ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ยังไม่จบ!! คู่กรณีคลิปฉาว โต้กันวุ่น ยันตัวเองไม่ผิด

เริ่มโดย itplaza, 11:51 น. 30 ก.ค 57

itplaza

คลิปฉาวบานปลาย "ด.ต." ยันไม่ได้ทำร้ายร่างกายอย่างที่เป็นข่าว แค่จับตัวให้ออกจากห้องขัง ด้าน"สาวนักเรียนนอก" โผล่แจงทั้งน้ำตาถูกกระทำก่อน รับขว้างส้นสูง-ตบหน้าจริง พร้อมลุยคดีถึงที่สุด

     

จากกรณีที่มีผู้โพสต์คลิปวิดีโอผ่านทางเฟซบุ๊กในเว็บเพจ youlike (คลิปเด็ด) มีผู้โพสต์คลิปโดยใช้ชื่อว่าตำรวจทำร้ายประชาชน โดยนำมาจากเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า Little Dinosauregg ที่ระบุว่า "กูเมาเข้าด่าน เพื่อนมาประกันกู ตำรวจ สน.ลาดกระบัง ตีเพื่อนกู" ซึ่งถูกบันทึกโดยผู้หญิงที่อ้างว่าโดนตำรวจทำร้าย จำนวน 2 คลิป โดยคลิปแรกนั้นเห็นหน้าเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวอย่างชัดเจน ก่อนที่โทรศัพท์จะตกลงไปที่พื้น และคลิปที่ 2 ถูกบันทึกผ่านทางห้องขัง คาดว่าเป็นของผู้ที่โดนจับในข้อหาเมาแล้วขับ พบว่าเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวใช้มือกดไปที่ศีรษะของหญิงสาวที่ถูกทำร้ายจนกระทั่งล้มลงไปนอนกับพื้น ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวจะเดินออกนอกห้องไป

(29 ก.ค.) ที่ สน.ลาดกระบัง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หัวหน้าพนักงานสอบสวนได้เรียก ด.ต.หมวกแดง แก้วประเสริฐ ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.ลาดกระบัง เข้าให้ปากคำถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด.ต.หมวกแดงให้การว่า เหตุการณ์วันนั้นทางกองบังคับการตำรวจจราจรได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์และจับผู้ต้องหาที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นมาควบคุมตัวไว้ที่สถานีตำรวจจำนวน 7-8 คน มีเพื่อนของผู้หญิงที่ปรากฏในคลิปถูกจับกุมมาด้วย ขณะที่หญิงคนดังกล่าวได้เดินทางมากับผู้ที่ถูกจับและมีอาการมึนเมาจึงมีปากเสียงกับทางเจ้าหน้าที่ ก่อนพยายามที่จะเข้าไปในส่วนของห้องขังซึ่งทางเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตเนื่องจากหมดเวลาเยี่ยมแล้ว
       
ทั้งนี้ มีตารางเวลากับป้ายเตือนแสดงไว้อย่างชัดเจน แต่หญิงคนดังกล่าวยังคงพยายามที่จะเข้าไปภายในห้องขัง ทางพนักงานสอบสวนจึงให้ ด.ต.หมวกแดงไปนำตัวออกมา โดยในครั้งแรกก่อนที่จะมีการบันทึกคลิปดังกล่าวได้มีการว่ากล่าวตักเตือน พร้อมทั้งเอ่ยปากห้ามไม่ให้หญิงคนนั้นเข้าไปภายในห้องขังแล้ว แต่หญิงคนดังกล่าวก็ยังคงใช้ถ้อยคำไม่สุภาพกับเจ้าหน้าที่และไม่ยอมออกจากส่วนของห้องขัง ตนจึงเข้าไปจับกุมตัวหญิงคนดังกล่าวออกมา การกระทำดังกล่าวนั้นตนทำไปตามขั้นตอนของกฎข้อบังคับ และยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกายคู่กรณีแต่อย่างใด ทั้งนี้หญิงคนนั้นก็ออกไปขว้างรองเท้าส้นสูงใส่ตน
       
