ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

10 เหตุผลที่คุณต้องกระโจนสู่การตลาดออนไลน์

เริ่มโดย ทีมงานประชาสัมพันธ์, 14:49 น. 17 เม.ย 58

ทีมงานประชาสัมพันธ์

10 เหตุผลที่คุณต้องกระโจนสู่การตลาดออนไลน์ (เหมาะกับคนไม่รู้ออนไลน์อ่าน)

Posted by pawoot on April 17, 2015 in E-Marketing Comments Off
ต้องยอมรับว่าการทำการในปัจจุบันมีรูปแบบและวิธีคิด วิธีการสื่อสารแตกต่างจากสมัยก่อนเป็นอย่างมาก (อาจจะนับย้อนกลับไป 10 ปี) ดังนั้นหากเปรียบเทียบนักการตลาดยุคเก่ากับนักการตลาดยุคใหม่ นั้นมีวิธีคิด รูปแบบ ช่องทางการสื่อสารถึงผู้บริโภคแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง และเช่นเดียวกันผลลัพย์ หรือวิธีการวัดผลก็แทบจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเช่นเดียวกัน หากผมเป็นบริษัทผลิตรองเท้าอยากให้ นักการตลาดรุ่นเก๋า กับนักการตลาดออนไลน์ มาช่วยทำการตลาด คุณจะเห็นได้ถึงความแตกต่างของการทำแผนการตลาดของคน 2 กลุ่มนี้ได้อย่างชัดเจน

[attach=1]

นักการตลาดรุ่นเก๋า (Traditional Marketer)
นักการตลาดรุ่นเก๋าก็มีการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย (Target Group) แล้ววางแผนการตลาดโดยใช้สื่อเด่นๆ มุ่งไปสู่สื่อที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายนั้นๆ ได้แก่ TV, สิ่งพิมพ์, วิทยุ, งานอีเวนท์, สื่อพีอาร์ ซึ่งส่วนใหญ่สื่อที่นักการตลาดรุ่นเก๋ามักจะใช้ ก็มักจะอยู่ในกรอบรูปแบบนี้  และงบประมาณก็ใช้เป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน อาจจะต้องขึ้นหลักหลายแสนบาทจนถึงล้าน จะทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างได้ผล และสุดท้ายการวัดผลก็เป็นไปได้ยาก คลุมเครือ อาจจะต้องไปจ้างบริษัททำรีเสริช์ มาวัดผลว่าสิ่งทีทำไปแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ เป็นขั้นตอนของการตลาดที่เราทำมากันช้านาน
.
นักการตลาดออนไลน์ (Online Marketer)
ลองมาดูกับนักการตลาดออนไลน์ เมื่อวางแผนการตลาด ก็จะมีการวางแผนสื่อออนไลน์ที่สามารถกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำแบบ 1 ต่อ 1 แบบรู้เลยว่าจะให้ผู้ชาย ผู้หญิง กระเทย อายุเท่าไร ชอบอะไรเป็นพิเศษ อยู่จังหวัดไหน อยู่ประเทศอะไรเห็นสื่อ "ทำให้การเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายไม่ใช่คนในประเทศอีกต่อไป" หลังจากนั้นรูปแบบของสื่อที่จะสื่อออกไปหาลูกค้าก็มีความหลากหลายช่องทาง หลายรูปแบบ สามารถสื่อสารได้ทั้งภาพ เสียง วีดีโอ ทางออนไลน์ เว็บไซต์ มือถือ แท็ปเล็ต ทำให้ผู้รับสื่อจะกลับมาดูเมื่อไรก็ได้ ทำให้มีความยืดหยุ่นอย่างมาในการรับสาร ซึ่งปัจจุบันคนไทยใช้เวลากับสื่อออนไลน์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ใช้เวลากับสื่อเดิมๆ น้อยลง อย่างเห็นได้ชัด  และการสื่อสารทางออนไลน์ไม่จำเป็นที่เจ้าของสินค้าจะพูดหรือสื่อสารเอง (Direct Communication) แต่อาจจะให้คนอื่นๆ คนที่มีอิทธิพลในโลกออนไลน์ ในเว็บบอร์ด (Online Influencer) หรือ บล๊อกเกอร์ รวมไปถึง เพื่อนๆ ของเค้า กลายเป็นสื่อให้กับสินค้าและแบรนด์แต่างๆ ได้ผ่านทางโซเชี่ยลมีเดีย ในรูปแบบสื่อสารทางอ้อม (Indirect Communication) ซึ่งจะทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ (Trust) สูงกว่าการสื่อสารในรูปแบบการโฆษณาแบบเดิมๆ
.
และนอกจากนี้สิ่งที่สื่อออนไลน์มีความได้เปรียบสื่อทั่วไปคือ สามารถวัดผลได้แม่นยำมากๆ รู้เลยว่าคนไหนดู ผู้ชาย ผู้หญิง อายุเท่าไร จังหวัดไหน ชอบดูอะไรเป็นพิเศษ และคนเหล่านั้นมีพฤติกรรมอย่างไรบ้างแบบทันที (Real Time) ทำให้เราสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์ ปรับปรุงการตลาดของเราให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และสุดท้ายงบประมาณหรือเงินที่ใช้กับสื่อออนไลน์ นั้นไม่จำเป็นต้องใช้มากมายก็สามารถเริ่มต้นทำได้ อย่างการลงโฆษณาใน Google หรือ Facebook เพียงแค่ 10 บาทก็สามารถเริ่มต้นทำได้แล้ว และไม่จำเป็นต้องพึ่งพาบริษัทหรือทีมงาน เพราะคุณเองก็สามารถทำเองได้ทันที ไม่ยากผ่านหน้าเว็บไซต์

10 ข้อเปรียบเทียบระหว่างการตลาดรุ่นเก๋ากับการตลาดออนไลน์
.

การตลาดรุ่นเก๋า
1.เข้าถึงกลุ่มเป้าได้ในวงกว้างๆ ไม่แม่นยำ
2.เข้าถึงคนได้เฉพาะในประเทศหรือพื้นที่นั้นๆ
3.รูปแบบของสื่อมีข้อจำกัด เวลา ความสมบูรณ์ของสื่อ กลับมาดูอีกทีได้ยาก
4.ช่องทางจำกัด ทีวี สิ่งพิมพ์ วิทยุ งานอีเวนท์
5.คนใช้เวลากับสื่อเดิมน้อยลง
6.คนไม่ค่อยเชื่อ (เพราะเดียวนี้คนไม่ค่อยเชื่อโฆษณาแล้ว)
7.ติดตามลูกค้าลำบาก
8.วัดผลได้ยาก คลุมเครือ
9.ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ถึงจะเริ่มได้ผล
10.ต้องใช้คน ทีมงาน ที่มีความรู้มาช่วย

การตลาดออนไลน์
1.เข้าถึงได้แม่นยำระบุเพศ วัย สถานที่ได้ และเข้าถึงแบบ 1:1
2.เข้าถึงคนได้ทั่วโลก
3.สื่อมีความหลากหลาย ภาพ เสียง วีดีโอ มาดูเมื่อไรก็ได้
4.ช่องทางหลากหลาย เว็บไซต์ มือถือ
5.คนใช้เวลากับสื่อออนไลน์มากขึ้นเรื่อยๆ เข้าถึงคนตลอดเวลา
6.มีความน่าเชื่อถือสูง เพราะสามารถสื่อสารได้หลายแนวทาง ทั้งผ่านผู้มีอิทธิพลรอบๆ ตัว อย่างเพื่อนๆ หรือคนในโลกออนไลน์
7.ติดตามลูกค้า เก็บข้อมูลพฤติกรรมลูกค้าได้ทันที (Real Time)
8.วัดผลได้แม่นยำ ทุกคนดู คนเห็น คนซื้อ ได้ทุกระดับ
9.งบประมาณคุ้มค่าเริ่มต้นที่ 10 บาทก็ทำได้ หรือ ฟรี.!
10.ทำได้เอง ซื้อสื่อได้เอง ควบคุมได้เอง

แหม พออ่านมาถึงตรงนี้ ดูเหมือนการตลาดออนไลน์มันจะดูดีไปหมดซะนี้กะไร แต่เอาจริงๆ  การตลาดที่ได้ผลต้องขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมาย (Target Market) ของคุณ ว่าเป็นกลุ่มคนที่ใช้สื่อรูปแบบใดมากกว่า เช่นหากคุณต้องการเข้าถึงกลุ่มคนทำงานโรงงาน สินค้าชาวบ้านมากๆ การตลาดออนไลน์ก็คงไม่เหมาะที่จะใช้ครับ แต่หากต้องการเข้าถึงกลุ่มคนทั่วไปออนไลน์ก็ดูเป็นช่องทางที่ได้ผลดีไม่ใช่น้อย แต่หากต้องการความมีประสิทธิภาพมากที่สุด เราเองก็ต้องเลือกใช้ทั้งสื่อปกติ (Traditional Media) และสื่อออนไลน์ (Online Media) ผสมผสานเข้าด้วยกัน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และดูการเดินทางของลูกค้า (Customer Journey) ว่ามีวิธีการรับสื่อในช่องไหน อย่างไรบ้างในตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเราจะได้วางแผนการตลาดและการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดครับ

สุดท้ายอ่านมาถึงตรงนี้ หากท่านที่ไม่เคยใช้สื่อการตลาดออนไลน์ผมก็เชื้อเชิญให้ใช้ครับ บทความนี้เหมาะมากกับคนที่ยังไม่คุ้นกับการตลาดออนไลน์ ลองพิมพ์หน้านี้ออกมาแล้วเอาไปให้หัวหน้าคุณอ่านดูครับ หากคิดว่าไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง ลองไปอ่านได้ที่เว็บไซต์ของผม www.pawoot.com ที่รวบรวมเรื่องพวกนี้ไว้ที่เข้าไปอ่านได้ฟรีๆ เลยครับ.!