ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

อย่าเอาการเมืองมาสร้างลัทธิใหม่ให้พระพุทธศาสนาเลยครับ

เริ่มโดย หาดใหญ่ใหม่, 11:16 น. 16 ก.พ 58

หาดใหญ่ใหม่

เมื่อพูดถึงลัทธิจานบินหลายคนบอกว่านี้ไม่ใช่ศาสนาพุทธ แต่นี่คือลัทธิใหม่ที่มุ่งให้คนทำบุญอย่างเดียว ทำมากได้มาก ประตูสวรรค์เปิดเร็ว

ในฐานะชาวพุทธผู้ไม่ได้ช่ำชองพระธรรมหรือเก่งกาจลึกซึ้งแต่อย่างใด เป็นผู้หนึ่งที่นับถือพระพุทธศาสนาตามบรรพบุรุษ เข้าวัดวาตามประสาเด็กและเติบโตมากับวิชาสพระพุทธศาสนาในห้องเรียน

บอกตามตรงว่ารู้สึกไม่เห็นด้วยและไม่สบายใจกับหลวงลุงผู้ัเคยเดินมในเส้นทางการเมืองแล้วมาห่มผ้าเหลืองสืบทอดพระพุทธศาสนา พรรษายังน้อยแต่วิวาทะเรียกแขกนั้นมากหลายผสมผสานกับนักการเมืองฝีปากกล้าที่มาร่วมขบวนต้อนรับกันเป็นทิวแถวในทุกวัดที่มีงาน

งานวัด งานบุญ จริงอยู่ว่าต้องการเงินเข้าวัดเพื่อพัฒนาศาสนสถานแต่บางอย่างมากไปเกินงาม เกินพอดี สิ่งที่ท่านเทศน์ที่ท่านเดินสายเหมาะสมหรือไม่ แล้วนักการเมืองที่ไปยืนหาเสียงกับท่านทุกเวทีที่ท่านมางดงามหรือไม่

มีคนบอกว่า "คุณอย่าด่าแต่ลัทธิจานบินเลยย้อนดูที่บ้านคุณสิบางวัดแทบร้างเพียงเพราะหลวงตาแก่ๆ ปฏิบัติดีแต่ไม่มีพีอาร์ บางงานมากันวัดแทบแตกเพียงเพราะนิมนต์ท่านคนนั้นมา"

ก็จริงอย่างที่เขาบอก การเมืองกับศาสนาควรแยกออกจากกันให้ชัดส่วนบ้านเมืองกับศาสนาต่างหากที่ควรหลอมรวมกันให้แน่น

ท่านอื่นคิดเห็นเช่นไรบ้างครับขอแบบสุภาพสร้างสรรค์ ไม่เสียดสีกล่าวร้ายบุคคลที่ 3 คนเกินควรนะครับ
หาดใหญ่ใหม่ www.facebook.com/hatyaimai
เมืองหลวงภาคใต้ หลากหลายเรื่องราว บอกเล่าแบ่งปัน

Mr.No

  นี่ไงครับ... ที่พุทธองค์ท่านสอนว่า เราต้องใช้ "ปัญญา" 

  อย่าลืมว่า....การปรับหรือเลื่่อนสมณศักดิ์ นั้น ทุกวันนี้ เค้าวัดกันจากไหนล่ะครับ ถ้าไม่ใช่ อารามใหญ่โต..วัดมีเงินทองมากมาย นั่นเป็นเครื่องหมายว่า วัดนี้ หัววัด...เก่ง!

  แถมหากวัดไหนมีสายสนกลใน..ก็จะทำให้ เจริญพรวด ๆ เป็นพระผู้ใหญ่บารมีก๋ากันมากมาย....

มันผิดพลาดตั้งกะหัวลงมาแล้ว..... เพราะเราทิ้ง คำสอน..เบี่ยงเบนบิดเบือนคำสอน พุทธองค์ สุดท้ายเราก็จะได้ 

  วัดแบบที่เห็น....นักบวชอย่างที่เป็น ...

เรื่องการเชื่อมโยง ศาสนาเข้ากับการเมืองเป็นเรื่่องปกติโลก.... ในศาสนาอื่นก็เป็น  และเป็นมานับร้อยนับพันปีแล้ว

การเมืองกับศาสนาใช้ ภาษาเดียวกันคือ "ความเชื่อ" 

เชื่อมากก็ ศรัทธามาก.....  ดังนั้นเป็นธรรมดาที่การเมืองจะสร้างศรัทธาได้ก็คือการ เชื่อมศรัทธากับการเมืองเข้าด้วยกัน

นักการเมืองชอบไปวัด..ส่วนใหญ่ไม่เพราะต้องการไปหาธรรมะจากสมณะ  ทว่าไปเพราะมันผูกสัมพันธ์กับคนจำนวนมากไ

หลวงน้า..หลวงลุงก็ชอบ  เพราะเวลานักการเมืองเข้าหา มันรู้สึกไม่ยุบหนอ...แต่พองเอาๆ


นักการเมือง + หลวงน้า  จับมือกัน
คนในท้องถิ่นนั้นก็พลัน โมทนาว่าเป็น พวกเดียวกัน

นักการเมืองท้องถิ่น + หลวงลุง + หลวงน้า(บ้านๆ)
นี่ยิ่งสุดยอด...

เพราะถึงเวลา..ก็ต้องเลือกหา   "คนของเรา" เข้าไปนั่งในสภามิใช่หรือ?

ผมใช้หลักพิจารณาว่า  ถ้าวัดไหนโบสถ์ใหญ่โต...ร่ำรวยนัก ..ให้ตระหนักว่า นั่นละกำลัง อันตราย!
มันโบสถ์โก้..วิหารโต คือการสะท้อนให้เห็นว่า   หัววัด...ยังไม่ได้เข้าใจใน ธรรมวินัยและสมณะวิถี ดีพอ

ถ้าจะให้หลวงพี่..หลวงพ่อแบบนี้นำพาสอนสั่ง.... ต้องชั่งใจกันมาก ๆ

เพราะถ้า ทุกอย่างใช้เงินสร้าง.... เมื่อเงินมาก... กิเลสตัณหา อันสมณะพึงตัดทิ้ง ก็ไม่มีวันหาย...


ต่อให้ดังแค่ไหน...มหาศรัทธาล้นหลามเพียงใด  สุดท้ายก็เวียนว่าย...ตาย(กันเป็น)พวง กันอย่างที่เห็นนั่นละโยม!


..ขอเป็นแค่ "มนุษย์" ที่อาศัยโลกใบนี้สำหรับ เกิด.แก่.เจ็บ.ตาย อย่างนอบน้อมและคารวะ.

หาดใหญ่ใหม่

หาดใหญ่ใหม่ www.facebook.com/hatyaimai
เมืองหลวงภาคใต้ หลากหลายเรื่องราว บอกเล่าแบ่งปัน

คนเมืองสง

พระที่สอนตามแนวทางของพุทธศาสนาได้ ต้องเป็นพระที่มีความรู้ความสามารถ มีความรู้ความเข้าใจด้านหลักธรรมเป็นอย่างดี ความรู้เหล่านี้ต้องได้มาจากการเล่าเรียนในหลักสูตรปริยัติธรรมที่ถูกต้อง หาใช่จะเกิดขึ้นได้เองขณะบวชพระไม่ แลผู้เข้าใจหลักธรรมนั้นก็ต้องประกอบไปด้วยความมั่นคงในหลักการมิเบี่ยงเบนไปกระแสหรือสิ่งเย้ายวนต่างๆ หรือคำตำหนิ คำสรรเสริญ หรือคำนินทา
คำสอนควรเป็นไปในแนวทางทีจะละกิเลส ชำระจิตใจ ไม่ใช่สอนให้มัวเมาในกิเลสตันหา ความอยาก หรือล่อใจให้เกิดความร่ำรวยต่างๆ แม้คำสอนลักษณะให้ละกิเลสจะไม่เร้าใจหรือไม่เรียกลาภสักการะ ท่านเจ้าสำนักก็ควรจะยึดมั่นไว้ให้มั่นคง นำพาภิกษุ-สามเณรขบฉันให้น้อยลงตามหลักการ ก็ยังนำพาศาสนาไปได้อีกหลายพันปี

wareerant

เอาลงยากครับ สำหรับลัทธิจานบิน ทรัพย์สินเป็นแสน ๆ ล้าน (อาจมากกว่านั้น) คนมีเงินเป็นแสนล้าน จะมีใครทำอะไรเขาได้ล่ะ

ผมได้ไปเห็นกับตาตัวเอง เมื่อปีที่แล้ว ในงานนิทรรศการรวมเด็ก เป็นครั้งแรกที่ไปเยือนอาณาจักรสองพันไร่ของลัทธิจานบินต้องเรียกว่าอาณาจักร เพราะใหญ่โตจริง ๆ และยังไม่เคยเห็นองค์กรไหนในประเทศไทย ที่สามารถรวมคนได้ถึง 1 ล้านคนในที่เดียวกัน เห็นแล้วรู้สึกกลัว คน 1 ล้านคนนั้น เฉพาะในงานนี้ แต่ใน 1 ปี มีคนเข้าลัทธิเป็นสิบล้าน คนสิบล้านคนในแต่ละปีเหล่านี้ จะค่อย ๆ ถูกล้างสมอง ค่อย ๆ ถูกดูดเข้าไป ตอนแรกสอนหลักธรรมง่าย ๆ ก่อน จากนั้นก็ค่อย ๆ ชักชวนให้ถลำเข้ามา ทีละน้อย ๆ ในที่สุดก็จะหาเงินที่มีที่ได้ มาทุ่มให้ลัทธิจานบินจนหมดตัว จากนั้นลัทธิจานบินจะค่อย ๆ ใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น จนเป็นกลุ่มทุนทีมีเงินมากที่สุดในโลก เมื่อนั้น พุทธศาสนาบุคลากร ก็จะกลายเป็นเครื่องมือ จะสั่งหันซ้ายหันขวาก็ได้ จะตัดทอน ลด เพิ่มเติมพระธรรมวินัย เนื้อความตรงไหนก็ได้

ใครจะหยุดเขาได้ล่ะ ตอนนี้ จักรพรรดิแห่งอาณาจักรจานบิน ก็ประสบความสำเร็จไปอีกขั้นแล้ว ขั้นต่อไปก็จะมีมาเรื่อย ๆ

น่ากลัวมั้ยล่ะ