ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ภัยแล้งคุกคามหลายจังหวัดภาคใต้ กระทบช้างล้มป่วยหลายเชือก

เริ่มโดย หาดใหญ่ใหม่, 13:21 น. 28 มี.ค 58

หาดใหญ่ใหม่

โดย ไทยรัฐออนไลน์ http://www.thairath.co.th/content/489238

ภัยแล้งเริ่มส่งผลกระทบหลายจังหวัดภาคใต้ เมืองคอนขอความร่วมมือเกษตรกรหยุดทำนา ส่วนที่กระบี่ฝนทิ้งช่วงนาน คาดไม่เกิน 1 เดือน จะไม่มีน้ำกินน้ำใช้ ขณะที่ช้าง ใน จ.ตรัง ล้มป่วยไร้เรี่ยวแรงหลายเชือก เจ้าของคาด เป็นเพราะอากาศร้อนจัด

เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์แหล่งน้ำต้นทุน ผลิตประปาเลี้ยงตัวเมืองนครศรีธรรมราช เข้าสู่ภาวะวิกฤติ หลังน้ำเหลือปริมาณน้อย ระดับน้ำในลำน้ำท่าดี ที่มีต้นน้ำจากเทือกเขาหลวง อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช ในช่วงโครงการฝายท่าดี ต.กำแพงเซา อ.เมือง อยู่ในภาวะวิกฤติหลังจากระดับน้ำได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง ต่ำกว่าสันฝาย และน้ำไม่ข้ามสันฝาย เจ้าหน้าที่ต้องเปิดประตูระบายทรายเพียงแค่ 5 เซนติเมตร และหยุดปล่อยน้ำเข้าสู่ระบบชลประทาน เพื่อการเกษตรอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากมีปริมาณน้ำที่ไม่เพียงพอ ขณะที่เกษตรกรในพื้นที่ลุ่มน้ำท่าดี ได้ให้ความร่วมมือหยุดทำนาในระยะนี้

อย่างไรก็ตาม ลำน้ำสายนี้ ยังเป็นแหล่งน้ำต้นทุนของการประปาเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ที่จะไหลไปยังสถานีสูบน้ำคลองป่าเหล้า ตำบลศาลามีชัย อำเภอเมือง ที่อยู่ในสภาพวิกฤติสามารถเดินเครื่องสูบน้ำได้เพียง 1 เครื่อง เนื่องจากน้ำไหลเข้าหอสูบไม่เพียงพอ ส่งผลต่อการจำหน่ายน้ำในตัวเมืองนครศรีธรรมราช ฝั่งทิศใต้และเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ใกล้เคียง ซึ่งมีผู้ใช้น้ำรวมกว่า 8 หมื่นครัวเรือน

ขณะที่จังหวัดกระบี่วิกฤติแล้งส่งผลกระทบชาวบ้านกว่า 300 ครัวเรือนใน 3 หมู่บ้านแล้ว หลังจากภาวะฝนทิ้งช่วงนานกว่า 3 เดือน เริ่มส่งผลกระทบในหลายพื้นที่ ล่าสุดนี้ระดับน้ำในลำห้วยพรุพี ที่หมู่ 2 ต.เขาพนม อ.เขาพนม จ.กระบี่ เป็นห้วยต้นน้ำอยู่บนเนินเขาระดับน้ำที่ไหลลงในฝายลดลงอย่างรวดเร็ว วันละประมาณ 1 ซม. ส่งผลให้น้ำไม่ล้นฝาย และลำห้วยแห้งขอดแล้ว จะมีเพียงน้ำที่เข้าระบบประปาหมู่บ้านที่นำน้ำจากลำห้วยดังกล่าวไปใช้ใน 3 หมู่บ้าน คือหมู่ 2 , 3 และ 4 จำนวนกว่า 300 หลังคาเรือน และเริ่มมีบ้านเรือนจำนวนเกือบครึ่งที่อยู่ปลายท่อประปา ไม่สามารถรับน้ำได้ เพราะแรงดันลดลง

เบื้องต้นทาง อบต.หน้าเขา ได้จัดรถนำน้ำไปแจกจ่ายแล้ว ส่วนนายอนุรักษ์ สุดสาย ปลัดอาวุโส อำเภอเขาพนม กล่าวว่า ฝายพรุพี เป็นแหล่งน้ำเพียงแห่งเดียวที่นำน้ำไปใช้ใน 3 หมู่บ้าน มีผู้ใช้ประมาณ 300 ครัวเรือน พบว่าปีนี้แล้งหนักสุด ในรอบหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้น้ำในฝายลดลงอย่างรวดเร็ว คาดว่าไม่เกิน 1 เดือน จะไม่มีน้ำใช้ และขณะนี้ผู้ที่อยู่ปลายสายก็เริ่มกระทบมากขึ้น ทางอำเภอ และ อบต.เขาพนม โดยนายนิกร อุดมศรี นายก อบต. เร่งเข้าสำรวจพื้นที่ต้นน้ำที่อยู่เหนือฝายดังกล่าวพบว่า มีต้นน้ำที่ไหลอยู่ในที่ดินชาวบ้านด้านบน และไหลโดยไม่ได้ลงในฝาย เร่งประสานเจรจาขอชาวบ้านยินยอมให้ทำฝายแม้ว เพื่อต่อท่อน้ำนำน้ำไปลงในฝายแก้ไขปัญหาเบื้องต้น ส่วนระยะยาวคงต้องมีมาตรการประหยัดน้ำ โดยเฉพาะการติดตั้งระบบมิเตอร์ เพื่อให้ชาวบ้านได้รู้จักการใช้น้ำ เนื่องจากมีชาวบ้านหลายราย เปิดน้ำทิ้งและใช้น้ำไม่ประหยัด แต่การเก็บเงินจะคิดในราคาต่ำกว่าทั่วไป เพื่อไม่ให้กระทบต่อทุกฝ่าย

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวยังคงลงพื้นที่เกาะติดสถานการณ์ภัยแล้งที่ อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากไม่มีน้ำประปาใช้ ชาวบ้านได้รับผลกระทบกว่า 3,500 ครัวเรือน เกือบทั้งอำเภอ โดยแหล่งน้ำดิบที่นำมาทำน้ำประปาตอนนี้แห้งขอด จนไม่สามารถดูดน้ำนำมาทำน้ำประปาได้ ทำให้การประปาส่วนภูมิภาคตะกั่วป่า ไม่สามารถจ่ายน้ำให้กับประชาชนในพื้นที่ ตลาดเขตเทศบาลเมืองตะกั่วป่า และรอบนอกเขตบางส่วนได้ ทำให้ต้องหยุดเดินเครื่องสูบน้ำ ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา นานกว่า 5 วันแล้ว ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนมาก รวมทั้งผู้ประกอบการโรงแรมต่างๆ ย่านเขาหลัก ต่างได้รับผลกระทบเช่นกัน ทั้งนี้การประปาส่วนภูมิภาคตะกั่วป่า ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่นำรถใส่น้ำ ออกแจกจ่ายให้กับประชาชน ทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้นอย่างเร่งด่วน

ส่วนน้ำประปาในพื้นที่ตะกั่วป่าหลังพบว่ามีรสชาติเค็ม เนื่องจากน้ำทะเลไหลเข้ามาในขุมน้ำดิบที่นำมาผลิตน้ำประปา การประปาส่วนภูมิภาคตะกั่วป่า จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน จากการที่ไม่มีน้ำประปาใช้ และน้ำประปามีรสชาติเค็มดังกล่าว

สำหรับจังหวัดตรังประสบปัญหาภัยแล้ง สภาพอากาศร้อนจัด ส่งผลให้ช้างหลายเชือกเป็นลม เจ้าหน้าที่ต้องช่วยฉีดยาบำรุงให้น้ำเกลือ เนื่องจากขาดน้ำ โดยนางบุญรัตน์ เพ็ชรสุทธิ์ อายุ 61 ปี เจ้าของช้าง อยู่หมู่ 2 ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง กล่าวว่า ขณะนี้ยังต้องเฝ้ารอดูอาการของช้างพังสมบูรณ์ อายุ 60 ปี อย่างใกล้ชิด หลัง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ช้างพังสมบูรณ์ได้ล้มป่วยเป็นลมหน้ามืด จนต้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนในหมู่บ้านช่วยกันนำเชือกมาคล้องรอบตัว และใช้แรงดึงเพื่อช่วยพยุงตัวยกขึ้นมา ให้พังสมบูรณ์ได้ลุกขึ้นมายืนอีกครั้ง ขณะเดียวกันได้แจ้งขอความช่วยเหลือจากทีมสัตวแพทย์องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ประจำโรงพยาบาลช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย สาขาภาคใต้ จังหวัดกระบี่ เข้าช่วยตรวจดูอาการและให้การรักษาด้วยการฉีดยาบำรุง ให้น้ำเกลือ ให้อาหารเสริม รวมทั้งกลูโคส

เจ้าของช้างคาดว่าสาเหตุที่พังสมบูรณ์ล้มป่วยลง คงเป็นเพราะสภาพอากาศร้อนจัด แม้จะนำพังสมบูรณ์มาอาศัยอยู่ใกล้แหล่งน้ำแล้วก็ตาม หลังจากล้มป่วยทำให้น้ำหนักลดลงไปมากจากเดิมประมาณ 4 ตัน เหลือประมาณ 3 ตัน มีอาการเซื่องซึม กินอาหารไม่ได้ แต่เมื่อทีมสัตวแพทย์เข้าให้ความช่วยเหลือพร้อมแนะนำการดูแลอาการต่อเนื่อง ด้วยการช่วยอาบน้ำให้วันละหลายๆ รอบ ลดอาการเครียด ให้น้ำเกลือ อาหารเสริมและวิตามินยาที่ทางทีมสัตวแพทย์ได้สั่งจ่ายไว้ให้ ทำให้พังสมบูรณ์มีอาการสดใสขึ้นตามลำดับ แต่ยังต้องเฝ้าดูอาการพังสมบูรณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป ที่ผ่านมามีช้างล้มเนื่องจากขาดน้ำมาแล้วหลายเชือกตั้งแต่ช่วงต้นปี
หาดใหญ่ใหม่ www.facebook.com/hatyaimai
เมืองหลวงภาคใต้ หลากหลายเรื่องราว บอกเล่าแบ่งปัน