ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

การปฏิรูปศาสนา

เริ่มโดย Telwada, 19:15 น. 01 เม.ย 58

Telwada

การปฏิรูปศาสนา
   บทความนี้ เป็นข้อคิด ข้อพิจารณา ข้อแนะนำ สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการที่จะกระทำการปฏิรูปศาสนา(พุทธศาสนา)  ขอให้อ่านแล้วใช้สมองสติปัญญา คำนึงถึงหลักความจริง อย่ามองเพียงด้านเดียว ให้มองและคิดพิจารณาโดยรอบ ท่านทั้งหลายก็คงจักเกิดปัญญา เกิดความรู้ ความเข้าใจ เกิดความคิด ในการที่จะปฏิรูปศาสนา ได้อย่างดี ได้อย่างถูกทาง
   ข้าพเจ้าไม่ได้เก่งกาจเก่งกล้าอะไรนัก เกี่ยวกับสังคมทางศาสนาซึ่งในที่นี้จะหมายเอาเฉพาะศาสนาพุทธเท่านั้น เพราะศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติไทยมาตั้งแต่ครั้งกรุงสุโขทัย นับเวลาได้ร่วมเกือบจะ ๘๐๐ ปีแล้ว ข้าพเจ้าเพียงแต่เคยเป็นเด็กวัด เคยบวชบรรพชาเป็นสามเณร และเคยบวชเรียนอุปสมบทตอนขณะรับราชการอยู่ ก็พอจะมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับศาสนาอยู่บ้าง ทั้งสังคมภายในและในส่วนของหลักธรรมคำสอนทางพุทธศาสนา  ซึ่งอาจเป็นมุมมองอีกด้านหนึ่ง สำหรับท่านทั้งหลายที่เกี่ยวข้องสามารถนำไปเป็นข้อมูลในการปฏิรูปศาสนาได้ หรืออาจเป็นแนวทางที่จะก่อให้ท่านทั้งหลายได้เกิดความรู้ความเข้าใจ ในสังคมวัฒนธรรมในอันที่เกี่ยวข้องกับศาสนา ได้ดียิ่งขึ้น
   การปฏิรูปศาสนา ย่อมหมายถึง การแก้ไขเปลี่ยนแปลงปรับปรุงให้ศาสนามีความเหมาะสม สมควรดียิ่งขึ้นไป ไม่ได้มีความหมายว่า ต้องสร้างกฎหมาย ต้องตรากฎหมาย ขึ้นมาบังคับ หรือลงโทษ เพื่อเป็นการป้องกันการทำลายศาสนา  เพราะ กฎหมายเดิมที่มีอยู่ก็ครอบคลุมดีอยู่แล้ว มันอยู่ที่คนใช้ ว่าจะใช้กฎหมายเป็นหรือไม่ 
   การปฏิรูปศาสนา ย่อมหมายถึง ปรับปรุงแก้ไข เปลี่ยนแปลงให้ ศาสนาที่มีอยู่แล้ว เกิดความเหมาะสม สมควร สามารถเข้าถึงจิตใจของประชาชนผู้ศรัทธาอย่างแท้จริง
   ศาสนา ไม่ใช่ ลัทธิ  ,  หลักธรรมคำสอนทางศาสนา คือหลักความจริงที่สามารถพิสูจน์ได้ ว่ามีจริงเป็นจริง หลุดพ้นจากกิเลส ได้จริง  ผู้ที่เกี่ยวข้องกับศาสนาต้องมีความรู้ความเข้าใจในหลักธรรมคำสอนอย่างแท้จริง ไม่ใช่รู้อยู่เพียงแต่ในตำรา แต่ไม่รู้หลักความจริงแห่งหลักธรรมคำสอนเหล่านั้น หากรู้อยู่เพียงแต่ตามตำราย่อมไม่สามารถสอนให้ผู้ศรัทธา "เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา"(พระราชดำรัช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว) จิตใจให้ดีงาม หรือขัดเกลากิเลสได้อย่างแท้จริง 
