ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

จัดกิจกรรมสิทธิมนุษย์ ครั้งที่ 3 : คืนสิทธิ์ คืนสุข (ศุกร์) ประชาชน

เริ่มโดย ทีมงานประชาสัมพันธ์, 15:08 น. 01 ธ.ค 57

ทีมงานประชาสัมพันธ์

เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคมและองค์กรชุมชนภาคใต้  มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม (มอส.) สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.) และหน่วยวิจัยประชาธิปไตยชุมชนเพื่อการพัฒนา มหาวิทยาลัยทักษิณ ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมสัปดาห์สิทธิมนุษย์ ครั้งที่ 3 :  คืนสิทธิ์ คืนสุข (ศุกร์) ประชาชน

[attach=1]

ในระหว่างวันที่ 24-27 พฤศจิกายน 2557 ณ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ สงขลา และกำหนดออกแถลงการณ์ร่วมเพื่อ "แสดงจุดยืน ท่าทีและข้อเรียกร้องทางการเมือง"  ซึ่งได้แถลงข่าว ในวันที่  27 พฤศจิกายน 2557 ณ ลานคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ เวลา 14.00 น ซึ่งมีเนื้อหาของแถลงการณ์ดังต่อไปนี้

เผยแพร่เมื่อวันที่ 27 พ.ย.2557
แถลงการณ์
ให้ยุติการละเมิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและยกเลิกกฎอัยการศึก

   จากการยึดอำนาจการปกครองประเทศของโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 นั้น ได้ส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะผู้แสดงออกทางการเมืองที่ไม่ยอมรับ ต่อการรัฐประหาร ได้มีการควบคุมตัวบุคคลโดยไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาและมีการจับกุมประชาชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากข้อมูลของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน(ณ วันที่ 28 ตุลาคม 2557) จำนวนประชาชนที่ถูกจับและควบคุมตัว 291 ราย ถูกควบคุมตัวโดยไม่แจ้งข้อกล่าวหาและได้รับการปล่อยตัว 229 ราย จำนวนคดีที่ขึ้นสู่ศาลทหาร 69 คดี จำนวนคดีที่ขึ้นสู่ศาลพลเรือน 33 คดี และจำนวนนักโทษที่ถูกดำเนินคดีด้วยเหตุทางการเมือง 102 ราย อันประกอบด้วย นักวิชาการ สื่อมวลชน นักกิจกรรมทางสังคม นักศึกษาและประชาชนทั่วไป นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมหรือเสวนาทางวิชาการที่ถูกแทรกแซงไม่ให้จัดหรือควบคุมเนื้อหาอีกจำนวน 33 กิจกรรม ทำให้เกิดบรรยากาศภายในประเทศที่ประชาชนไม่สามารถแสดงออกซึ่งความคิดเห็นของตนเองได้อย่างเสรีภาพ

   เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคมและองค์กรชุมชนภาคใต้ เห็นว่าการกระทำดังกล่าวข้างต้นเป็นการคุกคามและละเมิดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

1.   ตามวิถีทางการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่ต้องเคารพสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาคและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ประชาชนทุกคนย่อมมีเสรีภาพในการแสดงออก ผ่านการพูด เขียน การแสดง หรือวิธีการอื่นใดเพื่อสื่อสารกับผู้อื่น รวมทั้งมีเสรีภาพในทางความคิด ตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองข้อ 18 และ 19 การกระทำของเจ้าหน้ารัฐโดยอาศัยอำนาจของกฎอัยศึกเป็นการละมิดต่อสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นโดยสันติตามธรรมเนียมประเพณีในระบอบประชาธิปไตย

2.   การที่เจ้าหน้าที่ทหารควบคุมประชาชนซึ่งมีความเห็นต่างโดยเหตุปัจจัยทางการเมือง ทั้งที่ควรจะยอมรับในการแสดงออกในความเห็นที่แตกต่างและไม่ละเมิดต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ แม้กฎอัยการศึกจะให้อำนาจในการประกาศและอำนาจในการสั่งห้ามประชาชนในการกระทำการต่างๆอย่างกว้างขวางแต่หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ผู้ใช้อำนาจพึงต้องระลึกว่าการใช้อำนาจต้องผูกพันตามสิทธิเสรีภาพตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิเสรีภาพของประชาชน

3.   นับแต่การรัฐประหารในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557มีการใช้อำนาจ การประกาศใช้กฎอัยการศึก การดำเนินคดีต่อเหตุการณ์และกิจกรรมทางการเมือง ที่มีลักษณะเป็นการลิดรอนสิทธิ เสรีภาพ อิสรภาพของบุคคล เป็นการจำกัดพื้นที่ของการแสดงออกและการมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างสันติ ไม่เป็นผลดีต่อการสร้างความปรองดองอย่างยั่งยืนที่สะท้อนต่อสภาพและรากเหง้าของความขัดแย้ง อีกทั้งนำไปสู่การเพิ่มความขัดแย้ง ชิงชัง ให้บาดลึกในสังคมมากขึ้นไปอีก


ทางองค์กรตามข้างท้าย จึงขอเรียกร้องต่อผู้เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรมและการใช้อำนาจบริหารประเทศ ดังนี้

1.   ยุติการจับกุม คุมขัง การดำเนินคดี หรือการใช้อำนาจในรูปแบบใด ที่ส่งผลหรือมีวัตถุประสงค์เป็นการคุกคาม ทำลาย หรือละเมิดเสรีภาพในการแสดงออกโดยสันติภายใต้หลักการประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน

2.   ขอให้ประกาศยกเลิกกฎอัยการศึก เพื่อมุ่งไปสู่การปฏิรูปประเทศร่วมกันของประชาชนทุกภาคส่วนในประเทศบนพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย



ด้วยความเคารพในสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสังคมและองค์กรชุมชนภาคใต้
หน่วยวิจัยประชาธิปไตยชุมชนเพื่อการพัฒนา มหาวิทยาลัยทักษิณ
มูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม (มอส.)
สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.)