ขยายผลรวบเเก๊งค้ายาบ้ารายใหญ่ในอำเภอชายเเดนสงขลาได้ 7 คน ของกลาง 25,000 เม็ด

[JaY_SoniC]

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 มิ.ย. 57 ที่หน่วยเฉพาะกิจสงขลา อ.เทพา จ.สงขลา พล.ต.เรืองศักดิ์ สุวรรณนาคะ ผบ.ฉก.สงขลา พร้อมด้วย พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผบก.ภ.จว.สงขลา พล.ต.ต.วิชิต ปักษา ผบ.ตชด.ภาค 4 พ.ต.อ.ไพโรจน์ ธานธรรม ผบ.ฉก.ตชด.43 และ ร.ต.ท.สุริวงศ์ สมทรง หัวหน้า ชป.สส.ฉก.ตชด.43 ร่วมกันแถลงการณ์กวาดล้างเครือข่ายค้ายาบ้าในพื้นที่ 4 อำเภอชายแดนสงขลา ได้ผู้ต้องหายกแก๊งรวม 7 คน พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 25,138 เม็ด และน้ำต้มใบกระท่อมจำนวนหนึ่ง รวมทั้งอาวุธปืนพกสั้น 3 กระบอก เครื่องกระสุนรวม 23 นัด และรถจักรยานยนต์อีก 6 คัน

สำหรับผู้ต้องหาทั้งหมดประกอบด้วย น.ส.อาลีเม๊าะ แหละสม อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 ม.8 ต.สะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย ซึ่งเปิดร้านขายของชำ โดยสามารถยึดยาบ้าได้จำนวน 38 เม็ด ก่อนที่จะควบคุมตัวไปสอบสวนขยายผลจนสามารถรวบตัวเอเย่นต์รายใหญ่ คือ นายอับดลมายิ เจ๊ะมะ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/1 ม.7 ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย ขณะขับรถจักรยานยนต์อยู่บนถนนภายในหมู่บ้าน ซึ่งจากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ภายในกางเกงจำนวน 1,000 เม็ด และจากการตรวจค้นภายในบ้านยังพบยาบ้าอีก 24,000 เม็ด

นอกจากนั้นจากการสอบสวนขยายผลเจ้าหน้าที่ยังสามารถรวบตัวเครือข่ายค้ายาบ้าแก๊งนี้ได้อีก 5 คน ประกอบด้วย นายมะสะตรี เจะเดะ อายุ 35 ปี , นายสุมิตร เจมะ อายุ 20 ปี , นายอาดนันท์ สาแม อายุ 27 ปี , นายนิอบิดาล มะแซ อายุ 39 ปี ทั้งหมดเป็นชาว ต.คูหา อ.สะบ้าย้อย และ นายภูมิศักดิ์ ปิยา อายุ 36 ปี ชาว ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา พร้อมของกลางยาบ้า 100 เม็ด ยาอัลปราโซแลมหรือยากล่อมประสาท 90 เม็ด รวมทั้งอาวุธปืนพกสั้นและรถจักรยายยนต์ดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.สะบ้าย้อย ดำเนินคดีในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย รวมทั้งจะสอบสวนขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการที่เหลือ และในประเด็นที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

พล.ต.เรืองศักดิ์ สุวรรณนาคะ ผบ.ฉก.สงขลา เปิดเผยว่า ผลการกวาดล้างยาเสพติดเป็นไปตามมาตรการที่ พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ให้ไว้ 2 ด้าน คือ มาตรการการป้องกัน ทั้งการสร้างความเข็มแข็งให้แต่ละครอบครัวได้ให้เห็นพิษภัยและไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และมาตรการปราบปราม ซึ่งเป็นหน้าที่โดยตรงของเจ้าหน้าที่รัฐที่จะต้องทำอย่างจริงจัง และไม่เห็นแก่ผลประโยชน์หรือเรียกรับสินบนใดๆจากขบวนการค้ายาเสพติด ซึ่งทั้งในส่วนของประชาชนและเจ้าหน้าที่จะต้องร่วมมือกัน จึงจะทำให้การป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเห็นผลเป็นรูปธรรมสอดคล้องกับนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ที่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
/////