ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

วันแรกหวานหยด บิ๊กตู่อ้อน นักข่าวน่ารักทุกคน

เริ่มโดย itplaza, 16:43 น. 10 ก.ย 57

itplaza

เข้าทำเนียบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ สั่งครม.ยึดแนวพระราชดำริ พท.กระตุกสนช.กล้าๆหน่อย

"นายกฯประยุทธ์" นั่งหัวโต๊ะถก ครม.อุ่นเครื่องซักซ้อมคิวก่อนลุยบริหารประเทศ กำชับเข้ม รมต.ถือหลัก "ซื่อสัตย์-โปร่งใส-ยึด ผลประโยชน์ชาติ" โปรยยิ้มหวานใส่สื่อทำเนียบฯ หยอด "นักข่าวน่ารักทุกคน" อ้อนขอให้ "ช่วยกันนะ" 12 ก.ย. ลุยเองแถลงนโยบายต่อ สนช. "วิษณุ" แจงนายกฯกำกับมากับมือ สั่งแก้ไขแทรกเรื่อง "ปราบโกง-ปฏิรูป-เดินหน้าสู่ประชาธิปไตย" ดันเป็นวาระแห่งชาติ ย้ำอายุรัฐบาลอยู่แค่ 1 ปีบวกลบ รอคลอด รธน.ฉบับใหม่ จ่อคิวยกเลิกกฎอัยการศึกพื้นที่ท่องเที่ยว พท.กระตุก สนช.กล้าๆหน่อยชำแหละโรดแม็ปรัฐบาล เหน็บ หน.คสช.ตั้งน้องชายสืบทอดผบ.ทบ. "อภิสิทธิ์" ห่วงไร้การตรวจสอบเสี่ยงทุจริตเบ่งบาน ป.ป.ช.ตั้ง "สรรเสริญ" นำทีม 10 กรรมการร่วมฝ่าย อสส. เคลียร์สำนวนฟ้อง "ปู" จำนำข้าว

รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เริ่มต้นขับเคลื่อนบริหารประเทศ โดย พล.อ.ประยุทธ์สั่งกำชับต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอให้ปฏิบัติตามที่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณไว้คือ การซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส และยึดผลประโยชน์ของประเทศ

"บิ๊กตู่" ไหว้พระแก้ว–หลักเมือง

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 9 ก.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะ รักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รอง ผบ.ทบ. และ รมช.กลาโหม เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระเเก้ว) ก่อนเดินทางต่อมาที่ศาลหลักเมือง สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในศาลหลักเมืองเป็นการส่วนตัว โดยไหว้หอพระพุทธรูป ผูกผ้าเเพรองค์หลักเมืองจำลอง กราบองค์หลักเมืองในอาคารจตุรมุข และเทพารักษ์ทั้ง 5 รวมทั้งเติมน้ำมันตะเกียงประจำวันเกิด โดยมี พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกระทรวงกลาโหมและ รมว.แรงงาน คอยต้อนรับ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่อย่าง เข้มงวด พร้อมปิดกั้นไม่ให้สื่อมวลชนเข้า-ออกศาลหลักเมือง จากนั้นจึงเดินทางไปที่กองบัญชาการกองทัพบก ถนนราชดำเนิน เปลี่ยนชุดเป็นเสื้อพระ ราชทานไหมไทยแขนยาวสีฟ้าแล้วเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างไม่เป็นทางการ นัดแรกเวลา 09.30 น. เพื่อเตรียมการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันที่ 12 ก.ย.

ทำเนียบฯคึก ถก ครม.อุ่นเครื่อง

ขณะที่บรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นไปด้วยความคึกคัก เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ตึกสันติไมตรี หลังใน ทำเนียบรัฐบาล สถานที่ประชุม ครม.มีสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศมาเกาะติดทำข่าวจำนวนมาก ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เจ้าหน้าที่ทหารจากกรมทหารปืนใหญ่รักษา พระองค์สนธิกำลังกับตำรวจสันติบาล และ บก.น.1 ทั้งในและนอกเครื่องแบบ รวม 164 นาย วางกำลัง ทั้งในและพื้นที่โดยรอบทำเนียบฯ มีตำรวจกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (อีโอดี)นำอุปกรณ์ตรวจวัตถุระเบิดและสุนัขตำรวจ เข้าตรวจพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณประตู 1 เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ มีการตั้งจุดตรวจสแกนวัตถุต้องสงสัยใต้ท้องรถยนต์ที่เข้าทำเนียบฯ บุคคลที่เข้าทำเนียบฯต้องแสดงบัตรประจำตัว ที่ตึกสันติไมตรี หลังใน สถานที่ประชุม ครม. เจ้าหน้าที่นำแผงเหล็กมาตั้งบริเวณทางเชื่อมตึกไทยคู่ฟ้าและตึกสันติไมตรี กั้นไม่ให้สื่อมวลชนเดินตามสัมภาษณ์และไม่ให้เข้าไปยังตึกสันติไมตรี

ตั้งแต่ช่วงเช้าบรรดารัฐมนตรีต่างทยอยเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลอย่างพร้อมเพรียง มี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.การพัฒนาสังคมและความ มั่นคงของมนุษย์ (พม.) เดินทางมาถึงเป็นคนแรก โดยรัฐมนตรีทุกคนสวมชุดผ้าไทยพระราชทาน ส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อโทนสีฟ้า มีสีอื่นบ้างประปราย ขณะที่รัฐมนตรีบางคนเข้าสักการะพระพรหม บนตึกไทยคู่ฟ้าก่อนการประชุม ครม. อาทิ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ และนายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกฯ เป็นต้น

"นายกฯตู่" ยิ้มหวานใส่นักข่าว

ต่อมาเวลา 09.06 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินทางออกจาก บก.ทบ. ด้วยรถเบนซ์สีดำ ทะเบียน ศท 1251 กรุงเทพมหานคร ถึงทำเนียบรัฐบาล มี พล.ต.อ.อดุลย์ และ พล.อ.วิลาศ อรุณศรี อดีต ผบ.กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) มารอต้อนรับหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทันทีที่ลงจากรถยนต์ พล.อ.ประยุทธ์ส่งยิ้มโบกมือทักทายสื่อมวลชน จากนั้นเวลา 09.17 น. จึงขึ้นไปสักการะพระพรหม บนตึก ไทยคู่ฟ้า และลงมาสักการะศาลพระภูมิเจ้าที่ และ ศาลตายาย ที่สวนหย่อม หน้าตึกบัญชาการ 1 พร้อมผูกผ้าแพรเจ็ดสี ถวายเครื่องสักการะ ผลไม้ หมากพลู ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมชวนสื่อมวลชนให้ไหว้ไปด้วยกัน หลังเสร็จพิธีสื่อมวลชนพยายามทักทายตะโกนบอกให้ พล.อ.ประยุทธ์อารมณ์ดีและยิ้มและบอกว่านักข่าวประจำทำเนียบฯน่ารักทุกคน ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์หันมายิ้มและพูดว่า "นักข่าวน่ารักทุกคน" ก่อนเดินทางไปร่วมประชุม ครม.ที่ตึกสันติไมตรี หลังใน ระหว่างเดินถึงทางเชื่อมตึกไทยคู่ฟ้าและตึกสันติไมตรี เมื่อสื่อมวลชนพยายามตะโกนเรียกเพื่อจะพูดคุย นายกฯหันมาบอกสื่อมวลชนว่า "ช่วยกันนะๆ"

กำชับ ครม.ยึดมั่นคำถวายสัตย์ฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงต้นของการประชุม ครม.เปิดโอกาสให้ช่างภาพเข้าไปบันทึกภาพบรรยากาศการประชุม ครม. โดยก่อนเข้าสู่วาระการประชุม พล.อ.ประยุทธ์กล่าวกับ ครม.ว่า วันนี้ถือเป็นวันดีที่ได้มีการประชุมร่วมกันระหว่าง ครม. เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนประเทศ ที่เน้นความโปร่งใส สร้างค่านิยม 12 ประการให้กับคนในชาติ ขอให้ ครม.ปฏิบัติตามที่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เอาไว้คือ การซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส และยึดผลประโยชน์ของประเทศ พร้อมกันนี้จะมีการรับทราบถึงผลการดำเนินงานของ คสช. และจะหารือ ถึงข้อสรุปการทำงานร่วมกันในอนาคต ได้รับการยืนยันแล้วว่าจะมีการแถลงนโยบายต่อ สนช.ในวันที่ 12 ก.ย.นี้

ตั้ง "สุวพันธุ์"ประสานงาน สนช.

นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมวันนี้ไม่มีเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน เป็นเพียงการชี้แจงขั้นตอนการประชุม ครม.เรื่องวาระต่างๆ หรือเรื่องทราบจรว่าจะมีขั้นตอนเสนอ ครม.อย่างไร รวมถึงชี้แจงนโยบายด้านต่างๆของแต่ละกระทรวง ในที่ประชุมเห็นชอบให้นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายก– รัฐมนตรี ทำหน้าที่ประสานกับรัฐบาลและ สนช.

ถือเคล็ดเดินสายกราบสมเด็จฯ

ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ ทีมโฆษก คสช. กล่าวว่า ในวันที่ 10 ก.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. พร้อม ครม.ทั้งคณะ จะเดินทางไปกราบนมัสการสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปญฺโญ) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชที่พุทธมณฑล เพื่อความเป็นสิริมงคลเนื่องในโอกาสเข้ามาทำงานบริหารประเทศ โดย ครม.จะนัดรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน จากนั้นเวลา 13.00 น. จะโดยสารรถบัสเดินทางออกจากทำเนียบฯไปพุทธมณฑลพร้อมกัน

"ประยุทธ์" ลุยเองแถลงนโยบาย รบ.

ด้าน พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกฯและ รมว.การต่างประเทศ เปิดเผยว่า ครม.หารือถึงการทำงานในภาพรวม เพื่อเตรียมความพร้อมรัฐบาลแถลงนโยบายการทำงานรัฐบาลต่อ สนช.วันที่ 12 ก.ย. โดย พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นผู้แถลงนโยบายรัฐบาลด้วยตัวเอง การปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ รมว.การต่างประเทศ ตนจะเริ่มงานแรกคือ การเดินทางไปประชุมสหประชาชาติ (ยูเอ็น) สมัยที่ 69 ที่ประเทศ สหรัฐอเมริกาช่วงปลายเดือน ก.ย.

ยึดพระราชดำริ–ปรัชญาพอเพียง

เมื่อเวลา 13.50 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม.ว่า การประชุมครั้งนี้ไม่ถือว่าเป็นการ ประชุมอย่างเป็นทางการ และไม่เรียกว่าเป็นการประชุมครั้งที่ 1 แต่เป็นการประชุมก่อนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา มี 3 เรื่องสำคัญ ที่ ครม.ต้องทราบ ก่อนเข้าบริหารราชการแผ่นดิน คือ 1.ซักซ้อมความเข้าใจวิธีทำงาน รวมทั้งเตรียมตัวปฏิบัติภารกิจของรัฐมนตรี และเลขาธิการ ครม. ชี้แจงแนวทางที่ ครม.จะเสนอแต่งตั้งที่ปรึกษา เลขานุการ ผู้ช่วยรัฐมนตรี 2.หัวหน้าแต่ละฝ่ายของ คสช.มารายงานผลการปฏิบัติงานช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา นายกฯสั่งการตอนท้ายว่าสิ่งที่หัวหน้าแต่ละฝ่ายของ คสช.สรุปเป็นการประมวลงานของ คสช.เป็นอย่างดี น่าจะพิจารณาพิมพ์เป็นรูปเล่มแจกจ่ายไปตามกระทรวง จะได้สานต่อถูกต้อง 3.ครม.รับทราบว่าได้ยกร่างนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 12 ก.ย. แล้วเสร็จแล้ว ซึ่งนายกฯลงมากำกับด้วยตนเองอย่างใกล้ชิด โดยร่างนโยบายดังกล่าวมาจาก 5 แหล่ง คือ 1.นายกฯให้ทำนโยบายยึดหลักตามแนวพระราชดำริ คือ เข้าใจ เข้าถึงและพัฒนา 2.ยึดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เน้นเรื่องความมีเหตุ มีผล มีภูมิคุ้มกัน 3.มาจากแผนพัฒนาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 11 4.มาจากนโยบาย คสช. เช่น โรดแม็ป 3 ระยะ หลักค่านิยม 12 ประการ 5.มาจากปัญหาของประเทศและความต้องการของประชาชนในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา

สะสางปัญหาเร่งด่วน 11 ด้าน

นายวิษณุกล่าวว่า นายกฯเน้นเป็นพิเศษและให้ใส่นโยบายด้วยว่าปัญหาอย่างหนึ่งของประชาชนคือเป็นเจ้าของประเทศแต่ไม่รู้ทิศทางประเทศว่าจะไปอย่างไร นโยบายต้องตอบคำถามที่ค้างคาใจของประชาชน เช่น ต้องเกิดความชัดเจนว่าที่อยู่จะถูกเวนคืนหรือไม่ รวมทั้งเรื่องใหญ่ๆอื่นๆที่ประชาชนควรมีสิทธิจะรู้คำตอบ นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวกำหนดให้รัฐบาลมีหน้าที่ 3 ข้อ คือ 1. การบริหารราชการแผ่นดิน 2. การปฏิรูปประเทศ 3. สร้างความสามัคคีปรองดองสมานฉันท์ให้เกิดขึ้น ฉะนั้นนโยบายที่จะแถลงจึงครอบคลุมหน้าที่ 3 ข้อนี้ ครอบคลุมปัญหาต่างๆของประเทศ 11 ด้าน อาทิ เศรษฐกิจ การศึกษา ความมั่นคง สิ่งแวดล้อม การเตรียมตัวเข้าสู่อาเซียน สร้างคุณธรรมให้เกิดขึ้นในสังคม เป็นต้น นายกฯให้แนวให้แบ่งว่าอะไรเป็นเรื่องต้องทำเร่งด่วนเฉพาะหน้า อาจต้องทำภายใน 1 เดือนหลังจากรัฐบาลเข้าทำงานแล้ว ระยะกลาง แต่ต้องพยายามให้เสร็จภายใน 1 ปี สุดท้ายคือระยะยาว กว่าจะเห็นผล 5-10 ปีข้างหน้า อาทิ โครงการรถไฟทางคู่ รัฐบาลจะวางรากฐานเอาไว้ให้

ชูคำขวัญ "ทำก่อน ทำจริง ทำทันที"

นายวิษณุกล่าวว่า นายกฯย้ำไว้ให้ในนโยบายด้วยว่า สิ่งที่ท่านเคยพูดมา อาจถือเป็นคำขวัญประจำรัฐบาลก็ได้ คือ ทำก่อน ทำจริง ทำทันที หวังผลสัมฤทธิ์อย่างยั่งยืน คำเหล่านี้จะปรากฏเป็นรูปธรรมในนโยบาย ทั้งการสร้างรถไฟ การสร้างความปรองดอง การปฏิรูป โดยเรื่องปฏิรูป รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) จะกำชับให้ข้าราชการทุกฝ่ายร่วมมืออย่างเต็มที่ จะประสานงานใกล้ชิดแต่ไม่แทรกแซง และอาจเปิดพื้นที่ให้คนที่ไม่ได้รับการสรรหาเป็น สปช.ได้แสดงความคิดเห็น เช่น คนที่ตกรอบจาก 550 คน อาจประสานให้เป็นกรรมาธิการ อนุกรรมาธิการ คณะทำงาน หรือที่ปรึกษาของ สปช. ส่วนอีกกว่า 7,000 คนที่ตกไปรอบแรก จะพิจารณาต่อไปว่าถ้าคนกลุ่มนี้ยังสมัครใจจะต้องมีเวทีให้แสดงความคิดเห็น ซึ่งรัฐบาลจะคิดต่อไป

