ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

'บิ๊กตู่' ถกหอการค้า ตปท. แจงเหตุยึดอำนาจ ผุดโรดแม็ป 3 ระยะ

เริ่มโดย ฟ้าเปลี่ยนสี, 20:01 น. 19 มิ.ย 57

ฟ้าเปลี่ยนสี

'บิ๊กตู่' ถกหอการค้า ตปท. แจงเหตุยึดอำนาจ ผุดโรดแม็ป 3 ระยะ

โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์
19 มิ.ย. 2557 19:05

[attach=1]

"ประยุทธ์" แจงเหตุทหารยึดอำนาจ ต่อผู้แทนหอการค้า 7 ประเทศ ต้องการพยุงประชาธิปไตยให้มั่นคง หลังฝ่ายนิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ พร้อมผุดโรดแม็ป 3 ระยะ บริหารราชการแผ่นดิน...

เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 มิ.ย. ที่กองบัญชาการกองทัพบก มีรายงานว่า ตัวแทนหอการค้า 7 ประเทศ อาทิ หอการค้าออสเตรีย หอการค้าสหรัฐฯ หอการค้าเยอรมนี และหอการค้าอังกฤษ ได้เข้าหารือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เรื่องสถานการณ์และนโยบายด้านเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยเฉพาะการลงทุนของนักธุรกิจต่างประเทศในไทย ภายหลัง คสช.เข้ามาบริหารประเทศ

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวขอบคุณผู้ร่วมหารือ โดยชี้แจงเหตุผลการควบคุมสถานการณ์ของทหารว่า ต้องการทำให้ประชาธิปไตยมีความยั่งยืน ด้วยการพยุงให้ประชาธิปไตยมั่นคงต่อไปในอนาคต เนื่องจากที่ผ่านมาทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่

นอกจากนี้ ได้ชี้แจงผู้แทนหอการค้าต่างประเทศประจำประเทศไทย ถึงกรอบระยะเวลาในการดำเนินการ หรือโรดแม็ปของการบริหารราชการแผ่นดิน โดยแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ ระยะแรก ในช่วงเวลา 3 เดือน คสช.จะบริหารแทนรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วนที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน เช่น การจ่ายเงินแก่ชาวนา ซึ่งรัฐบาลรักษาการในขณะนั้นไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะติดขัดข้อกฎหมาย หรือการจับกุมสิ่งผิดกฎหมายและอาวุธสงคราม การแก้ปัญหายาเสพติด การบุกรุกทรัพยากรธรรมชาติ และการสร้างสภาวะแวดล้อมให้เกิดการปรองดองสมานฉันท์ในทุกระดับ รวมทั้งการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2557 ที่ยังค้างอยู่จำนวนมาก รวมทั้งจัดทำงบประมาณปี 2558 ให้เสร็จสิ้น ระยะที่ 2 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 จะมีการจัดตั้งรัฐบาล สภานิติบัญญัติ และสภาปฏิรูป ซึ่งรัฐบาลจะใช้เวลาบริหารประเทศประมาณ 1 ปี ควบคู่ไปกับการปฏิรูป และการแก้ปัญหาคั่งค้างที่ยังเหลืออยู่ รวมทั้งเตรียมความพร้อมสู่การเลือกตั้งในระยะที่ 3

และได้สรุปภาพรวมผลการดำเนินการในช่วงที่ผ่านมาว่า สามารถคืนความสงบสุขให้แก่ประเทศ และประชาชน สถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้นตามลำดับ เศรษฐกิจมีการพัฒนากว่าในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา พร้อมยืนยันว่า การเรียกบุคคลรายงานตัวนั้น มีจุดประสงค์เพื่อพูดคุยสร้างความเข้าใจ ไม่ใช่เป็นการควบคุมหรือกักขัง และในช่วงนี้ คสช.ได้เร่งสร้างความพร้อมประเทศในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปลายปี 2558 การขับเคลื่อนและการสนับสนุนการลงทุนที่มีการหยุดชะงักไป รวมทั้งได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และมีการอนุมัติโครงการไปแล้วกว่า 18 โครงการ เป็นเงินกว่าแสนล้านบาท การจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว ทั้งที่ถูกกฎหมาย ผิดกฎหมาย และได้รับการผ่อนผัน เพื่อความสร้างความมั่นคง ปลอดภัยแก่ประชาชน การแก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการค้า การลงทุน

รวมถึงการเร่งเจรจาความตกลงการค้าต่างๆ ที่คั่งค้าง เช่น FTA RCEP การเร่งขยายความร่วมมือในกรอบต่างๆ เช่น อาเซียน EU ให้ยั่งยืนและเกิดประโยชน์ร่วมกัน เพราะ คสช.ตระหนักดีว่าประเทศไทยไม่สามารถอยู่อย่างโดดเดี่ยวได้ จึงตระหนักถึงความสำคัญในการยกระดับความสัมพันธ์กับทุกประเทศ บนพื้นฐานการไว้เนื้อเชื่อใจ ลดความหวาดระแวง และผลประโยชน์ร่วมกันอย่างเท่าเทียม พร้อมขอให้เชื่อมั่นในประเทศไทย ว่าประเทศไทยยังคงสนับสนุนและส่งเสริมการค้าการลงทุนจากต่างประเทศ ทั้งในแง่การต่อยอดและการเพิ่มมูลค่าการลงทุน

พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่า คสช. ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ซื่อสัตย์สุจริต ไม่ได้มุ่งหวังผลประโยชน์แอบแฝงใดๆ ยึดมั่นผลประโยชน์ของประเทศ และประชาชนเป็นที่ตั้ง รวมทั้งความมั่นคง ปลอดภัยของประเทศ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยที่เข้มแข็งและเป็นสากล ทั้งนี้ คสช. ยินดีรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิรูปจากทุกประเทศผ่านช่องทางต่างๆ ของกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงพาณิชย์

อย่างไรก็ตาม ในโอกาสนี้ผู้แทนหอการค้าได้แสดงความขอบคุณหัวหน้า คสช. ที่ได้เปิดโอกาสให้ได้รับฟังข้อมูล และความมุ่งมั่นตั้งใจของ คสช. ในการแก้ปัญหาของประเทศและยังคงส่งเสริมและสนับสนุนการค้า การลงทุนจากต่างประเทศ พร้อมทั้งเชื่อว่าการดำเนินการของ คสช.ครั้งนี้จะเกิดประโยชน์ และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการค้า และการลงทุนจากต่างประเทศ.
ไม่ว่าเราจะมีความทุกข์เพียงไร เราก็มีความสุขกับชีวิตได้
เพราะเราเลือกที่จะ.."เข้าใจ" แทนการเลือกที่จะ.."เจ็บปวด"
"ยอมรับ" ในสิ่งที่เป็นอยู่ "ปล่อยวาง" ในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว  "มีศรัทธา" กับสิ่งที่กำลังจะมาถึง และทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด