‘บิ๊กตู่’เปิดงานวันเด็กทำเนียบฯพร้อมชมโขนเด็กตอน ‘พรรคทัพสมานฉันท์’

[หาดใหญ่ใหม่]

โดย คมชัดลึก http://www.komchadluek.net/index.php

'พล.อ.ประยุทธ์' เปิดงานวันเด็กทำเนียบฯ พร้อมชมโขนเด็ก ตอน 'พรรคทัพสมานฉันท์' จนท.ระบุจำกัดจำนวนนั่งเก้าอี้นายกฯ 2,000 คน คิวเต็มแล้ว

           10 ม.ค.58 เมื่อเวลา 08.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานเปิดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2558 ที่สนามเสือป่า โดยกล่าวเปิดงานว่า วันเด็กปีนี้เหมือนย้อนกลับไปเป็นเด็ก หลายอย่างมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีอาทิ ความเจริญของบ้านเมือง การพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ ปีนี้จัดเป็นปีที่ 60 เท่ากับอายุของตน จึงถือว่าเป็นวันที่เราสามารถสร้างชาติไปได้ 60 ปีนับจากวันเด็ก ทั้งนี้คำขวัญทุกปีมีความหมายแต่ขึ้นอยู่กับว่าเราจะนำไปสู่การปฏิบัติเท่าไร เด็กจะสามารถเข้าใจได้เพียงใด จึงพยายามกำหนดคำขวัญวันเด็กให้สั้นที่สุดและมีความหมายให้มากที่สุด ใช้คำพูดให้น้อยมีความหมายให้มาก และนำไปสู่การปฏิบัติให้ได้อย่างยั่งยืน

           "ย้อนไปตอนสมัยเด็กที่พ่อแม่พามา ก็คงมีความสุขเหมือนกับเด็กๆในวันนี้ เพียงแต่ว่าโลกเปลี่ยนแปลงไปมาก เด็กๆ รุ่นนี้อาจไม่ได้ติดตาตรึงใจเท่าไร แต่สมัยก่อนมีอะไรแสดงน้อยกว่านี้มาก แต่ดีใจที่ได้มาเจอเพื่อน เจอคนอื่นๆได้ของขวัญนั้นคือสิ่งประทับใจของผม วันนี้คงไม่แตกต่างมากนัก เมื่อกี้คุยกับรัฐมนตรีว่าถ้าผมไม่ได้เป็นทหาร ไม่ได้เป็นแบบนี้ ผมคงดีใจที่หลายๆคนให้การต้อนรับ หลายๆ คนชื่นชม น่าจะดีสำหรับผมหรือสำหรับใครก็แล้วแต่ แต่ถ้ากลับไปแบบเดิมนั่นคือสิ่งที่ผมต้องทำมากกว่าเดิม ทำให้เขามีอนาคตมากกว่าเดิม วันนี้ราจะเดินไปสู่อนาคตในวันข้างหน้า โดยมีเวลาค่อนข้างจำกัด แต่วันนี้จะทำให้ลูกให้หลานไม่ต้องเผชิญกับความยากลำบาก ไม่ต้องต่อสู้ในสิ่งที่ไม่ควรต้องต่อสู้กัน สิ่งเหล่านี้เป็นความสำคัญ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

           พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลตระหนักดีถึงความสำคัญของประชาชนทั้ง 77 จังหวัด ทุกคนมีส่วนร่วมขับเคลื่อนประเทศให้เจริญก้าวหน้าในอนาคต ฉะนั้นในระบบการศึกษาทั้งในและนอก จะสร้างคุณภาพเยาวชนให้สามารถเรียนรู้ พัฒนาตนเองให้มีศักยภาพตลอดทุกช่วงวัย เรียนรู้ให้ทันโลกให้ทันเหตุการณ์ในวันนี้ อย่าสนใจเฉพาะตัวเอง ต้องสังเกตว่าแต่ละวันมีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง เพราะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ความคิด สถานการณ์เปลี่ยน สิ่งที่ต้องยึดมั่นคือหลักธรรมคำสอนของศาสนา ยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กตัญญูรู้คุณต่อพ่อแม่และอาจารย์ เพราะพ่อแม่คือพระของเรา ท่านให้กำเนิดเรามา เราต้องทำความดี ซื่อสัตย์สุจริต มีคุณธรรมจริยธรรม ไม่ทุจริต ไม่เห็นชอบกับการทุจริต และบ้านเมืองเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าอย่างอื่น หากบ้านเมืองเรียบร้อย มีเสถียรภาพอย่างอื่นก็ไปได้ เพราะความมั่นคงเป็นบ่อเกิดของความมีเสถียรภาพทั้งการเมือง การทหาร การต่างประเทศ รวมถึงเศรษฐกิจ

