ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ตำรวจทางหลวงแนะรถฉุกเฉิน ระวังความปลอดภัยผู้ใช้ทางร่วม

เริ่มโดย หาดใหญ่ใหม่, 16:00 น. 21 ก.พ 58

หาดใหญ่ใหม่

ที่มา คมชัดลึก http://www.komchadluek.net/index.php

ตำรวจทางหลวงแนะ'รถฉุกเฉิน'ระวังความปลอดภัยผู้ใช้ทางร่วม : สายตรวจระวังภัย โดยปฏิญญา เอี่ยมตาล

              แม้ว่า "รถฉุกเฉิน" หน่วยงานราชการ "ตำรวจ-ทหาร-ดับเพลิง-สพฉ." และหน่วยงานท้องถิ่นจะได้รับอนุญาตให้ใช้ความเร็วบนถนนหลวง โดยไม่ต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ก็ตาม แต่ไม่ได้หมายความว่า จะใช้ความเร็วโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ซึ่งที่ผ่านมาหากไม่ระมัดระวังก็จะทำให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรงขึ้นได้

              พล.ต.ต.สมชาย เกาสำราญ ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง แนะนำผู้ขับขี่รถฉุกเฉินทุกประเภทซึ่งต้องแข่งกับเวลา ไม่ว่าจะเป็นรถพยาบาล หรือรถตำรวจ ทหาร ให้ยึดหลัก 3 ความเพียงพอ คือ 1.ใช้ความเร็วให้เพียงพอต่อความปลอดภัย 2.เพียงพอต่อสมรรถนะของรถ และ 3.เพียงพอต่อสมรรถภาพของผู้ขับขี่ หากขาดส่วนหนึ่งส่วนใดไปจะทำได้เกิดอันตรายได้

              ที่สำคัญทั้ง 3 องค์ประกอบนั้นขึ้นอยู่กับสภาพถนน และสภาพดินฟ้าอากาศในขณะนั้นด้วยว่า พร้อมที่จะให้ใช้ความเร็วได้หรือไม่ มากน้อยเพียงใด อุบัติเหตุที่เกิดบนทางหลวงส่วนใหญ่มาจาก 2-3 ประการที่กล่าวมา เช่น ไม่ชะลอรถให้จังหวะรถคันหน้าหลบก่อน เมื่อเขาหลบไม่ทันแล้วเราก็ยังใช้ความเร็วอีก โอกาสเกิดอุบัติเหตุมีสูง โดยเฉพาะช่วงทัศนวิสัยไม่สมบูรณ์

              จากประสบการณ์ของตำรวจทางหลวง ต้องสันนิษฐานก่อนว่า รถคันหน้าไม่รู้ว่า เราเป็นรถตำรวจ รถทหาร หรือรถฉุกเฉิน ทั้งที่เปิดเสียงไซเรนและสัญญาณไฟวับวาบแล้ว เพราะบางคนอาจเปิดเพลงในรถเสียงดัง เมื่อรถฉุกเฉินเข้ามาใกล้ก็ตกใจไม่รู้จะหลบทางไหนซ้ายขวาดีทำให้เกิดการเฉี่ยวชน

              เป็นที่มาของกรณีประชาชนไม่หลีกทาง และยังมีอีกสาเหตุคือ ไม่มั่นใจว่ารถฉุกเฉินคันนั้นๆ มีผู้ที่อยู่ในสถานะความเป็นฉุกเฉินจริงหรือไม่ จึงไม่ยอมให้ทาง ทำให้ผู้ป่วยในรถพยาบาลเสียชีวิตเพราะนำส่งโรงพยาบาลไม่ทันหลายราย

              ผบก.ทล. จึงออกคำสั่งไปยังตำรวจทางหลวงทุกนายให้เข้มงวดจับกุมดำเนินคดีรถที่ใช้สัญญาณไฟฉุกเฉินหรือสัญญาณเสียงในกรณีไม่มีความจำเป็นตั้งแต่ต้นปี 2558 และผลการคุมเข้มในช่วง 45 วันที่ผ่านมา สามารถควบคุมรถให้ใช้ในภาวะฉุกเฉินอย่างแท้จริง โดยเฉพาะกรณีจำเป็นต้องฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง ให้ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ต้องดูให้แน่ใจเพื่อความปลอดภัยของผู้อื่นด้วย และกรณีขับหวาดเสียวแซงปาดซ้ายปาดขวาก็ไม่สามารถทำได้

              แม้ว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้รถฉุกเฉิน รวมถึงสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินที่มีรถพยาบาลอยู่ในความดูแลกว่า 1 แสนคัน ก็ต้องอบรมหลักสูตรชั้นสูงให้แก่คนขับรถฉุกเฉิน ควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมายกับรถที่ไม่หลบชิดซ้ายให้รถฉุกเฉินผ่าน แต่หากคนขับรถฉุกเฉินขับด้วยความประมาทก็อาจเกิดความสูญเสียได้ตลอดเวลา
หาดใหญ่ใหม่ www.facebook.com/hatyaimai
เมืองหลวงภาคใต้ หลากหลายเรื่องราว บอกเล่าแบ่งปัน