ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ชำแหละ!โรดแมป “คสช.” สนช.เลือกนายกรัฐมนตรี “ประยุทธ์”แบเบอร์นอนมา

เริ่มโดย itplaza, 11:53 น. 01 ก.ค 57

itplaza

เมื่อออกมาจากปากผู้นำ คสช.พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะคสช.จึงถือว่าเชื่อได้ล้านเปอร์เซนต์ไม่ต้องกะเก็งกันให้วุ่นวาย สำหรับโรดแม็พอำนาจของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ(คสช.)

       
       สรุปความได้ว่าเดือนกรกฏาคมที่ก็คือตั้งแต่อังคารที่ 1 ก.ค. ให้รอได้เลย คสช.จะทำคลอดรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวออกมาแน่นอนโดยมีข่าวเบื้องต้นว่าน่าจะมีผลบังคับใช้ได้ไม่เกินกลางเดือนกรกฏาคมนี้หรืออย่างช้าไม่เกินสัปดาห์ที่ 3 ของก.ค.
       
       หลังพลเอกประยุทธ์บอกเองในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" เมื่อค่ำวันศุกร์ที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า เวลานี้การยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวได้จัดทำเสร็จสิ้นแล้วโดยจะเข้าสู่การพิจารณาของบิ๊กคสช.ในสัปดาห์นี้ว่าจะอนุมัติให้ผ่านร่างทั้งหมดหรือไม่ หรือจะตีกลับมาขอให้ไปแก้ไขอะไรเพิ่มเติมบางมาตราที่คสช.ไม่เห็นด้วย
       
       ประเด็นก็อยู่ตรงนี้คือหากบิ๊กคสช.ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับร่างที่เสนอมาทั้งหมดที่มีข่าวว่าคนตรวจดราฟสุดท้ายก็คือวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาคสช.ฝ่ายกฎหมาย เรื่องก็จะเร็วเพราะหากคสช.เห็นด้วยไม่ขอให้มีการไปปรับแก้ ทุกอย่างก็จบ ก็เหลือแค่ขั้นตอนรอนำขึ้นทูลเกล้าฯเท่านั้นแต่หากคสช.ไม่เห็นด้วยหลายเรื่อง โดยเฉพาะประเด็นที่มีความละเอียดอ่อนมีขั้นตอนเทคนิคเยอะ แล้วส่งเรื่องกลับไปให้คณะทำงานไปปรับปรุงแก้ไขเรื่องก็จะยาวไปอีกหลายวัน
       
       ก็จะทำให้ขั้นตอนการประกาศใช้รธน.ฉบับชั่วคราวต้องล่าช้าออกไป
       
       อย่างไรก็ตามเมื่อ พลเอกประยุทธ์ ให้คำมั่นแล้วว่า จะให้รธน.คลอดเดือนก.ค.ก็ต้องรักษาคำมั่นนี้ไว้ยังไงก็ต้องเข็นให้รธน.ชั่วคราวออกมาภายในเดือนก.ค.นี้แน่นอนเพราะติดเงื่อนไขเรื่องการต้องมีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มาพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 ในช่วงเดือนสิงหาคมอีก
       
       ดังนั้นยังไง รธน.ชั่วคราวคลอดแน่ไม่เกินสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนก.ค.และอาจเร็วกว่านั้นอีกหลายวันหากวงประชุมคสช.สัปดาห์นี้ถ้าไม่เลื่อนเสียก่อน อนุมัติให้ผ่านร่างรธน.ฉบับชั่วคราวของวิษณุ เครืองามแบบฉลุย ไม่มีการส่งกลับไปแก้ไข
       
       พลเอกประยุทธ์ยังบอกอีกว่า หลังรธน.ประกาศใช้ในเดือน ก.ค.แล้วลำดับต่อไปก็จะมีการตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติแล้วแล้วก็ตามด้วยการมีคณะรัฐมนตรีมาบริหารประเทศ ที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้ในเดือนกันยายน แต่จะเป็นช่วง 30 ก.ย.ที่พลเอกประยุทธ์จะเกษียณอายุราชการพอดีหรือไม่ ก็ต้องดูกันต่อไป ?
       
       ที่คืบมากขึ้นก็คือความชัดเจนในเรื่องการปฏิรูปประเทศ ที่คสช.เคาะมาแล้วว่าเจ้าภาพจะใช้ชื่อ "สภาปฏิรูปแห่งชาติ" ที่จะให้สมาชิกมาจากการสรรหาของหลายภาคส่วนโดยคาดว่าหลังประกาศใช้รธน.เดือนก.ค.แล้ว ให้นับไปอีก 2 เดือนก็จะเห็นโฉมหน้าของสภาปฏิรูปแห่งชาติ ที่จะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ได้ช่วงต้นเดือนต.ค.
       
       มีข่าวว่าคสช.วางไว้ว่าจะให้สภาปฏิรูปแห่งชาตินอกจากมีหน้าที่หลักคือวางกรอบการปฏิรูปประเทศแล้ว ยังจะให้มีหน้าที่สำคัญอีกคือ เป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่สุดท้ายก็น่าจะเป็น "รธน.ปี 58" โดยสภาปฏิรูปแห่งชาติ จะจัดทำและรวบรวบข้อเสนอแนะที่ได้มาจากฝ่ายต่างๆส่งต่อไปยังคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญที่จะอยู่ในโครงสร้างของสภาปฏิรูปแห่งชาติไปพิจารณาประกอบด้วยอีกทางหนึ่ง ว่าแนวทางที่เสนอมาอันไหนเอาไปใช้ได้หรือไม่ได้ถ้ากมธ.ยกร่างรธน.เห็นว่าเอามาใช้ได้ ก็อาจเอาไปใส่ไว้ในร่างรธน.ฉบับใหม่นั่นเอง
       
       เบื้องต้นคสช.เคาะมาแล้วว่าจะให้เวลากมธ.ยกร่างรธน.และสภาปฏิรูปประเทศทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้แล้วเสร็จไม่เกิน 10 เดือนหลังสภาปฏิรูปแห่งชาติเริ่มทำหน้าที่ ที่ประเมินแล้วก็น่าจะไม่เกินช่วงกันยายน 58 รธน.ปี 58 ก็น่าจะคลอดออกมาได้
       
       จากนั้นพอได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้ว เข้าสู่โรมแม็พ ระยะที่ 3 ของคสช.ที่คือช่วงคสช.ใกล้หมดอำนาจ เพราะพอรธน.คลอดมาเดือนกันยายน 58 คสช.ก็จะอยู่อีกประมาณ 3 เดือนที่ก็คือช่วง ตุลาคม-ธันวาคม 58 เพื่อทำภารกิจหลักคือ จัดเลือกตั้งส.ส.ภายใต้กติการธน.ฉบับใหม่ปี 58 จากนั้นพอได้รัฐบาลใหม่หลังเลือกตั้งที่ก็จะตกอยู่ในช่วงปลายปี คือไม่เกินธันวาคม 58 คสช.ก็รูดม่านสลายตัวเอง ต่างคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน
       
       อย่างไรก็ตามแม้รธน.ฉบับชั่วคราว ยังไม่คลอดออกมา แต่จนถึงขณะนี้ กระแสข่าวหลายทิศทางเริ่มทำให้เห็นความชัดเจนอีกหลายส่วนถึงหลักการสำคัญที่จะอยู่ในรธน.ฉบับชั่วคราวดังกล่าว
       
       เช่นเบื้องต้นร่างที่จะส่งให้คสช.มีกระแสข่าวหลายกระแส บอกทำนองเดียวกันว่าแนวโน้มจะออกมาว่า จะให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี หากเป็นไปตามนี้ก็ถือเป็นการสร้างธรรมเนียมใหม่ที่ผู้นำรัฐประหารจะไม่ได้เป็นคนตั้งนายกรัฐมนตรีด้วยตัวเองแต่ให้เป็นอำนาจของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) โดยมีข่าวว่าจะให้ประธานสนช.เป็นคนนำชื่อนายกฯขึ้นทูลเกล้าฯด้วย
       
       อย่างไรก็ตาม เรื่องที่จะให้สนช.โหวตเลือกใครเป็นนายกฯ เชื่อได้ว่าในชั้นการโหวต สนช.ก็ต้องโหวตเลือกตามที่ คสช.กดปุ่มส่งชื่อมาจะไม่มีการแหกโผแน่นอน
       
       เพราะสนช.ก็มาจากการแต่งตั้งของพลเอกประยุทธ์อยู่แล้วตามข่าวเรียกว่าร้อยละ 70 ของสัดส่วนสนช.จะมาจากข้าราชการประจำในเวลานี้และอดีตข้าราชการระดับสูง ล้วนเป็นคนที่คสช.เลือกมาทั้งสิ้นจึงรับประกันได้ว่า ตอนโหวตคะแนนเสียงเลือกนายกฯ น่าจะเอกฉันฑ์ด้วยซ้ำ !
       
