ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ที่แท้ตำรวจอุดร รับงานฆ่า ล่านายดาบจับแล้ว 1 มือยิงพระหมอ

เริ่มโดย หาดใหญ่ใหม่, 11:27 น. 25 มี.ค 58

หาดใหญ่ใหม่

ที่มา แนวหน้า http://www.naewna.com/

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งเด้ง 2 นายตำรวจระดับผู้บังคับการในพื้นที่ จ.อุดรธานี ชนิดสายฟ้าแลบ เซ่นคดีสังหารโหด หลวงพ่อบัณฑิต สุปันฑิโต หรือพระหมอ อายุ 48 ปี เจ้าอาวาสวัดป่าตอสีเสียด ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลไชยวาน และโรงพยาบาลนายูง จ.อุดรธานี ซึ่งลาออกมาบวชกว่า 20 พรรษา หลังคดีไม่มีความคืบหน้า พร้อมยืดอกยอมรับมีเจ้าหน้าตำรวจเข้ามาพัวพันกับกลุ่มมือสังหารใจบาปในคดีนี้ด้วย

[attach=1]
                โดยเมื่อวันที่ 24 มีนาคม พล.ต.อ.สมยศ ได้ลงนามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 162/2558 ให้ พล.ต.ต.ชัยญัติ สายถิ่น ผบก.ภ.จ.อุดรธานี และ พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง ผบก.กองบังคับการฝึกพิเศษ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน มาปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคมเป็นต้นไป โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

                ขณะที่ พล.ต.อ.สมยศ เปิดเผยว่า ได้ส่งทีมสืบสวนชุดพิเศษลงพื้นที่ไปทำคดีสังหาร พระบัณฑิต ซึ่งจากการสืบสวนมีข้อมูล ประกอบกับได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ว่า คดีนี้น่าจะมีเจ้าหน้าที่ตำรววจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ดังนั้นเพื่อความสบายใจของชาวบ้าน และให้ทีมสืบสวนสามารถทำงานได้อย่างอิสระ เป็นการแสดงออกถึงความจริงใจที่จะคลี่คลายคดี จึงตัดสินใจย้าย ผบก.ภ.จ.อุดรธานี และ พล.ต.ต.บุญลือ ซึ่งเคยเป็น ผบก.ภ.จ.อุดรธานี มาช่วยงานที่ ศปก.ตร. แต่หากมีภารกิจพิเศษที่มีความสำคัญที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ก็จะมอบหมายให้ทั้ง 2 นาย ไปปฎิบัติหน้าที่ต่อไป

                นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งให้ พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสอบสวนกลาง (รรท.ผบช.ก.) และ พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รักษาราชการแทนผู้บังคับการปราบปราม (รรท.ผบก.ป.) ทำเรื่องเสนอขอโอนสำนวนการสอบสวนคดีนี้ ให้มาอยู่ในความรับผิดชอบของกองปราบปรามแทนตำรวจพื้นที่ เพื่อให้เป็นที่ประจักษ์กับประชาชนว่า กรณีนี้หากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง สตช. ไม่มีนโยบายที่จะปกป้องช่วยเหลือเด็ดขาด ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก

                "เราปล่อยให้พื้นที่ทำมากันเป็นระยะเวลาพอสมควร แต่ไม่มีความคืบหน้า ในขณะที่ทีมสืบสวนสอบสวนของตน ชุดพิเศษที่ส่งลงไปมีความคืบหน้าเยอะ อาจพูดได้เลยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ผมยืดอกรับว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีส่วนเกี่ยวข้อง" พล.ต.อ.สมยศ กล่าว

                ด้าน พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป. เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง รอง ผบก.ป. เป็นหัวหน้าชุดสืบสวนนำกำลังลงพื้นที่ จ.อุดรธานี เพื่อสืบสวนคลี่คลายคดีสังหาร พระบัณฑิต แล้ว

