ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

มีขันติ คือให้พรแก่ตัวเอง

เริ่มโดย สายน้ำ, 15:29 น. 12 ก.ย 54

สายน้ำ

พอดีได้อ่านหนังสือของพระอาจารย์มิตซูโอะ  มีแง่คิดดีค่ะ  เลยนำมาฝากลองอ่านดูน่ะค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่า............

พระปุณณะเดิมเป็นชาวสุนาปรันตะ ไปค้าขายที่เมืองสาวัตถี  ได้ฟังเทศน์จากพระพุทธเจ้าแล้วเกิดความเลื่อมใสศรัทธาจึงออกบวช

ครั้นบวชแล้วการทำสมาธิภาวนาไม่ได้ผล   เพราะไม่คุ้นกับสถานที่   ท่านคิดว่าภูมิอากาศที่บ้านเดิมของท่าน
เหมาะกับตัวท่านมากกว่า  จึงทูลลาพระพุทธเจ้า  พระองค์จึงตรัสถามว่า

"เธอแน่ใจหรือปุณณะ  คนชาวสุนาปรันตะนั้นดุร้ายมากนัก  ทั้งหยาบคายด้วย  เธอจะทนไหวหรือ"

"ไหวพระเจ้าข้า"

"นี่ปุณณะ......ถ้าคนพวกนั้นเขาด่าเธอ  เธอจะมีอุบายอย่างไร"

"ข้าพระองค์ก็คิดว่า  ถึงเขาจะด่า  ก็ยังดีกว่าเขาตบต่อยด้วยมือพระเจ้าข้า"

"แล้วเผื่อเขาต่อยเอาล่ะ  ปุณณะ"   "ก็ยังดีพระเจ้าข้า ดีกว่าเขาเอาก้อนดินขว้างเอา" 

"ก็ถ้าเขาเอาก้อนดินขวางเอาล่ะ"  "ข้าพระองค์ก็จะคิดว่า  ก็ยังดีพระเจ้าข้า  ดีกว่เขาเอาไม้ตะพดตีเอา"

"เออ  ถ้าเผื่อเขาหวดด้วยตะพดล่ะ"  "ก็ยังดีพระเจ้าข้า  ดีกว่าถูกเขาแทงหรือฟันด้วยหอกดาบ"

"เอาล่ะ.......ถ้าเผื่อคนพวกนั้นเขาจะฆ่าเธอ ด้วยหอกด้วยดาบล่ะ  ปุณณะ"

"ข้าพระองค์ก็จะคิดว่ามันก็เป็นการดีเหมือนกันพระเจ้าข้า"

"ดีอย่างไร ปุณณะ"

"ก็คนบางพวกที่คิดอยากจะตาย  ยังต้องเสียเวลาเที่ยวแสวงหาอาวุธมาฆ่าตัวเอง 
แต่ข้าพระองค์มีโชคดีกว่าคนพวกนั้น  ไม่ต้องเสียเวลาไปเที่ยวหาอาวุธอย่างเขา"

"ดีมาก  ปุณณะ เธอคิดได้ดีมาก เป็นอันตกลง  เราอนุญาตให้เธอไปพำนัก  ทำความเพียรที่ตำบลสุนาปรันตะได้"

พระปุณณะกลับไปเมืองสุนาปรันตะแล้ว  ทำความเพียร ในไม่ช้าใจก็หยุดนิ่ง บรรลุธรรมไปตามลำดับ
จนได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์

เรื่องของพระปุณณะเป็นตัวอย่าง   ที่จะสอนใจเราได้ว่า  ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามหากเราสามารถทำใจได้   
คิดในแง่ดี  คิดในแง่บวกได้ในทุกสถานการณ์ เราจะเก็บเกี่ยวผลดีได้เสมอ 
เกิดประโยชน์ได้ในทุกนาทีของชีวิต

ในชีวิตประจำวัน  แทนที่เราจะขอพรจากพระเจ้า  ขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์  ก็ให้เราใช้หลักอดทน 
คิดดี  ทำดี  ด้วยใจดีมีเมตตา  มีความพอใจในปัจจุบัน
ก็เท่ากับเราให้พรแก่ตัวเอง   และมีความสุขได้ในปัจจุบันและอนาคต

ปกติคนเรามักคิดว่า   ปัจจุบันนี้เป็นทุกข์ก็ต้องทนทุกข์ไปก่อน  รอไว้วันข้างหน้า 
เมื่อได้สิ่งนั้นสิ่งนี้สมความปราถนาแล้ว  จึงมีความสุขได้ 

แต่จริงๆแล้ว ขันติที่ถูกต้องบริสุทธิ์คือ  อดทนด้วยความเต็มใจและพอใจในปัจจุบัน  ไม่ใช่ทนด้วยความเป็นทุกข์   แต่ทำใจได้รักษาใจเป็นปกติได้  เพราะมีปัญญาที่จะเข้าใจว่า

ทุกสิ่งทุกอย่างไม่แน่นอน   เข้าใจในโลกธรรมแปด  มีลาภ  ยศ  สรรเสริญ สุข  ก็ต้องมีเสื่อมลาภ  เสื่อมยศ  นินทา  ทุกข์  ถือเป็นธรรมดาโลก   

เมื่อสมปราถนาเราก็ไม่ดีใจจนหลง  เมื่อไม่สมปราถนาเราก็ยังมีกำลังใจ  มีความหวังในชีวิตได้
มีขันติจึงเท่ากับให้พรแก่ตัวเอง  ที่จะมีความสุขใจความพอใจได้ในทุกสถานการณ์


ขอขอบคุณหนังสือมีขันติ คือ ให้พรแก่ตัวเอง
ของพระอาจารย์มิตซูโอะ  คเวสโก

คุณหลวง

สาธุ

อาจารย์มิตซูโอะ เป็นพระที่เทศน์แล้วฟังง่ายดีครับ
เคยอ่าน๒-๓ เล่ม แต่จำไม่ได้ อิอิ

สมกับเป็นศิษย์หลวงปู่ชาครับ
สิ่งที่ไม่เหลือคือ  ความสงสัยในวิถีตน
สิ่งที่เหลือคือ  เดินทางต่อไป และต่อไป

ha_hnueng

ครับได้ข้อคิดมาใช้เลยครับ สุขก็สุขที่ตัวเรา ทุกข์ก้อทุกข์ที่ตัวเรา แล้วเราจะทุกข์เพื่ออะไร

ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่หามาให้อ่านกันครับ ส.ยกน้ิวให้
@@ "ความคิดชั่ววูบ"พาพานให้กระทำความชั่ว "ความคิดชั่วแล่น"พานพาให้กระทำความดี แต่จะกระทำชั่วหรือดีนั้นไซร้ขึ้นอยู่กับ"ความคิดชั่วขณะ" @@

สายน้ำ

โดยส่วนตัวเป็นคนชอบทำบุญ  เมื่อก่อนที่จะมาอยู่หาดใหญจะหาเวลาไปปฏิบัติธรรมค่อนข้างบ่อย

จะไปสวดมนต์ ฟังเทศน์ทุกวันโกนค่ะ แต่พอมาอยู่ที่หาดใหญ่แล้วก็ไม่ได้ปฏิบัติเลยค่ะ  เหตุผลคือ

1.  หาสถานที่ถูกกับจริต ยังไม่เจอ
2.  หาเจอแล้วแต่ไม่มีเพื่อนไป  (เป็นผู้หญิงจะไปคนเดียวบางครั้งก็ไม่เหมาะสมอีก)

ถ้าทุกอย่างลงตัวธรรมะก็จะจัดสรรค์ให้เราเองน่ะค่ะ  ตอนนี้ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนเพราะเราก็เป็นพอแล้วค่ะ

บ้านหมอแมว

ทวีศักดิ์  พรพงศ์สุวรรณ  112ม.17ต.ปากแรตอ.บ้านโป่งจ.ราชบุรี70110  โทร.0818806907