   สังคมทางศาสนา ในทุกวันนี้ เป็นอย่างไร ผู้ถือบวชทั้งหลายย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจอยู่แล้ว เมื่อตั้งใจบวชบรรพชาอุปสมบทในพุทธศาสนา ก็ต้องขยันหมั่นเล่าเรียนศึกษาพระธรรมวินัย ซึ่งพระธรรมวินัย ก็คือ ศีล ๒๒๗ ข้อ ฯลฯ นั่นแหละ ศีล ๒๒๗ ข้อ ฯลฯ ก็คือ "ธรรมะ"ชนิดหนึ่งที่มีไว้สำหรับให้พระภิกษุสงฆ์ประพฤติปฏิบัติตาม เพื่อฝึกตนขั้นพื้นฐาน ทั้ง กาย วาจา และใจ ศีลสำหรับ พระสงฆ์ ใช้สำหรับปุถุชนคนธรรมดาที่กิเลสหนาแต่มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำนุบำรุงสืบทอดพุทธศาสนา  "ไม่ใช่ ข้อห้าม ข้อละเว้น แต่เพียงอย่างเดียว" แต่เป็นธรรมะ ที่จะนำพาให้ผู้ประพฤติปฏิบัติ สามารถปฏิบัติธรรมในชั้นที่สูงขึ้นไป จนบรรลุถึงชั้นอริยะบุคคลได้
   พระภิกษุสงฆ์ที่มีอยู่ ย่อมประกอบไปด้วยบุคคลหลากหลายสภาพสภาวะจิตใจ หลายความคิดอ่าน หลายจุดประสงค์  ที่ไม่ค่อยดีก็มีอยู่บ้าง ที่ดีก็มีอยู่เยอะ พระสงฆ์ที่ไม่ดี มักจะมีผู้เข้าใจว่าเป็นผู้ทำลายศาสนา แต่ความจริงแล้ว พวกที่นำเอามาแฉ นำเอามาเผยแพร่ นำเอามาขุดคุ้ย น่าจะเป็นพวกทำลายศาสนามากกว่าตัวพระสงฆ์ผู้กระทำผิดเหล่านั้นซะอีก ลองใช้สมองสติปัญญาคิดพิจารณาดูเถิด ข้าพเจ้ากล่าวอย่างนั้น ไม่ใช่เข้าข้างพระสงฆ์ผู้ประพฤติผิด นะขอรับ ข้าพเจ้าเห็นมามากแล้ว ไม่ว่าจะดื่มสุราเป็นอาจิณ ฯลฯ ในที่สุดก็ต้องลาสิกขาขาดจากความเป็นพระภิกษุ ออกไปรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเขาทำไว้ ก็ไม่เห็นว่าพวกเขาเหล่านั้นทำลายศาสนาตรงไหน ประชาชนหรือผู้ศรัทธา ก็ยังคงเข้าวัดทำบุญฟังเทศน์เหมือนเดิม มากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะ พระภิกษุส่วนใหญ่ที่อยู่ในวัด ก็ยังคงทำวัตรสวดมนต์ เล่าเรียนศึกษาทั้งปริยัติธรรมทั้งสายสามัญ ควบคู่กันไป และประกอบพิธีกรรมทางศาสนาให้ญาติโยมอยู่เป็นปกติ เพราะอะไร ก็เพราะไม่มีใครสนใจพระภิกษุผู้ประพฤติผิดเหล่านั้น เพราะญาติโยมส่วนใหญ่ถือว่า ทำบาปอันใดไว้บาปนั้นก็ตอบสนอง ฯลฯ.
   ส่วนเรื่อง ทรัพย์สิน เงินทอง ที่ญาติโยมผู้ศรัทธาได้ ถวายทานหรือบริจาค โดยรวมก็ถวายทานบริจาคโดยเจาะจงเป็นส่วนใหญ่ คือ เจาะจงว่า ถวายพระพุทธ ถวายพระธรรม ถวายอาจารย์  ถวายวัด ถวายสร้างนั่นสร้างนี่ ถวายพระภิกษุโดยตรง  ก็ขึ้นอยู่กับเทศกาลจารีตประเพณี งานบุญงานกุศล งานอวมงคล   พระสงฆ์องค์ไหน จะโกงเงินวัด จะเอาเงินวัดไปใช้ไปให้ใคร ไวยาวัจกร ของทางวัดก็มีอยู่ ถ้าจะโกงจะกินกัน ไวยาวัจกร ก็ต้องเป็นจำเลยที่หนึ่ง ฐานเป็น "เจ้าพนักงาน ประพฤติมิชอบ" อย่างนี้เป็นต้น
   ดังนั้น การที่จะปฏิรูปศาสนา ผู้ที่จะทำการปฏิรูป ต้องมีความรู้ความเข้าใจในหลักธรรมทางศาสนา อย่าได้สร้างกฎหมาย หรืออื่นใดขึ้นมา  เพราะคิดว่าจะเป็นการป้องกันคุ้มครองศาสนา กฎหมายที่มีอยู่เดิม ก็ดีอยู่แล้ว ครอบคลุมอยู่แล้ว แต่ต้องไปปฏิรูปผู้ที่เกี่ยวข้องกับศาสนาโดยตรง ให้มีความรู้ ความเข้าใจในหลักธรรม เพื่อทำให้เกิดการสร้างความ "เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา"(พระราชดำรัช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว) สภาพสภาวะจิตใจ เพื่อสามารถขัดเกลากิเลสให้เบาบางลงได้   ธรรมะทางพุทธศาสนา เป็นหลักความจริง ที่สามารถพิสูจน์ได้ ว่ามีจริงเป็นจริง จะเรียกว่าเป็นหลักวิทยาศาสตร์ก็ได้ เพียงแต่ต้องมีความเข้าใจให้เป็นไปตามหลักความจริง ทางธรรมชาติ ทางสังคมเป็นอยู่ร่วมกันของมนุษย์
   อนึ่ง ผู้ที่เกี่ยวข้องในทางศาสนาทั้งหลาย ต้องทำความ เข้าใจ เข้าถึง และ พัฒนา เอาไว้ว่า  หลักธรรมทางศาสนา เป็นหลักธรรมที่ไม่แบ่งแยกว่า อย่างนั้นทางโลก อย่างนั้นทางธรรม เพราะหลักธรรมทางศาสนา ก็คือ พฤติกรรม การกระทำ ทั้งทาง กาย วาจา ใจ ของสรรพสิ่งทั้งหลาย (ในที่นี้หมายเอาเฉพาะมนุษย์) แต่ถ้าจะแบ่งแยกกันว่า อันนั้นเป็นแวดวง พระสงฆ์ อันนั้นเป็นแวดวง ฆราวาส  หรือจะเรียกให้สวยงามว่า "ศาสนจักร" กับ "อาณาจักร"    ก็น่าจะถูกต้องกว่า
   ที่สุดแห่งบทความนี้ ก็หวังใจเอาไว้ว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องในทางศาสนา จะเกิดความรู้ความเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา สภาพสภาวะจิตใจ ความคิด ให้เกิดสติปัญญาในอันที่จะ ปฏิรูปศาสนา  ให้เจริญ มั่นคงถาวร  อย่าทำให้ศาสนากลายเป็นเพียงลัทธิหนึ่ง ก็คงดี
   เพิ่มเติมอีกนิด
กรุณานำเรียนถึง ฯพณฯนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี หากได้คำนึงถึง ผู้สูงอายุทั้งหลาย เห็นคุณค่าของพวกเขา โปรดได้อนุเคราะห์ เพิ่มเงินเบี้ยยังชีพ ให้สูงขึ้น ความจริงแล้วถ้าจะให้เหล่าผู้สูงอายุเหล่านั้นสามารถดำรงชีพอยู่ได้ ควรมีรายได้อย่างต่ำ เดือนละ ๑,๕๐๐.บาท(สำหรับผู้อาศัยในชนบท) แต่เป็นเพราะเกี่ยวข้องกับงบประมาณ รัฐบาลอาจไม่มีงบประมาณที่จะจัดสรรให้กับผู้สูงอายุได้อย่างเพียงพอ ขอได้ช่วยเพิ่มเงินเบี้ยยังชีพให้พวกเขาด้วย ตามแต่จะมีงบประมาณ   
                                                                                                     
                                                              จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ ทูลพันธ์ (ผู้เขียน)
                                                                         ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๘


ภาษีอาน

สมณศักดิ์  พัดยศ คือตัวทำลายพุทธศาสนา ในไทย...
(สมณศักดิ์  พัดยศ ไม่มีในไตรปิฏก...)