี้เราจะมาทำการสรุปฟีเจอร์ใหม่น่าสนใจใน iOS 8กันบ้างว่ามีอะไรบ้างครับ :)

ฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 8



Photos

ภาพถ่ายไม่ว่าจะถ่ายด้วย iPhone หรือ iPad จะถูกนำไปจัดเก็บรวมกันไว้ผ่านทาง iCloud Photo Library ได้มากกว่า 1000 ภาพ
แอป Photo แบบใหม่สามารถค้นหาภาพได้จากชื่อสถานที่ วัน และเวลาในการถ่ายภาพได้
เพิ่มฟีเจอร์ในการแต่งภาพผ่านแอป Photo พื้นฐานให้มากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งแสงหรือ Contrast ได้ด้วยชุดเครื่องมือแบบสไลด์
เพิ่มโหมดใหม่ถ่ายวิดีโอแบบ Time-Lapse ได้


Messages

iMessage สามารถส่งข้อความเสียงหรือวิดีโอได้แล้ว
สามารถจัดการสร้างกลุ่มแชต เพิ่มหรือลบสมาชิกในกลุ่มได้ตามต้องการ
แชร์พิกัดของผู้ใช้งานในกลุ่ม iMessage ได้อีกต่างหาก


Design

ระบบ Notification แบบใหม่ที่เราสามารถมีปฏิสัมพันธ์ได้เลยโดยตรงโดยไม่ต้องสลับแอปในการใช้งานไปมาเช่น Facebook สามารถกด Like หรือ Comment ได้ทันทีหรือการตอบข้อความใน Messages ที่สามารถทำได้ผ่าน Notifciation Center ได้เลย
หน้าจอ Multitasking เพิ่มรายชื่อผู้ติดต่อทั้งแบบ Favorite และล่าสุดโชว์ให้เห็นกันในหน้าจอนี้เลยซึ่งจะมีคีย์ลัดสามารถกดโทรออก, ส่งข้อความหรือ FaceTime หากันได้ทันที
อีเมล์เพิ่มฟีเจอร์ Flag สำหรับปักหมุดอีเมล์สำคัญ
Safari บน iPad มองเห็นหน้าต่างหรือแท็บที่เปิดไว้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นบน iPad หรืออุปกรณ์อื่นก็ตาม


QuickType

คีย์บอร์ดแบบใหม่ของ iOS 8 เพิ่มระบบทายศัพท์ล่วงหน้าเพื่อเพิ่มความเร็วในการพิมพ์และข้อมูลการพิมพ์ของผู้ใช้งานจะถูกเก็บเอาไว้เป็นความลับในเครื่อง
สามารถติดตั้งคีย์บอร์ดของผู้พัฒนาเจ้าอื่นได้แล้วจาก App Store เช่น Sqype Keyboard เป็นต้น


Family Sharing

สามารถแชร์ภาพถ่าย, วิดีโอ, ปฏิทินหรือข้อมูลระหว่างสมาชิกในบ้านได้สูงสุด 6 คน
สามารถแชร์แอป, เพลง, วิดีโอหรือหนังสือที่ซื้อมาผ่าน App Store ได้ระหว่างสมาชิกในบ้านสูงสุด 6 คนโดยไม่ต้องแชร์ Apple ID กันอีกต่อไป
สามารถดูพิกัดของอุปกรณ์ของสมาชิกในบ้านแต่ละคนได้แล้ว
หากลูกต้องการซื้อแอปหรืออะไรก็ตามแต่ใน App Store พ่อแม่จะได้รับข้อความเตือนว่าจะอนุญาตให้มีการซื้อหรือไม่เพราะข้อมูลบัตรเครดิตจะถูกแชร์ระหว่างสมาชิกในบ้านได้เลย


iCloud Drive

ไฟล์จากโปรแกรมหรือแอปต่างๆจะถูกจัดเก็บไว้บน iCloud
หากต้องการใช้งานก็สามารถเข้าถึงได้ผ่าน iPhone, iPad, Mac หรือคอมพิวเตอร์ Windows ทั่วไปได้ทุกเวลา


Health

เก็บข้อมูลด้านสุขภาพและฟิตเนสของผู้ใช้งานรวมกันไว้ในที่เดียวไม่ว่าจะเป็นอัตราการเต้นของหัวใจ, ปริมาณแคลอรี่เผาผลาญ, ระดับน้ำตาลในเลือดหรือระดับคอเรสเตอรอล
แอปสุขภาพอื่นๆจะสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้งานได้ต่อไปในอนาคต


Continuity

ระบบ Handoff หากเราทำงานค้างไว้บนอุปกรณ์หนึ่ง ที่อุปกรณ์อื่นๆจะมีไอคอนแจ้งเตือนซึ่งหากเรากดเปิดดูก็จะพบว่าทุกสิ่งที่กำลังค้างอยู่นั้นได้มาโผล่ในทุกอุปกรณ์ของเราเองด้วยไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์เอกสารหรือจัดการอีเมล์เป็นต้น
สามารถรับโทรศัพท์ด้วย iPad หรือ Mac ได้หากว่า iPhone อยู่ห่างจากตัวแต่อยู่ในเครือข่าย WiFi เดียวกัน นอกจากนี้ยังสามารถสั่งโทรศัพท์จากเครื่อง Mac หรือ iPad ออกไปยัง iPhone ได้ด้วยเช่นกัน
ข้อความใน iMessage จะโผล่ทุกที่ที่เชื่อมต่อไว้ไม่ว่าจะเป็น iPhone, iPad หรือ Mac ก็ตาม


