ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เสนอแนวทางปฏิรูปพร้อมส่องสนามการเมืองท้องถิ่นสงขลายุค คสช. ใน บก.เจาะข่าว

เริ่มโดย หาดใหญ่ใหม่, 16:54 น. 23 ส.ค 57

หาดใหญ่ใหม่

สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่ติดตามเยี่ยมชมเว็บไซต์กิมหยงทุกท่าน กลับมาพบกันในช่วงสุดสัปดาห์กับกอง บก.เจาะข่าวเด่น ฉบับนี้ขอมอบพื้นที่ให้การการบ้านการเมืองกันสักนิดนะครับ หลังจากประเทศไทยของเราจะมีนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ที่ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมฟอร์มทีมรัฐบาลฟอร์มทีมรัฐมนตรีร่วมเดินหน้าบริหารประเทศปฏิรูปประเทศไทยสู่การเมืองที่ดีกว่ายุคอดีต

[attach=1]

   การปฏิรูปการเมืองเที่ยวนี้ต้องบอกว่ามากกว่าปฏิรูปเพราะนี่คือการปฏิวัติเพื่อนเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้ก้าวข้ามการเมืองน้ำเน่า การทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากมากแต่ทุกคนต่างมีความหวังว่าคงจะลดปริมาณการโกงกินค่าหัวคิว การเขียนโครงการเพื่อเอาเปอร์เซ็นต์ รวมถึงการเข้าสู่สนามการเมืองเพื่อกอบโกยผลประโยชน์ให้ตนเองและพวกพ้องเหมือนที่เกิดขึ้นในยุคที่ผ่านมา

   คำว่าการเมืองจะว่าไปแล้วไม่ว่าระดับก็ไม่ต่างอะไรกันเลย ยุคปัจจุบันผู้ใหญ่บ้านแถวบ้านนอกประชากรหลักร้อยเสียงแต่กลับใช้เงินซื้อตำแหน่งกันเป็นล้าน ซื้อตำแหน่งผู้ใหญ่จากชาวบ้านแล้วไม่พอยังต้องมาซื้อตำแหน่งกำนันจากผู้ใหญ่ร่วมตำบลกันอีกทีเพื่อให้ได้มาซึ่งตำแหน่งกำนันที่มีเงินเดือนน้อยกว่าขั้นต่ำของ ป.ตรีเสียอีก แต่สิ่งที่ได้มากกว่านั้นคำอำนาจชื่อเสียงและผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการมีตำแหน่งหัวโขนครอบหัว

   ไม่ต่างอะไรกับการเลือกตั้ง อบต.สท.นายกเทศมนตรี นายกเทศบาลต่างๆ ล้วนต้องใช้เงินมหาศาลทั้งนั้น ขณะที่ขอบเขตท้องถิ่นบางแห่งมีขนาดไม่ถึงหนึ่งหมู่บ้านด้วยซ้ำ ส่วนใหญ่คือสุขาภิบาลที่ยกฐานะเป็นเทศบาลตำบล และไม่น่าเชื่อว่าในบางตำบลไม่มีประชากรอาศัยหรือมีแค่หลักสิบหลักร้อยคนเท่านั้น (เท่าที่เคยอ่านเจอในข่าวแต่ในจังหวัดสงขลายังไม่เคยมีประเภทตำบลไม่มีประชากร)

   ตอนนี้นักการเมืองท้องถิ่น ปลัดท้องถิ่นหลายคนเริ่มมีอาการหวั่นๆ กลัวรัฐบาล คสช.จะปฏิรูปท้องถิ่นจนอำนาจที่ตัวเองเคยมีลดลงหรือกลัวผลประโยชน์ของประชานจะเสียหายกันแน่ วันนี้ขอเสนอแนะในฐานะพลเมืองประเทศไทยว่านักการเมืองในทุกระดับควรหยุดการโวยวายแต่ควรให้ความร่วมมือจับมือกันนำเสนอแนวทางปฏิรูปท้องถิ่นที่คิดว่าประชาชนส่วนใหญ่จะได้รับผลประโยชน์สูงสุด


