อธิบดีฯภ.7 คุมตรวจสำนวน คดี‘ไอ้เกม’

[itplaza]

ฆ่าโหดน้องแก้ม ระดมทีม'อัยการ' เร่งสรุปสั่งฟ้อง!

อัยการระดมกำลังพิจารณาคดีฆาตกรรมโหด "น้องแก้ม" สยองบนรถไฟ เน้นความรวดเร็วและรัดกุม โดยมีอธิบดีอัยการภาค 7 ร่วมพิจารณาสำนวนด้วย แต่ขบวนการตัดสินจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับผู้ต้องหา จะให้การรับสารภาพหรือปฏิเสธ เนื่องจากศาลต้องใช้เวลาในการสืบพยาน

สังคมยังเฝ้าจับตามองถึงบทการลงโทษ 2 ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมโหดน้องแก้ม นักเรียนชั้น ม.2 บนขบวนรถไฟตู้นอน ขบวนรถเร็วที่ 174 สายนครศรีธรรมราช-กรุงเทพฯ ในท้องที่หมู่ 1 ต.วังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดย 2 ผู้ต้องหาคือนายวันชัย หรือเกม แสงขาว อายุ 22 ปี ตัวการก่อเหตุ กับนายณัฐกรณ์ หรือหนึ่ง ชำนาญ อายุ19 ปี พนักงานทำความสะอาดของการรถไฟ เพื่อนของนายวันชัย ฐานสนับสนุนนายวันชัยลงมือข่มขืนและฆ่าเหยื่อเป็นคนดูต้นทาง ถูกขังอยู่ในเรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยพนักงานสอบสวนจะส่งสำนวนการสอบสวนให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้องในวันที่ 16 ก.ค.นี้

ต่อมาสายวันที่ 15 ก.ค. นายสมชาย ศักดิ์สุนทร อัยการจังหวัดหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า สำนักงานอัยการจังหวัดหัวหินได้รับการประสานจาก พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข ผบก.ภ.จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อส่งสำนวนคดีนายวันชัย แสงขาว กับนายณัฐกรณ์ ชำนาญ 2 ผู้ต้องหาคดีข่มขืนและฆ่าน้องแก้ม ในวันที่ 16 ก.ค.นี้ เบื้องต้นทราบว่าพนักงานสอบสวนทำสำนวนหลายร้อยหน้ารวมทั้งมีพยานบุคคลและหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์หลายรายการ และในวันที่ 16 ก.ค. น.ส.เนื้อทิพย์ โกมลมาลย์ อธิบดีอัยการภาค 7 จะเข้าร่วมประชุมพิจารณาสำนวนก่อนส่งฟ้องด้วย

อัยการจังหวัดหัวหินกล่าวอีกว่า คดีนี้ได้ตั้งคณะทำงานตรวจสำนวนสอบสวนให้มีความละเอียดรัดกุมและรวดเร็ว เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญที่ได้รับความสนใจจากประชาชน ทางสำนักงานอัยการหัวหินพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเร่งการพิจารณา โดยระดมพนักงานอัยการหลายคนร่วมประชุมเพื่อพิจารณาสำนวนในคดีนี้ "สำหรับกระบวนการตัดสินช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 ให้การรับสารภาพหรือปฏิเสธซึ่งเป็นสิทธิของผู้ต้องหา นอกจากนี้ ยังมีขั้นตอนการสืบพยานในชั้นศาลอาจต้องใช้เวลาบ้าง ทั้งนี้ การจะนำตัวผู้ต้องหาขึ้นศาลเมื่อไรนั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาสำนวนของอัยการให้เสร็จสิ้นก่อนและหมายเบิกศาลในการนำตัวผู้ต้องหาขึ้นให้การด้วย"

ส่วนนายสุวรรณ ทองกลอย อดีตประธานสภาทนายความจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ในขั้นตอนการสอบสวนผู้ต้องหา สภาทนายความจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้รับการประสานจากพนักงานสอบสวนให้นำทนายอาสา ร่วมฟังการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ซึ่งเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่ผู้ต้องหาในทุกกรณีสามารถแต่งตั้งทนายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีข้อหามีโทษร้ายแรงสูงสุดถึงประหารชีวิต ตามประมวลกฎหมายพิจารณาความอาญา มาตรา 134/1 ให้ผู้ต้องหามีทนายความในขั้นตอนการสอบสวนหรือรัฐเป็นผู้จัดหาทนายความให้ ถ้าหากพนักงานสอบสวนไม่แจ้งสิทธิ หรือจัดให้มีทนายตามกฎหมายกำหนด การสอบปากคำอาจไม่สมบูรณ์ และผู้ต้องหาอาจแย้งในขั้นตอนการพิจารณาในชั้นศาลก็เป็นได้

ขอบคุณเนื้อหา  thairath
ที่มา http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=1&news_id=37696&page=1