       ดังนั้นการให้สนช.โหวตเลือกนายกฯไม่เอาแบบให้ หัวหน้าคสช.เป็นคนทูลเกล้าฯ ชื่อนายกฯ มองอีกทางหนึ่งหากคสช.เอาตามนี้ ก็เท่ากับจะเป็นการสร้างความชอบธรรมทางการเมืองให้กับคนที่จะมาเป็นนายกฯนั่นเอง และหากเป็นไปตามสูตรนี้ อาจเป็นไปได้ที่นายกฯก็คือพลเอกประยุทธ์นั่นเอง
       
       เพราะคงไม่ต้องการให้เกิดกรณีหัวหน้าคสช.เสนอชื่อตัวเอง เป็นนายกฯ ก็เลยต้องยืมมือ สนช.มาเลือก ตัวเองเป็นนายกฯนั่นเอง
       
       แต่ที่ยังคลุมเคลืออยู่ก็คือประเด็นเรื่องการทำประชามติ เพราะเดิมมีข่าวว่าคสช.ไม่ต้องการให้รัฐธรรมนูญชั่วคราวไปกำหนดว่าเมื่อสภาปฏิรูปประเทศเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แล้วต้องจัดให้ประชาชนลงประชามติว่าจะเห็นชอบรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่จะเขียนออกมาว่าพอผ่านสภาปฏิรูปแห่งชาติแล้ว ก็จบเรื่องเลย นำร่างขึ้นทูลเกล้าฯ ไม่ต้องการให้มีการทำประชามติอีก เพราะไม่ต้องการให้เกิดแรงกระเพื่อม
       
       เนื่องจากหากมีการทำประชามติจะต้องมีการรณรงค์ให้ประชาชนออกมาทำประชามติ และให้ลงมติเห็นชอบอีกทั้งจะเป็นการเปิดเวทีให้แต่ละพรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมืองเคลื่อนไหวการเมืองได้ทันทีโดยเฉพาะการรณรงค์ไม่ให้รับร่างรัฐธรรมนูญของคสช.ที่อาจทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมามากมาย จนคสช.อาจลงจากอำนาจได้ลำบากเลยจะปิดประตูเรื่องประชามติทิ้ง
       
       กระนั้นก็เริ่มมีกระแสข่าวว่ามีความเห็นแย้งจากฝ่ายกฎหมายของคสช.เสริมมาว่าประเด็นนี้ต้องคิดให้รอบด้านเพราะการทำประชามติ จะเป็นเครื่องป้องกันสำคัญที่ทำให้ต่อไปการที่นักการเมืองจะมาแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราหรือแก้ทั้งฉบับจะทำได้ยาก เพราะสามารถอ้างได้ว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่ผ่านการทำประชามติมาแล้ว
       
       อันจะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคการเมืองต่างๆหลังเลือกตั้ง ที่อาจเห็นว่ารธน.เป็นอุปสรรคต่อการโกงกิน-การใช้อำนาจรัฐทำชั่วเลยคิดจะแก้หลังเลือกตั้ง ก็ทำได้ยากแล้ว เหมือนกับตอนที่พรรคเพื่อไทย-คนเสื้อแดง พยายามจะแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50หลายครั้งในช่วงที่ผ่านมาแต่ก็ทำได้ยากเพราะโดนแรงต้านว่า มาแก้รธน.ที่ผ่านการทำประชามติของประชาชนมาแล้ว
       
       อย่างเมื่อสองปีก่อนหน้านี้ศาลรัฐธรรมนูญก็หยิยบกเรื่องประชามติรธน.ปี 50 มาเป็นเหตุผลสำคัญในการวินิจฉัยคดีที่อดีตส.ส.เพื่อไทยเสนอแก้ไขรธน.มาตรา 291 เพื่อนำไปสู่การแก้ไขรธน.ปี 50ทั้งฉบับ ที่ศาลรธน.ก็ระบุไว้ในคำวินิจฉัยคำร้องคดีดังกล่าวไว้ว่ารธน.ฉบับนี้ผ่านการทำประชามติของประชาชนมาเลยเสนอแนะว่า หากเป็นไปได้ควรไปแก้เป็นรายมาตราจะดีกว่า
       
       ประเด็นการทำประชามติ จึงมีข่าวว่ายังเป็นประเด็นใหญ่ที่ทีมงานยกร่างรธน.ยังเถียงกันไม่จบแต่น่าจะได้ข้อยุติภายในสัปดาห์นี้ว่าจะเอายังไง รวมถึงประเด็นเรื่องการใส่อำนาจพิเศษหลายอย่างให้คสช.เพื่อคุมการบริหารประเทศไว้ด้วยในร่างรธน.ฉบับชั่วคราว
       
       เพื่อจะได้คุมอำนาจเบ็ดเสร็จได้ต่อเนื่องไม่หยุดชะงักไปหลังมีรธน.ประกาศใช้ ก็ยังมีข่าวว่ามีข้อถกเถียงกันอยู่เช่นกัน

ขอบคุณเนื้อหา manager.co.th
ที่มา http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=1&news_id=37204&page=1