ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

หวั่นผู้ปกครองรับภาระเก็บภาษีโรงเรียนกวดวิชา

เริ่มโดย ทีมงานบ้านเรา, 13:48 น. 11 ธ.ค 57

ทีมงานบ้านเรา

[attach=1]

ตามที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)รับข้อเสนอของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เรื่องแนวทางแก้ปัญหาการจัดเก็บภาษีโรงเรียนกวดวิชาไปประสานกับกระทรวง ทบวง กรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และพิจารณาจัดทำเป็นรายละเอียดปฏิบัติ เพื่อดำเนินการ และให้เสนอเข้าครม.อีกครั้งภายใน 30 วันนั้น วันนี้(10 ธ.ค.) ดร.บัณฑิตย์ ศรีพุทธางกูร เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(กช.) กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(สช.)เคยหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบ้างแล้ว และได้เตรียมแผนการดำเนินการเบื้องต้นไว้คือ หากต้องมีการจัดเก็บภาษีโรงเรียนกวดวิชา ขั้นตอนแรกจำเป็นต้องแก้ไขพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติให้ชัดเจน โดยเฉพาะมาตราที่ระบุว่า โรงเรียนเอกชนที่ได้รับการจดทะเบียบถูกต้องและได้รับอนุญาตจาก สช.ให้ดำเนินการได้ไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งไม่เฉพาะโรงเรียนกวดวิชาเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงโรงเรียนเอกชนนอกระบบทุกประเภทด้วย

เลขาธิการ กช.กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ สช.จะต้องวิเคราะห์และตีความโรงเรียนเอกชนแต่ละประเภทว่า โรงเรียนใดเป็นโรงเรียนกวดวิชาบ้าง เช่น โรงเรียนสอนภาษาเพื่อเตรียมสอบแข่งขันเข้ามหาวิทยาลัย โรงเรียนสอนว่ายน้ำเพื่อเตรียมสอบแข่งขันเข้าโรงเรียนนายร้อยฯ เป็นต้น รวมถึงทำการสำรวจข้อมูลโรงเรียนเอกชนทั้งหมดว่ามีจำนวนเท่าไหร่ แต่ละโรงเรียนมีนักเรียนกี่คน และมีรายได้แค่ไหน เพื่อนำมาจัดทำแนวทางและรายละเอียดการจัดเก็บภาษีให้สอดคล้องและเหมาะสมกับรายได้ของแต่ละโรงเรียน ก่อนนำเสนอกระทรวงการคลังใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณากำหนดการจัดเก็บภาษีโรงเรียนกวดวิชาต่อไป

"การจัดเก็บภาษีโรงเรียนกวดวิชาถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะสามารถมองได้ว่าเป็นการส่งเสริมการศึกษาของชาติหรือไม่ ซึ่งหากมองการศึกษาเป็นเรื่องของธุรกิจแล้วต้องเก็บภาษี ต่อไปในอนาคตคนที่จะมาลงทุนด้านการศึกษาคงต้องคิดหนัก หรือไม่ก็ผลักภาระให้กับผู้ปกครองและเด็กแทน โดยอ้างว่าต้องนำเงินไปจ่ายภาษี"ดร.บัณฑิตย์ กล่าวและว่า หากต้องการแก้ปัญหาลดการกวดวิชาของเด็ก คงต้องไปแก้ที่ระบบการเรียนการสอนและระบบการคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยที่เป็นต้นเหตุอย่างแท้จริง ไม่ใช่แก้ปัญหาด้วยการเก็บภาษีโรงเรียนกวดวิชาซึ่งเป็นปลายเหตุ

ที่มา - http://www.dailynews.co.th/
สนับสนุนการขับเคลื่อนโดย
- ฮอนด้าพิธานพาณิชย์-อริยะมอเตอร์ www.phithan.co.th/hondaphithan
- ปาล์มสปริงส์ & ซิตี้รีสอร์ท บ้านและคอนโดคุณภาพจากเครืองศุภาลัย www.hatyainakarin.com
- ธีระการช่าง หาดใหญ่ (เยื้องบิ๊กซีคลองแห) โทร 086-4910345 www.facebook.com/teerakarnchanghy
- เอนกการช่าง ผู้นำการพัฒนาเครื่องจักรกลเกษตร โทร 081-7382622 www.an-anek.com/contact.php
รีวิวธุรกิจ เกาะติดบ้านเมือง ร้อยเรื่องท้องถิ่น TLP 0897384215

ทีมงานประชาสัมพันธ์

updated: 15 ธ.ค. 2557 เวลา 21:15:21 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน-นายกสมาคมโรงเรียนกวดวิชา ออกโรงเรื่องเก็บภาษี ขอให้กลับไปดูพ.ร.บ.การศึกษา แนะอาจเป็น "การลดหย่อน" แทน "ยกเว้น" หรือ เก็บเฉพาะ "แวต" ขอให้ดูรายได้โรงเรียนเป็นหลัก หวั่นผู้ปกครองแบกภาระจ่ายเงินเพิ่มขึ้น ศูนย์วิจัยกสิกรคาดปี′58 มูลค่าตลาดธุรกิจกวดวิชาทะลุ 8 พันล้านบาท

จากกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบในหลักการที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เสนอแนวทางการจัดเก็บภาษีโรงเรียนกวดวิชา โดย ครม.ให้กระทรวงศึกษาธิการ ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจัดทำเป็นรายละเอียดในการปฏิบัติ เพื่อเสนอกลับมายัง ครม.อีกครั้งใน 30 วัน

นายบัณฑิต ศรีพุทธางกูร เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) กล่าวว่าเรื่องนี้ตนไม่ได้คัดค้านแต่ขอเวลาปรับตัว และต้องไปดู พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ที่ระบุว่าโรงเรียนเอกชนได้สิทธิในการลดหย่อนภาษี หรือยกเว้นภาษี ซึ่งอาจปรับรูปแบบจากการยกเว้นมาเป็นการลดหย่อนภาษีแทน หากจะต้องเก็บภาษีจริง

"เรื่องนี้เคยหยิบยกมาคุยหลายครั้ง ก่อนหน้านี้กรมสรรพากรบอกว่าไม่ควรเก็บ เพราะจะส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ต้องจ่ายค่าเรียนเพิ่มขึ้น จึงต้องมาคุยกันอีกว่าจะทำอย่างไร และเก็บภาษีรูปแบบใด อย่างไรก็ตาม ต้องมาดูด้วยว่าถ้าเก็บภาษีแล้วใครจะเป็นผู้รับภาระที่เกิดขึ้น นักเรียนที่อยู่ชนบทควรจะได้รับการส่งเสริมการศึกษาเพิ่มเติมหรือไม่ เรื่องนี้ต้องคิดกันหลายมุมด้วย"

ทั้งนี้ ตนมองว่าเกณฑ์ในการจัดเก็บภาษีโรงเรียนกวดวิชาต้องดูจากรายได้เป็นหลัก หากถึงเกณฑ์ที่กำหนดไว้จึงค่อยเสียภาษี

นายอนุสรณ์ ศิวะกุล นายกสมาคมผู้บริหารและครูโรงเรียนกวดวิชา กล่าวว่า ที่ผ่านมา ศธ.ได้กำหนดให้โรงเรียนกวดวิชาต้องมีกำไรไม่เกิน 20% ของเงินลงทุน เพื่อไม่ให้เกิดการค้ากำไรเกินควร แต่ถ้ามีการเก็บภาษีอย่างเต็มรูปแบบก็จะมีทั้งภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ซึ่งปีหน้าจะขึ้นเป็น 8% และภาษีเงินได้นิติบุคคลอีก 20% หรือคิดเป็นโรงเรียนต้องจ่าย 4% รวมภาษีทั้งสองประเภทคิดเป็น 12% และหากมีค่าต้นทุนจากการทำบัญชีอีก สัดส่วนภาษีที่ต้องจ่ายก็อาจเพิ่มเป็น 15%

"เมื่อต้นทุนเราสูงขึ้นก็ต้องมาคิดอีกทีว่าจะแบ่งภาระนี้มาที่เราและผู้เรียนอย่างไร ซึ่งผมมองว่ารัฐอาจเลือกเก็บเฉพาะแวต เพราะเป็นแนวคิดที่กรมสรรพากรเคยปรารภไว้ก่อนหน้านี้ และมีกระบวนการที่ไม่ยุ่งยาก อย่างไรก็ดี โรงเรียนกวดวิชาก็คงต้องรักษาสิทธิคือจ่ายแวตให้กับรัฐโดยเก็บจากค่าเรียน ขณะเดียวกัน รัฐก็จะได้ภาษีเต็มเม็ดเต็มหน่วย"

นายธเนศ เอื้ออภิธร ผู้อำนวยการ-ผู้ร่วมก่อตั้งโรงเรียนกวดวิชาเอ็นคอนเซปต์ กล่าวว่า โดยปกติ ศธ.มีการกำหนดเพดานจัดเก็บค่าเรียนชั่วโมงละ 100 บาท ถือเป็นหนึ่งกลไกที่ควบคุมโรงเรียนกวดวิชา ถ้าหากต้องมีการจัดเก็บภาษีจริง

"โรงเรียนกวดวิชาไม่ได้ติดขัดอะไรถ้าต้องเก็บภาษี แต่อาจมีความยุ่งยากเรื่องบัญชีอยู่บ้าง เพราะเราไม่เคยมีระบบบัญชีทางธุรกิจมาก่อน ผมมองว่านี่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ถ้ามีระยะเวลาให้เราปรับตัวประมาณ 6 เดือนก็สามารถทำได้"

อนึ่ง ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยเมื่อปี 2556 ได้ประเมินมูลค่าการตลาดธุรกิจกวดวิชา ทั้งในส่วนของการเรียนกวดวิชาในรูปแบบโรงเรียนกวดวิชา และติวเตอร์อิสระที่สอนแบบตัวต่อตัว หรือสอนเป็นกลุ่มไว้ที่ประมาณ 7,160 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2555 ที่มีมูลค่า 7,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตไปสู่ระดับ 8,189 ล้านบาทในปี 2558 หรือเติบโตเฉลี่ย 5.4% ต่อปี โดยมีปัจจัยหนุนมาจากการเพิ่มค่าเรียนต่อหลักสูตรและจำนวนนักเรียนที่กวดวิชาเพิ่มขึ้น