ทำความรู้จักกับ APU จากค่าย AMD

[generacity]

หลายๆคนคงจะได้ยินกับคำว่า CPU (Central processing unit) กันมาก็เยอะแล้วซึ่ง CPU เปรียบเสมือนสมองของระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้สั่งงานทั้งหมด แต่บางคนอาจจะไม่เคยได้ยินกับคำว่า APU หรือ Accelerate Processing Unit ของทางค่าย AMD ซึ่งอธิบายง่ายๆ มันก็คือ CPU หรือหน่วยประมวลผลชนิดหนึ่ง แล้วทำไม? จึงต้องมี lineup ที่ชื่อว่า APU เพิ่มเข้ามา มันแตกต่างจาก CPU ทั่วไปอย่างไร มีจุดเด่นอย่างไร ?

APU นั้นมีจุดเด่นในเรื่องของการประมวลผลกราฟิกแบบภายใน (iGPU) หรือที่หลายๆคนเรียกกันติดปากว่า "การ์ดจอออนบอร์ด" เปรียบเสมือนการรวมเอา CPU และ GPU มารวมไว้ด้วยกัน ซึ่งประสิทธิภาพในการประมวลกราฟิกของเจ้า APU เพียงอย่างเดียวนั้นมีประสิทธิภาพพอๆกับการ์ดจอแยก (dGPU) ระดับ Entry หลายๆรุ่นในตลาดเลยทีเดียว ซึ่งหากเทียบกับประสิทธิภาพของ iGPU ของทางฝั่ง Intel นั้นยังเป็นรอง APU อยู่พอสมควร ส่งผลให้เราสามารถใช้งานมัลติมีเดียทั้งดูหนัง เล่นเกมระดับกลางได้อย่างสบาย โดยไม่ต้องหาซื้อการ์ดจอแยกแต่อย่างใด

จุดเด่นอย่างที่สองก็เป็นในเรื่องของการประหยัดพลังงาน เนื่องจากมีการลดขนาดการผลิตให้เล็กลงกว่า CPU รุ่นก่อนๆ รวมถึงการควบรวมเอาหน่วยประมวลผลในชุดต่างๆมารวมไว้ด้วยกัน APU จึงเหมาะที่จะนำมาใช้งานด้านมัลติมีเดีย, ใช้ในสำนักงานที่ไม่ต้องการประสิทธิภาพการประมวลผลของ CPU มากนัก แต่ก็ให้ประสิทธิภาพที่ดีในระดับหนึ่ง บวกกับประสิทธิภาพด้านการประมวลผลกราฟิกที่แฝงอยู่ภายใน ล่าสุดเราจึงพบเห็นผู้ผลิตหลายๆรายนำเอา APU ไปใช้งานกับ Notebook, All in one PC รวมถึง Tablet นอกจากการนำมาใช้งานบนระบบเครื่องคอมพิวเตอร์ Desktop เพียงอย่างเดียว

อีกจุดเด่นอย่างหนึ่งก็คือ นอกจาก APU จะมาพร้อมกับ iGPU ประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อเทียบกับ CPU ทุกตระกูลแล้ว มันยังรองรับเทคโนโลยีที่เรียกว่า "Dual-Graphics" ร่วมกับการ์ดจอแยก อธิบายง่ายๆก็คือ เป็นการรวมการทำงานระหว่างการ์ดจอออนบอร์ดและการ์ดจอแยกเพื่อช่วยประมวลผลกันได้ (ระบบจะมองเห็นเปรียบเสมือนการเชื่อมต่อการ์ดจอแยก 2 ใบหรือ Crossfire แต่จะเป็นการ Crossfire ระหว่างการ์ดจอออนบอร์และการ์ดจอแยก) โดยการ์ดจอแยกที่รองรับนั้นก็จะเป็นการ์ดจะระดับ Entry ทั้งหมด นั่นก็เพราะ APU ที่วางไว้ในกลุ่มตลาดทั่วไป ที่ไม่ต้องการประสิทธิภาพในการประมวลผลของ CPU มาก หรือต้องการความประหยัดพลังงาน หรือต้องการประสิทธิภาพการประมวลผลด้านกราฟิกโดยไม่ต้องพึ่งการ์ดจอแยก แน่นอนว่ามันจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับ กลุ่มเกมเมอร์ที่มีงบจำกัด กลุ่มธุรกิจองค์กรที่ต้องการคอมพิวเตอร์ประหยัดพลังงาน หรือแม้กระทั่งกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไปที่เน้นใช้งานมัลติมีเดียภายในบ้านเป็นหลัก อีกทั้ง APU ก็ยังมีรุ่นที่เป็นรหัส K series เพิ่มเข้ามาเพื่อรองรับกลุ่มนักโอเวอร์คล็อกที่ต้องการประสิทธิภาพการประมวลผลเพิ่มขึ้นไปอีกระดับ สรุปสั้นๆง่ายๆนะครับ APU ก็คือ CPU + GPU มีจุดเด่นในเรื่อง iGPU หรือการ์ดจอออนบอร์ด ประหยัดพลังงานกว่า CPU และสามารถทำ Dual-Graphics ร่วมกับการ์ดจอแยกราคาประหยัดได้ครับ