ชายวัย65ผูกคอตาย คิดว่าเงินหาย1ล้าน จาก‘บัญชีธนาคาร’

[itplaza]

สลดคนผูกคอฆ่าตัวตายกลางบ้าน ทิ้งจดหมายบรรยายความคับแค้น "โดนโกง ฝากเงินธนาคาร 1 ล้าน เหลือ 4,000 บาท" พี่สาวเผยผู้ตายมีโรคประจำตัวหลายโรค มาอยู่ด้วยกันเพื่อช่วยกันดูแล ระยะหลังมีอาการหลงๆลืมๆ ดูสมุดบัญชีเงินฝากเห็นยอดเงินเหลือ 4,000 บาท เครียดเข้าใจผิดคิดว่าถูกโกงเลยคิดสั้น ขณะที่ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการธนาคารธนชาตรีบแจงผู้ตายฝากเงิน 1.1 ล้านบาท ระยะ 8 เดือนกับธนาคารสาขาถนนเจตน์-จำนงค์ แต่ให้โอนดอกเบี้ยเข้าอีกบัญชี ทำให้เข้าใจผิด ยืนยันเงินยังอยู่ครบถ้วน

คนผูกคอตายเพราะเข้าใจผิดถูกโกงเงินฝากธนาคารรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 20 ต.ค. พ.ต.ต.ชินวัชร์ ธิศาลา พงส.สภ.เมืองชลบุรี รับแจ้งเหตุคนผูกคอตายที่บ้านเลขที่ 67 หมู่ 2 ต.คลองตำหรุ พร้อมแพทย์เวร รพ.ชลบุรี นำกำลังและเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิไตรคุณธรรม รุดไปสอบสวนพบศพนายบุญเลิศ ธรรมเมธา อายุ 65 ปี บ้านเดิม เลขที่ 106 หมู่ 2 ต.คลองตำหรุ ใช้ผ้าขาวม้าผูกคอโยงกับขื่อกลางบ้าน ตายมาไม่เกิน 6 ชั่วโมง ตามร่างกายไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย และพบจดหมายเขียนด้วยลายมือผู้ตายว่า "โดนโกงฝากเงิน ธ.ธนชาต 1 ล้าน เหลือ 4,000 บาท"

พ.ต.ต.ชินวัชร์ ธิศาลา พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เปิดเผยว่า สอบสวนเจ้าของบ้านเป็นพี่สาวผู้ตายให้การว่าผู้ตายป่วยเป็นโรคความดัน โรคไต และเบาหวาน มาอาศัยอยู่ที่บ้านเพื่อจะได้ช่วยดูแล ระยะหลังผู้ตายมีอาการหลงๆ ลืมๆ คล้ายเป็นอัลไซเมอร์ ดูสมุดฝากเงินออมทรัพย์แล้วเห็นบรรทัดสุดท้ายระบุจำนวนเงิน 4,000 บาท คิดว่าฝากเงินกับ ธ.ธนชาต ไว้ 1,1000,000 บาท แต่เหลือแค่ 4,000 บาท เลยเกิดความเครียด คาดว่าสาเหตุที่คิดสั้นน่าจะมาจากเรื่องนี้ ซึ่งญาติเข้าใจว่าเงินดังกล่าวเป็นเพียงดอกเบี้ยเท่านั้น และไม่ได้ติดใจสาเหตุการตาย

ด้านนายสนอง คุ้มนุช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นายบุญเลิศ ผู้ตาย นำเงิน 1,100,000 บาท มาฝากบัญชีบัตรเงินฝาก หรือ NCD (Negotiable Certificate of Deposit) ระยะ 8 เดือน ที่สาขาถนนเจตน์จำนงค์ ต.บางปลาสร้อย อ.เมืองชลบุรี เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา โดยให้โอนเงินดอกเบี้ยรายเดือนเข้าบัญชีที่เปิดไว้ที่สาขาแปซิฟิก อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นบัญชีออมทรัพย์ที่มีอยู่เดิม ได้รับดอกเบี้ยไปแล้ว 6 งวด เหลือดอกเบี้ยอีก 2 งวด ก็จะได้รับเงินต้นคืนทั้งหมดในต้นเดือน ธ.ค.นี้

ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) กล่าวอีกว่า ธนาคารเสียใจที่เกิดเหตุการณ์เข้าใจผิดขึ้นจนทำให้นายบุญเลิศตัดสินใจเช่นนั้นไป และขอแสดงความเสียใจกับนายบุญเลิศและครอบครัวอย่างที่สุด ขอยืนยันข้อเท็จจริงว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยยังอยู่ในชื่อของนายบุญเลิศครบถ้วน ไม่ได้หายไปไหนเลย สามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา

ขอบคุณเนื้อหา thairath.co.th
ที่มา http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=1&news_id=40440&page=1