ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

สกู๊ปพิเศษ สัญลักษณ์ "กางร่มสู้" ฮ่องกงอาจหาญพี่ใหญ่จีน

เริ่มโดย itplaza, 10:50 น. 02 ต.ค 57

itplaza

การประท้วงในฮ่องกงที่ลุกลามไปสู่การใช้แก๊สน้ำตา ไม่ได้ทำให้กลุ่มผู้ประท้วงที่เรียกร้องการเลือกตั้งด้วยวิธีการที่เสรีใน ฮ่องกง ย่อท้อกับการยืนหยัดเพื่อสิทธิและเสียงของตนเอง


บีบีซีรายงานว่า "ร่ม" ที่ผู้ชุมนุมหลายคนใช้ปกป้องตัวเองครั้งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์อย่างไม่เป็น ทางการชิ้นใหม่ของการประท้วงครั้งนี้ นอกเหนือไปจากติดริบบิ้นสีเหลือง จนมีกระแส "การปฏิวัติร่ม" ระบาดไปทั่วสังคมออนไลน์

เคซีย์ หว่อง ศิลปินชาวฮ่องกง ได้รับแรงบันดาลใจจากการใช้ของใช้ทั่วไปอย่างร่ม มาใช้ป้องกันตัวเองจากอาวุธของตำรวจ ทั้งแก๊สน้ำตา และ สเปรย์พริกไทยระบุว่า จนถึงกับเชิญชวนศิลปินคนอื่นที่รู้จักในเฟซบุ๊กให้มาร่วมออกแบบร่มที่ใช้ เป็นสัญลักษณ์ในการประท้วงครั้งนี้

"ความแตกต่าง ที่ได้เห็นผู้ประท้วงใช้ร่มเพื่อป้องกันตนเอง ขณะที่ตำรวจกำลังใช้กำลังกับพวกเขานั้นชัดเจนมาก ร่ม เปลี่ยนจากอุปกรณ์ประจำวันธรรมดาๆ เป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อสู้" หว่องกล่าว

ภาพ ของร่มที่กางอยู่ทั่วถนนสายหลัก และย่านธุรกิจในฮ่องกงเผยแพร่ไปทั่วโลกอินเตอร์เน็ต และผู้ที่สนับสนุนไม่ว่าจากที่ใด และเวลาใด ก็เข้าร่วมได้

นิตย สารดิแอตแลนติกตีพิมพ์ข้อความส่วนหนึ่งที่เขียนขึ้นโดย ผู้ประท้วงในฮ่องกงที่เขียนว่า "เมื่อเรารู้สึกถูกคุกคาม เราจะกางร่ม และชูมือขึ้น"

นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งระบุว่า การประนีประนอมกันระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงกับพรรคคอมมิวนิสต์จีนอาจมาถึงจุด แตกหัก และ นำไปสู่การปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงที่เรียกร้องประชาธิปไตยเหมือนกับที่เกิด ขึ้นที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ในกรุงปักกิ่งเมื่อปีพ.ศ.2532

แต่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำสูงสุดของจีนจะยอมให้เกิดเหตุการณ์ เช่นนั้นหรือ

ไมก์ ชินอย นักวิเคราะห์ประจำสถาบันสหรัฐ-จีนศึกษา มหาวิทยาลัยเซาเทิร์น แคลิฟอร์เนีย ผู้เคยรายงานข่าวการประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมินให้กับซีเอ็นเอ็นกล่าว ว่า ยังไม่เห็นแนวทางเลยว่า รัฐบาลจีนจะสามารถจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นในฮ่องกงได้อย่างไร และเกรงว่าสถานการณ์จะจบลงอย่างเลวร้าย

ด้านนายมาร์ติน ลี นักเคลื่อนไหวที่นิยมประชาธิปไตยให้สัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็นว่า จีนมีกองทัพมาประจำการในฮ่องกง หากออกคำสั่งเมื่อใดก็ปราบปรามกลุ่ม ผู้ประท้วงได้ในพริบตา

"แต่ชาวฮ่องกงหลายคนคงไม่หวั่นเกรง ผมเองก็ไม่กลัว ผมเคยพูดอย่างนี้มาแล้ว และจะขอพูดอีกครั้ง ถ้าพบเห็นรถถังของกองทัพจีนในฮ่องกงเมื่อไหร่ ผมจะคว้าจักรยาน และไปยืนตรงหน้ารถถังนั้นเอง"

ถึงแม้จะเป็นดินแดนหนึ่งของ จีน แต่อดีตอาณานิคมอังกฤษแห่งนี้ มีอำนาจบริหารตนเองในด้านต่างๆ ยกเว้นด้านการต่างประเทศและความมั่นคงตามข้อตกลงที่ทำไว้กับจีนเมื่อปี 2527 มีกำหนดระยะเวลา 50 ปี

ฮ่องกงจึงมีบรรยากาศเปิดกว้างให้กับการแสดงความคิดเห็นมากกว่าในจีนแผ่นดินใหญ่ และกระแสเรียกร้องประชาธิปไตยเต็มใบก็ดังขึ้นเรื่อยๆ

ใน เดือนก.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มรณรงค์ประชาธิปไตยจัดทำประชามติอย่างไม่เป็นทางการเพื่อหยั่งเสียงคน ฮ่องกงว่าอยากเลือกตั้งผู้บริหารฮ่องกงอย่างเสรีหรือไม่และผลปรากฏว่าส่วน ใหญ่ต้องการ

ปลายเดือนส.ค. จีนเหมือนจะยอมโอนอ่อนโดยประกาศว่าจะให้เลือกตั้งได้โดยตรงแต่ผู้สมัครรับ เลือกตั้งต้องผ่านการคัดกรองจากจีน ทำให้คนฮ่องกงจำนวนมากไม่พอใจและเริ่มการประท้วง

เพราะใน ปีพ.ศ. 2590 หรืออีก 33 ปีข้างหน้า จะเป็นการสิ้นสุดการใช้แนวทางการบริหาร "หนึ่งประเทศ สองระบบ" ชาวฮ่องกงจำนวนมากจึงคิดว่าต้องต่อสู้นับตั้งแต่วันนี้

ขอบคุณ khaosod.co.th
ที่มา http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=1&news_id=39968&page=1

ต้นยางใหญ่

สี จิ้นผิง ลุยแน่ เพราะนี่คือศักดิ์ศรีของประเทศจีนที่เป็นพี่ใหญ่ของเอเซีย จีนยอมไม่ได้ความวุ่ยวายที่จีนจะเจอมีอีกหลายมณฑลที่รอ เอาแบบอย่างฮ่องกง และเจ้าเก่าอเมริกาตัวแทงข้างหลัง ตัวเสี่ยม รออ้างโอกาสนี้เล่นงานจีน