พ.ร.บ.ควบคุมยาสูบ ไม่กระทบผู้ค้าปลีกและชาวไร่ยาสูบ

[ทีมงานบ้านเรา]

[attach=1]

สมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ ยืนยัน พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบฉบับใหม่ ไม่กระทบผู้ค้าปลีกและชาวไร่ยาสูบ ตามที่มีการบิดเบือนข้อมูล แต่โดยความเป็นจริงแล้ว พ.ร.บ. จะช่วยสกัดเด็กและเยาวชนไทยจากการเสพติดบุหรี่

ศ.พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ ประธานสมาพันธ์เครือข่ายฯ ได้แสดงความกังวลว่ามีความเข้าใจผิดอย่างยิ่งในหมู่ผู้ค้าปลีกและชาวไร่ยาสูบ ว่า พ.ร.บ. นี้จะส่งผลกระทบต่ออาชีพ  ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริง พ.ร.บ. ดังกล่าว  มุ่งเน้นที่จะปกป้องสุขภาพและชีวิตของประชาชน และไม่มีมาตราใดเลยที่เกี่ยวข้องกับการปลูกและการค้าใบยาสูบ  ทั้งนี้ ความเข้าใจผิดดังกล่าวเกิดจากการให้ข้อมูลที่บิดเบือนของบริษัทบุหรี่ ผู้เสียประโยชน์จาก พ.ร.บ. ฉบับดังกล่าว

"ประเทศไทยจำเป็นต้องมี พ.ร.บ.ควบคุมยาสูบฉบับใหม่ อย่างเร่งด่วน เพราะปัจจุบัน มีเยาวชนอายุ  15-24 ปี   ติดบุหรี่แล้ว 1,671,194 คน   และมีผู้เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ถึง             วันละ 140 คน หรือปีละ 50,710 คน ในขณะที่บริษัทบุหรี่ทำกำไรเฉพาะในประเทศไทยได้ถึง       ปีละกว่า 10,000 ล้านบาท"

นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า         โดยข้อเท็จจริงแล้ว พ.ร.บ.ควบคุมยาสูบฉบับใหม่ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการควบคุมการส่งเสริมการตลาดของบริษัทบุหรี่ ซึ่งได้มีเทคนิคการทำการตลาดใหม่ ๆ  รวมทั้งมีผลิตภัณฑ์ยาสูบ        ชนิดใหม่ ๆ ทำให้มีผู้เสพติดบุหรี่รายใหม่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ซึ่ง พ.ร.บ. ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน       ไม่สามารถครอบคลุมได้  นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีพันธกรณีที่จะต้องปรับปรุงกฎหมายควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบให้สอดคล้องกับอนุสัญญาควบคุมยาสูบ  องค์การอนามัยโลก ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งใน 179 รัฐภาคี ที่ต้องควบคุมการทำการตลาดของบริษัทบุหรี่อีกด้วย

หากประเทศไทยมีกฎหมายควบคุมยาสูบฉบับใหม่จะส่งผลให้ จำนวนเยาวชนรุ่นใหม่เสพติดบุหรี่ลดลง  จำนวนผู้ที่สามารถเลิกสูบบุหรี่เพิ่มขึ้น  จำนวนผู้เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ลดลง และรัฐบาลสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ได้มากขึ้น

ที่มา -  มูลนิธิรณรงค์ เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ASH THAILAND