กฟผ.เปิดคลิป “บิ๊กตู่” กล่อมชาวบ้านก่อนปิดฉากรับฟังความเห็นสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน

[ทีมงานบ้านเรา]

ศูนย์ข่าวบ้านเรา - กฟผ.เปิดคลิป "บิ๊กตู่" กล่อมชาวบ้านหวังโน้มน้าวคิดเห็นทิศทางเดียวกัน หลังปิดฉากจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย  โครงการขยายกำลังผลิตโรงไฟฟ้ากระบี่ ครั้งที่ 3 (ค.3) เตรียมรวบรวมข้อมูลยื่นตามกระบวนการ  "เครือข่ายปกป้องกระบี่จากถ่านหิน"  ขนทัพออกโรงโต้ ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน

[attach=1]

เมื่อวันที่ 12 ต.ค.255 กฟผ. บริษัทที่ปรึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและทบทวนร่างรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (Public Review) ครั้งที่ 3 (ค.3) โครงการขยายกำลังผลิตโรงไฟฟ้ากระบี่ เพื่อนำเสนอผลการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชี้แจงมาตรการป้องกันแก้ไขและติดตามตรวจสอบผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ รับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ข้อห่วงกังวลของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียเพิ่มเติม ณ ศาลาประชาคม อ.เหนือคลอง จ.กระบี่   โดยมีนายสมควร ขันเงิน ปลัดจังหวัดกระบี่ เป็นประธาน

[attach=2]

หลังจาก กฟผ.นำเสนอข้อมูลรายละเอียดโครงการร่างรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ  จากนั้นผู้ร่วมเวทีฯนำเสนอข้อมูล ข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นเพิ่มเติมที่มีต่อร่างรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ มีผู้แสดงเจตจำนงค์แสดงความเห็นกว่า 60  คน

มีประชาชนที่เห็นด้วยและคัดค้านเข้าร่วมประมาณ 1,500 คน โดยมีกำลังทหารและตำรวจรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มกำลัง อาวุธครบมือ ซึ่งผู้ที่จะเข้าไปยังอาคารศาลาประชาคมต้องได้รับการตรวจบัตรประชาชน และสัมภาระเสียก่อน ซึ่งก่อนประชุมจะเริ่ม ทาง กฟผ.ได้เปิดคลิปของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่กล่าวถึงนโยบายของรัฐบาลต่อการผลักดันการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในจังหวัดกระบี่ที่ยังมีปัญหาขณะนี้  ซึ่งสร้างความกังวลใจต่อผู้ไม่เห็นต่อการโรงไฟฟ้าถ่านหิน

ทั้งนี้  "เครือข่ายปกป้องกระบี่จากถ่านหิน"  กว่า 300 คน รวมตัวแสดงการคัดค้าน โดยนายสมนึก  กรดเสือ  เป็นตัวแทนเครือข่ายปกป้องกระบี่จากถ่านหิน อ่านคำแถลงการณ์

[attach=3]

การประชุมฯ นายเผ่าพงษ์ เต็มสัมฤทธิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการชุมชนสัมพันธ์และสิ่งแวดล้อมโครงการ (ชพฟช.) นายประดิษฐ์ สุคนธสวัสดิ์ อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ที่ปรึกษา กฟผ. นายวิวัฒน์ สิริเกียรติกุล ผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าภาคใต้ (อฟภ.) นายเดชา ศุภศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายชุมชนสัมพันธ์ (อชค.) นายวรพจน์ อินทร์ทอง ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการภาคใต้ (อปต.) ว่าที่พันตรี ดร.อนุชาต ปาลกะวงศ์ ณอยุธยา ผู้อำนวยการฝ่ายสิ่งแวดล้อมโครงการ (อสค.) นายอดุลย์ เป็งถา หัวหน้าโครงการศึกษาเพื่อพัฒนาขยายกำลังผลิตโรงไฟฟ้ากระบี่ โดยกระบวนการการมีส่วนร่วมของประชาชน (หก-ศก.) นายฤกษ์ชัย สำราญ หัวหน้ากองเหมือง (กม-ช.) ผู้แทนฝ่ายจัดการเชื้อเพลิง (อจช.) ผู้แทนฝ่ายสำรวจ (อสร.) ผู้แทนฝ่ายสื่อสารองค์การ (อสอ.) ผู้แทนฝ่ายกิจการสังคม ผู้แทนฝ่ายวิศวกรรมแหล่งพลังงาน (อวพ.) ผู้แทน บริษัท แอร์เซฟ จำกัด บริษัทที่ปรึกษาของโครงการ ผู้แทนมหาวิทยาลัยมหิดล และผู้แทนมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ร่วมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการทบทวนร่างรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ โครงการขยายกำลังผลิตโรงไฟฟ้ากระบี่ด้วย

นายเผ่าพงษ์  เต็มสัมฤทธิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการชุมชนสัมพันธ์และสิ่งแวดล้อมโครงการ (ชพฟช.) กล่าวว่า การจัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชน (Public Review) ครั้งที่ 3 (ค.3) ของโครงการขยายกำลังผลิตโรงไฟฟ้ากระบี่ เพื่อทบทวนร่างรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของโครงการฯ ให้ครบถ้วนและสมบูรณ์มากที่สุด โดยเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้ง 7 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 ผู้แทนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ศึกษาใน ต.ตลิ่งชัน ต.ปกาสัย ต.คลองขนาน กลุ่มที่ 2 หน่วยงานที่รับผิดชอบในการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ กลุ่มที่ 3 คณะผู้ศึกษาและสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ผู้แทนหน่วยงานจากส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น กลุ่มที่ 4 ผู้แทนในพื้นที่อ่อนไหวต่อผลกระทบ เช่น โรงเรียน วัด มัสยิด โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพสต.) กลุ่มที่ 5 นักการเมืองท้องถิ่น เช่น องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ผู้แทนองค์กรและกลุ่มจัดตั้งอื่นๆ เช่น กลุ่มด้านสิ่งแวดล้อม กลุ่มอาชีพ กลุ่มที่ 6 ผู้แทนสื่อมวลชนในพื้นที่ และกลุ่มที่ 7 ประชาชนและผู้สนใจทั่วไป ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นและเสนอแนะได้อย่างเต็มที่ เพื่อให้การรับฟังความคิดเห็นและการทบทวนร่างรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพครบถ้วนมากที่สุด

ขณะที่ ว่าที่พันตรี ดร. อนุชาต ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการฝ่ายสิ่งแวดล้อมโครงการ (อสค.) กล่าวว่า การจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสียของโครงการขยายกำลังผลิตโรงไฟฟ้ากระบี่ นั้น ได้กำหนดจัดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนรวม 3 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 (ค.1) จัดขึ้นเมื่อวันที่ 25-26 สิงหาคม 2555 ณ หอประชุมโรงเรียนเหนือคลองประชาบำรุง อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ โดยชี้แจงความเป็นมา รายละเอียดการดำเนินโครงการ รับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ข้อห่วงกังวล และข้อซักถามจากผู้เข้าร่วมประชุม เพื่อนำมาประกอบการศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพให้เป็นไปอย่างครบถ้วนและรอบด้านมากที่สุด การจัดเวทีรับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 2 (ค.2) จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน – 15 ธันวาคม 2555 เป็นการลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นภาคสนาม โดยสัมภาษณ์รายบุคคล สัมภาษณ์กลุ่มย่อย (Focus Group) สัมภาษณ์ผู้นำชุมชน หัวหน้าครัวเรือนและประชาชนในพื้นที่ โดยเก็บรวบรวมข้อมูลจากแบบสอบถามด้านเศรษฐกิจสังคมและการประชุมกลุ่มย่อย เพื่อประชาสัมพันธ์และให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโครงการ และการจัดเวทีจัดรับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ 3 (ค.3) จัดขึ้นในวันนี้ (12 ตุลาคม 2557) เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสีย ในการทบทวนและนำเสนอร่างรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ รับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และข้อซักถามจากผู้เข้าร่วมประชุมเพิ่มเติม เพื่อนำมาประกอบการพิจารณากำหนดมาตรการป้องกัน การแก้ไขผลกระทบ และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาโครงการให้เหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่นและการยอมรับจากชุมชนที่ยั่งยืนต่อไป จากนั้น กฟผ.จะขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการคณะต่างๆ ใช้เวลาดำเนินการประมาณ 18 เดือน ตั้งแต่เดือน มกราคม 2558- เดือนมิถุนายน 2559 และหลังจากวันนี้ บริษัทที่ปรึกษาจะเปิดรับฟังข้อเสนอแนะและความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มจนถึงวันที่ 28 ตุลาคม 2557

นายอดุลย์  เป็งถา หัวหน้าโครงการศึกษาเพื่อพัฒนาขยายกำลังผลิตโรงไฟฟ้ากระบี่ โดยกระบวนการการมีส่วนร่วมของประชาชน (หก-ศก.)  กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการขยายกำลังผลิตโรงไฟฟ้ากระบี่ ขนาดกำลังผลิต 870 เมกะวัตต์ เกิดขึ้นตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า PDP 2010 (ปรับปรุงครั้งที่ 3) ได้กำหนดให้ กฟผ.ดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเทคโนโลยีถ่านหินสะอาด จำนวน 4 เครื่อง มีกำลังผลิตรวม 3,200 เมกะวัตต์ โดยมีกำหนดจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในปี 2562 2565 2568 และ 2571 ตามลำดับ ในพื้นที่ที่มีศักยภาพบริเวณชายฝั่งทะเลภาคใต้ เพื่อความสะดวกในการขนส่งถ่านหินคุณภาพดีนำเข้าจากต่างประเทศ ขณะนี้โครงการอยู่ในระหว่างการศึกษาเพื่อพัฒนาขยายกำลังผลิตโรงไฟฟ้ากระบี่ โดยกระบวนการการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่โรงไฟฟ้ากระบี่เดิม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ให้ข้อมูลการดำเนินโครงการฯ พร้อมรับฟังความคิดเห็นและข้อห่วงกังวลในทุกๆด้านจากผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม