ชาวต่างชาติกับมรดกที่ดิน - TERRABKK

[TERRABKK]

          ชาวต่างชาติหลายคนแต่งงานกับคนไทยและมาตั้งรกรากที่นี่ โดยลงทุนซื้อที่อยู่อาศัยไว้ร่วมกันสำหรับสร้างครอบครัว ภายใต้ชื่อคู่สมรสชาวไทย เนื่องจากกฎหมายกำหนดให้ชาวต่างชาติไม่สามารถครอบครองที่ดินบนผืนแผ่นดินไทยได้ หากคู่สมรสที่มีชื่อเป็นเจ้าบ้านเสียชีวิตไป จะเกิดอะไรขึ้นต่อกับบ้านที่สร้างมาร่วมกัน
          ปกติเมื่อชาวต่างชาติสมรสกับคนไทยและมีความประสงค์จะซื้อที่อยู่อาศัย ประเภทบ้าน หรืออาคารชุดร่วมกัน ศึกษาเพิ่มเติมได้จาก การถือกรรมสิทธิ์อสังหาฯ โดยชาวต่างชาติ ที่เกินโควต้าพื้นที่ไปแล้ว เจ้าหน้าที่ที่ดินจะดำเนินการให้ซื้อในชื่อคู่สมรสที่เป็นคนไทย ในลักษณะของสินส่วนตัว ไม่ใช่สินสมรส เพื่อไม่ให้ขัดต่อหลักกฎหมาย โดยฝ่ายคู่สมรสที่เป็นชาวไทยต้องแสดงหลักฐานว่าเงินที่นำมาซื้ออสังหาริมทรัพย์นั้น เป็นเงินส่วนตัว เพราะหากเป็นเงินที่เกิดจากทำมาหาได้ร่วมกันหรือเป็นของคู่สมรสชาวต่างชาติ ทรัพย์สินนั้นย่อมต้องเป็นสินสมรสอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การดำเนินการเช่นนี้ จะช่วยให้บ้านหลังนี้ไม่ถูกแบ่งเป็นสินสมรสหากคู่สมรสชาวไทยเสียชีวิตลง แต่จะตกเป็นมรดก

          ซึ่งหากมีลูกและลูกมีสัญชาติไทย ความซับซ้อนก็ลดลงทันที เพราะลูกซึ่งเป็นทายาทโดยธรรม ลำดับที่ 1 จะเป็นผู้รับมรดกในส่วนนี้ไป แต่ถ้าไม่มีลูกและไม่มีทายาทอื่นๆ มรดกต้องตกเป็นของคู่สมรสชาวต่างชาติในที่สุดแล้ว จะมีขั้นตอนการจัดการ 2 รูปแบบ ตามลักษณะที่อยู่อาศัยนั้นๆ
บ้านหรืออสังหาริมทรัพย์ที่มีที่ดินอยู่ด้วย ยกเว้นเป็นทายาทโดยธรรม หรือต่างด้าวที่นำเงินมาลงทุนไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท ดังนั้นในกรณีนี้ คู่สมรสชาวต่างชาติจึงสามารถรับมรดกที่ดินได้ ในฐานะทายาทโดยธรรม แต่สามารถถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินได้เพียงครอบครัวละไม่เกิน 1 ไร่ เท่านั้นสำหรับที่อยู่อาศัย ส่วนที่เกินนั้นต้องจำหน่ายแล้วนำเงินให้ผู้รับมรดก แต่ทั้งนี้ต้องขออนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยสำหรับการได้มาซึ่งที่ดินของชาวต่างชาติที่เป็นผู้ขอรับมรดกในฐานะทายาทโดยธรรม
          อาคารชุดหรือคอนโดมิเนียม ถ้าอาคารนั้นยังมีชาวต่างชาติครอบครองในอัตราส่วนไม่เกิน 49% ของพื้นที่อาคารทั้งหมด ก็สามารถรับเป็นมรดกได้ แต่ถ้าอาคารชุดแห่งนั้นมีชาวต่างชาติอาศัยอยู่เกินโควต้าทั้งหมด ผู้ได้รับมรดกในฐานะทายาทโดยธรรมหรือผู้รับพินัยกรรม ต้องแจ้งเป็นหนังสือให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบภายในกำหนดเวลา 60 วันนับแต่วันที่ได้ถือครองกรรมสิทธิ์ห้องชุดนั้นๆ และมีสิทธิ์อยู่อาศัยได้อีกไม่เกิน 1 ปีนั บแต่วันที่ได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ ก่อนจะถูกบังคับขายทอดตลาด โดยชาวต่างชาตินั้นสามารถรับผลประโยชน์จากการขายได้ทั้งหมด หลังหักภาระหนี้ (หากมี) แล้ว
          หากเกิดกรณีนี้ขึ้น แนะนำว่าไม่ควรรับอาคารนี้เป็นมรดกแต่แรก เพราะถึงอย่างไรก็ไม่สามารถครอบครองได้ และขั้นตอนการดำเนินการค่อนข้างยุ่งยาก ซึ่งเมื่อปฏิเสธการรับมรดก สินทรัพย์ก็จะตกเป็นของทายาทลำดับถัดไป การจัดการต่างๆ จะง่ายกว่ามาก
Main Idea : เมื่อคู่สมรสชาวไทยและชาวต่างชาติจะซื้อบ้าน นายทะเบียนจะดำเนินการให้เป็นสินส่วนตัวของคนไทย ไม่ใช่สินสมรสที่ต้องแบ่งภายหลัง เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมาย ที่ไม่ให้ชาวต่างชาติถือครองผืนแผ่นดินไทย

          เมื่อคู่สมรสชาวไทยเสียชีวิต บ้านหรือสินทรัพย์จะตกเป็นมรดก หากมีลูกจะตกเป็นของลูก แต่ถ้าไม่มีกหมายกำหนดให้คู่สมรสเป็นทายาทลำดับถัดมา
          บ้านหรือที่ดิน ชาวต่างชาติไม่มีสิทธิ์ จะตกเป็นของทายาทลำดับต่อไปทันที
          อาคารชุด ชาวต่างชาติจะมีสิทธิ์อยู่อาศัยได้ 180 วัน แล้วจะถูกบังคับขาย แต่สามารถรับผลประโยชน์จากการขายได้เต็ม 100%

ที่มา : http://terrabkk.com/