Spotlight

ระบบการค้นหาข้อมูลที่สามารถค้นหาได้แทบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นข้อมูลในเครื่องหรือข้อมูลจากโลกอินเทอร์เน็ตที่ดึงมาจาก Wikipedia, iTunes Store หรือ App Store นอกจากนี้ยังได้รับการนำไปใส่ไว้ใน Safari ด้วย


บทความโดย : ป๋าเอก TechXcite

ที่มา : apple

http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=5&news_id=36362&page=1

[ทีมงานประชาสัมพันธ์]

สรุปภาพรวมงาน WWDC 2014 เปิดตัวแค่ OS X Yosemite กับ iOS 8 ไร้วี่แวว iPhone 6

ผ่านพ้นกันไปหมาดๆ นะครับสำหรับงาน WWDC 2014 หรืองานประชุมนักพัฒนาประจำปีของ Apple ที่สมชื่องานจริงๆ ครับ ก่อนหน้านี้คาดว่าจะมีการเปิดตัวดีไวซ์ปริศนาบ้างอะไรบ้าง สุดท้ายเป็นแค่การเปิดตัวระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ล้วนๆ เลยได้แก่ OSX Yosemite ของทางฝั่ง Mac และไฮไลท์อย่าง iOS 8 และเพื่อให้เข้ากับเว็บ Specphone ของเรา จะขอเน้นไปที่ iOS 8 มากกว่า OS X Yosemite ก็แล้วกันครับ

OS X Yosemite

[attach=2]

UI ออกแบบใหม่ มีความใกล้เคียงกับทางฝั่ง Mobile มากขึ้น
เน้นการใช้งานร่วมกันระหว่าง Mac กับ iDevice


iOS 8

[attach=3]

ภาพรวมของมันก็คือการพัฒนามาจาก iOS 7 อีกทีหนึ่งครับ แต่ Apple บอกว่าเป็น Giant Release เลยนะ สำหรับฟีเจอร์เด่นๆ ก็ได้แก่

สามารถโต้ตอบกับ Notification ได้ทันทีโดยไม่ต้องเข้าแอพ
ส่งอีเมล์ได้ง่ายขึ้น
คีย์บอร์ดแบบ Quick type เพิ่มระบบการแนะนำคำ และลงคีย์บอร์ดเพิ่มเติมได้เอง
Sportlight ค้นหาได้ทุกอย่างทั้งในเครื่องและนอกเครื่อง
Healthkit ศูนย์รวมทุกอย่างเกี่ยวกับแอพเพื่อสุขภาพ
Family Sharing สามารถแชร์แอพหรืออะไรก็ตาม (เพลง, ภาพยนตร์ได้หมด) ที่ซื้อด้วยกันผ่านบัตรเครดิตเดียวกันบน iTunes Store ได้สูงถึง 6 คน และมีระบบป้องกันเด็กซื้อแอพเองได้ด้วย
Photo ปรับปรุงใหม่ เพิ่มฟีเจอร์ Smart Editing สามารถแก้ไขปรับแต่งภาพได้ละเอียดยิ่งขึ้น
เน้นการใช้งานร่วมกับ 3rd Party App
Siri รองรับเพิ่มอีก 22 ภาษา (ไม่แน่ใจว่ามีไทยหรือเปล่านะครับ)
App Store ค้นหาแอพได้ง่ายขึ้น มีฟีเจอร์ทดลองใช้แอพ รวมถึงการซื้อแอพแบบมัดรวม
HomeKit ควบคุมบ้านด้วย iPhone อาทิเช่น ล็อกประตู, เปิดไฟ, ควบคุมกล้องวงจรปิด เป็แถมเชื่อมต่อกับ Siri ได้ด้วย (นี่มันจาร์วิสของ Iron Man ชัดๆ)
API ใหม่ชื่อว่า Metal ช่วยให้นักพัฒนาเข้าถึงพลังของ CPU และ GPU ใน iOS ได้มากขึ้น เรียกได้ว่าจะรีดประสิทธิภาพของชิป A7 ได้เต็มที่ก็ตอนนี้แหละ
Xcode ใหม่ เปลี่ยนจากภาษา C มาเป็นภาษา Swift ที่เร็วกว่า ทันสมัยกว่า


ปิดท้ายด้วย iDevice ที่ได้ไปต่อ iOS 8 ครับ

[attach=4]

iPhone 4s
iPhone 5
iPhone 5s
iPhone 5c
iPod Touch Gen 5
iPad 2
iPad with Retina Display (iPad 4)
iPad Air
iPad Mini
iPad Mini with Retina Display
โดย iOS 8 Beta จะเปิดให้นักพัฒนาดาวโหลดได้ในทันที เช่นเดียวกับ OS X Yosemite ตัว Preview ส่วนตัวเต็มนั้นบอกว่าเจอกันในฤดูใบไม้ร่วงครับ (น่าจะช่วงที่เปิดตัว iPhone 6 ประมาณเดือนกันยายนนั่นเอง) สำหรับข้อมูลอื่นๆ แบบละเอียดโปรดติดตามได้จากเว็บไซต์ Specphone เร็วๆ นี้ครับ