                ขณะที่มีรายงานข่าวจากทีมสืบสวนพิเศษที่ถูกส่งลงพื้นที่ จ.อุดรธานี แจ้งว่า สาเหตุของการสั่งย้ายครั้งนี้ เนื่องจากคดีที่เกิดขึ้นเกี่ยวโยงไปถึงผู้กว้างขวางรายหนึ่งใน จ.อุดรธานี ซึ่งมีความสนิทสนมกับ พล.ต.ต.ชัยญัติ และ พล.ต.ต.บุญลือ เพราะเคยให้การสนับสนุนกิจการด้านต่างๆ ของกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานีมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้จึงมีความจำเป็นต้องเสนอให้ย้ายนายตำรวจทั้ง 2 ออกนอกพื้นที่เอาไว้ก่อน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจและทำให้ประชาชนมั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่

                รายงานข่าวระบุด้วยว่า คดีที่เกิดขึ้นชุดสืบสวน บก.ป. นำโดย พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย ผกก.4 บก.ป. ได้ลงพื้นที่ร่วมสืบสวนสอบสวนกับตำรวจท้องที่ตั้งแต่ช่วงเกิดคดีใหม่ๆ และเกาะติดคดีมาโดยตลอด ทำให้ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก ส่วนประเด็นการสังหารยังคงมุ่งไปที่ปมเรื่องความเข้าใจผิดในเรื่องชู้สาว ด้านข้อมูลคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุ เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มคนมีสี ขณะที่อาวุธที่ใช้น่าจะเป็นอาวุธสงคราม เช่น ปืนเอ็ม 16 หรือ ปืนเอชเค นอกจากนี้จากแนวทางการสืบสวนเชิงลึก ทีมงานของ บก.ป. ได้พยานหลักฐานต่างๆ ที่ค่อนข้างมีน้ำหนัก ซึ่งหลายประเด็นก็เริ่มมีความชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่เชื่อมั่นว่าจะสามารถติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน

                ต่อมาเวลา 18.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวมือปืนที่ลั่นไกสังหาร พระบัณฑิต ได้แล้ว ทราบชื่อคือ นายพรรษา หรือโบ้ อายุ 49 ปี ชาว จ.กาฬสินธุ์ เป็นลูกน้องของ ด.ต.ชาญชัย สร้อยสังวาลย์ ซึ่งเป็นตำรวจปราบปรามยาเสพติดสังกัดตำรวจภูธร จ.อุดรธานี โดยรายงานข่าวจากชุดจับกุมแจ้งว่า นายพรรษา เป็นลูกน้องคนสนิทของ ด.ต.ชาญชัย เคยทำงานแจ้งข่าวยาเสพติให้กันมานาน ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายพรรษา เป็นผู้ลงมือลั่นไกสังหาร พระบัณฑิต โดยได้รับค่าจ้าง 50,000 บาท ส่วน ด.ต.ชาญชัย เป็นผู้ขับรถพา นายพรรษา มาดักรอสังหารและพาหลบหนีหลังจากก่อเหตุเรียบร้อยแล้ว โดยขณะนี้ทราบว่า ด.ต.ชาญชัย ได้หลบหนีข้ามฝั่งไปที่ประเทศลาวแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อและจะยังคงมีการติดตามล่าตัว ด.ต.ชาญชัย ต่อไป ส่วนตัว นายพรรษา จะถูกควบคุมตัวมาสอบปากคำที่กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 24 จ.อุดรธานี เพื่อสอบสวนหาตัวผู้ร่วมกระทำความผิดและผู้บงการต่อไป

                ขณะที่ พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือลั่นไกสังหาร พระบัณฑิต ได้แล้วขณะหลบที่อยู่ที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยจะนำตัวมาสอบปากคำเพื่อเค้นหาผู้ร่วมขบวนการและผู้จ้างวานต่อไป ส่วน ด.ต.ชาญชัย ที่เป็นคนขับรถให้มือปืนนั้น มีกระแสข่าวว่าได้หลบหนีข้ามฝั่งไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้ว กำลังอยู่ระหว่างการส่งทีมเข้าตามประกบตัวอยู่ ซึ่งหากมีการยิงต่อสู้ เจ้าหน้าที่ก็อาจจำเป็นต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด

หาดใหญ่ใหม่ www.facebook.com/hatyaimai
เมืองหลวงภาคใต้ หลากหลายเรื่องราว บอกเล่าแบ่งปัน

ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

ชื่อ:
การยืนยัน:
กรุณาเว้นช่องนี้ว่างไว้:
พยัญชนะไทยตัวแรก:
shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง