ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เดี๋ยวก็รู้...หมู่หรือจ่า...กับเวลาที่เหลือแค่ 1 ปี

เริ่มโดย itplaza, 11:32 น. 29 ก.ย 57

itplaza

"ตนไม่เคยคิดว่า ตัวเองมีอำนาจ คิดแต่เพียงเป็นไพร่ฟ้าไพร่แผ่นดิน พูดไพร่ไม่ได้เดี๋ยวมีเรื่อง เป็นทาสแผ่นดินแล้วกัน ฉะนั้น เราต้องทำประโยชน์ให้แผ่นดิน ที่เราเกิดเจริญเติบโตมา ประเทศชาติให้เรายืนอยู่ตรงนี้ จะให้ร่ำรวยทุกข์สุขเท่ากันหมดเป็นไปไม่ได้ ซึ่งเราจะพัฒนาไปสู่โลกไหนก็แล้วแต่ ต้องไม่ทำลายของเก่า ของเก่ามีไว้ให้เราภาคภูมิใจ เป็นประวัติศาสตร์เพื่อเตือนเราว่า อย่าทำอะไรที่ไม่ดี ไม่ถูกต้อง เดือดร้อน นี่คือเป็นสิ่งที่ตนอยากจะระบายความรู้สึกให้เข้าใจ

วันนี้เราได้นำรายชื่อมาดู ตรวจสอบรายละเอียด ดูคุณสมบัติ ดูที่อยู่ที่ทำงานอะไรต่างๆ เพื่อสรรหาคนที่มีคุณภาพเหมาะสม ซึ่งไม่เห็นประโยชน์ว่าผมจะไปล็อกใครเข้ามาทำงานตรงนี้ เพราะเราไม่ต้องการอะไรแล้วจะล็อกทำไม มีแต่ล็อกอย่างเดียวก็คือล็อกด้วยความรู้ความสามารถของเขา ซึ่งคิดว่าเรื่องที่ร่ำลือกันตรวจสอบทีหลังได้ ใครไม่ดีหรือ ถูกร้องเรียนก็ตรวจสอบและปรับออก ซึ่งยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีการตรวจพบเรื่องทุจริตอะไรต่างๆ ก็แล้วแต่ ไปหาหลักฐานกันมา" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว...

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.

กับความในใจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. พ่วงด้วยตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่กำลังจะหมดลงในวาระเกษียณอายุราชการเต็มที ซึ่งกล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดการประชุมและแสดงปาฐกถาพิเศษในการประชุมประจำปี 2557 ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เรื่อง "การพัฒนาคนเพื่ออนาคตประเทศไทย" และในรายการ"คืนความสุขให้คนในชาติ"สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนท้ายสุดจะทำจริงได้มากน้อยแค่ไหน ก็ต้องรอพิสูจน์กันเข้าทำนอง"ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน"

การเมืองจากนี้ งวดเข้ามาเรื่อยๆ เพราะใกล้เต็มทีแล้ว ที่สังคมไทยจะได้ยลโฉม 250 อรหันต์ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.)ที่คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ(คสช.)ได้คัดเลือกกันมา จากคนมากกว่า 7,000 คน ซึ่งคงมีการเปิดเผยชื่อผู้ได้รับเลือกเป็น สปช.ทั้งหมด หลังวันที่ 2 ต.ค.นี้ หลังนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ส่วนจะสมหวังหรือผิดหวัง อีกอึดใจเดียวก็คงได้รู้กัน ควบคู่ รู้กึ๋นฝีมือบริหารมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลประยุทธ์ 1 ที่จะประกาศออกมาวันที่ 1 ต.ค.นี้ด้วย ว่าจะโดนใจชาวบ้านสักแค่ไหน นั่นเพราะถ้าเศรษฐกิจไทยยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัวอย่างจริงจัง ในช่วงตั้งแต่ไตรมาส 4 ที่เหลืออยู่ของปีนี้ หรืออย่างช้าที่สุดไม่เกินไตรมาส 1 ต้นปี 2558 รัฐนาวา พล.อ.ประยุทธ์ ก็เสี่ยงเข้าสู่ภาวะ"จอดไม่ต้องแจว" ได้เช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ทั้ง ปัญหายางพาราและข้าว ปัญหาพลังงาน

เข้ารับสรรหา สปช. จะเป็นใคร ...

