เล็งร้องศาล-ป.ป.ช.สอบ สช.อนุมัติหลักสูตร รร.บลูมส์เบอรี่มิชอบหรือไม่

[ทีมงานบ้านเรา]

โดย สำนักข่าวไทย www.mcot.net

สำนักข่าวไทย 2 ส.ค.- ผู้ปกครองนักเรียนเตรียมร้องศาลปกครอง และ ป.ป.ช.ตรวจสอบความโปร่งใสการทำงานของเลขาธิการ สช. กรณีอนุมัติหลักสูตรให้โรงเรียนนานาชาติบลูมส์เบอรี่หาดใหญ่ โดยมิชอบหรือไม่

นายสุรชัย เอกสัตย์ ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนนานาชาติแห่งหาดใหญ่ ซึ่งเป็นแกนนำในการเรียกร้องให้ทางการตรวจสอบการออกใบอนุญาตโรงเรียนนานาชาติแห่งหาดใหญ่ และโรงเรียนนานาชาติบลูมส์เบอรี่-หาดใหญ่ จ.สงขลา เปิดเผยว่า บรรดาผู้ปกครองเด็กนักเรียนมีความสงสัยในการทำงานของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ในเรื่องการอนุมัติหลักสูตรให้กับโรงเรียนนานาชาติบลูมส์เบอรี่-หาดใหญ่ ทั้งที่เอกสารของบริติช เคานซิล ที่ รร.บลูมส์เบอรี่ฯ นำมาอ้างใช้ประกอบการขอใบอนุญาตจาก สช.นั้น ทางบริติช เคานซิล ได้ยืนยันแล้ว่า ไม่ใช่หนังสืออนุญาตให้ใช้หลักสูตรภาษาอังกฤษ เพราะบริติช เคานซิล ไม่มีอำนาจในเรื่องนี้ แต่ สช.ยังคงเดินหน้าออกใบอนุญาตให้ รร.บลูมส์เบอรี่

"ต้องถามว่าถ้าประชาชนทั่วไปใช้เอกสารหลักฐานที่ไม่ถูกต้องมายื่นเรื่องต่อทางราชการ จะได้รับอนุมัติหรือออกหนังสือรับรองจากทางราชการหรือไม่ เรื่องนี้ผิดปกติหรือไม่ สำเนาบัตรประชาชนยังต้องเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง แต่นี่หลักฐานน่าจะไม่ถูกต้อง ทำไมกลับได้รับอนุมัติ" นายสุรชัย กล่าว

ผู้ปกครองนักเรียนยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า การลงโทษกรณี รร.บลูมส์เบอรี่ฯ เปิดรับนักเรียนก่อนได้รับใบอนุญาต ก็น่าสงสัย เนื่องจากมีการโทรแจ้งโรงเรียนให้ปลดป้ายออกโดยเจ้าหน้าที่ของราชการ ซึ่งแสดงถึงพฤติกรรมการช่วยเหลือโรงเรียนและเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนมากกว่ารักษาผลประโยชน์ให้กับประชาชนหรือไม่ ขณะนี้ผู้ปกครองกำลังรวบรวมหลักฐาน เพื่อร้องศาลปกครองให้ตรวจสอบการทำงานของเลขาธิการ สช .และร้องเรียน ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบความโปร่งใสของเลขาธิการ สช.ต่อไปด้วย

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยได้สอบถามไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษาสงขลา เขต 2 ถึงกรณี สช.สั่งให้ลงโทษ รร.บลูมส์เบอรี่-หาดใหญ่ที่เปิดรับนักเรียนก่อนได้รับใบอนุญาต ปรากฏว่า สำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษาสงขลา เขต 2 ยังไม่ได้รับคำสั่งอย่างเป็นทางการจาก สช. และยังไม่รู้ว่าจะให้ลงโทษอย่างไร ซึ่งต้องถามกลับไปยัง สช.อีกครั้งว่าจะต้องดำเนินการลงโทษอย่างไร โดยเบื้องต้นได้โทรแจ้งให้โรงเรียนปลดป้ายและหยุดการโฆษณารับนักเรียนแล้ว.-สำนักข่าวไทย