   การผลักดันให้เกิดท้องถิ่นจัดการตนเอง จังหวัดทุกจังหวัดควรมีสิทธิ์และเสียงในการบริหารจังหวัดพัฒนาเมืองของตัวเองมีการจัดเก็บภาษีและบริหารงบประมาณในการพัฒนาจังหวัดด้วยตัวเอง ไม่ใช่รอแบมือของบส่วนแบ่งจากรัฐบาลกลางเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งนักการเมืองท้องถิ่นก็เห็นอยู่แล้วว่าที่ผ่านมาไม่เคยมีรัฐบาลไหนจริงใจกับการปฏิรูปท้องถิ่นเลย งบประมาณที่เคยบอกว่าจะแบ่งให้ท้องถิ่น 35 % จนมาถึงวันนี้ผ่านมากี่รัฐบาลแล้วไม่เห็นจะได้มาสักที อย่าว่าแต่ 35 เพราะ 30 ก็ยังไม่ถึงเลย นี่คือสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงสัจจธรรมที่ไม่มีของนักการเมืองระดับชาติ แล้วทำไมเราต้องยอมให้นักการเมืองระดับชาติเอาภาษีของเราไปกินเป็นทอดๆ จนเหลือแค่กระดูกมาถึงท้องถิ่น

   หากท้องถิ่นระดับจังหวัดสามารถจัดเก็บภาษีได้เองเก็บไว้พัฒนาจังหวัด 60 ส่งให้รัฐบาลกลาง 40 เชื่อว่าทุกจังหวัดมีเม็ดเงินมหาศาลในการพัฒนาจังหวัดทีนี้ผู้นำท้องถิ่นระดับจังหวัดซึ่งมาจากการเลือกตั้งของประชาชนก็จะมีงบประมาณที่มากขึ้นในตอบสนองความต้องการของประชาชนที่มีอย่างไม่จำกัดได้อย่างทั่วถึงยิ่งขึ้น ส่วนตำแหน่งผู้นำจะเรียกว่าผู้ว่าฯ นายก หรืออะไรค่อยสรุปในรายละเอียด

   การบริหาราชการระดับจังหวัดก็ควรเป็นการย่อส่วนของราชกลบางมาไว้ที่จังหวัด มีหัวหน้าฝ่ายบริหารระดับกระทรวงในจังหวัดที่ชัดเจนกำกับดูแลกรมกองต่างๆ ในจังหวัดนั้นๆ ส่วนท้องถิ่นระดับเล็กว่าจังหวัดควรมีลักษณะเป็นเทศบาล แต่ไม่ควรเป็นเทศบาลที่มีมากมายโดยใช้แค่เขตตำบลเป็นเส้นแบ่งหรือใช้เขตสุขาภิบาลที่ผ่านการยกฐานะมาเป็นเส้นแบ่งเช่นทุกวันนี้  เพราะส่วนใหญ่มีขนาดเล็กไป

   เขตตำบลควรเป็นเขตปกครองท้องที่ที่มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือประธานชุมชน ที่เป็นผู้ช่วยในด้านงานปกครอง งานความมั่นคงในพื้นที่ระดับใกล้ชิชาวบ้านมาที่สุด ส่วนฝ่ายพัฒนาควรเป็นหน้าของเทศบาล โดยสรุปควรเป็น 1 อำเภอ 1 เทศบาล แต่ต้องแยกอำเภอที่มีขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นเช่นอำเภอหาดใหญ่ โดยใน 1 เขตเทศบาลควรมีแค่ 4-5 ตำบล มีงานทะเบียนราษฎร์ มีโรงพัก มีหน่วยบริการประชาชนขั้นพื้นฐานที่ครบครันเพื่อให้ทุกหน่วยงานในเขตปฏิบัติงานบริการประชาชนภายใต้นโยบายและทิศทางเดียวกัน