ด.ต.หมวกแดงกล่าวต่อว่า ระหว่างนั้นตนได้หลบไปอยู่ในห้องพนักงานสอบสวนเพื่อช่วยทำเอกสารในการประกันตัวผู้ต้องหารายอื่น แต่หญิงคนดังกล่าวก็ออกไปใช้กำปั้นต่อยที่หน้าตนอีก 2 ครั้ง ก่อนที่ทางญาติของฝ่ายหญิงจะเดินเข้ามาห้าม ท่ามกลางพยานที่เดินทางมาประกันตัวญาติอีกหลายคน ภายหลังมีเจ้าหน้าที่ทหารชื่อ เสธ.ตุ้ม อ้างว่ารู้จักกับหญิงคนดังกล่าวเดินทางเข้ามาขอโทษภายในคืนนั้นทันที พร้อมทั้งขอให้เรื่องทั้งหมดจบลง แต่ทางผู้ที่ถ่ายคลิปได้อัปโหลดคลิปผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์กไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต่อมาทางพนักงานสอบสวนได้โทรศัพท์เพื่อตรวจสอบเรื่องนี้ โดยผู้หญิงหญิงในคลิปบอกว่าจำอะไรไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เรื่องนี้มีผลกระทบต่อทางครอบครัวของตนเป็นอย่างมาก เนื่องจากตนเองทำงานเป็นตำรวจมากว่า 20 ปี ปฏิบัติตามหน้าที่อย่างถูกต้องมาโดยตลอด เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็เกิดความน้อยใจเป็นอย่างมากพร้อมที่จะลาออกได้ทันที และถ้าหากการกระทำในคืนนั้นรุนแรงเกินไปตนก็พร้อมที่จะขอโทษ แต่ยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายอย่างที่เป็นข่าว
       
ด้าน น.ส.จิราพร อ่านคำเพชร อายุ 28 ปี หญิงสาวที่ปรากฏในคลิปดังกล่าวได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สน.ลาดกระบัง เพื่อให้ปากคำเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
     

น.ส.จิราพรให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวด้วยน้ำตาว่า ตนรู้สึกอับอายต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยวันนั้นตนเดินทางเข้ามาหาเพื่อนที่ถูกจับมาจริง แต่เมื่อสอบถามก็ไม่มีใครตอบว่าเพื่อนอยู่ไหน จึงเดินตามหาจนกระทั่งพบว่าเพื่อนอยู่ในห้องขังจึงเดินเข้าไปพูดคุยกับเพื่อนเพื่อสอบถามว่าต้องใช้หลักฐานอะไรบ้างในการประกันตัว ด้วยความไม่รู้ว่าทางเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้เข้าห้องขังในส่วนนี้ แต่ถูก ด.ต.หมวกแดงเข้ามาใช้วาจาไม่สุภาพไล่ตนออกไปจากห้อง จึงรู้สึกไม่ดีเกิดไม่พอใจในคำพูดของเจ้าหน้าที่ คว้าโทรศัพท์มาบันทึกเอาไว้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เข้ามาปัดโทรศัพท์ทิ้ง พร้อมทั้งกระชากผมอย่างแรงจนลงไปนอนกับพื้นตามคลิปที่ปรากฏ ก่อนที่ตนจะทนไม่ไหว หยิบรองเท้าที่สวมใส่ปาไปใส่เจ้าหน้าที่คนนั้นแต่ไม่โดนเนื่องจาก ด.ต.หมวกแดงปิดประตูไปก่อน


น.ส.จิราพรกล่าวต่อว่า ภายหลังจากนั้นตนได้ออกไปตบเจ้าหน้าที่คนนั้น 2 ครั้งจริง โดยยอมรับว่าตนเองโมโหมากและแสดงอารมณ์รุนแรงจริง เนื่องจากโดนกระทำก่อน โดยมีแผลที่ใบหน้าและลำตัวซึ่งภายหลังได้ไปตรวจร่างกายที่ รพ.ไทยนครินทร์ ทางแพทย์ก็ระบุว่าไม่เป็นอะไรมาก และยืนยันว่าไม่ได้มีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจคนนี้มาก่อนแต่อย่างใด รวมทั้งทางเจ้าหน้าที่ร้อยเวรได้ติดต่อมายังตนให้ยอมความเพื่อเรื่องจะได้จบ แต่ตนไม่ยอมและยืนยันว่าตนก็ไม่ผิด
       
สำหรับกรณีที่มีทหารมาติดต่อขอโทษเรื่องของตนนั้น ยืนยันว่าในวันเกิดเหตุไม่มีทหารนายใดมาติดต่อ และไม่ได้รู้จักกับทหารนายใด เนื่องจากตนเพิ่งเรียนจบจากต่างประเทศ และวันเกิดเหตุก็เดินทางไปเลี้ยงสังสรรค์กับเพื่อน โดยในวันนั้นตนดื่มจริงแต่ไม่เมา ยังคงมีสติอยู่ โดยตนพร้อมให้อภัยเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว พร้อมยอมรับว่าในวันนั้นตัวเองก็ผิดจริงเช่นกัน แต่ตำรวจก็ไม่ควรกระทำกับตนเองเช่นนี้ และหลังจากนี้จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
http://youtu.be/yyLdkAKueYY
ขอบคุณเนื้อหา tnews.co.th
ที่มา http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=1&news_id=38199&page=1