           "ขณะนี้เศรษฐกิจเดือดร้อนหลายพวก หลายประเทศ ฉะนั้นเราต้องอดทน ใช้เวลาที่เรามีแปลงวิกฤตให้เป็นโอกาส จะทำอย่างไร จะพัฒนาตัวอย่างไร โดยรัฐบาลเข้ามาดูแล การศึกษาก็อยากให้เรียนอย่างมีความสุขผู้ปกครองมีความสุข ครูอาจารย์มีความสุข อยากให้ทุกคนร่วมมือกันทั้งพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูอาจารย์ ช่วยกันลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาของประชาชนให้มีความท่าเทียมโดยความพอเพียง มีมากเรียนมาก มีน้อยต้องเรียนในระบบให้ดี เพราะประเทศเราเป็นในระบบเสรีประชาธิปไตย จำกัดมากๆ คงไม่ได้ทั้งหมด" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

           นายกฯ กล่าวอีกว่า อยากขอพูดถึงวันครู เพราะเด็กกับครูคู่กัน นำความรู้สู่อนาคต เด็กดี ครูดีอนาคตก็ดี หากไม่ดีอนาคตก็ไม่ดี ถ้าบ้านเมืองมีการพัฒนาทุกอย่างทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทั้งผู้นำ การเมือง การทหารและตำรวจ ในทางที่เป็นคุณธรรมมีความซื่อสัตย์สุจริต ความขัดแย้งก็จะไม่เกิด กฎหมายไม่ต้องยุ่งมาก เจ้าหน้าที่ไม่ต้องทำงานมาก สังคมจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เชื่อว่าคุณธรรมจริยธรรมจะแก้ทุกอย่างได้ เพราะทุกคนรู้ว่าอะไรดี ไม่ดี ชั่วไม่ชั่ว แต่ทั้งนี้บ้านเมืองมีกฎหมายทุกคนมีโอกาสที่จะต่อสู้ มีโอกาสเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมจะผิดหรือถูกขึ้นอยู่กักระบวนการ อย่าโทษกระบวนการ เช้านี้เริ่มสัญญากับตัวเองหรือยังว่าจะทำอะไรให้ตัวเอง 1. ไม่โกหก 2.ไม่นอนตื่นสาย 3.ไม่ขี้เกียจไปโรงเรียน 4.รักพ่อแม่มากขึ้น 5.ไม่เล่นเกมตอนดึก 6.ทำการบ้านก่อนเล่นเกมดูโทรทัศน์

           พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ทุกคนรู้หมดกับสิ่งที่พูด และพ่อแม่ก็เหน็ดเหนื่อยกับทุกคน พ่อแม่เครียด บางคนพ่อแม่ดุ แต่ทุกคนจะได้ดีหมดเพราะเขาเข้มงวด แต่บางคนก็ไม่ชอบ ถ้าพ่อแม่ใจดีเราชอบ อยากได้อะไรได้ แต่เราไม่รู้ว่าพ่อแม่เขาเหน็ดเหนื่อยขนาดไหน บางครั้งถึงกับต้องกู้เงิน เป็นหนี้นอกระบบ มาผ่อนหนี้ หนีหนี้ให้ลูก ทั้งโทรศัพท์ รถจักรยานยนต์ ดังนั้นเราควรยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง พ่อแม่จะไม่เป็นหนี้ ขณะเดียวกันเรามีสังคมดียืนอยู่ในสังคมที่เป็นประชาธิปไตย เราจะต้องเข้าเท่าเทียม ด้วยการขยัน ขันแข็งมากขึ้น แต่ต้องถูกต้องตามกฎหมายอย่าทำผิดกฎหมาย และหวังว่าจะมีอนาคตที่ดีในวันข้างหน้า เหมือนที่เรามีไปแล้ว พร้อมกันนี้อยากให้เด็กเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของไทย รู้ว่าเราควรจะทำตัวอย่างไร เพื่อจะได้ปฏิบัติตัวดีแบบบรรพบุรุษ รักแผ่นดินไทย และเลือกคนดีเข้ามาปกครองประเทศได้

           "ขณะนี้เชื่อว่าสิ่งที่คนไทยกำลังมีความสุขคือสุขภาพที่แข็งแรงขึ้นมากของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทรงระลึกถึงคนไทยอยู่เสมอ ส่วนเรื่องการปฏิรูปประเทศทุกอย่างกำลังเดินหน้าไปด้วยดีถึงแม้จะมีอุปสรรคบ้าง ขอให้ปล่อยทุกอย่างเดินหน้าไป อย่าไปทำให้ความขัดแย้งเกิดขึ้นอีก" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

           หลังจากนั้นได้ทำพิธีเปิดและเยี่ยมชมบูธกิจกรรมต่างๆ ภายในงาน ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้เข้าร่วมกิจกรรม ณ เวทีกิจกรรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และกล่าวบนเวทีกิจกรรมของสตช.ว่า การฝึกเยาวชนสัมพันธ์มีความสำคัญมาก เพราะถือเป็นการฝึกเด็กให้มีระเบียบวินัย มีความรู้ในการพัฒนาตัวเอง ซึ่งการฝึกเยาวชนสัมพันธ์เป็นหลักสูตร 4 วัน ที่ใช้ฝึกเยาวชนซึ่งมีในต่างประเทศมานานแล้ว โดยจะให้เด็กๆ ฝึกทักษะการใช้ชีวิตเรียนรู้ร่วมกัน พอจบหลักสูตรเราก็มีใบประกาศนียบัตรให้ ดังนั้นพวกเราผู้ใหญ่ต้องสร้างเด็กให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น จึงฝากให้ทุกฝ่ายช่วยฝึกฝนเด็กให้มีความอดทนอดกลั้น แบบประเทศเกาหลี ญี่ปุ่นที่ฝึกความอดทนเด็กๆ เช่นเดียวกัน ซึ่งสุดท้ายหากจบหลักสูตรแล้วเด็กๆ จะเกิดความภาคภูมิใจว่าเขาทำได้ ดังนั้นวันนี้เด็กไทยต้องมีความแข็งแรง อย่าอ่อนแอ และอย่าเดินเอวคดเอวอ่อนเป็นจิ๊กโก๋มากนัก เราต้องเดินให้สง่า วันข้างหน้าจะได้ดูแลสาวๆ ได้ ไม่ใช่ให้สาวๆ มาดูแลเรา เราต้องมีความเป็นสุภาพบุรุษ หากเติบโตไปมีครอบครัวจะได้สอนลูกๆ ให้มีความแข็งแรงเป็นสุภาพบุรุษ ไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจหรือนักธุรกิจก็ตามขอให้มีความเป็นผู้นำ เป็นสุภาพบุรุษ

           ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในระหว่างที่นายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดงานเด็กๆ บางส่วนพูดคุยกันเสียงดัง นายกฯ จึงกล่าวติดตลกว่า "ไหนลองเงียบฟังลุงสัก 1 วินาทีได้ไหม อยู่นิ่งๆ ก่อน เราต้องฟังคนอื่นเขา ถ้าไม่ฟังเราจะคิดไม่ทัน" พร้อมกับสั่งให้ให้จัดแถว และออกคำสั่งระเบียบพักแบบทหาร

           นายกฯ กล่าวต่อว่า วันนี้ตนดีใจที่ได้มาเจอหลานๆ ทุกคน โดยเยาวชนสัมพันธ์เราฝึกมา 38 ปีแล้วใช้เงินไปหลายแสนบาทในแค่ละครั้ง จึงขอฝากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องปรับปรุงหลักสูตรให้สามารถพัฒนาเด็กๆ ได้จริง เราควรใส่เนื้อหาสาระลงไปเพียงบางส่วนเท่านั้น เพราะหากใส่สาระมากเกินไปเด็กๆ จะไม่ฟัง เรื่องนี้ผู้ใหญ่ต้องคิดด้วยว่าหากเราใส่สาระลงไปมาก เด็กๆ อาจไม่ได้ความรู้เท่าที่เราต้องการ เพราะเด็กมีวัยวุฒิและพื้นฐานไม่เท่ากัน เราลองไปศึกษาดูให้ถี่ถ้วนว่าเราจะแบ่งเด็กเป็นแต่ละประเภทได้หรือไม่พร้อมกับใส่หลักสูตรให้เด็กสามารถนำไปใช้ชีวิตในอนาคตได้จะได้รู้คุณค่าของสิ่งของต่างๆ

           "สำหรับเด็กๆ ทุกคนเราต้องดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง อย่าเป็นภาระให้พ่อแม่ ในวันหน้าเราจะได้สร้างเนื้อสร้างตัวได้ เพราะพ่อแม่ได้สร้างชีวิตมาให้เราแล้ว วันนี้เรามีเงินทองเท่านี้ก็ต้องยอมรับและพยายามสร้างขึ้นมาใหม่เพื่ออนาคต ให้ลูกหลานมีมากกว่าพ่อแม่ในวันนี้ อย่าได้โกรธโชคชะตาเพราะคนเรามีไม่เท่ากัน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

           ส่วนบรรยากาศการจัดการวันเด็กภายในสนามเสือป่าเป็นไปอย่างคึกคัก บรรดาพ่อแม่ผู้ปกครองพาบุตรหลานเที่ยวชมนิทรรศการภายในงาน พร้อมเล่นเกมชิงรางวัลที่หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนจัดขึ้น โดยนายกรัฐมนตรีได้เดินชมงานและทักทายและถ่ายภาพกับเด็กๆ พร้อมทั้งแจกตุ๊กตา และกุญแจทหาร ก่อนที่จะเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อเปิดงานวันเด็กแห่งชาติ 2558 ในวันที่ 09.30 น.