   เทศบาลเป็นการแบ่งเขตพัฒนาพื้นที่โดยท้องถิ่นโดยมีส่วนราชการที่งานควบคู่กันคืออำเภอ  ส่วนตำบล เป็นการแบ่งเขตปกครองท้องที่ กรมการปกครอง และกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ควรยุบรวมกัน ข้าราชการ 2 สังกัดจะได้มีศักดิ์และศรีที่เท่าเทียมกัน มีโอกาสเติบโตในหน้าที่การงานตั้งแต่ระดับตำบลจนก้าวไปถึงปลัดกระทวงเลยก็ได้ใครจะไปรู้ งานต่างๆ ต้องแบ่งชัดเจนระหว่างจังหวัดกับเทศบาล ร่ายยาวมากไปก็คงไม่มีประโยชน์อะไรมากมายเพราะท้ายที่สุดแล้วอะไรจะเกิดจะเปลี่ยนก็คงให้เป็นหน้าที่ของผู้นำประเทศและผู้แทนฝ่ายต่างๆ ท่านทำเถิด แล้วค่อยให้ประชาชนได้ลงความเห็นกันว่าเอาด้วยหรือไม่อย่างไร

[attach=2]
เกชา เบ็ญจคาร นายก ทต.สำนักขาม

   ปิดท้ายกันสักนิดที่เรื่องการเมืองบ้านเรา ท้องถิ่นแรกที่นายกหมดวาระและให้เว้นการเลือกตั้งไปก่อน นั่นคือเทศบาลตำบลสำนักขาม อ.สะเดา บังเหร็บ นายเกชา เบ็ญจคาร นายกเทศมนตรี พร้อม สท.และฝ่ายบริหารเลยว่างงานชั่วคราว  โดยมีนายพิชาญ พีรสุขประเสริฐ ปลัดเทศบาลเลยทำหน้าที่นายกแทนพร้อมมีการสรรหาสมาชิกสภา 9 คนมาทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งล้วนเป็นข้าราชการและอดีตทั้งนั้น

   ส่วนที่ยังไม่หมดวาระก็มีการเปลี่ยนแปลงกันเช่นกันสำหรับที่เทศบาลเมืองคอหงส์ แว่วว่านายกพยงค์ อรัญดร เกิดอาการอยากเปลี่ยนทีมฝ่ายบริหารกะทันหันเลยผลักดันฉลอง พัฒโน ขยับจากรอง 3 ขึ้นรอง 2 โดยปลดรอง 1 และ 2 อย่างเขียน จินดาวงศ์ และว่าที่ร้อยตรี ชาญนิตย์ ชุ่มชื่น ออกแบบสายฟ้าแลบ พร้อมดันวิรัตน์ ทองรักษา และอนันต์ ทองลิ้นจี่ เข้ามาแทน พร้อมเพิ่มเลขานุการจากสุรินทร์ มณีโชติ มีบุญช่วย ทองรักษา เข้ามาเสริมอีกคน แต่ตอนนี้ที่รู้ๆ คนคอหงส์บอกว่านายกหาย เพราะทุกงานเห็นแต่รองหลอง ออกหน้าเองตลอดไม่รู้ว่าส่งสัญญาณอะไรหรือเปล่า 

[attach=3][attach=4]
นายกพยงค์ อรัญดร และรองฉลอง พัฒโน 

กอง บก.เจาะข่าวเด่น
โดย กองบรรณาธิการ www.Gimyong.com
หาดใหญ่ใหม่ www.facebook.com/hatyaimai
เมืองหลวงภาคใต้ หลากหลายเรื่องราว บอกเล่าแบ่งปัน

ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

ชื่อ:
การยืนยัน:
กรุณาเว้นช่องนี้ว่างไว้:
พยัญชนะไทยรองตัวสุดท้าย:
shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง