ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

โต๊ะเรียนคันนา กับ เพดานท้องฟ้า เด็กๆ ทำนาที่นาหมื่นศรี

เริ่มโดย ทีมงานบ้านเรา, 15:38 น. 09 ต.ค 57

ทีมงานบ้านเรา

โต๊ะเรียนคันนา กับ เพดานท้องฟ้า
เด็กๆ ทำนาที่นาหมื่นศรี
เรื่อง : จำนง ศรีนคร, ภาพ : Ta trangtoday
Story : โครงการตามต้นกล้าไปนาข้าว โรงเรียนไทรงาม ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษาตรัง เขต1
หนังสือพิมพ์ฅนตรัง ปีที่ 9 ฉบับที่ 153 ประจำเดือนกันยายน พ.ศ.2557


[attach=1]

เหล่านกน้อยใหญ่สารพัดสียืนเกาะเต็มคันนาเหมือนอัฒจันทร์ผู้ชม ไส้เดือนเริงร่าเต้นระบำอยู่กลางโคลนเหมือนจะดีใจที่หน้าฝนมาเยือนและเป็นการเฉลิมฉลอง ฝูงแมลงปอบินฉวัดเฉวียนเล่นสนุกกันสายลมเย็นสบาย ถัดไปไม่ไกล กลุ่มเด็กๆ ที่เป็นเหมือนนักแสดงกำลังหัดถอนต้นกล้ากันอย่างขะมักเขม้น แม้หลายคนจะไม่ค่อยคล่องแต่ก็ไม่ยอมลดละ เด็กชั้น ป.1 ตัวเล็ก มือเล็ก จึงถอนกล้าได้ทีละ 2-3 ต้น เด็ก ป.6 ตัวใหญ่กว่าเลยถอนได้มากกว่าและคอยทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงคอยดูแลน้องๆ โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยในชั่วโมงหัดเรียน "วิชาทำนา" ภายใต้การกำกับดูแลของคุณครู และ "ครูภูมิปัญญา"

เด็กๆ ที่นี่ไม่ได้หาความสนุกจากจอทีวี เกมมือถือ แต่มีสิ่งหนึ่งที่เด็กนักเรียนได้รับเท่าๆ กันคือ ความสนุก และความมอมแมม กับแปลงนาสาธิตเล็กๆ เนื้อที่เพียงที่ "ครูภูมิปัญญา" "ป้ามาลี เชยชื่นจิตร" ที่บริจาคที่นาเนื้อที่ 1 ไร่กับ 2 งาน ให้โรงเรียนใช้สอนเด็กทำนา เป็นนาลึกบริเวณทุ่งนาลาบ้านหัวเขา หมู่ที่ 5 แม้จะเป็นโรงเรียนเล็กๆและอยู่ห่างไกล แต่เด็กๆ ของโรงเรียนไทรงาม ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษาตรัง เขต 1 เกือบทุกคน "ทำนาเป็น" และ "กินข้าวหมดจานทุกมื้อ"

ย้อนไปราว 6 ปีก่อนเมื่อปี 2552 "โครงการออกปากดำนา" ของโรงเรียนไทรงามถือกำเนิดขึ้นจากความร่วมมือของคณะครู ผู้ปกครอง โดยการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เป็นการขยายผลจากงานวิจัยชิ้นหนึ่งสู่การปฏิบัติจริงในเรื่องของการเรียนรู้นอกห้องเรียน ค่อยๆ ก่อร่างสร้างกันมาทีละเล็กละน้อย จนทั้งครูเอง ผู้ปกครอง เด็กๆ และชุมชนสามารถซึมซับความสำคัญของ "การทำนา" เป็นการร่วมเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน ในแต่ละปีจะมีชื่อกิจกรรมน่ารักๆ ออกมา เช่น "ตามต้นกล้าไปนาข้าว" "เปิดประตูการเรียนรู้สู่ทุ่งนา" และอื่นๆ จนในปีต่อๆ มามีผู้เล็งเห็นความสำคัญทั้งภาครัฐภาคเอกชนเข้ามาช่วยสนับสนุนกันมากขึ้น ทั้งแปลงนาสาธิต องค์ความรู้ และงบประมาณบางส่วน อาทิ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) สาขานาโยง สำนักงานเกษตรอำเภอนาโยงและเกษตรจังหวัด กลุ่มผ้าทอนาหมื่นศรี มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตศูนย์ตรัง กศน.นาโยง รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้นำชุมชนในพื้นที่ และมีสถานศึกษาอื่นๆ มาดูงานและนำไปริเริ่มในพื้นที่ของตัวเองอย่างไม่ขาดสาย

[attach=2]

การทำนาของเด็กๆ ที่นี่จะทำกันปีละครั้งในช่วงต้นฤดูฝน โดย "ครูระเบียบ คงฉาง" ครูผู้รับผิดชอบโครงการร่วมกับ "ครูภูมิปัญญา" ทั้ง "ป้ามาลี" และครูภูมิปัญญาคนก่อนๆ ที่เคยบริจาคที่ดินไม่ว่าจะเป็น "ป้าอาภาภัทร ทองแป้น" "คุณยายถนอม เยาว์ดำ" จะสอนเด็กๆ ตั้งแต่การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ที่ดี แช่พันธุ์ข้าว การเตรียมดิน ไถดะ ไถแปร หว่านกล้า ปักดำ ดูแลรักษา ไปจนถึงขั้นตอนการเก็บเกี่ยว ทุกชั้นตอนทำแบบดั้งเดิมแต่โบราณ ไม่ใช้สารเคมีแต่ใช้ภูมิปัญญาโบราณมาจัดการแทน ใช้เวลาทำนาต่อฤดูกาลราว 7-8 เดือน ก่อนที่เด็กๆ จะหัดเกี่ยวข้าวด้วย "แกละ" ซึ่งเป็นเครื่องมือเกี่ยวข้าวด้วยมือแบบดั้งเดิมแล้วนำมามัดรวมเป็นเลียงก่อนนำมาเก็บในยุ้งข้าวของโรงเรียน และมานวดจนได้ข้าวเปลือก แล้วนำไปตำในครกตำข้าวโบราณของโรงเรียน แต่ช่วงหลังได้ข้าวมาขึ้น จึงนำไปสีที่โรงสีของชุมชนแทน โดยใน 1 สัปดาห์จะมีการลงพื้นที่จริงทุกวันอังคาร

ข้าวที่ได้ก็นำมาใช้กับโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียน ให้เด็กๆ ได้กินข้าวที่ตัวเองปลูกเพื่อให้เด็กๆ ตระหนักถึงคุณค่าของ "ข้าว" ตลอดจนความยากลำบากกว่าจะได้ข้าวกินสักเมล็ด ซึ่งการดำเนินการทั้งระบบส่งผลเป็นอย่างดี ทำให้เด็กๆ รักข้าว รักชาวนา รักธรรมชาติ รักที่ดิน และได้สัมผัสถึงการหล่อหลอมร่วมกันทางสังคมและท้องถิ่น รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ คราบโคลนที่เลอะแก้ม แขน ขา จึงเป็นความมอมแมมที่ทรงคุณค่า ส่วนข้าวที่เหลือจะทดลองนำไปแปรรูปด้วยการสอนเด็กๆ ทำขนม

"วิชาทำนาเป็นวิชาที่สอนให้เด็กๆ ได้คิด จากเดิมที่อยากให้เด็กๆ ทำนาเป็น แต่วันนี้มันไม่ใช่แล้ว เพราะไปไกลกว่านั้น การทำนาสอนให้เด็กรักข้าว รักชาวนา รักเพื่อน รักชุมชน รักคนเฒ่าคนแก่ เราคือตำบลนาหมื่นศรี ชื่อตำบลเราก็บอกว่าเราทำนากันมาแต่บรรพบุรุษ ห้องเรียนนาข้าวจึงเป็นห้องเรียนที่แสนวิเศษ นักเรียนก็มีความสุข ครูเห็นแววตาแห่งความสุขของเด็กนักเรียนครูก็มีความสุข แน่นอนเด็กๆ อาจเล่นซนกันบ้างแต่ก็เป็นไปตามวัย แต่เขาได้กระโดดโลดเต้นในทุ่งนากว้าง คันนาคือโต๊ะนักเรียนที่ใหญ่ที่สุดในโลกแบบเอาเท้าเช้าแช่น้ำได้ เด็กทุกคนจะมีสมุดบันทึกเรื่องราวต่างๆ ในท้องนา ทั้งสัตว์ต่างๆ ไส้เดือน กุ้ง หอย ปู ปลา นก แมลง กลับมาเราจะให้วาดภาพ บรรยายภาพ" ครูระเบียบเล่ายิ้มแย้ม

"ผมสนุกมากเลยครับ ได้ไปทำนากับเพื่อนๆ คุณพ่อคุณแม่ก็มาดู ครูภูมิปัญญาก็ใจดีสอนเราทุกเรื่อง แล้วผมก็ดีใจมากที่ได้กินข้าวที่ปลูกเอง กินหมดจานเลยครับ เม็ดเดียวก็ไม่เหลือ ผมทำนาเป็นแล้วนะ" "น้องหัวแดง" หรือ "ดช.สุพัฒน์ เอียดชะตา" วัย 10 ขวบ ชั้น ป.4 เล่าอย่างภูมิใจ

เช่นเดียวกับ "น้องสี่" หรือ "ดช.พิชยา เยาดำ" วัย 12 ปี ชั้น ป.6 ที่เล่าเสริม... "เวลาถอนกล้าผมจะถอนเบาๆ ทีละ 2-3 ต้นแล้วเอารากกล้ามาตีที่เท้าเพื่อเอาโคลนออก แล้วก็มัดกล้ารวมกันเป็นเลียงๆ ก่อนเอาไปดำต่อ ในนามีสัตว์มากมายให้เราดู ผมภูมิใจมากที่ได้ทำนากับโรงเรียนและกับเพื่อนๆ ป้ามาลีสอนว่าอย่าเล่นในนา ให้ตั้งใจทำนาแล้วต้องกินข้าวให้หมดจาน ไม่นั้นชาวนากับแม่โพสพจะเสียใจ บ้านผมก็ทำนา ผมสัญญาว่าจะเป็นชาวนาที่ดีครับ"

[attach=3]

ที่โรงเรียนไทรงาม บนบอร์ดในห้องเรียนเกือบทุกห้องถูกตกแต่งไปด้วยภาพวาดของเด็กนักเรียนทั้งจากสีไม้ หรือสีเทียนตามความถนัด เป็นภาพของทุ่งนาสีเขียวสดใส มีต้นข้าวชูชันอยู่หน้าเขาช้างหายซึ่งบ่งบอกถึงความเป็นตำบลนาหมื่นศรี ใต้ภาพมีข้อความบันทึกความรู้สึกต่อการทำนาของเด็กๆ แต่ละคนด้วยลายมือยึกยือแบบไร้เดียงสา แต่เป็นข้อความที่กลั่นกรองออกมาจากหัวใจชนิดที่ไปอ่านแล้วอาจน้ำตาคลอ

"หนูชอบทำนาค่ะ หนูชอบเวลาเกี่ยวข้าว หนูจะใช้แกละเกี่ยวข้าว การเก็บข้าวกับมือเราจะมองเห็นรวงข้าวได้ครบทุกรวง แกละเกี่ยวข้าวได้หมดทุกรวง จะไม่มีข้าวตกหล่นในนาเหมือนใช้รถเกี่ยวข้าว เราจะได้ข้าวจากนามากขึ้นด้วย เม็ดข้าวก็ไม่ร่วง" "น้องเกตุ" หรือ "ดญ.อรจิรา เลี้ยงพงษ์" วัย 12 ปี ชั้น ป.6 บอก

เป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้รับคำยืนยันจาก "ครูกมล รอดคืน" ผอ.โรงเรียน ว่า "วิชาทำนา" จะมีต่อไปในทุกๆ ปีเพราะได้ผลดีในเรื่องการเรียนรู้นอกห้องเรียน และทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าสิ่งที่ได้รับกลับคืนมานั้นมีค่ามากมายมหาศาลในเรื่องคุณธรรมจริยธรรมที่บ่มเพาะให้กับเด็กๆ อย่างได้ผล ส่วนเชิงวิชาการถือเป็นการเรียนการสอนแนวใหม่ ที่ครูสามารถบูรณาการรายวิชาอื่นๆ เข้าไปสอนอย่างน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น วิทยาศาสตร์เรื่องดิน น้ำ พืช สัตว์ วิชาคณิตศาสตร์เรื่องการคิดคำนวณการนับจำนวน วิชาศิลปะ และอีกหลายวิชาที่รวมกันอยู่ใน "ห้องเรียนทุ่งนา" ที่นี่ ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรัง... และเด็กๆ ที่นี่ทำนาเป็น...


ที่มา - เฟสบุ๊ค วานิช  สุนทรนนท์
สนับสนุนการขับเคลื่อนโดย
- ฮอนด้าพิธานพาณิชย์-อริยะมอเตอร์ www.phithan.co.th/hondaphithan
- ปาล์มสปริงส์ & ซิตี้รีสอร์ท บ้านและคอนโดคุณภาพจากเครืองศุภาลัย www.hatyainakarin.com
- ธีระการช่าง หาดใหญ่ (เยื้องบิ๊กซีคลองแห) โทร 086-4910345 www.facebook.com/teerakarnchanghy
- เอนกการช่าง ผู้นำการพัฒนาเครื่องจักรกลเกษตร โทร 081-7382622 www.an-anek.com/contact.php
รีวิวธุรกิจ เกาะติดบ้านเมือง ร้อยเรื่องท้องถิ่น TLP 0897384215

songon.pitt

น่ารัก น่าเอ็นดู สดใส เหมาะกับการเรียนรู้ตามวัยและมีพัฒนาการมากๆ
เสียดายลูกบ่าวเราโตแล้ว ไม่งั้นจะพาไปหาประสบการณ์แบบนี้บ้างค่ะ