สั่งสกัดทุจริตแทรกทุกหัวข้อปฏิรูป

นายวิษณุกล่าวว่า ส่วนนโยบายสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ก่อนหน้านี้ คสช.มอบให้สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กอ.รมน.ศูนย์ดำรงธรรมทำไปก่อนแล้ว และรัฐบาลจะรับลูกมาทำต่อไป ปัญหาใหญ่ของการสร้างความปรองดอง คือการขจัดเงื่อนไขความไม่เป็นธรรม ความเหลื่อมล้ำในสังคม อำนวยความยุติธรรมที่เขารู้สึกว่าสองมาตรฐาน รัฐบาลจะพยายามแก้ไขสิ่งเหล่านี้ให้ได้ นายกฯให้แก้ไขก่อนส่งร่างนโยบายไปพิมพ์ในเย็นวันที่ 9 ก.ย. คือ หัวข้อทุกเรื่องไม่ว่าเศรษฐกิจ การศึกษา ความมั่นคง ให้แทรกเรื่องการป้องกันและปราบปรามการทุจริต การปฏิรูปการสร้างความเปลี่ยนแปลงทุกเรื่อง และให้แทรกการเดินหน้าเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย ถือว่าเป็นวาระแห่งชาติที่แทรกเข้าไปด้วย หลังการแถลงนโยบายแล้ว นายกฯกำชับว่าสัปดาห์หน้าจะให้ประชุมกับฝ่ายประจำ เพื่อให้แต่ละกระทรวงเข้าใจนโยบายและให้ทำแผนปฏิบัติการหรือ "แอ็กชั่นแพลน" ไม่ใช่มีแต่มาสเตอร์แพลน กำหนดว่าจะทำอะไร อย่างไร ใช้งบประมาณเท่าใด จะเกิดผลสำเร็จเวลาเท่าใด ครอบคลุมเวลา 1 ปี สิ้นปีประมวลเป็นรายงานประจำปีเสนอต่อสภาฯ ส่วนการประชุม ครม.ครั้งหน้าจะประชุมเพื่อแบ่งงานรองนายกฯ

ย้ำอายุรัฐบาล 1 ปีบวกลบ

นายวิษณุกล่าวว่า ส่วนเงื่อนเวลารัฐบาลนี้มีเวลาทำงาน 1 ปี อาจบวกหรือลบขึ้นอยู่ว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะเสร็จเมื่อไหร่ รัฐบาลรู้เวลาเข้ามาทำงาน ไม่ใช่อยู่ 4 ปีเหมือนรัฐบาลก่อน นโยบายจึงเขียนเพื่อที่จะให้ทำงานได้ใน 1 ปี ยกเว้นสิ่งที่วางรากฐาน ส่วนเป้าหมายเรื่องประชาธิปไตย เรื่องการปฏิรูป เรื่องไม่ทุจริตคอร์รัปชัน เป็นเป้าหมายที่จะต้องเดินไปถึงจุดนั้นให้ได้ และเป็นคำตอบสุดท้าย เพื่อมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ มีการเลือกตั้ง มีรัฐบาลหน้า หวังว่ารัฐบาลใหม่ที่มาจะรับช่วงงานทั้งหมดไปทำได้ และเป็นรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยที่ไม่เป็นภาระกับประชาชน เชื่อว่าถ้าปฏิรูประบบราชการ ปฏิรูปวิธีทำงานของข้าราชการ ถ้าได้ขจัดคอร์รัปชัน ถ้าได้ดูแลการปกครองภูมิภาค ส่วนกลาง ส่วนท้องถิ่น และได้ปฏิรูปการเมืองเท่าที่ทำได้ ทั้งหมดจะเป็นคำตอบของระบอบประชาธิปไตยในตัวของมันเอง

จ่อเลิกอัยการศึกแหล่งท่องเที่ยว

นายวิษณุยังกล่าวถึงเรื่องการยกเลิกกฎอัยการศึกว่า นายกฯ ระบุว่า จะพิจารณายกเลิกกฎอัยการศึกในบางพื้นที่ในโอกาสแรกที่จะทำได้ ซึ่งจะเป็นตามความจำเป็นเร่งด่วน เพื่อประโยชน์ของการท่องเที่ยว ขณะเดียวกันมิติการท่องเที่ยวก็มีเรื่องอื่นด้วย ฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังศึกษาเตรียมข้อมูลอยู่ หลังจากวันที่ 12 ก.ย.เป็นระยะเวลาที่พิจารณาได้ทั้งนั้น

คสช.ผ่องถ่ายอำนาจสู่รัฐบาล

นายวิษณุให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ได้แจ้งต่อที่ประชุม ครม.ว่า การเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณฯ เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ทำให้ ครม.เข้ารับหน้าที่โดยสมบูรณ์ เงินเดือนประจำตำแหน่งเริ่มจ่าย ต้องมีการยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. ขณะที่ คสช.จะเริ่มลดเพดานลงมาเป็นองค์กรหนึ่ง ไม่ใช่ปฏิบัติหน้าที่เหมือนรัฐบาล จะออกประกาศหรือคำสั่งอะไรไม่ได้อีกแล้ว ยกเว้นใช้อำนาจตามกฎอัยการศึกหรือจัดระเบียบภายใน คสช.เอง นอกเหนือจากนั้นต้องผลักมาอยู่ที่รัฐบาล คสช.จะอยู่เพื่อทำหน้าที่ 2 อย่าง คือ 1. เป็นที่ปรึกษาและให้ข้อเสนอแนะกับรัฐบาลหรือรัฐบาลขอความเห็นไป และ 2. ดูแลเรื่องความมั่นคง กรณีจะเรียกบุคคลมารายงานตัวต้องทำตามกฎอัยการศึก คณะกรรมการชุดต่างๆ ที่ คสช.แต่งตั้ง นายกฯแจ้งว่า มีหลายชุดที่จะปรับรื้อผ่องถ่ายมาเป็นโครงสร้างรัฐบาลแทน แม้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวฯ เขียนให้อยู่ต่อได้ แต่นายกฯไม่ต้องการให้ปรับมาอยู่ในโครงสร้างฝ่ายบริหาร อะไรที่เขียนว่าหัวหน้า คสช.เป็นประธานและรองหัวหน้า คสช.เป็นรองประธาน ให้ปรับมาเป็นนายกฯเป็นประธานและรองนายกฯเป็นรองประธาน ส่วนซุปเปอร์บอร์ดที่ตั้งโดยไม่ได้อาศัยกฎหมายใด ยังสามารถอยู่ต่อได้

ขรก.ควบ รมต.รับค่าตัวทางเดียว

นายวิษณุกล่าวต่อว่า ส่วนการรับเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งของรัฐมนตรีที่ยังเป็นข้าราชการประจำว่ารัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว มีบทบัญญัติยอมให้ข้าราชการประจำมาดำรงตำแหน่งได้ การรับค่าตอบแทนก็เป็นไปตามกฎหมายเดิม กรณีของ พล.อ.ประยุทธ์ที่เป็นนายกฯและเป็น ผบ.ทบ.ด้วย ตามหลักกำหนดให้รับเงินเดือนได้ทางเดียว ไม่ว่าจะมีกี่ตำแหน่งก็ตาม แต่ถ้าเป็นเงินประจำตำแหน่ง มีกี่ตำแหน่งรับได้หมด เมื่อถามว่าหากจะรับเงินเดือนในส่วนตำแหน่งของนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องรอเกษียณอายุราชการจากตำแหน่ง ผบ.ทบ.ก่อนหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า เมื่อรัฐธรรมนูญฯ เปิดให้ข้าราชการเป็นรัฐมนตรีได้ โดยหลักเงินเดือนข้าราชการประจำจะพ่วงติดเข้ามา แต่อยากให้รออีก 1-2 วัน ดูว่าหลักเกณฑ์ใหม่จะกำหนดเป็นอย่างไร

"บิ๊กตู่" รับเงินเดือนนายกฯหลังเกษียณ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงกลาโหมว่า หัวหน้า คสช. และ ผบ.ทบ. ขณะนี้รับเงินเดือนในตำแหน่ง ผบ.ทบ. ส่วนเงินเดือนตำแหน่งนายกฯและเงินประจำตำแหน่งรวม 125,590 บาท จะรับหลังเกษียณอายุราชการ ส่วน คสช.ขณะนี้ไม่มีเงินเดือน แต่จะได้รับค่าตอบแทน ขณะนี้อยู่ระหว่างออก พ.ร.ฎ.ค่าตอบแทน คสช. สำหรับ สนช.ที่มาจากนายทหาร ได้รับเพียงเบี้ยประชุม ทั้งนี้ บัญชีอัตราเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มของผู้ดำรงตำแหน่ง คสช. สนช. และ สปช. โดยหัวหน้า คสช. ประธาน สนช. รับเงินประจำตำแหน่ง 75,590 บาทต่อเดือน และเงินเพิ่ม 50,000 บาทต่อเดือน คสช. ประธาน สปช. รับเงินประจำตำแหน่ง 74,420 บาทต่อเดือน และเงินเพิ่ม 45,500 บาทต่อเดือน รองประธาน สนช. รองประธาน สปช. รับเงินประจำตำแหน่ง 73,240 บาทต่อเดือน และเงินเพิ่ม 42,500 บาทต่อเดือน สนช. สปช. รับเงินเดือน 71,230 บาทต่อเดือน และเงินเพิ่ม 42,330 บาทต่อเดือน

มท.ตั้งแท่นชงโยกย้ายซี 10

เมื่อเวลา 08.00 น. ที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) มีการประชุมหารือข้อราชการและผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยประจำสัปดาห์ โดยนายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ที่ประชุมหารืองานที่ต้องเสนอ รมว.มหาดไทยประมาณ 30 เรื่อง รวมถึงเตรียมให้ รมว.มหาดไทยลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วม ส่วนการเสนอบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของ มท.มีคำสั่งสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นนโยบายของคสช.ให้ชะลอการแต่งตั้งโยกย้าย ประกอบกับมีระเบียบสำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ที่กระทรวงต้องดำเนินการ หากมีการเสนอบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายคงต้องเสนอบัญชีในส่วนที่มีการโยกย้ายและให้รักษาการหลายตำแหน่งให้พิจารณาก่อน จากนั้นจึงจะคัดเลือกเพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างลง ซึ่งคงจะทันเกษียณอายุราชการสิ้นเดือน ก.ย.บางส่วน แต่ตำแหน่งที่ว่างและต้องคัดสรรตามระเบียบ ก.พ.ต้องดำเนินการตามระเบียบต่อไป

"บิ๊กหนุ่ย" ดันลูกหม้อนั่ง ผช.รมต.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมว่า พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ทรัพยากรฯ แจ้งมายังสำนักงานปลัดกระทรวงฯว่าจะเข้ามาทำงานวันแรกในวันที่ 15 ก.ย. โดยทางกระทรวงได้จัดเตรียมห้องทำงานไว้ที่ชั้น 20 และมีกระแสว่าพล.อ.ดาวพงษ์เตรียมเสนอชื่อนายสุนันต์ อรุณนพรัตน์ อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่เรียนวปอ.รุ่นเดียวกัน เป็นผู้ช่วย รมว.ทรัพยากรฯ

บี้ "รัชตะ" พ้นอธิการบดีมหิดล

นายสุกรี เจริญสุข คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ยืนยันที่จะนำปิ๊บคลุมหัวเข้าร่วมประชุมคณบดีมหาวิทยาลัยมหิดลในวันที่ 10 ก.ย. เวลา 09.30 น. ที่อาคารสำนักงานอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อเรียกร้องให้ นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข ลาออกจากตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล จะได้มีเวลานั่งบริหารงานในฐานะ รมว.สาธารณสุขอย่างเต็มที่ ไม่ใช่ทำงานแบบพาร์ตไทม์ ทั้งหมดที่ทำไปในนามส่วนตัว เพราะรู้สึกอาย คนเป็นครู อาจารย์ เป็นหมอควรมีจิตสำนึก

โยธาฯยันยังไม่ได้จ่ายค่าไมค์หรู

สำหรับกรณีการติดตั้งระบบเสียงในห้องประชุม ครม. ชั้น 5 ตึกบัญชาการ 1 ที่ใช้ไมโครโฟนราคา 1.4 แสนบาท จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ว่าราคาแพงเกินจริง ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงมหาดไทย ล่าสุด นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง จัดทำข้อสรุปรายละเอียดรวมทั้งราคาของเครื่องเสียงและไมโครโฟน ส่งให้พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.การพัฒนาสังคมฯและรองหัวหน้า คสช. ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ กำกับดูแลหน่วยงานในสังกัดสำนักนายกฯ ที่รับผิดชอบโครงการนี้พิจารณาแล้ว

ขณะที่เจ้าหน้าที่ของกรมโยธาธิการฯยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีการจ่ายเงินล่วงหน้า 15 เปอร์เซ็นต์ให้บริษัทอัศวโสภณ จำกัด เพราะยังไม่ได้เซ็นสัญญาจัดซื้อจัดจ้างและยังอยู่ในช่วงต่อรองราคา

กระตุก สนช.กล้าชำแหละเลิกอวย

วันเดียวกัน นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯและ รมว.การต่างประเทศ คณะกรรมการกิจการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอให้รัฐบาลรีบแถลงนโยบายต่อ สนช.เพราะประชาชนต้องการรับทราบ และอยากเห็น สนช.ทำหน้าที่อภิปรายติติงเสนอแนะ นโยบายไหนไม่เข้าท่าต้องอภิปราย ไม่ใช่ชมกันอย่างเดียว วันนี้ สนช.ทำหน้าที่แทนประชาชน แต่ไม่รู้ฟังเสียงประชาชนมามากน้อยแค่ไหน และขอให้ถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์ด้วย ชาวบ้านจะได้เห็น สนช.ทำงานว่า ทำหน้าที่แทนประชาชนได้แค่ไหน ขณะที่รัฐบาลต้องแถลงนโยบายให้เห็นเป็นรูปธรรม ไม่ใช่พูดไปเรื่อยตามสคริปต์ และขอให้พูดด้วยว่าจะปฏิรูปองค์กรอิสระ ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมให้ประชาชนเคารพกฎหมาย และทำให้เกิดธรรมาภิบาลได้อย่างไร

ข้องใจ "บิ๊กตู่" ตั้งน้องสืบทอด ผบ.ทบ.

นายสมคิด เชื้อคง อดีต ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการแต่งตั้งนายทหารจำนวน 1,092 คนว่า เท่าที่ติดตามดูเหมือน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. จัดกองกำลังเพื่อปกป้องสถานะของ คสช.และรัฐบาลที่กำลังทำหน้าที่อยู่ เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีใครคัดค้าน ถือเป็นเรื่องปกติที่จะใช้คนที่ตัวเอง ใช้คนที่ไว้ใจเข้ามาทำงาน เหมือนการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการกลุ่มใครกลุ่มมัน แต่เอะใจตรงผู้ช่วยคนใหม่ คือ พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 3 ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ทบ. เป็นการสร้างทายาทขึ้นมาสืบทอดตำแหน่ง ผบ.ทบ.ต่อจาก พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่

หวั่นตรวจสอบไม่ได้ทุจริตจะคืนชีพ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการบริหารราชการของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯว่า ถือเป็นรัฐบาลที่ค่อนข้างมีอำนาจเบ็ดเสร็จ ทำอะไรได้รวดเร็ว แต่ต้องยอมรับว่ากระบวนการตรวจสอบจะไม่เข้มข้นเท่ายุคที่เป็นประชาธิปไตย เช่น กลไกการตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชันหรือนโยบายที่ผิดพลาด อาจไม่เข้มแข็ง ปัจจัยสำคัญที่รัฐบาลชุดใหม่ต้องตระหนัก คือ ปัญหาปากท้อง หรือสวัสดิการต่างๆที่ประชาชนจะได้รับ จะทำอย่างไรไม่ให้เกิดช่องว่าง รัฐบาลจากการเลือกตั้งแม้ได้รับรายงานหรือข้อมูลจากทางราชการฝ่ายเดียว ก็ไม่ตรงกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ เทียบกับรัฐบาลที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการเมืองอาจมีปัญหามากขึ้น
ที่มา http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=1&news_id=39359&page=1

ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

ชื่อ:
การยืนยัน:
กรุณาเว้นช่องนี้ว่างไว้:
พยัญชนะไทยตัวสุดท้าย:
shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง