แจงระงับโครงการน้ำ 3.5 แสนล้านไม่ได้ยกเลิก "ประยุทธ์" เรียกคุยพรุ่งนี้

[ฟ้าเปลี่ยนสี]

แจงระงับโครงการน้ำ 3.5 แสนล้านไม่ได้ยกเลิก "ประยุทธ์" เรียกคุยพรุ่งนี้ ชี้ขาดเดินหน้าต่อ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    
8 มิถุนายน 2557 18:13 น.

คสช. แจงระงับโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน เพื่อรับทราบข้อมูลในภาพรวมทั้งหมด ไม่ได้ยกเลิกโครงการทั้งหมด พรุ่งนี้ หัวหน้า คสช. เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม พิจารณาว่าโครงการไหนเดินหน้าต่อ เน้นคำนึงผลประโยชน์ชาติ และผลกระทบประชาชนบางกลุ่มด้วยความรอบคอบ
       
       วันนี้ (8 มิ.ย.) พ.อ. วีรธัช ศรีใส ผู้ประสานงานเรื่องการบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในภาพรวมของประเทศ กล่าวถึงกรณีที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ออกเอกสารสั่งระงับการดำเนินการโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ว่า เอกสารดังกล่าวเป็นของจริง ที่ออกโดย คสช. เพื่อส่งไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน โครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท เพื่อให้ระงับการดำเนินการทุกอย่างในภาพรวม แต่ ไม่ได้เป็นการยกเลิกโครงการตามที่สื่อออนไลน์ได้นำเสนอไป โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ คสช. รับทราบข้อมูลในภาพรวมทั้งหมดอย่างเหมาะสม พร้อมทั้งผลักดันเดินหน้า บูรณาการทุกโครงการให้มีความสอดคล้อง เหมาะสม คุ้มกับงบประมาณ
       
       " ไม่ใช่การหยุด เพียงแต่ให้ชะลอไว้ก่อนเพื่อให้ทุกฝ่าย ทุกหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ได้เข้ามาพูดคุยกันในภาพรวม ว่าโครงการไหนเหมาะสมที่จะเดินหน้าต่อ เช่น สมมุติว่ามีอยู่ 100 โครงการ ส่วนราชการอาจจะเสนอ 900 โครงการ ที่เห็นว่ามีความสำคัญ เร่งด่วนในการดำเนินการ หรืออาจจะปรับรูปแบบ หาทางแก้ปัญหา บางโครงการอาจจะไปทับที่ของชาวบ้านอยู่ เราก็มาหารือร่วมกันว่าจะหาทางออกอย่างไร" พ.อ.วีรธัช กล่าว
       
       พ.อ.วีระธัช กล่าวต่อว่า ในวันจันทร์ที่ 9 มิ.ย. นี้ ทาง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้า คสช. จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการดังกล่าวประมาณ 20 หน่วยงาน อาทิ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมชลประทาน กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ กรมทรัพยากรน้ำฯ มาประชุมร่วมกันที่กองบัญชาการกองทัพบก
       
       " ในที่ประชุมในวันพรุ่งนี้ คสช. จะพิจารณาโครงการทั้งหมดว่า มีโครงการไหนที่ต้องสปีด คสช. จะไม่รอให้เกิดความล้าช้า จะรวบร่วมข้อมูลทั้งหมด และชี้ชัดไปเลยว่าจะให้เดินหน้าโครงการไหนต่อ โดยต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนในภาพร่วม และต้องดูผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนบางกลุ่มด้วยความรอบคอบ" พ.อ. วัรธัช กล่าว