พ่อเมืองชื่นชม 2 เยาวชน ปั่นจักรยานไปถวายพระพรฯ

[ทีมงานบ้านเรา]

[attach=1]

สองเยาวชนชาว อ.หลังสวน ที่ปั่นจักรยานทางไกล กว่า 500 กม. เดินทางไปถวายพระพรฯ ที่ รพ.ศิริราช กลับถึงบ้านแล้ว เข้าพบ ผวจ.ชุมพร ซึ่งกล่าวแสดงความยินดี ชี้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่เยาวชนทั้งประเทศ แม้แต่นายกรัฐมนตรียังกล่าวชื่นชม

จากกรณี นายอังกูร ธนภาณุวงศ์ อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนสวนศรีวิทยา อ.หลังสวน จ.ชุมพร และนายฐานิศ จันทร์ดำ อายุ 17 ปี นักศึกษา ปวช.ปีที่ 1 สาขายานยนต์ วิทยาลัยการอาชีพหลังสวน โดยทั้งคู่เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ร่วมกันออกปั่นจักรยานจาก อ.หลังสวน จ.ชุมพร มุ่งหน้าโรงพยาบาลศิริราช กทม. ระยะทางกว่า 500 กม. เพื่อที่จะเดินทางไปถวายพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. 57 ที่ผ่านมา

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 พ.ย. ภายหลังเข้าถวายพระพรฯ และเดินทางกลับถึง จ.ชุมพร นายอังกูร และนายฐานิศ สองเยาวชนดังกล่าว ได้เข้าพบกับ นายวงศศิริ พรหมชนะ ผวจ.ชุมพร ที่ห้องทำงานบนศาลากลางจังหวัด โดยมี นายธเนศ พูลปัญญาวงศ์ ประธานชมรมจักรยานชุมพร คณะนักปั่น และข้าราชการ ร่วมต้อนรับ ทั้งนี้ ผวจ.ชุมพร พร้อมด้วยนักการเมือง นักธุรกิจ ประชาชนได้ร่วมสบทบเงินมอบเป็นทุนการศึกษาให้จำนวนหนึ่ง

[attach=2]

นายวงศศิริ พรหมชนะ ผวจ.ชุมพร ได้กล่าวแสดงความยินดีและภาคภูมิใจกับ นายอังกูร และนายฐานิศ สองเยาว ชน ที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ปั่น จยย. จาก อ.หลังสวน จ.ชุมพร ไปถึงโรงพยาบาลศิริราช เพื่อลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถือเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เยาวชนทั้งประเทศ ซึ่งเรื่องดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้กับคนในชาติ" ช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา ชื่นชมเยาวชนทั้งสองคนด้วย

ด้านนายอังกูร กล่าวว่า ตนและนายฐานิศ ต้องขอขอบคนไทยทั้งประเทศที่เป็นกำลังใจให้ในการปั่นจักรยานเดินทางไปถวายพระพรในครั้งนี้ เนื่องจากมีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาโดยตลอด โดยใช้เวลาปั่นจักรยานจาก อ.หลังสวน จ.ชุมพร ไปโรงพยาบาลศิริราช เพื่อถวายพระพรในหลวง รวม 9 วัน และได้เดินทางกลับโดยรถไฟถึง จ.ชุมพร ช่วง 3 ทุ่มของเมื่อคืนที่ผ่านมา เช้าวันนี้จึงได้มาเข้าพบ ผวจ.ชุมพร

ขณะที่ นางวิมลฑา จันทรา อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 ถ.หลังสวน ต.หลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร มารดาของนายอังกูร และป้าของนายฐานิศ กล่าวว่า ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ขอบคุณสื่อมวลชนทุกแขนง ที่เป็นกำลังใจให้กับลูกชายและหลานชายของตน สำหรับความรู้สึกของคนเป็นแม่คนหนึ่ง บอกได้ว่ารู้สึกทั้งตื้นตันใจ และภาคภูมิใจ ที่ลูกมีความกตัญญูกตเวที มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์


ที่มา - http://www.thairath.co.th/