กลับมาเรื่องแต่งตั้ง 250 สปช.ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ยอมรับว่า ข้อครหาที่เป็นที่คลางแคลงใจผู้คนในสังคม ถึงขนาดกลายเป็น "ทอล์กออฟเดอะทาวน์" ทำให้สื่อมวลชนต้องยิงคำถามเป็น "แผ่นเสียงตกร่องรายวัน" ผู้ที่เกี่ยวข้อง คือคณะ คสช.ว่าการสรรหา สปช.มีล็อกสเปกหรือไม่? ทั้งยังเรียกร้องให้มีการเปิดเผยรายชื่อ สปช.เพื่อความโปร่งใสอีกด้วย

แรงขนาดพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงและ รมว.กลาโหม ออกอาการฉุน! "ไหนบอกซิว่า วิธีล็อกสเปก สปช.ทำอย่างไร ถ้าทำได้ทำให้ดูหน่อยหรือช่วยบอกที ทำยังไง"

หรือแม้แต่พี่รองฯ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ต้องออกมาการันตีซ้ำ "ไม่มีล็อกสเปกและไม่ขอเปิดชื่อ เพราะกลัววิ่งเต้นกันฝุ่นตลบ" ขนาดน้องเล็ก"บิ๊กตู่"ก็ออกมาย้ำทุกวันว่า"ไม่เห็นประโยชน์การล็อกสเปก สปช."

ประเด็นที่น่าคิดไม่ได้อยู่ที่"จะมีการล็อกสเปก สปช.ได้หรือไม่ได้"แต่ต้องถามกลับว่า"ถ้าล็อกได้จริงๆ แล้วทำไปเพื่อเป้าหมายใด แล้วใครจะเป็นผู้ที่จะทำการล็อกสเปก 250 อรหันต์" แน่นอนคำตอบนี้ใครๆ ก็คิดได้หนีไม่พ้นคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) ส่วนเรื่องทำไปเพื่อวัตถุประสงค์ใดนั้น ถ้าคิดกันง่ายๆ ก็ต้องบอกว่า เพื่อเป็นหลักประกันให้ คสช.เซฟให้มีอำนาจคุมทิศทางการปฏิรูปครั้งนี้ เนื่องจากไม่อยากเสี่ยงเจอกับภาวะที่ควบคุมการทำงาน สปช.ไม่ได้

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม

ซึ่งถ้าคิดให้ลึกซึ้งมองกันยาวๆ แล้ว ต้องไม่ลืมว่า คณะ คสช.ทำรัฐประหารเมื่อ 22 พ.ค.2557 เหตุจากในขณะนั้น เกิดวิกฤติการเมืองขนาดใหญ่ จนไม่สามารถหาทางออกได้ด้วยวิถีทางปกติ มาจนถึง คสช.ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศโรดแม็ป 3 ขั้น มาถึงตอนนี้ก็ยังเดินแผนอย่างต่อเนื่องมุ่งหวังให้เกิดปฏิรูปประเทศในทุกด้านอย่างที่ทุกฝ่ายคาดหวัง แม้ระหว่างทางอาจพบกับอุปสรรคบ้าง แต่ก็ผ่านพ้นมาได้ แผนทุกอย่างมีความชัดเจน ทั้งวิธีการดำเนินการและระยะเวลา จะเรียกว่า"แทบจะตรงเป๊ะ"เลยก็ว่าได้ (ว่ากันจริงๆ แล้วช่วงเวลาการแต่งตั้ง สนช.นายกฯ-ครม.-รวมไปถึงสปช. เป๊ะ! ยิ่งกว่านักการเมืองบริหารประเทศยามปกติเสียอีก)

ทั้งนี้ใครๆ ก็ทราบดีว่า หาก คสช.ยังสามารถทำได้ตามแผนที่วางเอาไว้แต่ต้นอย่างไร้ข้อติดขัด ทั้งการปฏิรูปองค์กรต่างๆ ทั้งระบบ ไม่ว่า การเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม กฎหมาย กระบวนการยุติธรรม ตำรวจ ฯลฯ ขณะเดียวกัน คสช.เอง ก็มีสัญญาประชาคมว่า ภายในเดือน ต.ค.2558 จะต้องคืนอำนาจให้ประชาชน และจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่

ฉะนั้น ถ้าตราบใด คสช.ยังคงเดินแผนตามโรดแม็ป 3 ขั้น ในระยะเวลาประมาณ 1 ปีบวก-ลบได้ และไม่มีการออกนอกกรอบ ปัญหาที่เกรงกันว่า คสช.อาจจงใจสืบทอดอำนาจก็คงไม่น่ามี นั่นทำให้ความจำเป็นต้องล็อกสเปก สปช.ลดลงไปได้ แม้อาจไม่ทั้งหมด (เว้นปัจจัยการเมืองและสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงไปจากนี้) มีข้อกังวลอยู่บ้าง ก็เพราะต้องมีหลักประกันว่า การปฏิรูปใหญ่ประเทศทุกด้านในครั้งนี้ จะต้องสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และจะต้องไม่มีการเสียของอย่างเด็ดขาดเท่านั้น

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย

เพราะต้องไม่ลืมว่า การปฏิรูปทุกด้านครั้งนี้ ถือเป็น"ฉันทานุมัติ"จากทุกคนในชาติ เรียกว่าจะยกเป็น"วาระแห่งชาติ"เลยก็ได้ หากสุดท้ายต้องเกิดความล่าช้า หรือ หนักกว่านั้นคือ ปฏิรูปไม่สำเร็จ ไม่ว่าจะเกิดจากเหตุผลอะไรก็ตาม ผู้ที่ต้องรับผิดชอบแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.และเป็นหัวหน้า ครม.ด้วย ฉะนั้นเชื่อว่า คสช.จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับ สปช.เพียงเพื่อประคับประคองให้ภารกิจเป็นไปตามเป้าหมาย เป็นไปตามสูตรการตั้งข้อสังเกตในสื่อฯว่า ถ้าจะล็อกสเปกจริงๆ ก็ล็อกเฉพาะตำแหน่งประธาน สปช. หรือ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่าง รธน.เท่านั้น

ทั้งหมดนี้ ตั้งอยู่บนสมมุติฐานว่า พล.อ.ประยุทธ์ และคณะ คสช.ไม่ได้ต้องการมีอำนาจ เพื่ออยู่บริหารประเทศยาวนานนักเหมือนที่ประกาศเอาไว้ ไม่เหมือนกับนักการเมืองที่ลงทุนเลือกตั้งเข้ามา ทั้งยังแสดงเจตนาว่า ถ้าเป็นไปได้ ขอเป็นรัฐบาลต่อเนื่องหลายสมัยเพื่อมีอำนาจบริหารประเทศ ถึงขนาดนักการเมืองบางรายเคยประกาศต่อหน้าสาธารณชนมาแล้วด้วยซ้ำว่า จะขออยู่ยาว 20 ปี

อย่างไรก็ตาม ถ้าให้อ่านความคิด นายกฯ และหัวหน้า คสช.ตอนนี้เชื่อว่า"บิ๊กตู่"คงอยากภาวนาให้การปฏิรูปประเทศทั้ง 11 ด้าน ประสบผลสำเร็จโดยเร็ว และขอให้กระบวนการเปลี่ยนผ่านทั้งหมดเป็นไปด้วยความราบรื่น ตรงตามกำหนดเวลา เพื่อชาติจะได้เดินหน้าพ้นจากวิกฤติการเมืองที่ขัดแย้งกันมายาวนานอย่างยั่งยืนเสียที ไม่ให้ต้อง เสียของ กันอีก

รัฐสภา สถานที่ทำงานของ สนช. และ สปช.

แต่ถ้าท้ายสุดสถานการณ์เกิดกลับตาลปัตร สปช.250 คน ถือกำเนิดมาแล้ว แต่รายชื่อที่ออกมากลับไม่เป็นที่ไว้วางใจและยอมรับจากทุกฝ่าย ไร้ซึ่งความโปร่งใสให้เห็น อย่างที่หลายฝ่ายออกมาดักคอก่อนหน้า โดยเฉพาะถ้าเคลียร์กรณีไม่ยอมเปิดเผยชื่อสรรหา สปช.เพราะอ้างว่า กลัวถูกวิ่งเต้นไม่ได้ เมื่อนั้นย่างก้าวต่อไปของ คสช.คงลำบากแน่ บรรยากาศการยอมรับ การก่อกำเนิด สปช. จะเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จ จึงหวังว่า "พระเอกอย่ามาตายตอนจบ" ก็แล้วกัน

ยิ่ง"บิ๊กตู่"ออกมาประกาศ ชัดถ้อยชัดคำแล้วว่า"ไม่เคยคิดว่าตัวเองมีอำนาจ คิดแต่เพียงเป็นไพร่ฟ้าไพร่แผ่นดิน เป็นทาสแผ่นดินเท่านั้น"แถมย้ำ มาโดยตลอด"รัฐบาลมีความจริงใจเป็นประจักษ์ ไม่จำเป็นต้องใช้ประชานิยม เพราะไม่ต้องการคะแนนเสียง"เมื่อกล้าประกาศถึงขนาดนี้ สังคมไทยก็ควรให้โอกาสทำงานให้เป็นไปตามเป้าหมายก่อน ช่วงนี้ขอเพียงจับตาและช่วยกันเป็นกำลังใจลุ้นว่า"บิ๊กตู่"จะทำได้ตาม"สัญญาชายชาติทหาร"หรือไม่ เหลือเวลาอีกแค่ประมาณ 1 ปี เท่านั้น

...เดี๋ยวก็รู้ หมู่หรือจ่า...

ขอบคุณเนื้อหา thairath.co.th


ที่มา http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=1&news_id=39841&page=1