ประวัติศาสตร์!ตบสาวไทยลิ่วเวิลด์กรังด์ปรีซ์แม้พ่ายบราซิล

[ทีมงานบ้านเรา]

โดย สยามกีฬา http://www.siamsport.co.th/home.html

ลูกยางสาวไทยสุดต้าน โดนทีเด็ด สาวบราซิล ไล่ย้ำแค้น อีกรอบ 3 เซตรวด แข่งไป 9 นัด มีอยู่ 15 คะแนน ขณะที่ ญี่ปุ่น ที่มีแต้มเท่ากับ ไทย 15 คะแนน พลิกต้อน รัสเซีย 3-0 เซต เก็บเพิ่มอีก 3 แต้มขยับขึ้นรั้งที่ 6 คว้าตั๋วไปรอบสุดท้ายที่มาเก๊าทันที ส่วน ไทย ต้องวัดกับ โปแลนด์ ที่ลงดวลนัดสุดท้ายกับ จีน ปรากฏว่า สาวมังกร เล่นได้เหนือชั้นเอาชนะไป 3 เซตรวด ส่ง ไทย คว้าตั๋วใบสุดท้ายได้สำเร็จ เป็นครั้งแรกในประวัติศาตร์

        หลังจากที่ทำเซอร์ไพรส์ คว่ำ คิวบา ได้เป็นครั้งที่ 2 ในรอบสองสัปดาห์ ทำให้นักตบสาวไทยเก็บ 6 แต้มจนขึ้นมารั้งที่ 6 ของตารางมีแต้มเท่ากับญี่ปุ่น 15 คะแนน แต่เซตได้เสียไทยดีกว่าญี่ปุ่น จึงต้องใช้เกมการแข่งขันในนัดสุดท้าย ในวันที่ 21 ส.ค. 54 เป็นแมตช์ชี้ ชะตาระหว่าง ไทย, ญี่ปุ่น และโปแลนด์ ว่าทีมใดจะเป็นทีมที่ 6 และ 7 เข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายเวิลด์กรังด์ปรีซ์ ที่มาเก๊า ระหว่างวันที่ 24-28 ส.ค. นี้


        โดยอันดับ 1-5 ที่ผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายนั้นแบเบอร์แล้ว ประกอบด้วย บราซิล, อเมริกา, เซอร์เบีย, รัสเซีย และ อิตาลี เหลือลุ้นอีก 2 ทีม ที่ต้องมาวัดในนัดสุดท้าย


        สำหรับนัดสุดท้ายของนักตบสาวไทยนั้น ต้องเจองานหนัก ชนรองแชมป์เวิลด์กรังด์ปรีซ์ ครั้งที่แล้ว "สาวแซมบ้า" บราซิล ซึ่งสาวไทยพ่ายให้กับ บราซิล มาแล้ว 3 เซตรวด ในการแข่งขันสัปดาห์ที่ 2 ที่คาซัคสถาน การเอาชนะ บราซิลเป็นเรื่องยาก แต่ไทยต้องการเซต เพื่อเก็บคะแนนเพิ่มในตาราง


        นัดนี้จึงต้องพึ่งความเก๋า จากตัวหลักอย่าง "เจ้าหน่อง" ปลื้มจิตร์ ถินขาว, อรอุมา สิทธิรักษ์, วิลาวัณย์ อภิญญาพงษ์, มลิกา กันทอง, อัมพร หญ้าผา, นุศรา ต้อมคำ และผู้รับอิสระดาวรุ่ง ปิยะนุช แป้นน้อย


        ขณะที่ บราซิล แม้จะผ่านเข้ารอบไปแล้ว แต่ยังส่งผู้เล่นตัวจริงลงสังเวียนครบทุกตำแหน่ง นำโดย ไทซ่า ตัวเก่งของแซมบ้า


        เปิดเกมโดย นุศรา เสิร์ฟ แต่ ไทซ่า ก็ขึ้นรุกตีเหนือบล็อก ขึ้นนำ 2-0 คะแนน แต่ ไทย อาศัยความเหนียวยื้อ และหาที่ว่างหยอดลงข้างเส้นไล่มา 1-2 ไทย ได้เสิร์ฟ และบราซิลแก้กลับไทยยังเหนียวก่อนจะขึ้นตีบอลโค้งโดย อัมพร ตีเสมอ 2-2 และไทยได้แต้มขึ้นนำ 4-2 เมื่อดึงเกมให้ช้าลง และเล่นหยอดแทนการตีรุก


        จากนั้นทั้งสองทีม ต่างยื้อกันสุดมันส์ ไม่ว่าบราซิลจะรุกบอลหน้าไหน ไทย ก็รับบอลรุกและรุกกลับได้ทุกและเป็น อัมพร ที่ขึ้นตีบอลโค้งหัวเสาขยับนำไป 5-2 ส่งผลให้บราซิลต้องขอเวลานอกตั้งแต่ต้นเกม และเมื่อกลับเข้ามา บราซิล ได้แต้มคืนจากการตีฝังแดนกลางของไทซ่าไล่มา 4-6 เกมกลับมาเป็นของบราซิล แต่ไทยเล่นได้เหนียวโดยเฉพาะบอลแดนหลังที่รับบอลรุกและสวนกลับได้ส่งผลให้ ไทยได้แต้มขึ้นนำ 4 แต้ม


        ด้านบราซิล เมื่อโดนนำห่าง กลับมาแก้เกมโดยการตีบอลยาวไล่มา 5-8 แต่ไทยก็เอาคืนจากการตีบอลยาวของ มลิกา หนีไป 9-5 คะแนน งานนี้บราซิลเปลี่ยนแผนเล่นอีกครั้งโดยการจ่ายให้ มารีน่า ตีหัวเสาที่หนักหน่วงและรุนแรง เก็บได้ 4 แต้มรวดตีเสมอ 9-9 คะแนน ไทย ต้องขอเวลานอก และบราซิลก็กลับมานำ 10-9 จากการตีหัวเสาอีกครั้งก่อนที่จะจ่ายแต้มให้ไทยตีเสมอ 10-10 เพราะเสิร์ฟออก เกมทั้งสองทีมยังสูสีไล่บี้กันแต้มต่อแต้ม


        จากนั้นบราซิลเริ่มจับทางบอลไทยได้ เสิร์ฟจึงให้ วิลาวัณย์ และ มลิกา เปิดบอลแรก เพื่อจ่ายบอลให้ อรอุมา ตีและติดบล็อกทุกลูกบราซิลนำห่าง 16-12 คะแนน และเกมยังเป็นของบราซิล สามารถเลือกเล่นตำแหน่งไหนก็ได้ทำแต้มนำอย่างต่อเนื่อง 18-14


        ไทยต้องเปลี่ยนตัว เอา ฐาปไพพรรณ ไชยศรี แทน อัมพร หญ้าผา แต่ยังได้ผลไม่ดีนัก เพราะแต้มของไทยได้ยากมาก จน "เจ้าหน่อง" อาศัยจังหวะเล่นบอลเร็วไล่มา 15-20 คะแนน และเมื่อไทยเสียแต้ม ที่ 21 "โค้ชอ๊อด" เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร ต้องขอเวลานอก เพื่อให้นักกีฬาพักและทำสมาธิกับเกมอีกครั้ง แต่ บราซิล เสิร์ฟดีมาก ไทยเปิดบอลแรกไม่เข้า มือเซตจึงเซตบอลไม่ได้ จึงพ่ายไป 16-25 คะแนน


        เซต 2 ไทย เปิดได้สวย เมื่อ มลิกา ขึ้นตีหัวเสาให้เจ้าถิ่นนำก่อน 1-0 คะแนน แต่บราซิล เน้นตีบอลหลังของไทยตีเสมอ 1-1 จากนั้นเกมกลับมาเป็นของบราซิล เมื่อ ไทซ่า เสิร์ฟเก็บนำไทยออกไป 2 แต้มที่สกอร์ 4-2 และ นุศรา ก็สามารถเปลี่ยนเกมเสิร์ฟได้เมื่อจ่ายบอลให้ "เจ้าหน่อง" ตีบอลเร็วบวกกับ บราซิล เล่นเสียเองแต้มไทยจึงขยับมา 4-5 คะแนน


        แต่สาวไทยยังไม่ละความพยายาม อาศัยความเหนียวทำแต้มไล่มา 5-6 และรับบอลรุกเล่นยื้อหวังตีเสมออยู่นาน แต่บราซิลเป็นฝ่ายพิฆาตหัวเสานำออกไปอีก 2 แต้ม 8-6 คะแนน


        ด้าน บราซิล หลังปล่อยให้เกมยื้ออยู่นาน เริ่มงัดไม้เด็ดตีบอลสั้นนำห่าง 12-7 คะแนน และไทยขอเวลานอก และเปลี่ยนให้ วรรณา บัวแก้ว ลงมารับแทน ปิยะนุช และได้ผลเพราะ วรรณา สามารถเปิดบอลแรกให้ไทยเก็บแต้มเพิ่มมาได้ แต่ บราซิล ไม่มีผ่อนเดินหน้าเต็มสูบขึ้นบล็อกลูกตบ วิลาวัณย์ แต่ติดบล็อก ทำแต้มนำห่าง 14-8 คะแนน


        และเปลี่ยนให้ วิลาวัณย์ ออก เอา วณิชยา หล่วงทองหลาง ลงมาตี 3 ม.แทน แต่ไทยก็ยังเอาแต้มจากบราซิลไม่ได้บอลรับเหนียว แต่บอลรุกไม่เด็ดขาด ตีติดบล็อกทุกลูกบราซิลทำแต้มห่างออกไปถึง 11 คะแนน ที่ 19-8 คะแนน


        ไทยเปลี่ยนเอา นุศรา ออก ให้ กมลพร สุขมาก เข้ามาเซตแทน และได้ผล วิลาวัณย์ ขึ้นตีทำแต้มเพิ่มไล่มา 10-19 คะแนน และเกมยังเป็นของไทย เพราะ บราซิล จับทางเซตของ "เจ้ายุ้ย" กมลพร ไม่ได้ จึงเสียแต้มให้ไทยง่ายๆ ไล่มา 11-19 คะแนน แต่แต้มที่ถูกนำห่างจนเกินไปสาวไทยฮึดไม่ขึ้นพ่ายไป 12-25 บราซิลนำ 2-0 เซต


        เซต 3 เปิดเกมมาทั้งสองทีมทำแต้มสูสีไล่บี้กันแต้มต่อแต้ม เสมอกันที่ 4-4 คะแนน และสาวไทยกลับขึ้นมาอึดอีกครั้งเมื่อ บราโดนไทยทำแต้มขึ้นนำ 6-4 จนต้องขอเวลานอกและรุกบอลสั้นตีเสมอ 6-6 คะแนน และสาวไทยได้แต้มขึ้นนำอีกครั้งจากการตีเสียของ ไทซ่าหนีไป 8-6 คะแนนและแต้มของไทยขยับออกห่างไปอีกเมื่อ เปลี่ยนมารุกจากแดนหลังตีทะลุบล็อกนำ 11-8 คะแนน


        บราซิล ก็รุกหนักทั้งตีหน้าเนต ตีบอลหลัง จนพิฆาตความเหนียวของไทยได้สำเร็จไล่บี้มาเป็น 10-11 คะแนน และกลับขึ้นมานำเจ้าถิ่นด้วยการเล่นบอลเร็วนำไทย 16-13 คะแนน จากนั้น บราซิล รุกด้วยการเสิร์ฟ จี้บอลแรกของไทยทำแต้มห่างออกไป 20-16 คะแนนไทยต้องขอเวลานอกอีกครั้ง พร้อมเปลี่ยนให้ ปิยะนุช ลงกลับมารับบอลอีกครั้ง


        แต่เกมรับที่เคยเหนียวแน่นของไทยหายไป และไม่สามารถรับบอลรุกของบราซิลได้จึงพ่ายไป 18-25 คะแนน ไทยถูกบราซิลย้ำแค้นพ่ายไป 0-3 เซต สกอร์ 16-25, 12-25, 18-25 ส่งผลให้ ไทย มีคะแนนในการแข่งขันรอบแรก 15 คะแนน แข่ง 9 นัด ชนะ 5 นัด แพ้ 4 นัด



     ''โค้ชอ๊อด''  เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยเปิดเผยว่า ต้องขอแสดงความยินดีกับบราซิลที่ได้ชัยชนะครั้งนี้ การเล่นกับบราซิลทุกครั้งถือว่าเป็นเกมที่ยาก ไทยต้องใช้เทคนิคและกำลังใจอย่างมากกว่าจะได้แต้มจากบราซิล และดีใจที่ได้เล่นกับทีมระดับโลก สำหรับทีมไทยก็จะพยายามพัฒนาทีมต่อไป




     ''สำหรับการเล่นในวันนี้มีข้อผิดพาดหลายอย่างจากการที่เราได้เล่น กับทีมระดับโลกหลายทีม ทั้งบราซิล, คิวบา, อิตาลี และ รัสเซีย ซึ่งล้วนแต่เป็นทีมที่อยู่ในระดับเกรด เอ ทั้งสิ้น ทำให้การเล่นแต่ละครั้งทำได้ยาก ส่วนการพัฒนาทีมชาติไทยต่อไป วางแผนไว้สามระยะ ระยะสั้นคือการวางแผนเล่นรายการชิงแชมป์เอเชียเดือนกันยายนนี้ ส่วนระยะกลาง คือการเตรียมความพร้อมของนักกีฬารุ่นใหม่ๆ และเยาวชนซึ่งต้องใช้เวลามากกว่า 3 ปี เพราะชุดเยาวชนขณะนี้ยังทดแทนผู้เล่นในชุดใหญ่ไม่ได้ และระยะยาวคือการหาผู้เล่นที่มีความสูงเข้ามาเสริมทีมต่อไป''




     ''โค้ชอ๊อด'' กล่าวเพิ่มอีกว่า รายการชิงแชมป์เอเชียที่ประเทศไต้หวัน ซึ่งจะเริ่มแข่งขัน 15 กันยายนนี้ ได้เตรียมทีมมาก็เพื่อเล่นรายการนี้ เนื่องจากเป็นรายการที่สำคัญที่สุด เพราะไทยต้องการที่จะไปเล่นโอลิมปิกรอบสุดท้าย โดยต้องการจะคว้าแชมป์ หรือหากทำไม่ได้ต้องพยายามเป็นอันดับ 1-4 เพื่อลุ้นไปควอลิฟายรายการต่อไป ซึ่งหากไทยติดอันดับ 1-2 ในการแข่งขันชิงแชมป์เอเชียก็จะมีโอกาสไปเล่นเวิลด์ คัพ ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเราต้องวางแผนการเล่นอีกครั้ง




     ''เราเตรียมความพร้อมของนักกีฬาตลอดเวลา  ซึ่งขณะนี้สภาพร่างกายของผู้เล่นไทยสามารถเล่นในระดับเอเชียได้อย่างสบาย ส่วนจิตใจถือว่าดีขึ้นมาก มีความเชื่อมั่นและลดแรงกดดันได้อย่างดี ซึ่งการเล่นในรายการเวิลด์กรังด์ปรีซ์ทำให้นักกีฬาไทยพัฒนาขึ้นมามาก เพราะการแข่งขันในระดับโลก การเสิร์ฟมีสปีดบอลที่เร็วและหนัก  การสกัดกั้นก็ยากเช่นกัน'' โค้ชอ๊อดกล่าว




     ด้าน ''กิ๊ฟ'' วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ กัปตันทีมชาติไทยเปิดเผยว่า ยินดีกับราซิลที่เอาชนะได้ในนัดนี้ เราพยายามเล่นเต็มที่แล้ว แต่บราซิลเป็นทีมที่แข็งแกร่งมาก แต่เป็นโอกาสดีของไทยที่ได้เล่นกับทีมระดับโลกหลายทีม โดยเฉพาะกับบราซิลทำให้เห็นว่าทีมนั้นแข็งแกร่งมาก เล่นบอลได้ทุกหน้า ซึ่งทีมไทยจะพยายามพัฒนาฝีมือของตัวเองต่อไป




     ในขณะที่นักตบสาว ''แดนปลาดิบ'' ญี่ปุ่น ที่มีแต้มเท่ากับไทย 15 คะแนน พลิกล็อก เอาชนะ รัสเซีย 3-0 เซต เก็บ 3 แต้ม รวม 9 นัดมี 18 คะแนน ขยับขึ้นไปเป็นที่ 4  แทนและเขี่ยเซอร์เบีย ที่มี 17 คะแนน หล่นมารั้งที่ 5 คว้าตั๋วไปแข่งรอบสุดท้ายได้สำเร็จเป็นทีมที่ 6



     ส่งผลให้นักตบสาวไทยต้องมาลุ้นเข้ารอบกับ โปแลนด์ลงสนามนัดสุดท้ายดวลกับ จีน แข่งจบ 8 นัดโปแลนด์มีทั้งสิ้น 13 คะแนน หากโปแลนด์ เอาชนะ จีน 3 เซตรวดก็จะผ่านเข้ารอบเป็นทีมที่ 7 ส่วนไทยจะเป็นที่ 8 แต่หาก โปแลนด์ แพ้ จีน ไทยก็จะเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายทันที และปรากฏว่า นักตบสาวจาก ''แดนมังกร'' แม้จะได้สิทธิ์เข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายในฐานะเจ้าภาพ ยังโชว์เต็มที่เก็บชัยเอาชนะไป 3-0 เซต สกอร์ 25-20, 25-17, 25-22 โปแลนด์จึงไม่มีแต้มจากการแข่งขันนัดนี้มี 13 แต้ม ส่งผลให้นักตบสาวไทยคว้าตั๋วใบสุดท้ายผ่านเข้าไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศได้ สำเร็จ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ หลังจากที่นักตบสาวไทยได้สิทธิ์เข้าไปเล่นเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ตั้งแต่ 2002 ซึ่งปีนั้นมีทีมแข่งเพียงแค่ 8 ทีมและไทยก็รั้งบ๊วยคว้าที่ 8 มาครอง



     สำหรับผลการแข่งขัน สายอื่นๆ มีดังนี้ สายเคอีกคู่ระหว่าง คิวบา กับ อาร์เจนฯ ปรากฏว่า คิวบา เอาชนะ อาร์เจนฯ 3-0 เซต (26-24, 25-23, 25-18)



     สายแอล ที่ประเทศญี่ปุ่น เซอร์เบีย ชนะ เกาหลีใต้ 3-0 เซต (25-18, 25-16, 25-23) ญี่ปุ่น ชนะ รัสเซีย 3-0 เซต (25-23, 25-19, 25-19)



     สายเจ ที่ฮ่องกง อิตาลี ชนะ เยอรมัน 3-0 เซต (25-15, 25-22, 25-23), อเมริกา ชนะ เปรู 3-0 เซต (25-13, 25-18, 25-15)



     สายไอ ที่ฮ่องกง โดมินิกัน ชนะ คาซัคสถาน 3-2 เซต (15-25, 27-25, 21-25, 25-15, 15-9)