ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

"ประยุทธ์" แจงความคืบหน้าการทำงาน ยันมีรัฐบาลใหม่ ก.ย.

เริ่มโดย ฟ้าเปลี่ยนสี, 22:23 น. 13 มิ.ย 57

ฟ้าเปลี่ยนสี

"ประยุทธ์" แจงความคืบหน้าการทำงาน ยันมีรัฐบาลใหม่ ก.ย.

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    
13 มิถุนายน 2557 22:00 น.

[attach=1]

"ประยุทธ์" แจงความคืบหน้าการทำงาน มั่นใจดำเนินการได้ตามระยะที่กำหนดหากไม่มีปัญหาแทรกซ้อน ยันมีรัฐบาลใหม่ ก.ย. และตั้งแต่ ต.ค. จะมี ครม.เข้าบริหารประเทศ ย้ำทำงานเน้นโปร่งใส เร่งพิจารณาโครงการใหญ่พร้อมยกเลิกถ้าไม่เหมาะสม
       
       วันนี้ (13 มิ.ย.) เวลา 20.25 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่า การดำเนินงานสร้างความปรองดองในระยะที่ 1 ปัจจุบันนั้นจะเริ่มตั้งแต่การลดความขัดแย้ง จัดกิจกรรมให้ประชาชนพบปะกัน โดยให้ทุกคนมีโอกาสที่จะรับฟังความเห็นต่าง หรือรับฟังให้ครบถ้วนในทุกแง่มุม เพื่อให้เกิดความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ลดความหวาดระแวง ในเรื่องของการให้ความยุติธรรม การบังคับใช้กฎหมายแต่เพียงพอดี จะทำให้เกิดความเชื่อมั่นในระบบความยุติธรรม ส่วนสถานการณ์ด้านต่างประเทศ ปัจจุบันมิตรประเทศต่าง ๆ ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อเราก็ได้มีท่าทีที่ดีขึ้น เข้าใจถึงสถานการณ์ในประเทศไทยได้มากขึ้น
       
       ส่วนของการเดินหน้าเพื่อการปฏิรูประยะที่ 1 มีความคืบหน้าไปมาก แล้วคาดหวังว่าระยะที่ 2 ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี ถ้าไม่มีปัญหาแทรกซ้อนใด ๆ ทั้งระยะที่ 1 และ 2 ก็น่าจะเดินไปได้อย่างที่ต้องการ
       
       "ส่วนระยะที่ 1 วันนี้เรากำหนดไว้ชัดเจนว่าเราน่าจะมีรัฐบาลในเดือนกันยายน เพื่อจะดำเนินการขับเคลื่อนประเทศต่อไป ในส่วนของสภานิติบัญญัติเช่นเดียวกันคงต้องเกิดขึ้นก่อน พร้อมๆ กับการประกาศใช้ธรรมนูญชั่วคราว และผมยืนยันว่าตั้งแต่ตุลาคมเป็นต้นไปจะเป็นการบริหารประเทศในลักษณะเป็นรัฐบาลที่มี ครม. และจะพยายามจะขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ใกล้เคียง กับการบริหารราชการในแบบปกติที่ผ่านมาให้ได้มากที่สุด" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
       
       หัวหน้า คสช. กล่าวอีกว่า บางประเทศที่มีท่าทีไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยในครั้งนี้ ตนเคารพในความคิดของทุกประเทศ ไม่ได้ไปตอบโต้ ความสัมพันธ์ยังคงมีอยู่ และยังคงต้องอยู่ต่อไป ในเรื่องของความร่วมมือและบรรยากาศที่ดีทั้งราชการ ภาคเศรษฐกิจ และประชาชน ต้องใช้เวลาให้ประเทศเหล่านั้นได้เข้าใจบริบทของสังคมไทย และผลงานของ คสช.อย่างแท้จริง
       
       ในด้านเศรษฐกิจ สังคม จิตวิทยา เน้นเรื่องความโปร่งใส เป็นธรรม และตรวจสอบได้ โดยได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐบาล หรือ คตร. โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบหารือกำหนดนโยบายต่างๆ ให้เกิดความโปร่งใส และคุ้มค่า มีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างแท้จริง คือจะต้องใช้จ่ายงบประมาณให้เกิดประโยชน์ให้มากที่สุด
       
       ทั้งนี้ขั้นต้นเราจะตรวจสอบโครงการที่มีรายจ่ายวงเงินเกิน 1 พันล้านบาท ทั้งโครงการที่ยังไม่ดำเนินการและได้อนุมัติไปแล้ว หากโครงการใดไม่เหมาะสมต้องหยุดดำเนินการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณต้องระมัดระวัง เตรียมการป้องกันการทุจริต โดยคณะกรรมการตรวจสอบนั้นประกอบไปด้วยภาคส่วนอื่นด้วย อาทิ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน สภาพัฒน์ สำนักงบประมาณ และคณะกรรมการที่เพิ่มเติมโดย คสช.จัดตั้งขึ้น ตนยืนยันว่าจะทำให้ดีที่สุด
       
       พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวด้วยว่า ได้ให้ความสำคัญลำดับแรกในเรื่องการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากค่าครองชีพ วันนี้กระทรวงพาณิชย์ได้เชิญผู้ประกอบการทั้งหมดที่เกี่ยวกับสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีความจำเป็นพื้นฐานมาร่วมประชุม ซึ่งต้องขอบคุณผู้ประกอบการทั้งหมดที่ให้ความร่วมมืออย่างดี โดยยืนยันว่าจะยังคงราคาสินค้าที่จำเป็นต่อไปอีก 6 เดือนข้างหน้า นอกจากนี้ยังมีนโยบายให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องหรือใครก็ตามที่อยากจะช่วย ได้จัดกิจกรรมช่วยเหลือประชาชน เช่น วันนี้ได้สั่งการให้กองทัพบกและทุกเหล่าทัพ ทุกหน่วยงาน จัดจำหน่ายสินค้าราคาถูกจากผู้ผลิตโดยตรงสู่ผู้บริโภค โดยมุ่งเน้นที่เกษตรกรผู้ผลิตรายย่อย
       
       สำหรับด้านพลังงาน คงไม่ใช่เฉพาะเรื่องราคา แต่ต้องไปคิดต่อว่าจะสามารถจัดหาพลังงานให้เพียงพออย่างไร เช่น พลังงานสำรอง การจัดหาพลังงานภายในประเทศ วันนี้เรายังไม่ก้าวไปถึงการเจาะน้ำมันและผลิตเองทั้งหมด ซึ่งถ้าแบบนั้นเราสามารถจะกำหนดราคาได้เอง แต่วันนี้เราได้ประโยชน์จากพลังงานแหล่งพลังงานในประเทศมาจาก 2 อย่าง คือค่าสัมปทานและภาษีต่างๆ เหมือนกับเรานำเข้าพลังงานเกือบทั้งหมด แต่ถ้ามันไม่ใช่เดี๋ยวคณะกรรมการจะพิจารณาขึ้นมาอีก
       
       เรื่องของรายได้ที่กลับมาบางส่วน ส่วนหนึ่งเป็นของรัฐวิสาหกิจ ส่วนหนึ่งเป็นส่วนของภาคธุรกิจบริษัทมหาชน มันต้องแยกกันให้ออกว่า กำไรทั้งหมดมาอย่างไร ซึ่งตนมีแนวคิดอยู่พอสมควร และได้มอบหมายไปแล้ว และคิดว่าคงต้องขอความร่วมมือจาก ปตท. ซึ่งเป็นทั้งรัฐวิสาหกิจและบริษัทมหาชนในเรื่องของพลังงานทดแทน
       
       ในเรื่องกองทุนน้ำมัน วันนี้ต้องศึกษาและสร้างความเข้าใจกับประชาชนว่าถ้าลดตรงนี้ ตรงนั้นมันต้องเพิ่มไปตามกลไกท้องตลาด จะรับได้ไหม ถ้ารับไม่ได้จะทำอย่างไร วันนี้กองทุนน้ำมันติดลบประมาณ 7,400 ล้านบาท เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่เก็บจะได้ไหม ไม่เก็บแล้วทำอย่างไร ตอนนี้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน และกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติที่แต่งตั้งขึ้นกำลังศึกษาเพื่อหาทางออกของปัญหานี้
ไม่ว่าเราจะมีความทุกข์เพียงไร เราก็มีความสุขกับชีวิตได้
เพราะเราเลือกที่จะ.."เข้าใจ" แทนการเลือกที่จะ.."เจ็บปวด"
"ยอมรับ" ในสิ่งที่เป็นอยู่ "ปล่อยวาง" ในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว  "มีศรัทธา" กับสิ่งที่กำลังจะมาถึง และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด