สั่งลุย"ทุ่งยางแดงโมเดล"ติดสัญญาณเตือนภัยทุกโรงเรียนชายแดนใต้

[ทีมงานบ้านเรา]

มีความเคลื่อนไหวมากมายหลังเหตุการณ์คนร้ายบุกเผาโรงเรียน 6 แห่งใน อ.ทุ่งยางแดง และ อ.มายอ จ.ปัตตานี เมื่อเวลา 02.30 น.วันอาทิตย์ที่ 12 ต.ค.57 สื่อบางแขนงประโคมเป็นข่าวใหญ่ ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงโดยเฉพาะในส่วนกลางถึงกับนั่งไม่ติด มีการเรียกประชุมสั่งการกันหลายเรื่อง หลายประเด็น

[attach=1]

สาเหตุที่การเผาโรงเรียนรอบนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนค่อนข้างมาก อาจเป็นเพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่ฝ่ายทหารมีอำนาจบริหารบ้านเมือง ทั้งผ่านคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่กลับยังมีความรุนแรงเกิดขึ้นได้ ประกอบกับทั้งนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ก็เพิ่งแสดงความมั่นอกมั่นใจว่าปัญหาใต้จะต้องจบภายใน 1 ปีนี้ หรืออย่างน้อยความรุนแรงน่าจะลดลงครึ่งหนึ่ง

          ท่าทีและความเคลื่อนไหวของฝ่ายความมั่นคงสรุปได้ดังนี้

          O พล.อ.อุดมเดช เรียกประชุมทางไกลผ่านจอภาพ เมื่อเช้าวันจันทร์ที่ 13 ต.ค. สั่งการให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการในมาตรการทางทหาร 6 มาตรการ กล่าวคือ
          1.เพิ่มปฏิบัติการในตอนกลางคืนมากขึ้น โดยจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว ชุดเฝ้าจรวจ ชุดสกัด และใช้อุปกรณ์พิเศษที่กองทัพจัดหาให้ 2.จัดให้มีศูนย์สื่อสารระดับตำบล เพื่อรายงานสถานการณ์ตลอดเวลา และเป็นการทดสอบความพร้อมอยู่เสมอ 3.ให้ทบทวน ซักซ้อม การรักษาความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ไม่ควรละเลยหลักพื้นฐานในการลาดตระเวน
          4.การควบคุมพื้นที่และเส้นทางในพื้นที่ ขอให้ทบทวนว่าพื้นที่ใดล่อแหลมและส่งมอบให้กำลังประชาชนรับผิดชอบไปแล้ว หากมีความจำเป็นให้ส่งตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) และทหารเข้าไปช่วยเสริม 5.การตรวจค้นต้องไม่เหวี่ยงแห แต่ทำไปตามพยานหลักฐานที่มี 6.ไม่ต้องการให้เกิดเหตุซ้ำรอย และจะประเมินผลงานทุก 3 เดือน

          O พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 บรรยายสรุปในการประชุมทางไกลผ่านจอภาพว่า จากการลงพื้นที่ อ.ทุ่งยางแดง ร่วมกับ นายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพื่อรับฟังปัญหาในพื้นที่ ได้ข้อสรุปว่าจะดำเนินการจัดทำ "ทุ่งยางแดงโมเดล" โดยจะติดตั้งระบบแจ้งสัญญาณเตือนภัยแบบรีโมทคอนโทรลในทุกโรงเรียนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมจัดตั้งชุดอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ขึ้นมาดูแล ส่วนชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่ดูแลโรงเรียน และมอบหมายให้ชุดคุ้มครองตำบล (ชคบ.) ทำหน้าที่ดูแลเส้นทางหมู่บ้าน   

          O พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวว่า คนที่เผาโรงเรียนต้องการสร้างความหวาดกลัว เปิดช่องทางการสื่อสารทางสังคม สร้างเหตุการณ์ให้สากลโลกรู้ สื่อก็เป็นเครื่องมือในการโฆษณาช่วยผู้ก่อความไม่สงบต่อไป วันนี้ฝ่ายก่อความไม่สงบใช้กำลังสู้ฝ่ายเจ้าหน้าที่ไม่ได้ ก็หันมาใช้วิธีการโฆษณาให้ต่างชาติได้เห็น เดี๋ยวก็เข้ามา

          O พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อ ดีต ผบ.ทบ. กล่าวว่า เท่าที่ติดตามสถานการณ์พบว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ในเชิงปริมาณ มีจำนวนความรุนแรงลดลง แต่ถามว่าทำไมเกิดขึ้นได้ ก็คิดได้หลายแนว เพราะมีคนกระทำอยู่กลุ่มหนึ่ง สมมติว่ามีคนไปยิงคน ทำร้ายคน เราก็พยายามป้องกัน โดยมีชุดคุ้มครองครู คุ้มครองในตลาด ในเมือง พอเขาทำไม่ได้ เขาก็ไปเผาโรงเรียน ซึ่งการจะจัดยามไปเฝ้าทุกโรงเรียนเป็นไปไม่ได้ หรือถ้าเราดูแลดี เขาก็ไปล้มเสาไฟฟ้า พอเราไปดูล้มเสาไฟฟ้า เขาก็วนกลับไปยิงรถไฟ พอเราไปดูยิงรถไฟ เขาก็กลับมายิงคนอีก มันมีคนดำเนินการอยู่

          ดังนั้นเหตุการณ์มันก็เกิดขึ้นได้ แต่เราพยายามไม่ให้เกิด อันนี้คือควบคุมคนที่พยายามก่อเหตุ ส่วนการดูแลประชาชนเราก็ทำไป ในการพัฒนา เอาชนะใจเขาว่าเขาต้องอยู่กับรัฐบาลเรา ไม่ต้องการเป็นอื่น

          O ข้อมูลจากทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ ระบุเมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 ต.ค.ว่า สาเหตุของการเผาโรงเรียนดังกล่าวสืบเนื่องจากการปิดล้อมยิงปะทะในพื้นที่ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี และมีการวิสามัญฆาตกรรมผู้ต้องหาคดีความมั่นคง 1 รายซึ่งมีภูมิลำเนาใน อ.ทุ่งยางแดง ทำให้น้องชายของผู้ต้องหารายดังกล่าว ซึ่งมีพฤติการณ์เป็นผู้ก่อความไม่สงบ

          O สำนักข่าวเนชั่นรายงานโดยอ้างคำกล่าวของ พล.ต.ท.อนุรุต กฤษณะการะเกตุ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผบช.ศชต.) ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการตอบโต้เจ้าหน้าที่ หลังเจ้าหน้าที่เร่งรัดจับกุมหัวหน้ากลุ่มที่ก่อเหตุยิงผู้ใหญ่บ้านเสียชีวิต เมื่อวันที่ 4 พ.ค.57 แล้วนำปืนของผู้ใหญ่บ้านหลบหนีไปด้วย จึงมีการปิดล้อมตรวจค้นที่กระท่อมแห่งหนึ่ง แต่คนร้ายไหวตัวทัน หนีไปได้ อย่างไรก็ดี พบปืนพกขนาด .357 ที่ใช้ยิงผู้ใหญ่บ้านอยู่ในกระท่อมหลังดังกล่าว

ที่มา - http://www.isranews.org